ครั้นพวกของหลี่ชิเย่ก้าวลงมาจากเรือแล้วและก้าวขึ้นไปตามบันไดหินนั้น นาทีนี้ทุกคนจึงสังเกตเห็นตัวของเขา
เนื่องจากมู่หย่าหลัน และฉินซาวเย่าในเวลานี้พวกนางต่างติดตามอยู่ด้านหลังของหลี่ชิเย่ มู่หย่าหลันคือหมอเทวดาหญิง ขณะที่ฉินซาวเย่าถูกผู้คนยกย่องให้เป็นเทพธิดาโอสถ พวกนางล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียงโด่งดังในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นนางในฝันของผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนมากอีกด้วย
เวลานี้พวกนางต่างติดตามอยู่ด้านหลังของหลี่ชิเย่ ย่อมไม่เป็นที่สงสัยว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงฐานะและตำแหน่งของหลี่ชิเย่ได้อย่างชัดเจนแล้ว
“คนผู้นั้นเป็นใครนะเนี่ย?” ผู้คนจำนวนมากยังไม่รู้จักหลี่ชิเย่ กล่าววิจารณ์เสียงแผ่วเบาขึ้นมา
“ได้ยินมาว่าเขาแซ่หลี่ เป็นศิษย์ลำดับที่หนึ่ง เป็นศิษย์พี่ใหญ่ของหมอเทวดามู่ และเทพธิดาฉิน” มีผู้ที่สืบจนทราบฐานะของหลี่ชิเย่แล้วเอ่ยขึ้น
“นักพรตฉางเซินรับศิษย์เอกตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ศิษย์เอกของหุบเขาอมตะไม่ใช่เทพธิดาฟ่านรึ?” มีผู้เยาว์ที่ไม่เข้าใจในเหตุการณ์เอ่ยถามขึ้น
“หุบเขาอมตะมีตำแหน่งของศิษย์ลำดับที่หนึ่งอยู่ตำแหน่งหนึ่ง สามารถดำรงตำแหน่งศิษย์ลำดับที่หนึ่งก็หมายความว่าจะได้สืบทอดตำแหน่งของนักพรตฉางเซิน และปกครองระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะในอนาคต” ระดับผู้อาวุโสของสำนักที่อยู่ในเหตุการณ์กล่าวว่า “เท่าที่ข้ารู้มา ตำแหน่งศิษย์ลำดับที่หนึ่งของหุบเขาอมตะว่างเว้นมาโดยตลอด เวลานี้จู่ๆ โผล่ศิษย์ลำดับที่หนึ่งขึ้นมากะทันหันได้อย่างไรเล่า?”
ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ บรรยากาศดูจะหนักแน่นจริงจัง ในฐานะที่เป็นผู้สืบทอดของหุบเขาอมตะ ย่อมบ่งบอกว่าคือผู้กุมอำนาจของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ ฐานะเช่นนี้นับว่าสูงส่งมากทีเดียว
“ศิษย์อันดับที่หนึ่งผู้นี้เคยปรากฏตัวก่อนหน้านั้น เขาเคยควบคุมต้นบรรพบุรุษสนกระบี่ ตรึงสังหารราชครูเซี่ยวของแคว้นว่านโซ่ว” ผู้คุ้มกฎของสำนักเจ้าลัทธิแห่งหนึ่งกล่าวว่า “เกรงว่าเขาเป็นศิษย์ของนักพรตฉางเซินมานานแล้ว เพียงแต่ไม่ได้ประกาศให้ทราบเท่านั้นเอง”
“ที่แท้เป็นเช่นนี้ สนกระบี่คือหนึ่งในสามต้นบรรพบุรุษ ซึ่งปฐมบรรพบุรุษเป็นผู้ปลูกมากับมือเอง สามารถได้รับการยอมรับจากต้นบรรพบุรุษได้ นับว่ายอดเยี่ยมยิ่งนัก สามารถเป็นศิษย์ลำดับที่หนึ่งก็ไม่แปลกแล้ว” ระดับบรรพบุรุษของแคว้นๆ หนึ่งพยักหน้ายอมรับ
ขณะที่พวกของหลี่ชิเย่ก้าวขึ้นไปตามบันไดนั้น ศิษย์ของหุบเขาอมตะได้วิ่งเข้ามาให้การต้อนรับทันที เรือนหญ้าคาคือพื้นที่สำคัญของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ จึงมีศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ เฝ้ารักษาการอยู่ตลอดเวลา
“ศิษย์พี่ ศิษย์พี่สาว พวกท่านมาจนได้ ศิษย์พี่สาวฟ่านได้ส่งข่าวมาแล้ว พวกเราได้เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว เวลานี้สามารถจุดธูปได้ทันที” ศิษย์ที่วิ่งมาให้การต้อนรับถึงกับกล่าวพร้อมกับเป่าลมออกจากปากด้วยความโล่งอก
หลายวันมานี้ด้านนอกเรือนหญ้าคาเนืองแน่นด้วยยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่จะมาจุดธูป เนื่องจากหุบเขาอมตะยังไม่ได้นุดธูปก้านแรกคนอื่นจึงไม่กล้าจุด ทุกคนต่างรอกันอยู่ด้านนอกของเรือนหญ้าคา ทุกคนเริ่มมีเสียงบ่นเมื่อเวลาได้ทอดยาวออกไป
โดยเฉพาะกับแคว้นว่านโซ่วที่ก่อการกบฏขึ้นกะทันหัน สั่นคลอนอำนาจของหุบเขาอมตะ ยิ่งทำให้จิตใจของผู้คนเกิดความว้าวุ่น อำนาจของหุบเขาอมตะลดลงในความคิดของผู้คน
“เช่นนั้นก็เริ่มเลย” หลี่ชิเย่สั่งการออกไปเรียบเฉย
“เตรียมการเปิดเตาเพื่อขึ้นธูป โดยมีศิษย์พี่ใหญ่เป็นผู้ดำเนินการ” ศิษย์ผู้นี้ส่งเสียงร้องดังออกไปทันที ส่งสัญญาณให้ศิษย์ทั้งหมดเตรียมการ ส่วนตัวเขาคอยนำทางให้หลี่ชิเย่เพื่อเข้าสู่เรือนหญ้าคา
“ธูปก้านแรกนักพรตฉางเซินต้องเป็นผู้จุดมิใช่รึ?” จังหวะที่หลี่ชิเย่ก้าวขึ้นบันไดหินเพื่อไปยังเรือนหญ้าคานั้น ได้มีผู้ส่งเสียงก่อกวนขึ้นทันที ไม่รู้ว่าเป็นการจงใจหรือไม่ตั้งใจ แม้ว่าเสียงนี้จะไม่ดังมาก แต่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างได้ยินกันอย่างชัดเจน อีกทั้งผู้ที่พูดได้ปะปนอยู่ในกลุ่มคน ไม่รู้ว่าเป็นใคร
“ถูกต้อง ธูปก้านแรกจะต้องจุดขึ้นโดยผู้กุมอำนาจของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ เพื่อประกาศแจ้งต่อใต้หล้าว่าเป็นผู้นำระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิ ธูปก้านนี้มีเพียงนักพรตฉางเซิน เท่านั้นที่สามารถจุดได้” มีผู้กล่าวสนับสนุนขึ้นมา
“ผู้ที่เป็นผู้นำเท่านั้นที่จุดธูปก้านแรกได้” มีผู้บำเพ็ญตนรุ่นอาวุโสที่รู้สึกว่าคำพูดนี้มีเหตุผล ถึงกับพยักหน้าเห็นด้วย
ในขณะนี้เอง ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองตากันและกัน บรรยากาศพลันกลับกลายเป็นแปลกๆ ขึ้นมาในทันที มีผู้จงใจปลุกปั่นให้เกิดการโต้เถียงกัน เพื่อกระทบต่ออำนาจของหุบเขาอมตะ
เรื่องที่นักพรตฉางเซินได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่ได้เป็นความลับอีกต่อไปแล้ว เกรงว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่นักพรตฉางเซินจะมาจุดธูปก้านแรกด้วยตนเองแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้จึงเปิดโอกาสให้คนบางคนท้าทายอำนาจของหุบเขาอมตะ
“นั่นสิ ธูปก้านแรกนั้นมีความหมายที่ไม่ธรรมดาสำหรับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะของพวกเรา เป็นสัญลักษณ์อำนาจของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะพวกเรา สมควรให้นักพรตฉางเซินเป็นผู้มาจุด ใช่ว่านายหมูนายหมาคนใดก็สามารถจุดได้” ท่ามกลางฝูงชนมีเสียงดังขึ้น
“ให้เขาเป็นผู้จุดธูปก้านแรกไม่ได้ เว้นแต่นักพรตฉางเซินมาเอง มิฉะนั้นล่ะก็ คนอื่นๆ ล้วนแล้วแต่ไม่มีสิทธิ์” มีผู้ที่เห็นด้วยกับคำพูดนี้ไม่น้อยทีเดียว
“ศิษย์พี่ใหญ่คือศิษย์ลำดับที่หนึ่งของหุบเขาอมตะ สืบทอดตำแหน่งของหุบเขาอมตะต่อไป และสืบทอดอำนาจของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ การให้ศิษย์พี่ใหญ่เป็นผู้จุดไม่มีอะไรไม่เหมาะสม” สีหน้าของมู่หย่าหลันพลันดูไม่เป็นมิตรเมื่อเห็นมีคนคอยเสี้ยมเขาควายให้ชนกัน เสียงที่เย็นยะเยือกเข้าไปยังโสดประสาทของทุกคน
เมื่อมู่หย่าหลันพูดคำๆ นี้ออกมา ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ดูจะสงบลงไม่น้อย ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนส่วนใหญ่ต่างไม่กล้าพูดเพ้อเจ้อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...