ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2278

ตูม…เสียงดังสนั่นหวั่นไหวเสียงหนึ่งดังขึ้น ภายใต้การพุ่งโจมตีของพลังคลื่นกระแทก มองเห็นตำหนักศักดิ์สิทธิ์แต่ละหลังที่ลอยล่องอยู่บนอากาศพลันมลายเป็นเถ้าธุลีไปทันที ต่อให้มีระบบป้องกันที่แข็งแกร่งมากว่านี้ก็ไม่สามารถต้านทานอานุภาพของพลังคลื่นกระแทกนี้เอาไว้ได้

หลังจากที่ตำหนักศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นจุณภายใต้การโจมตีของพลังคลื่นกระแทกแล้ว ก็ได้ยิงทะลุภูเขาศักดิ์สิทธิ์ลูกหนึ่งที่อยู่ด้านหลังต่อไป จากนั้นพลังคลื่นกระแทกก็ยังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านั้น ได้พุ่งเข้าโจมตีตำหนักศักดิ์สิทธิ์ดึกดำบรรพ์กลุ่มหนึ่งที่ลอยล่องอยู่กลางอากาศ

ตำหนักศักดิ์สิทธิ์ดึกดำบรรพ์กลุ่มนี้ล้อมรอบไปด้วยไอหมอก เสมือนดั่งเป็นตำหนักเทพอันเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดึกดำบรรพ์อย่างนั้น เปี่ยมด้วยกำลังอำนาจที่ไม่อาจก้าวล่วง ทำให้ผู้พบเห็นถึงกับรู้สึกเคารพยำเกรงขึ้นมา

ขณะที่พลังคลื่นกระแทกยังไม่ทันพุ่งเข้าถึงกลุ่มตำหนักศักดิ์สิทธิ์ดึกดำบรรพ์เหล่านี้ ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้น ด้านนอกของตำหนักศักดิ์สิทธิ์ปรากฏแนวป้องกันขึ้นมาเป็นชั้นๆ เพื่อสกัดกั้นพลังคลื่นกระแทกที่ทรงพลังปราศจากผู้เทียบเทียมเช่นนี้ แต่ว่า พลังคลื่นกระแทกมีอานุภาพรุนแรงเหลือเกิน ได้ยินเสียงปัง ปัง ปังดังขึ้น ภายใต้การพุ่งโจมตีของพลังคลื่นกระแทกครั้งแล้วครั้งเล่า แนวป้องกันและละชั้นก็ถูกยิงโจมตีจนทะลุ

พลังคลื่นกระแทกยังไม่แผ่ว หอบเอาอานุภาพที่ทำลายฟ้าดินพุ่งเข้าหากลุ่มของตำหนักศักดิ์สิทธิ์ดึกดำบรรพ์เหล่านั้น

ฮึ…จังหวะที่พลังคลื่นกระแทกพุ่งเข้าโจมตีตำหนักศักดิ์สิทธิ์นั้น เสียงฮึที่เย็นชาดังขึ้นเสียงหนึ่ง แม้จะเป็นเพียงเสียงฮึเบาๆ เท่านั้น มันดังก้องไปทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ ลำพังแค่เสียงฮึที่เย็นชาเสียงหนึ่งก็สร้างความสะเทือนและสยบสรรพสิ่งมีชีวิตนับล้านล้านได้ แม้แต่กลุ่มของดวงดาวบนท้องฟ้ายังทำท่าสั่นไหวเหมือนจะร่วงหล่นลงมาอย่างนั้น เหมือนว่าแค่เสียงฮึที่เย็นชาเสียงนี้ก็สะเทือนจนจะหล่นลงมา

เสียงปังดังสนั่น เห็นแล้วว่าพลังคลื่นกระแทกกำลังจะพุ่งเข้าไปโจมตีและทำลายกลุ่มของตำหนักศักดิ์สิทธิ์ดึกดำบรรพ์ ทันใดนั้น ปรากฎกำแพงศักดิ์สิทธิ์ด้านหนึ่งลงมาจากท้องฟ้าและขวางอยู่ด้านหน้าของพลังคลื่นกระแทก เสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดที่พุ่งเข้าโจมตีอย่างดุดันดังขึ้นเป็นระลอกไม่ขาดสาย ภายใต้การโจมตีที่พาลและรุนแรงของพลังคลื่นกระแทก เสมือนดั่งสั่นไหวโคลงแคลงไปทั่วทั้งแคว้นว่านโซ่ว แต่ทว่ากำแพงศักดิ์สิทธิ์ด้านนี้ก็ยังคงขวางพลังคลื่นกระแทกที่น่ากลังนี้เอาไว้ได้

สุดท้าย ได้ยินเสียงดังจี๊ดขึ้นมาเสียงหนึ่ง สะเก็ดไฟแตกกระจาย พลังคลื่นกระแทกทั้งหมดที่หลี่ชิเย่ได้ดูดกลืนเข้ามาก็ถูกใช้ไปจนหมดสิ้น แต่ว่ายังคงไม่สามารถยิงทะลุกำแพงศักดิ์สิทธิ์ด้านนั้นไปได้

ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นพลังคลื่นกระแทกถูกใช้หมดไปในที่สุด โดยเฉพาะคนของแคว้นว่านโซ่วยิ่งตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อกับภัยพิบัติที่ลงมาจากท้องฟ้า เวลานี้ในที่สุดก็สามารถยืนหยัดผ่านไปได้แล้ว ไม่รู้มีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ถอนหายใจยาวออกมา

บนแท่นโอสถเงียบสงัดไปทั่วบริเวณ หลี่ชิเย่อาศัยมือเปล่าก็แยกร่างหุ่นมังกรเงินยักษ์ได้ อาศัยหมัดสังหารทำลายกองทัพมังกรเงิน ก็ได้สร้างความสะเทือนหวั่นไหวและสยบผู้คนจำนวนมากจนไม่กล้าแม้จะเอ่ยคำใดๆ ออกมา เวลานี้แค่ขยับตัวก็อาศัยพลังคลื่นกระแทกจัดการทำลายสำนักพระราชวังไปครึ่งค่อน ด้วยฝีมือเช่นนนี้ดูจะอันธพาลใช้อำนาจบาตรใหญ่เกินไป นี่มันออกจากบ้าระห่ำรุนแรงเกินไปแล้วกระมัง เป็นลักษณะของความดุร้ายจนเละเทะไปหมด ไม่สามารถหาคำใดๆ มาเปรียบเปรยตัวเขาได้อีกแล้ว

“สมควรออกมาได้แล้ว ให้ข้าได้พบกับฝีมือที่เข้าท่าหน่อย มิฉะนั้นล่ะก็อาศัยฝีมือเพียงแค่นี้แล้วมาเป็นศัตรูกับข้านับว่าอ่อนเหลือเกิน ทำให้ข้าเวลาที่ฆ่าไปแล้วก็ไร้ความหมายอะไร” หลี่ชิเย่ยืนเอามือไพล่หลัง กล่าวด้วยท่าที่สบายๆ

เวลานี้ หลี่ชิเย่ที่ยืนเอามือไพล่หลัง มองเห็นชุดที่สวมใส่ปลิวไปตามลม ตัวเขาที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ได้มีกลิ่นอายที่สะเทือนฟ้าดิน ไม่มีชื่อเสียงบารมีที่ปราศจากผู้ต่อกร เป็นเพียงการยืนไปตามอารมณ์เท่านั้นเอง

แต่การยืนตามอารมณ์เช่นนี้แหละ ทุกคนที่มองเห็นเงาหลังของเขาแล้วก็ต้องหวาดกลัวจนขนลุกซู่ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่มีความรู้สึกว่าการยืนอยู่ตรงนั้นของหลี่ชิเย่เป็นการสยบหัวใจของทุกคนเอาไว้ ทำให้ทุกคนรู้สึกหายใจด้วยความลำบาก ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าตนเองถูกหลี่ชิเย่สยบจนไม่มีความกล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความกล้าที่จะไปจ้องมองหลี่ชิเย่ตรงๆ อีกเลย

พาลและใช้อำนาจบาตรใหญ่ ปราศจากผู้ต่อกร มีเพียงหนึ่งเดียวในหล้า คำพูดเหล่านี้ไม่พอที่จะไปเปรียบเปรยเขาได้อีกต่อไป นาทีนี้เหมือนว่าเขาได้บงการทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะเอาไว้แล้ว เหมือนว่าเขาคือผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะสูงสุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ

“เฉกเช่นขณะอยู่ที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงอย่างนั้น” แม้แต่ตันหวังฟงเซี่ยวเฉินที่อยู่ระหว่างการต่อสู้อย่างดุเดือดยังต้องทอดถอนใจออกมาคำหนึ่ง

ครั้งนั้นขณะอยู่ที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงนั้น หลี่ชิเย่ก็ได้ควบคุมไปทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง เวลานี้หลี่ชิเย่ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะก็ได้ทำการควบคุมพลังของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเอาไว้ทั้งหมด ฟงเซี่ยวเฉินไม่รุ้ว่าหลี่ชิเย่ทำได้อย่างไรกันแน่ แต่เขาชัดเจนมากว่า การที่นักพรตฉางเซินมอบตำแหน่งศิษย์ลำดับที่หนึ่งให้กับหลี่ชิเย่เป็นการกระทำที่ชาญฉลาดมากอย่างไม่ต้องสงสัย

เอี๊ยด…เอี๊ยด…เอี๊ยด…ในเวลานี้เอง กำแพงด้านนั้นที่กั้นขวางอยู่ด้านหน้าของตำหนักศักดิ์สิทธิ์ได้ลอยขึ้นมาอย่างช้าๆ และตำหนักศักดิ์สิทธิ์ได้ปรากฏขึ้นต่อสายตาของทุกคนอีกครั้ง

แว้งค์…หลังจากที่กำแพงศักดิ์สิทธิ์ได้ลอยขึ้นไปอย่างสิ้นเชิงแล้วนั้น ปรากฏประกายศักดิ์สิทธิ์แต่ละสายที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า โดยที่ประกายศักดิ์สิทธิ์แต่ละสายนี้แฝงไว้ซึ่งจิตเทพที่เป็นอมตะ เหมือนว่าจิตเทพลักษณะเช่นนี้สามารถรองรับได้กับการขัดเกลาของวันเวลา สามารถรองรับกับการกัดกร่อนของกาลเวลาได้

หลังจากที่ประกายศักดิ์สิทธิ์แต่ละสายที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้ว ตามติดด้วยวงแหวนศักดิ์สิทธิ์แต่ละวง วงแหวนศักดิ์สิทธิ์แต่ละวงมีการหมุนวนไม่หยุดนิ่ง เหมือนว่าเป็นการวิวัฒนาการโลกธาตุ ท่ามกลางโลกธาตุนี้มีทางช้างเผือกที่กว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขต มีสรรพสิ่งมีชีวิตนับหนึ่งล้านล้านล้านชีวิต

ไม่ว่าจะเป็นสรรพสิ่งมีชีวิตจำนวนหนึ่งล้านล้านล้านชีวิต หรือจะเป็นทางช้างเผือกที่กว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขตก็ตาม ล้วนแล้วแต่มีศูนย์กลางอยู่จุดหนึ่ง ซึ่งศูนย์กลางนี้คือต้นกำเนิดของโลกธาตุนี้ และเป็นที่พักพิงสุดท้ายของสรรพสิ่ง

เสียงตูม…ดังสนั่น วันเวลารวมตัวกันอย่างฉับพลัน เสมือนหนึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยหนึ่ง เสมือนดั่งพันล้านปีได้รวมกันในนาทีนี้ ท่ามกลางแสงที่ที่ละลานตาปรากฏร่างเงาร่างหนึ่งขึ้น

ร่างเงานี้มีขนาดสูงใหญ่สูงสุดปราศจากผู้ใดเทียม ยามที่เขานั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้น เหมือนว่าเขาก็คือศูนย์กลางของโลกธาตุหนึ่ง ไม่เพียงสรรพสิ่งมีชีวิตนับล้านล้านต้องกราบไหว้เขา แม้แต่ทางช้างเผือกที่กว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขตยังต้องล้อมรอบตัวของเขา ท่ามกลางโลกธาตุเช่นนี้ ตัวเขาคือผู้ดำรงอยู่ในฐานะสูงสุด

คนผู้นี้เป็นผู้เฒ่าคนหนึ่ง ผมเผ้ามีสีขาวอยู่บ้าง เมื่อเขาลืมตาทั้งสองขึ้นก็จะส่องสว่างไปทั่วทั้งโลก ทำให้สรรพสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนต้องสั่นเทา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล