ตอนที่ 2297 สุสานกระบี่ – ตอนที่ต้องอ่านของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
ตอนนี้ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2297 สุสานกระบี่ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
“หลี่ชิเย่” หลี่ชิเย่นั่งตัวตรงบนหลังช้าง กล่าวเฉยเมย
หลินซิม่ออ้าปากทำท่าจะพูด แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี สุดท้ายนางได้แต่เอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า “ขอบคุณท่านที่พาข้าข้ามทะเล”
ถ้าหากไม่เป็นเพราะหลี่ชิเย่ดึงตัวนางมาด้วย นางไม่รู้เลยจริงๆ ว่าควรจะข้ามฟากอย่างไร การโดยสารปลาทองนั้นอันตรายมีมากเกินไป
“เจ้าไม่ควรมาที่เงินทองตกพื้น“ หลี่ชิเย่ส่ายหน้าและพูดเรียบเฉยขึ้นมา
คำพูดของหลี่ชิเย่ฟังแล้วไม่รื่นหูแต่เป็นเรื่องจริง สถานที่ทเช่นนี้หาใช่เป็นที่ที่หญิงสาวคนหนึ่งเช่นนางสามารถมาได้ ยิ่งไปกว่านั้นนางมีทักษะยุทธอ่อน เงินในมือก็มีน้อย
“ข้า ข้ารู้” ท่าที่ของหลินซิม่อดูสลด ถึงกับก้มหน้าลง หลังจากผ่านไปชั่วครู่นางเงยหน้าขึ้นมา แววตาเผยให้เห็นถึงความเข้มแข็งมุ่งมั่น นางกล่าวว่า “แต่ ข้า ข้ายังคิดจะเสี่ยงสักครั้ง ตระกูลหลินของข้า ข้าก็มีเพียงพวกเราไม่กี่คนเท่านั้นแล้ว”
ครั้นนางเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้วในใจถึงกับสลด นางเองก็มีชาติกำเนิดมาจากสุสานกระบี่ สมควรทราบว่า ครั้งนั้นเป็นตระกูลหลินของพวกเขาที่กุมอำนาจปกครองของสุสานกระบี่
เวลานี้ตระกูลหลินของพวกเขาตกต่ำลงอย่างสิ้นเชิงแล้ว ตระกูลหลินของพวกเขาเหลืออยู่เพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น ในฐานะที่เป็นต้นกล้าของตระกูลหลิน นางที่เป็นเพียงหญิงสาวคนหนึ่งต้องแบกรับภาระฟื้นฟูตระกูลหลินเอาไว้บนบ่า
เหมือนดั่งที่หลี่ชิเย่พูดเอาไว้อย่างนั้น นางไม่ควรมาที่เงินทองตกพื้น เนื่องจากนางมีทักษะยุทธที่อ่อนด้อย ทั้งยังยากจนไม่สามารถล้วงหยิบเอาเงินออกมาได้สักเท่าไร ซึ่งเฉกเช่นสถานที่อย่างเงินทองตกพื้นหากไม่มีเงินก็ยากที่จะก้าวไปแม้เพียงครึ่งก้าว การที่นางสามารถพาตัวมาจนถึงตรงนี้ได้นับว่าไม่ง่ายนักแล้ว
ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ตาม นางยังคงก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่ เนื่องจากนางไม่มีทางเลือก ตระกูลหลินของพวกเขาใกล้จะสิ้นแล้ว หากไม่ทำการฟื้นฟูขึ้นอีก สุสานกระบี่จะต้องเปลี่ยนมือไปอย่างสิ้นเชิงจริงๆ แล้ว
“ต่อให้หาสุสานกระบี่ได้ก็ไม่แน่ว่าจะช่วยตระกูลหลินของเจ้าได้เสมอ” หลี่ชิเย่กล่าวเฉยเมย
พลันที่คำพูดนี้ถูกพูดออกมา หลินซิม่อถึงกับหวาดผวาขึ้นมาทันที นางถึงกับก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง พูดเสียงหลงขึ้นมาว่า “ท่าน ท่าน ท่านรู้ได้อย่างไร?”
“มันจะไปยากอะไร?” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “ผู้หญิงคนที่ชื่อองค์หญิงเซี่ยอะไรนั่นก็อ่านใจเจ้าขาดมิใช่รึ และรู้ว่าเจ้ามาที่เงินทองตกพื้นเพื่อต้องการทำอะไร ดังนั้น การมาหาสุสานกระบี่ที่เงินทองตกพื้นจึงไม่เรื่องความลับที่คอขาดบาดตายแต่อย่างใด”
สิ่งนี้ทำเอาหลินซิม่อตกใจไม่เบาเลยทีเดียว เนื่องจากเรื่องที่นางมาหาสุสานกระบี่แม้แต่ในบ้านของนางเองก็มีคนรู้อยู่แค่คนเดียวเท่านั้น เวลานี้หลี่ชิเย่กลับพูดออกมาได้ทันที แต่เมื่อคิดให้ละเอียดอีกครั้ง คำพูดของหลี่ชิเย่ก็พูดถูก เนื่องจากขณะอยู่ที่ริมทะเลนั้นเป็นการชัดเจนว่าองค์หญิงเซี่ยไม่ได้มาดีแน่ และนางเองก็เข้าใจได้ว่าตนเองนั้นมาทำอะไรที่เงินทองตกพื้น
สมควรทราบว่า เวลานี้เป็นราชวงศ์หลินเซี่ยของพวกองค์หญิงเซี่ยที่ปกครองสุสานกระบี่ ราชวงศ์ของพวกเขาไม่ต้องการให้ตระกูลหลินของพวกเขาหาสุสานกระบี่พบได้อีกครั้ง และไม่อนุญาตให้ตระกูลหลินได้ครอบครองสุสานกระบี่อย่างเด็ดขาด!
เมื่อคิดได้ดังนี้แล้ว หลินซิม่อพลันรู้สึกสันหลังที่เย็นวาบ เกรงว่าขณะอยู่ริมทะเลองค์หญิงเซี่ยไม่เพียงแค่ต้องการพาตัวนางไปเท่านั้น กระทั่งต้องการเอาชีวิตของนาง
“ในมือของเจ้ากุมสิ่งที่เป็นกุญแจสำคัญบางอย่างของสุสานกระบี่” จังหวะที่หลินซิม่อกำลังหวาดผวา หลี่ชิเย่ได้พูดออกมาเอ้อระเหยว่า “ขอเพียงเข้าใจในสิ่งนี้ เกรงว่าคนที่ต้องการเอาชีวิตเจ้าในสุสานกระบี่พวกเจ้าคงไม่ได้มีเพียงแค่คนหรือสองคนเท่านั้น”
“เจ้า เจ้า เจ้าคิดจะทำอะไร…” มาคราวนี้ทำเอาหลินซิม่อตกใจวิญญาณแทบออกจากร่างอย่างแท้จริง นางถึงกับขยับตัวถอยหนี เนื่องจากหลี่ชิเย่พูดถูก นางมาหาสุสานกระบี่และในมือกำสิ่งที่ราชวงศ์หลินเซี่ยไม่มีอยู่จริงๆ
“วางใจเถอะ ข้าไม่ได้หมายปองสิ่งที่อยู่ในมือของเจ้า” จังหวะที่หลินซิม่อตกใจจนเกือบจะกระโดดหนีลงทะเลอยู่แล้ว หลี่ชิเย่ได้พูดเฉยเมยขึ้นมาว่า “เพียงแต่พูดเตือนเจ้าเท่านั้นเอง อีกอย่าง แค่สุสานกระบี่แบบนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของข้า”
หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ หลินซิม่อจึงได้สติกลับมา ใจลอยอยู่นิดหนึ่งและยังคงเหมือนวิญญาณไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เวลานี้คิดอีกทีการที่หลี่ชิเย่สามารถนึกถึงเรื่องนี้ ไม่แน่นักองค์หญิงเซี่ยก็คิดได้
ในเวลานี้ทำให้หลินซิม่อถึงกับเหงื่อเย็นไหลท่วมตัว เกรงว่าตนเองไม่แน่ว่าจะปลอดภัยหลังจากข้ามทะเลไปแล้ว องค์หญิงเซี่ยต้องไม่ยอมละเว้นนางอย่างเด็ดขาด
ในเวลานี้ หลินซิม่อถึงกับเหม่อลอย นางเองตัวคนเดียวกำลังน้อยกว่า อีกทั้งหากถูกพวกของราชวงศ์หลินเซี่ยจับจ้องเอาไว้ล่ะก็ ไม่เพียงแค่ยากที่จะก้าวไปแม้เพียงครึ่งก้าว เกรงว่าแม้แต่ชีวิตก็ไม่รอด
“ขอบคุณท่าน” หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ หลินซิม่อจึงเรียกสติกลับมาได้แท้จริง หลี่ชิเย่ไม่เพียงช่วยนาง พานางข้ามทะเล ขณะอยู่ริมทะเลก็เป็นเพราะเขาขวางคนขององค์หญิงเซี่ยเอาไว้ จึงได้ช่วยชีวิตของนางไว้ได้
“ถอยไปหนึ่งหมื่นก้าว ต่อให้เจ้าสามารถค้นหาสุสานกระบี่ได้แล้ว และในมือของเจ้ายังได้กำสิ่งที่บรรพบุรุษของเจ้าได้ทิ้งเอาไว้ให้ ยังไม่ต้องพูดถึงว่าจะมีคนที่ลอบโจมตีเจ้า เจ้าคิดว่าอาศัยพรสวรรค์ของเจ้า อาศัยทักษะยุทธของเจ้าสามารถได้มันมาหรือไม่? สามารถได้รับการยอมรับจากมันหรือไม่? เจ้าสามารถนำมันกลับไปยังตระกูลหลินหรือไม่?” หลี่ชิเย่กล่าวขึ้นมาเฉยเมย
“ข้า…” หลินซิม่ออ้าปากจะพูด แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี หัวใจดวงนี้ของนางถึงกับหดหู่ลง
แม้ว่าคำพูดของหลี่ชิเย่จะไม่น่าฟังเอาเสียเลย แต่ก็เป็นเรื่องจริง ต่อให้นางสามารถค้นพบสุสานกระบี่ได้จริงๆ นางจะเอาอะไรไปพาสุสานกระบี่กลับไปได้เล่า? ต่อให้ไม่มีใครมาแย่งชิงกับนาง ก็ไม่แน่เสมอไปว่านางจะสามารถพาสุสานกระบี่ไปได้
สมควรทราบว่า สุสานกระบี่นี้ก็คือส่วนที่เป็นแกนหลักของต้นกำเนิดสัจธรรมของสุสานกระบี่พวกเขา ในนั้นได้ซ่อนสัจธรรมที่ลึกซึ้งยอดเยี่ยมที่สุดของสุสานกระบี่พวกเขา ในครั้งนั้น กระบี่อัจฉริยะปฐมบรรพบุรุษของพวกเขาได้ทิ้งสุสานกระบี่เอาไว้ ก็คือได้ทิ้งปณิธานกระบี่สูงสุดเอาไว้ในสุสานกระบี่ แต่อาศัยนางที่เป็นเพียงเด็กสาวคนหนึ่ง ไหนเลยสามารถบรรลุปณิธานกระบี่ของปฐมบรรพบุรุษได้อย่างไรเล่า?
เพียงชั่วครู่ บรรยากาศได้นิ่งเงียบไปอีกครั้ง เมื่อหลี่ชิเย่ไม่ได้พูดอะไร ขณะที่หลินซิม่อเองก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
ในเวลานี้เหลือเพียงน้ำที่ดังช่าาา ช่าาาเท่านั้น ในเวลาเดียวกันนี้ความได้เปรียบของคชสารหอมก็ปรากฎออกมาให้เห็นแล้ว พวกเขาได้แซงล้ำหน้าผู้คนไปเป็นจำนวนมากภายในระยะเวลาอันสั้น บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่ออกเดินทางล่วงหน้าก่อนหน้านี้ล้วนแล้วแต่ถูกแซงหน้าไป
บรรดาผู้ที่โดยสารปลาทอง เต่าทะเลยิ่งไม่อาจเทียบได้กับคชสารหอมได้เลย โดยเฉพาะผู้ที่โดยสารมากับปลาทอง แม้จะออกเดินทางมานานก็ไร้ประโยชน์ เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ถูกคชสารหอมแซงล้ำหน้าไปแล้ว
“บัดซบ พวกคนมีเงินที่ชอบอวดความร่ำรวยนะเนี่ย ออกจากบ้านก็ต้องเป็นคชสารหอม มันให้ข้าที่โดยสารมากับปลาทองรับกับความกระทบทางจิตใจได้อย่างไรกัน” ผู้บำเพ็ญตนที่โดยสารมากับปลาทองอดที่จะพูดขึ้นมาด้วยความอิจฉาและริษยา เมื่อมองเห็นคชสารหอมของหลี่ชิเย่ที่ฝ่าเกลียวคลื่นไปอย่างรวดเร็ว และตนเองพลันถูกทิ้งอยู่ด้านหลังทันที
“เจ้าไม่รู้จักเขารึ? เขาก็คือเจ้าหนูมดคนนั้นนะเนี่ย มีเงินเหลือเฟือ โดยสารด้วยคชสารหอมข้ามแม่น้ำถือเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอยู่แล้ว” ผู้บำเพ็ญตนที่โดยสารมากับเต่าทะเลที่อยู่ด้านข้างกล่าวพร้อมกับหัวเราะเสียงดังขึ้นมา
ไม่ว่าพวกเขาจะหัวเราะเยาะและหรือด้อยค่าหลี่ชิเย่ก็ตาม แต่ว่า พวกเขาก็ทำได้แค่มองตาปริบๆ ดูหลี่ชิเย่ที่โดยสารคชสารหอมอาศัยความเร็วที่ดั่งสายฟ้าแลบหายไปท่ามกลางสายน้ำที่ไหลไปไม่ขาดสาย
“ท่าน ท่าน ท่านเอาเงินป้อนมดจริงๆ รึ?” หลังจากไปไกลแล้ว หลินซิม่ออดที่จะรวบรวมความกล้าเอ่ยถามขึ้นมาแผ่วเบา
หลังจากหลินซิม่อมาถึงเงินทองตกพื้นแล้วก็เคยได้ยินคำเล่าลือเกี่ยวกับเรื่องราวที่มหัศจรรย์ของหลี่ชิเย่เช่นกัน พูดตามตรง ในฐานะที่เป็นคนยากจนนางเองไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเพราะอะไรหลี่ชิเย่ถึงต้องเอาเงินไปป้อนมด นางเองต้องประหยัดเหรียญแต่ละเหรียญเอาไว้ ขณะที่หลี่ชิเย่กลับรู้สึกว่ามีเงินมากเกินไป ต้องเอาเงินไปป้อนให้กับมด โลกของคนมีเงินเป็นสิ่งที่คนจนไม่สามารถจินตนาการได้
“ถูกต้อง…” หลี่ชิเย่เพียงตอบน้ำเสียงเรียบเฉย
“ช่างสุรุ่ยสุร่ายเหลือเกิน…” หลังจากที่หลินซิม่อได้รับการยอมรับจากหลี่ชิเย่แล้ว ทำได้เพียงทอดถอนใจออกมาเบาๆ นางไม่สามารถจินตนาการถึงโลกของคนมีเงินได้อยู่แล้ว
“เรื่องราวบนโลกมากมายอย่าได้มองโดยอาศัยความรู้สึก” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมยว่า “ความลึกซึ้งยอดเยี่ยมบางอย่างอยู่เหนือความรู้สึกมากมาย ให้มองโดยใช้สายตาที่เฉียบแหลม อาศัยจิตใจไปทำความเข้าใจ”
คำพูดลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ทำให้หลินซิม่อตะลึงนิดหนึ่ง เมื่อนางได้สติคืนกลับมาถึงกับไปทำความเข้าใจและซาบซึ้งกับมันอย่างละเอียด
……………………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...