ฮืออ…ท่ามกลางแผ่นดินของปี้โซ่วเฉิงแห่งนี้ เสียงสัตว์ส่งเสียงร้องคำรามดังไม่ขาดสาย เสียงคำรามของสัตว์ไม่ได้มาจากปี้โซ่วที่เข้ามายังพื้นที่แห่งนี้เท่านั้น ยังมีโครงกระดูกที่มุดและคลานขึ้นมาจากใต้ดิน โดยที่โครงกระดูกเหล่านี้มีหลากหลายรูปแบบ มีทั้งโครงกระดูกที่ใหญ่โตมโหฬาร และมีโครงกระดูกที่เล็กกระจุ๋มกระจิ๋ม อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าโครงกระดูกที่มีขนาดเล็กกระจุ๋มกระจิ๋มก็จะอ่อนแอ โครงกระดูกที่เล็กกระจุ๋มกระจิ๋มบางโครงมีความเข้มแข็งยิ่งกว่าเสียอีก มันจัดการสังหารปี้โซ่วที่รูปร่างใหญ่โตเป็นๆ ได้เลยทีเดียว
ปัง ปัง ปังเสียงแผ่นดินสั่นสะเทือนที่ดังขึ้นมาแต่ละเสียง นอกจากเป็นเสียงที่ดังตูมตามจากการวิ่งห้อของปี้โซ่วจำนวนมากแล้ว ยังมีเสียงจากการวิ่งของโครงกระดูกที่คลานออกมาจากใต้พื้นดิน กระทั่งเสียงต่อสู้และเสียงร้องที่น่าเวทนาให้ได้ยินเป็นระยะๆ
โครงกระดูกจำนวนมากที่คลานออกมาจากใต้พื้นดินเสมือนดั่งนักล่าที่คอยล่าบรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่เข้ามาพร้อมกับปี้โซ่ว กระทั่งมีโครงกระดูกที่มีความแข็งแกร่งล่าและกินกระทั่งตัวปี้โซ่วเข้าไปด้วย
“นี่ นี่ นี่มันคือโครงกระดูกของปี้โซ่วใช่หรือไม่?” ในที่สุดก็มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนมองออกถึงเบาะแสบางอย่าง หลังจากที่ใต้พื้นดินได้ปรากฎโครงกระดูกที่คลานออกมาแล้วเป็นจำนวนมาก เขามองเห็นโครงกระดูกหลายโครงที่ไล่ตามหลังมานั้นถึงกับเหมือนกับปี้โซ่วที่เขานั่งมาด้วยอย่างกับแกะ ซึ่งสร้างความตระหนกให้เขาอย่างยิ่งทีเดียว
“ดูท่าจะเป็นจริง” มีผู้ที่พิจารณาถึงความนัยของโครงกระดูกเหล่านี้อย่างละเอียดแล้ว ถึงกับกล่าวด้วยความตกใจว่า “โครงกระดูกเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นโครงกระดูกของปี้โซ่วหลังจากที่ได้ตายลง อย่างไรก็ตาม พลังของพวกมันไม่เห็นจะด้อยไปกว่าก่อนตาย นี่ นี่มันช่างแปลกประหลาดมากเหลือเกิน”
หลังจากผู้คนจำนวนมากได้พิจารณาถึงความนัยมารอบหนึ่ง สามารถยืนยันได้อย่างสิ้นเชิงว่า โครงกระดูกที่คลานออกมาจากใต้พื้นดินเหล่านนี้เป็นโครงกระดูกของปี้โซ่วอย่างแท้จริง ทุกคนต่างไม่รู้ว่าโครงกระดูกเหล่านี้ได้ตายลงตั้งแต่เมื่อไรกัน บางทีอาจเป็นโครงกระดูกปี้โซ่วที่ตายไปเมื่อครั้งก่อน และหรืออาจเป็นโครงกระดูกปี้โซ่วตายไปตั้งแต่ยุคสมัยที่ยาวนานมาแล้วก็เป็นได้
“เพราะอะไรโครงกระดูกปี้โซ่วเหล่านี้จึงฟื้นคืนชีพได้ล่ะ?” เมื่อมองเห็นโครงกระดูกปี้โซ่วจำนวนมากมายเช่นนี้คลานออกมาจากใต้พื้นดิน โดยเฉพาะภายในเบ้าตาของโครงกระดูกเหล่านี้ถึงกับมีเปลวไฟที่วูบวาบ เสมือนดั่งเป็นไฟวิญญาณอย่างนั้น ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวจนขนลุกซู่อยู่บ้าง
“นี่มันช่างน่ากลัวเหลือเกินกระมัง? เป็นการตายแล้วฟื้นคืนชีพรึ? หรือได้กลายเป็นหุ่นเชิดไปแล้วรึ?” แม้แต่ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสเมื่อได้เห็นโครงกระดูกของปี้โซ่วจำนวนมากคลานออกมาจากใต้พื้นดินแล้ว ก็ถึงกับพูดด้วยความหวาดกลัวจนขนลุกซู่
เกรงว่ายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่เข้าไปยังเมืองปี้โซ่วเฉิงล้วนแล้วแต่ไม่รู้ว่า เพราะอะไรถึงได้มีโครงกระดูกปี้โซ่วจำนวนมากคลานออกมาจากใต้พื้นดิน พวกเขาต่างไม่รู้ว่าเพราะอะไรโครงกระดูกปี้โซ่วเหล่านี้จึงได้ฟื้นคืนชีพ สิ่งที่สร้างความหวาดผวาจนขนลุกซู่ก็คือ โครงกระดูกปี้โซ่วเหล่านี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าก่อนที่พวกมันจะตาย พวกมันยังคงแข็งแกร่ง บางครั้งมีโครงกระดูกปี้โซ่วที่อาศัยหนึ่งฝ่ามือตบเข้ามา พลันทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนกว่าสิบคนรวมทั้งปี้โซ่วถูกตบจนกลายเป็นเนื้อบด
แน่นอนที่สุด ก็มีปี้โซ่วที่มีความแข็งแกร่งอย่างยิ่ง จัดการกับโครงกระดูกปี้โซ่วกลุ่มใหญ่ด้วยการพุ่งชนจนแหลกละเอียดเป็นจุณไป
ณ ที่ตรงนี้ ปี้โซ่วและโครงกระดูกปี้โซ่วดูเหมือนจะคนละประเภทกันโดยสิ้นเชิง ขอเพียงโครงกระดูกปี้โซ่วเข้ามาขวางทางพวกเขา ปี้โซ่วเหล่านี้ก็จะพุ่งเข้าชนโครงกระดูกปี้โซ่วจนแหลกละเอียดไปโดยไม่ลังเล และไม่คิดว่าพวกโครงกระดูกปี้โซ่วเหล่านี้เคยเป็นพวกเดียวกันกับตน
“เกรงว่าปัญหาจะอยู่ที่ผืนแผ่นดินผืนนี้” มีระดับบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิรู้อะไรมาบ้าง และกล่าวว่า “เล่าลือกันว่าผืนแผ่นดินผืนนี้มีความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของอายุวัฒนะ ดังนั้น หลังจากที่ปี้โซ่วตายอยู่ที่ตรงนี้แล้ว มีโอกาสที่จะกลับมาเกิดได้อีก แน่นอนเท็จจริงอย่างไรนั้นไม่มีใครทราบ แต่ว่า เพราะมีความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของอายุวัฒนะเช่นนี้ จึงทำให้โครงกระดูกของปี้โซ่วที่ตายไปแล้วคลานออกมาจากใต้พื้นดินได้”
“เรื่องจริงหรือเท็จ?” ไม่รู้ว่ามีผู้ที่ดำรงอยู่ในระดับบรรพบุรุษจำนวนเท่าไรที่ใจเต้นตูมตามกับเรื่องนี้
เมื่อผู้บำเพ็ญตนแข็งแกร่งจนถึงระดับหนึ่งแล้ว โดยเฉพาะจากการที่อายุของพวกเขาที่มากขึ้นๆ และอายุขัยเริ่มเหลือน้อยลงทุกที ในเวลานี้สิ่งที่พวกเขาใส่ใจไม่ได้อยู่ที่ตนเองจะมีความแข็งแกร่งเพียงใด พวกเขาใส่ใจในเรื่องที่ว่าสามารถมีอายุวัฒนะได้หรือไม่ ดังนั้น กล่าวสำหรับพวกเขาแล้วเรื่องของอายุวัฒนะเปี่ยมไปด้วยสิ่งล่อใจที่รุนแรงมาก
เมื่อได้ยินว่าผืนแผ่นดินผืนนี้ซ่อนความลับเกี่ยวอายุวัฒนะเอาไว้ แล้วไฉนจะไม่ทำให้บรรดาระดับบรรพบุรุษจำนวนมากต้องใจเต้นตูมตาม
“พวกเรามาที่นี่เพื่อทำอะไร?” ระดับบรรพบุรุษผู้นี้หัวเราะ และกล่าวว่า “ย่อมต้องเป็นน้ำพุสัตว์น่ะสิ เกรงว่าปี้โซ่วทั้งหมดที่มาที่นี่ก็เพื่อน้ำพุสัตว์ เพื่อความเป็นอมตะ”
ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรต้องใจเต้นตูมตามกับสิ่งนี้ เมื่อได้ยินคำพูดลักษณะเช่นนี้
ความจริงแล้ว ใช่ว่าจะเป็นไปตามที่ระดับบรรพบุรุษผู้นี้ได้พูดเอาไว้ ใช่ว่าปี้โซ่วที่มายังเมืองปี้โซ่วเฉิงทั้งหมดก็เพื่อความเป็นอมตะ
โฮ่ววว…เสียงคำรามของสัตว์ดังขึ้นมาไม่ขาดสาย ท่ามกลางเสียงร้องคำรามของสัตว์ดังกล่าวแฝงไว้ซึ่งความเศร้าโศกเร้าใจและเสียดาย มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนเคยเห็นปี้โซ่วขนาดยักษ์ตัวหนึ่งค้นพบสถานที่ดีแห่งหนึ่ง มันเป็นหน้าผาแห่งหนึ่ง เห็นปี้โซ่วขนาดยักษ์ตัวนี้แหงนหน้าส่งเสียงคำรามเสียงดังขึ้นฟ้าทีหนึ่ง จากนั้นค่อยๆ เอาหัวลงอย่างช้าๆ โดยที่ร่างกายที่ใหญ่โตของมันนอนคว่ำหน้าอยู่กับหน้าผาตรงนั้นไม่มีการเคลื่อนไหวอีก
หลังจากปี้โซ่วตัวนี้ไม่มีการเคลื่อนไหวนานมาก จึงมียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนบางคนทำใจกล้าเดินเข้าไปคลำดูชีพจรของมัน พบว่ามันขาดใจไปแล้วเวลานี้
“มันตายแล้ว” ในเวลานี้ ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจึงได้พบว่าปี้โซ่วตัวนี้ได้นอนตายคว่ำหน้าอยู่ตรงหน้าผาเสียแล้ว ทั้งยังตายอย่างสงบมาก หัวของมันอยู่บนขาทั้งสองของมันเหมือนหลับไปแล้วอย่างนั้น
ความจริงแล้ว การมองหาสถานที่ที่เหมาะสมแห่งหนึ่งแล้วตายอย่างสงบหาใช่เป็นกรณีพิเศษ มีปี้โซ่วจำนวนไม่น้อยหลังจากมาถึงพื้นที่แห่งนี้แล้ว ต่างทยอยกันมองหาสถานที่ที่เหมาะกับตน จากนั้นตายไปอย่างสงบ
ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยต่างตกใจกับภาพนี้ที่เห็น
“พวกมันถึงกับมาถึงที่นี้ด้วยระยะทางนับล้านล้านลี้ หรือเพียงแค่ต้องการมาตายอยู่ที่ตรงนี้อย่างนั้นรึ?” เจ้าสำนักของสำนักเจ้าลัทธิเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้วต่างกล่าวด้วยความสะเทือนหวั่นไหว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...