ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2243

ต้นสนต้นหนึ่ง ใบที่เป็นเข็มดั่งกระบี่ ลำต้นดั่งมังกรซีหลง ลำต้นไม่ได้สูงยันฟ้า แต่กลับมีท่าทีที่สามารถผ่าโลกให้แยกออกได้

ด้วยกิ่งที่เป็นง่ามไม้ของต้นสนแก่กิ่งหนึ่ง มันสามารถต้านกระบี่ยักษ์ของเซี่ยวเจี้ยนหงเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย แม้ว่ากระบี่ยักษ์เล่มนั้นของเซี่ยวเจี้ยนหงสามารถฟันแม่น้ำและภูเขาให้ขาด สามารถโค่นเก้าขุนเขาได้ แต่กลับไม่สามารถทำอันตรายกิ่งที่เป็นง่ามไม้แก่แม้เพียงน้อยนิด

สนกระบี่…ในใจของฟ่านเมี่ยวเจินรู้สึกสะเทือนหวั่นไหวเมื่อได้เห็นต้นสนแก่ต้นนี้ กล่าวด้วยความตระหนกว่า “ต้นบรรพบุรุษแสดงอภินิหารแล้ว!”

ไม่เพียงแต่ฟ่านเมี่ยวเจินที่ถูกภาพนี้ทำให้หวั่นไหว แม้แต่ศิษย์และยอดฝีมือทุกระดับชั้นในหุบเขาอมตะก็หวั่นไหวกับภาพนี้เช่นกัน

“เป็นต้นบรรพบุรุษจริงๆ นะเนี่ย” ศิษย์ของหุบเขาอมตะแทบไม่อยากจะเชื่อ เมื่อเห็นต้นสนแก่ต้นนี้แล้ว หลังจากที่พิจารณาอย่างละเอียด สุดท้ายมั่นใจยิ่งว่านี่แหละคือสนกระบี่ของหุบเขาอมตะของพวกเขา

ตามตำนานเล่าว่า ในครั้งนั้นเซียนโอสถเคยปลูกต้นไม้ประหลาดเอาไว้ในหุบเขาอมตะสามต้น ต้นไม้ประหลาดทั้งสามต้นได้ผ่านกาลเวลามานานนับไม่ถ้วน ดำรงคงอยู่ร่วมกันกับหุบเขาอมตะ ไม่รู้ว่าวันเวลาได้ผ่านไปนานเท่าไรแล้ว ต้นไม้ประหลาดทั้งสามต้นเรียกว่าแก่หง่อมยิ่งนักปราศจากผู้เทียบเทียม เสมือนหนึ่งคือสามผู้เฒ่าที่แก่เฒ่าที่สุดของหุบเขาอมตะ

ดังนั้น ศิษย์ของหุบเขาอมตะทุกยุคทุกสมัยก็จะเรียกมันว่าต้นบรรพบุรุษ แต่ทว่า ไม่เคยมีศิษย์คนใด หรือระดับบรรพบุรุษคนใดได้เคยเห็นความอภินิหารของต้นบรรพบุรุษทั้งสามต้นนี้มาก่อน ต้นบรรพบุรุษทั้งสามต้นดูไปแล้วก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับต้นไม้แก่ทั่วๆ ไป เพียงแต่แก่ยิ่งกว่าเท่านั้นเอง

เคยมีระดับบรรพบุรุษกล่าวเอาไว้ว่า ต้นบรรพบุรุษทั้งสามต้นของหุบเขาอมตะมีอภินิหารที่ยอดเยี่ยมมาก เมื่อไหร่ที่พวกมันปะทุพลังยิ่งใหญ่ขึ้นมาก็จะเป็นเรื่องที่น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องการประหารเทพแท้จริง ต่อกรกับราชันแท้จริง แต่ทว่า หากต้องการให้ต้นบรรพบุรุษของหุบเขาอมตะทั้งสามต้นปะทุพลังที่สะเทือนฟ้าขึ้นมา เกรงว่าต้องได้รับการยอมรับจากต้นไม้แก่สามต้นนี้ก่อน

หุบเขาอมตะตั้งตระหง่านมายุคสมัยแล้วยุคสมัยเล่า แต่ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าเคยมีศิษย์ หรือบรรพบุรุษคนใดได้รับการยอมรับจากต้นบรรพบุรุษทั้งสามต้นนี้

มาวันนี้ สนกระบี่ในฐานะหนึ่งในสามต้นบรรพบุรุษกลับปรากฏอยู่ด้านหลังของหลี่ชิเย่ขึ้นมกะทันหัน ลักษณะเช่นนี้ได้สร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทุกระดับของหุบเขาอมตะ

ยิ่งฟ่านเมี่ยวเจินด้วยแล้วถึงกับอ้าปากค้าง แม้ว่าหลี่ชิเย่จะเป็นศิษย์ลำดับที่หนึ่ง แต่ความเป็นศิษย์ลำดับที่หนึ่งของเขาดูจะได้มาถูกๆ อีกทั้งการดำรงตำแหน่งศิษย์ลำดับที่หนึ่งของเขาก็สั้นมาก

ด้วยศิษย์ลำดับที่หนึ่งราคาถูกๆ กลับได้รับการยอมรับจากต้นสนกระบี่หนึ่งในสามบรรพบุรุษ นับว่าสยองขวัญมากเหลือเกิน และออกจะน่ากลัวเกินไปแล้ว

บรรพบุรุษแต่ละรุ่นของหุบเขาอมตะจำนวนเท่าไรที่ต้องการปลุกต้นบรรพบุรุษให้ได้ แต่ก็ไม่เคยมีใครประสบความสำเร็จมาก่อน หลี่ชิเย่ที่เป็นเพียงผู้เยาว์คนหนึ่ง กลายมาเป็นศิษย์ลำดับที่หนึ่งได้ไม่นาน ก็สามารถได้รับการยอมรับจากต้นบรรพบุรุษทั้งสาม นับว่าน่าตกใจมากเหลือเกิน

“ความฉลาดเฉลียวและมองการณ์ไกลของเจ้าหุบเขานับว่ามีเพียงหนึ่งไม่มีสองจริงๆ ยอดเยี่ยมมากนะเนี่ย” ภายในหุบเขาอมตะเองก็มีระดับบรรพบุรุษที่มองดูจากที่สูงในระยะห่างไกล มองเห็นหลี่ชิเย่ถึงกับให้สนกระบี่แสดงอภินิหารแล้วก็รุ้สึกหวั่นไหวยิ่งนัก ถึงกับใจหายใจคว่ำ ความอัศจรรย์เช่นนี้ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนตลอดกาล มาวันนี้กลับปรากฏขึ้นบนตัวของคนหนุ่มคนหนึ่ง

ดวงตาคู่นั้นของเซี่ยวหงเจี้ยนก็ต้องเบิกกว้าง ไม่อยากเชื่อในสายตาของตนเอง เขาเองก็เป็นผู้บำเพ็ญตน ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ เรื่องราวตำนานเกี่ยวกับต้นบรรพบุรุษสามต้นที่ขึ้นอยู่ในหุบเขาอมตะเขาก็รับรู้มาอย่างชัดเจน แต่เขาไม่นึกไม่ฝันเลยก็คือสนกระบี่ถึงกับแสดงอภินิหารในวันนี้

“ทำลาย…” เมื่อเซี่ยวหงเจี้ยนได้สติคืนกลับมาจึงได้คำรามเสียงยาว เสียงตึงดังขึ้นเสียงหนึ่ง ทันใดนั้นเองด้านหลังของเขาปรากฏเป็นกระบี่เล่มแล้วเล่มเล่าที่แผ่กางออกมา ตัวเขาเสมือนหนึ่งกลายเป็นผู้บงการของหมื่นกระบี่ กระบี่ศักดิ์สิทธิ์จำนวนมหาศาลเสมือนหนึ่งเป็นเปลวไฟที่ลุกโชนขึ้นมาอย่างรุนแรง ภาพเช่นนี้ดูไปก็คล้ายกับนกยูงรำแพนอย่างนั้น

ตึง ตึง ตึงเสียงคำรามของกระบี่ราวกับสามารถแทงทะลุเก้าชั้นฟ้า ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกจับเหวี่ยง ได้ยินเสียงดังแว้งค์ขึ้นเสียงหนึ่ง จังหวะที่กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ถูกเหวี่ยงให้ฟาดฟันลงมานั้น แม้แต่ท้องฟ้าก็ถูกมันผ่าให้แยกออกและทิ้งร่องรอยบนท้องฟ้าที่น่าหวาดผวาเอาไว้

‘กระบี่นพเก้าสังสาระ!’ เซี่ยวหงเจี้ยนคำรามเสียงยาวไม่หยุด อานุภาพของเทพแท้จริงได้ปะทุขึ้นมา คล้ายดั่งเป็นน้ำหลากที่เกิดจากเขื่อนพังที่พุ่งมาไม่ขาดสายอย่างนั้น สามารถท่วมฟ้าดินจนสิ้น

ตึง…กระบี่เคลื่อนไหวไปหมื่นอาณาจักร กระบี่ศักดิ์สิทธิ์แต่ละเล่มที่ฟาดเหวี่ยงลงมา เสมือนดั่งกระบี่เป็นล้านล้านเล่มที่ฟาดฟันลงมา และวัฏสงสารไม่มีสิ้นสุด เหมือนว่าจะไม่มีการหยุดนิ่งตลอดไป จนกว่าศัตรูจะเสียชีวิต

ด้วยเคล็ดวิชากระบี่ที่โหดร้ายและอันธพาลเช่นนี้ ทำให้ผู้พบเห็นต้องหวาดกลัวจนขนลุกขนพอง เคล็ดวิชากระบี่ก็ว่าน่ากลัวมากแล้ว ยังบวกเพิ่มพลังของเทพแท้จริงเข้าไปอีก ด้วยกระบวนท่าที่น่ากลัวเช่นนี้กระบวนท่าเดียวก็สามารถทำลายล้างสำนักได้สำนักหนึ่ง

แต่แล้ว หลี่ชิเย่ที่เผชิญกับเคล็ดวิชากระบี่ที่น่ากลัวเช่นนี้ยังคงเหมือนไม่ใส่ใจกับมัน เพียงพูดเอ้อระเหยขึ้นมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นว่า “ไปเถอะ” จากนั้นเห็นโบกมือทีหนึ่ง

พริบตาเดียวนั้นเอง เสียงตึงดังขึ้นเสียงหนึ่ง มองเห็นใบของต้นสนที่คล้ายเข็มจำนวนนับล้านนับพันห้อยลง เข็มสนขนาดเล็กแต่ละอันได้กลับกลายเป็นดั่งน้ำตกสวรรค์ในพริบตาเดียว เหมือนว่ากระบี่สวรรค์เป็นล้านล้านเล่มถูกเทลงมาโดยพลัน ต้นสนกระบี่ก็คล้ายดั่งเป็นต้นไม้ยักษ์ที่ค้ำยันท้องฟ้า ขณะที่น้ำตกกระบี่ที่ห้อยลงมาคล้ายเป็นกิ่งของต้นหลิวอย่างนั้น ทำการคลุมหุบเขาอมตะทั้งหมดเอาไว้อย่างหนาแน่น

ภายใต้การครอบคลุมของกระบี่จำนวนนับไม่ถ้วนที่ดั่งน้ำตกกระบี่ ทั่วทั้งหุบเขาอมตะก็คล้ายดั่งเป็นป้อมปราการเหล็กอย่างนั้น มั่นคงแข็งแรงไม่สามารถตีให้แตกได้

เสียงพุ่งชนกระแทกดังปัง ปัง ปังขึ้นมาเขย่าพื้นพสุธา สะเก็ตไฟปลิวว่อน ทั้งทั้งแผ่นดินล้วนแล้วแต่สั่นไหวโคลงเคลง เหมือนเป็นการทำลายฟ้าดินอย่างนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล