ใต้ต้นหวู๋ถง กิ่งไม้แก่แกว่งไกวไปตามลม ฟ้าดินเสมือนหนึ่งกลายเป็นนิรันดร์ เหมือนว่าพันล้านปีก็คงอยู่ในสภาพเช่นนี้ ทุกอย่างดูจะเงียบสงบ แต่ก็เป็นโลกๆ หนึ่งที่เปี่ยมด้วยความมีชีวิตชีวา
ภายในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะก็ดูจะสงบเงียบเป็นพิเศษ หลังจากที่แคว้นว่านโซ่วถูกทำลายไปแล้ว ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะปราบกบฏราบคาบลงได้ ทำให้ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะได้กลับคืนสู่ความเป็นระเบียบอีกครั้ง ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่ดูสงบและเป็นระเบียบ
สืบเนื่องจากแคว้นว่านโซ่วถูกทำลาย ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะจึงไม่มีใครออกมาร้องเอะอะเอ็ดตะโรอีก หากเป็นก่อนหน้านั้น บางทีอย่างน้อยก็อาจมีบางสำนักที่ไม่ยอมอยู่กับร่องกับรอย ต้องการเอะอะเอ็ดตะโรบ้าง และหรือท้าทายอำนาจสักนิดหนึ่ง
แต่มาครั้งนี้หุบเขาอมตะลงมือ อาศัยความรวดเร็วที่ไม่ให้ตั้งตัวทำลายแคว้นว่านโซ่วลงได้ ทำให้ทุกคนได้รู้จักธาตุแท้ภายในของหุบเขาอมตะโดยสิ้นเชิง ดังนั้น ต่อให้บางสำนักที่เคยมีท่าทีอยากจะก่อการก็สงบลงอย่างสิ้นเชิง
ท่ามกลางความสงบเงียบนี่เอง มาวันนี้พลันปรากฏเรือกระดาษแต่ละลำขึ้นมากะทันหัน หลังจากที่เรือกระดาษแต่ละลำเหล่านี้ปรากฏขึ้นมาแล้ว ได้ทำลายความสงบของแดนลัทธิพรรษลงอย่างสิ้นเชิง
ในวันนี้ บนท้องฟ้าด้านบนของแดนลัทธิพรรษ พลันได้ยินเสียงดังจี๊ด จี๊ด จี๊ดขึ้นมา ท้องฟ้ามีการรวมตัวกัน ช่องว่างเกิดการกระเพื่อม ภายในระยะเวลาอันสั้นประตูที่เป็นเสมือนดั่งหลุมดำหลุมหนึ่งได้รวมตัวขึ้นเป็นผลสำเร็จ
ประตูที่เสมือนดั่งหลุมดำนี้ไม่มีการหมุนเคลือนไป และไม่เกิดพลังดึงดูด ดูเงียบสงบอย่างยิ่ง กระทั่งกล่าวได้ว่าเงียบสงบจนคล้ายเป็นหน้ากระจกสีดำบานหนึ่ง
จังหวะที่ผู้คนจำนวนมากยังไม่ทันเข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นนั้น ทันใดนั้นได้ยินเสียงดังช่าาา หน้ากระจกที่คล้ายดั่งหลุมดำพลันบังเกิดเป็นระลอกคลื่นขึ้นมา โดยที่ระลอกคลื่นเสมือนหนึ่งคลื่นน้ำที่กระเพื่อม
นาทีนี้เอง ได้ยินเสียงดังปุที่เป็นเสียงน้ำกระเพื่อมดังขึ้นมาแผ่วเบา มองเห็นเรือแต่ละลำที่บินออกมาจากหลุมดำที่เป็นบานกระจกนั่น เรือลำน้อยๆ เหล่านี้มันก็เหมือนเรือลำน้อยนั่นแหละ อีกทั้งที่น่าแปลกยิ่งกว่านั้นก็คือ มันไม่ได้สร้างขึ้นจากไม้อะไรนั่น แต่อาศัยกระดาษสีดำพับขึ้นมา
ขณะที่เรือกระดาษที่คล้ายดั่งเรือลำน้อยแต่ละลำบินออกมาจากประตูที่เป็นหน้ากระจกหลุมดำนั้น ได้บินแยกย้ายออกไปยังทุกทิศทุกทาง ความเร็วของพวกมันน่ากลัวยิ่งนัก เสมือนหนึ่งสามารถก้าวข้ามระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิๆ หนึ่งได้ในชั่วพริบตาเดียว
เวลานี้สามารถมองเห็นเรือกระดาษที่บินว่อนเต็มท้องฟ้า ผู้คนจำนวนมากต่างมองดูจนเซ่อ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ต่างไม่เข้าใจว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น
“เงินทองตกพื้น…” รุ่นอาวุโสที่มองเห็นเรือกระดาษสีดำบินไปยังทุกทิศทุกทางของแดนลัทธิพรรษแล้ว ถึงกับร้องเสียงดังขึ้นมา
“เงินทองตกพื้นมาเยือนแดนลัทธิพรรษของพวกเราแล้ว เป็นการเปิดประตูอีกครั้ง นับเป็นเรื่องน่ายินดีเป็นอย่างยิ่งนะเนี่ย” ผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนของแดนลัทธิพรรษถูกทำให้แตกตื่นเมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้ โดยเฉพาะรุ่นอาวุโสรู้ได้ทันทีว่าสิ่งนี้บ่งบอกถึงอะไร
“เงินทองตกพื้น…เงินทองตกพื้นมาแล้ว รีบแจ้งข่าวทุกคน พวกเราเตรียมตัวเข้าไปกัน” มีรุ่นอาวุโสที่ดีใจจนร้องเสียงดังต่อทุกๆ คน
“เงินทองตกพื้นมาแล้ว?” พลันที่ระดับบรรพบุรุษมองเห็นเรือกระดาษสีดำบินมาก็บังเกิดความมีชีวิตชีวาขึ้นทันที และกล่าวด้วยความดีใจว่า “วาสนาเช่นนี้ ในที่สุดก็เป็นทีของแดนลัทธิพรรษพวกเราแล้ว ไม่นึกเลยว่าในขณะที่ยังคงมีชีวิตอยู่ยังจะได้เข้าไปในเงินทองตกพื้น!”
“เตรียมตัวให้พร้อม ข้าจะพาพวกเจ้าเข้าไปยังเงินทองตกพื้น” เจ้าสำนักได้สั่งการกับศิษย์ภายในสำนัก และกล่าวว่า “เปิดคลังเก็บเงินออกมา พวกเราจะนำเงินเหรียญกษาปณ์ออกเดินทาง ยิ่งมากยิ่งดี”
คำว่าเงินทองตกพื้นได้ดังไปทั่วทั้งแดนลัทธิพรรษในเวลานี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่พลันได้ยินคำว่าเงินทองตกพื้นถึงกับดีใจเป็นที่สุด
“เงินทองตกพื้นคืออะไร?” มีกลุ่มคนรุ่นใหม่บางส่วนที่เพิ่งจะเข้าสู่ยุทธภพไม่รู้ว่าอะไรคือเงินทองตกพื้น มองดูเรือกระดาษสีดำที่บินว่อนไปทุกทิศทุกทางแล้วไม่เข้าใจว่ามีความเป็นมาอย่างไรโดยสิ้นเชิง
“เงินทองตกพื้น หนึ่งในหกที่ดินไถ่ถอนนะเนี่ย” รุ่นอาวุโสผู้หนึ่งกล่าวว่า “ที่ตรงนี้หากมีเงินก็จะมีโอกาส ดีไม่ดีสามารถทำให้เจ้าได้รับเงินก้อนใหญ่ กระทั่งเงินทองไหลมาเทมา”
“จริงหรือ?” ผู้เยาว์ไม่อยากจะเชื่อเมื่อได้ฟังคำจากผู้อาวุโส
“ย่อมเป็นเรื่องจริงแน่นอน” ผู้อาวุโสได้กล่าวขึ้นมาทันทีว่า “ถ้าหากเจ้าโชคดี ไม่แน่นักเจ้าแค่หยอดเหรียญลงไปเหรียญเดียวก็สามารถแลกมาได้ซึ่งของวิเศษทียอดเยี่ยมที่มีเพียงหนึ่งเดียวในหล้า ช่วยให้เจ้าเกรียงไกรไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน”
“ร้ายกาจเพียงนี้เชียว” ผู้เยาว์ที่ได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้วพลันน้ำลายหก และอยากได้มาครอบครองยิ่ง และกล่าวว่า “เช่นนั้นแล้วจะรออะไรอีกเล่า พวกเรารีบเก็บข้าวของแล้วเข้าไปทันที” กล่าวพลางท่าทางเหมือนรอต่อไปไม่ไหวแล้ว
“เพ้อฝันให้มันน้อยๆ หน่อย” หนึ่งฝ่ามือของผู้อาวุโสพลันตบเข้าให้ที่ท้ายทอย และกล่าวว่า “ด้วยท่าทางที่โชคร้ายอย่างเจ้าน่ะหรือก็คิดจะอาศัยเหรียญเพียงเหรียญเดียวได้ลาภก้อนโต ฝันไปเถอะ โอกาสเช่นนี้มีอยู่น้อยมากๆ ตรงกันข้าม ไม่แน่นักเหรียญหนึ่งที่โยนลงไปอาจเรียกเอามารร้ายออกมา กินเจ้าลงท้องไปในคำเดียว”
“มีมารร้ายจริงรึ?” คำพูดนี้เหมือนน้ำเย็นที่ราดลงหัวของศิษย์ผู้นี้ ถึงกับตกใจยิ่งนัก
“ไม่แน่เสมอไปว่าเป็นมารร้าย อาจจะเป็นสิ่งชั่วร้ายหรืออันตรายอื่นๆ เหรียญตกถึงพื้นอาจเป็นไปได้นำมาซึ่งความโชคดีให้กับเจ้า มีความเป็นไปได้ที่เจ้าอาจได้ของวิเศษมาชิ้นหนึ่ง แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่นำมาซึ่งอันตรายอย่างยิ่งให้กับเจ้า หรือเรียกเอาสิ่งชั่วร้ายที่แข็งแกร่งมากออกมา เวลานั้นเจ้าก็รีบหนีให้สุดชีวิตก็แล้วกัน เหรียญของใครตกถึงพื้น สิ่งชั่วร้ายก็หมายตาคนผู้นั้น ถึงตอนนั้นเจ้าหนีไม่ได้ก็ต้องตายสถานเดียว” ผู้อาวุโสผู้นี้เอ่ยขึ้นมา
“ในเมื่อมีสิ่งที่น่ากลัวเช่นนี้ พวกเรายังจะไปทำไม?” คำพูดนี้พลันดับความดีใจของศิษย์ผู้นี้ลง ถึงกับกล่าวด้วยความรู้สึกขวัญหนีดีฝ่ออยู่บ้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...