เข้าสู่ระบบผ่าน

ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2330

วัวขุยหนิวทุกพวกหลี่ชิเย่ก้าวเดินไปข้างหน้า เข้าไปยังเทือกเขาเทือกนี้ หลังจากที่เข้าไปยังเทือกเขาเทือกนี้ได้ไม่นานนัก มันก็หยุดไม่เดินต่อไป

หลังจากที่วัวขุยหนิวหยุดลงแล้ว มองเห็นที่ตรงนี้เป็นลำธารเล็กๆ ระหว่างภูเขา ตรงหน้ามีบ่อหินที่แห้งกรัง บ่อหินดูไปแล้วไม่เหมือนสร้างขึ้นโดยมนุษย์ มันมีหินทับถมอยู่ตรงนั้นมากมาย เหมือนเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เพียงแต่ปี้โซ่วที่มาดื่มน้ำบริเวณนี้มีเป็นจำนวนมาก นานวันเข้าก็เลยกลายเป็นบ่อหินเช่นนี้

เพียงแต่บ่อหินที่เห็นอยู่ตรงหน้าได้แห้งกรังไปแล้ว ไม่มีสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น หลังจากที่วัวขุยหนิวหยุดอยู่ตรงนี้แล้ว มันก็ยืนสงบนิ่งอยู่ตรงนี้ไม่มีการเคลื่อนไหว เหมือนว่ากำลังรอคอยอยู่เงียบๆ อย่างนั้น

ถ้าหากยืนอยู่บนที่สูงแล้วมองลงมาให้ละเอียดถึงตำแหน่งที่วัวขุยหนิวรั้งอยู่นั้นก็จะพบว่า ถ้าหากเทือกเขาเทือกนี้คือสัตว์ขนาดยักษ์ที่หมอบอยู่ล่ะก็ เช่นนั้นแล้วตำแหน่งที่วัวขุยหนิวยืนอยู่ก็คือด้านหน้าที่เป็นขากรรไกรล่างของสัตว์ขนาดยักษ์ตัวนี้ เหมือนว่าในอดีตสัตว์ยักษ์ตัวนี้เคยก้มดื่มน้ำอยู่ที่ตรงนี้อย่างนั้น

“นี่มันทำอะไร?” หวู่ปิงหนิงถึงกับเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นปี้โซ่วที่เป็นวัวขุยหนิวยืนนิ่งไม่กระดุกกระดิก

“รอ” หลี่ชิเย่ที่นั่งอยู่บนหัวไหล่ของวัวขุยหนิวหลับตาพักผ่อนกายา เหมือนว่าไม่รีบร้อนแม้แต่นิดเดียว

หวู่ปิงหนิง กับหลินซิม่อได้แต่รอคอยอย่างเงียบๆ ตามไปด้วย พวกนางต่างไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วหลี่ชิเย่ที่มายังปี้โซ่วเฉิงเพื่ออะไรกันแน่

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้ว ได้ยินเสียงช่าาาดังขึ้น มองเห็นบ่อหินพลันปรากฏน้ำพุที่ผุดขึ้นมา น้ำพุที่พวยพุ่งขึ้นมาจากใต้พื้นดินออกเป็นสีน้ำนม อีกทั้งขณะที่น้ำพุลักษณะเช่นนี้ผุดขึ้นมาจากใต้พื้นดินนั้น ได้กลิ่นหอมสายหนึ่งที่โชยเข้ามาแตะจมูก เหมือนจะเป็นกลิ่นหอมของนม

ในเวลานี้เอง พื้นที่แห่งนี้ได้ปรากฏตาน้ำสัตว์เช่นนี้ขึ้นมาหลายแห่ง ถ้าหากมีใครสามารถเปรียบเทียบตาน้ำสัตว์ที่อยู่ตรงหน้ากับตาน้ำสัตว์ที่อื่นๆ ล่ะก็ จะต้องพบว่าตาน้ำสัตว์ที่อยู่ตรงหน้ามีสีขาวน้ำนมยิ่งกว่า อีกทั้งยังมีความเข้มข้นมากกว่า เข้มข้นจนเหมือนน้ำนมของสัตว์อย่างนั้น

อย่างไรก็ตาม หากดมกลิ่นของมันอย่างละเอียดล่ะก็ จะพบว่ากลิ่นหอมที่แผ่กระจายออกมาจากตาน้ำสัตว์ที่อยู่ตรงหน้ามีกลิ่นหอมที่บริสุทธิ์ยิ่งกว่า กระทั่งท่ามกลางกลิ่นหอมของนมนี้มีกลิ่นเย็นสะอาดอย่างบอกไม่ถูก

เมื่อเปรียบเทียบกับตาน้ำสัตว์อื่นๆ แล้ว เหมือนว่าตาน้ำสัตว์ที่อยู่ตรงหน้านี่แหละคือต้นกำเนิดของตาน้ำสัตว์อย่างนั้น ขณะที่ตาน้ำสัตว์ที่อื่นๆ เหมือนผ่านการเจือจางแล้วอย่างนั้น เทียบไม่ได้กับตาน้ำสัตว์ที่อยู่ตรงหน้าอย่างสิ้นเชิง

หลังจากที่ตาน้ำสัตว์ปรากฏขึ้นแล้ว วัวขุยหนิวได้ก้มดื่มในทันที ดื่มอย่างเต็มที่ เนื่องจากไม่มีปี้โซ่วตัวอื่นๆ มาแย่งกับมัน โดยที่วัวขุยหนิวยึดครองตาน้ำสัตว์บ่อนี้ทั้งหมดโดยลำพัง

ตาน้ำสัตว์…หวู่ปิงหนิงถึงกับตกใจเมื่อมองเห็นน้ำที่พวยพุ่งขึ้นมา นางเองก็เคยได้ฟังตำนานเรื่องนี้มาก่อน เพียงแต่ไม่นึกว่าจะได้เห็นกับตาตนเอง

“น้ำจากตาน้ำสัตว์นี้มีประโยชน์อย่างไร?” หลินซิม่อเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

“สามารถบำรุงร่างกายให้มีอายุยืนยาว” หลี่ชิเย่กล่าวเฉยเมย ขณะที่กล่าวสำหรับปี้โซ่วแล้วจะมีประสิทธิผลมากกว่า กระทั่งทำให้มันกลับคืนสู่วัยอ่อนเยาว์ได้

“บำรุงร่างกายให้มีอายุยืนยาว!” หลินซิม่อถึงกับหวั่นไหวในใจ มองดูตาน้ำสัตว์ที่ไหลจ๊อกๆ อยู่ตรงหน้า นางเองถึงกับใจเต้นตูมตาม

แน่นอน ด้วยอายุของหลินซิม่อในขณะนี้ไม่จำเป็นต้องอาศัยน้ำจากตาน้ำสัตว์มาบำรุงร่างกายให้มีอายุยืนยาว แต่ว่า ผู้เฒ่าของตระกูลหลินของเขาต้องการ ด้วยกำลังความสามารถของตระกูลหลินพวกเขาก็ไม่มีต้นทุนพอที่จะมาสถานที่เช่นนี้ได้

แม้ว่าหลินซิม่อจะหัวใจเต้นตูมตาม แต่เมื่อมองเห็นปี้โซ่วที่เหมือนวัวขุยหนิวนั้นก้มหน้าก้มตาดื่มกินอย่างเต็มที่ นางเองก็ได้กล้าทำบุ่มบ่าม ด้วยทักษณะยุทธที่อ่อนด้อยเช่นนาง หากกล้าแย่งชิงตาน้ำสัตว์กับปี้โซ่วที่เหมือนวัวขุยหนิวล่ะก็ เกรงว่ามันแค่เป่าลมเบาๆ ก็สามารถทำให้นางต้องกลายเป็นเถ้าธุลีแล้ว

“ไปเถอะ นำติดตัวกลับไปบ้างก็ดี” หลี่ชิเย่ยิ้มบางๆ และกล่าวว่า “ไม่อย่างนั้นล่ะก็เท่ากับมาปี้โซ่วเฉิงเสียเที่ยวแล้ว อีกทั้ง น้ำจากตาน้ำสัตว์ที่ตรงนี้เมื่อเทียบกับตาน้ำสัตว์ที่อื่นๆ ไม่รู้ว่าล้ำค่ากว่ากันเท่าไร ถ้าหากเจ้าไม่ได้นั่งโดยสารมากับปี้โซ่วระดับนี้มา เกรงว่าเจ้าเองก็ไม่มีโอกาสได้น้ำจากตาน้ำสัตว์ลักษณะเช่นนี้”

เมื่อหลี่ชิเย่ออกปากแล้ว หลินซิม่อรู้สึกดีใจอย่างยิ่งรีบลงไปเพื่อรองเอาน้ำจากตาน้ำสัตว์

“ข้าก็เอากลับไปบ้าง” หวู่ปิงหนิงก็กระโดดลงมา นำเอาขวดวิเศษออกมาเพื่อบรรจุน้ำจากตาน้ำสัตว์ แม้ว่านางเองก็ไม่ต้องพึ่งพาน้ำจากตาน้ำสัตว์เช่นกัน แต่ว่า ก็สามารถนำไปคารวะต่อผู้อาวุโส และหรือเก็บไว้ใช้ในภายหลัง

ไม่ทราบว่าเป็นเพราะหลี่ชิเย่ที่ออกปากพูดขึ้นมา และหรือเป็นเพราะไม่มีปี้โซ่วตัวอื่นๆ มาแย่งตาน้ำสัตว์ ปี้โซ่วที่เหมือนวัวขุยหนิวขณะดื่มกินอย่างเต็มที่เพียงเหลือบมองพวกหลินซิม่อทีหนึ่งเท่านั้น แล้วก็ดื่มกินอย่างเมามันต่อไป ขี้คร้านจะไปสนใจพวกนางสองคน

หลังจากนั้น หลี่ชิเย่ก็รองเอาไปขวดหนึ่งตามอารมณ์ มองดูท้องฟ้าทีหนึ่งและกล่าวเฉยเมยว่า “ได้เวลาต้องเดินทางต่อไปแล้ว”

เป็นไปตามคาด หลังจากหลี่ชิเย่พูดขาดคำ ได้ยินเสียงดังกรุ กรุ กรุขึ้นมา น้ำจากตาน้ำสัตว์ที่เมื่อครู่ยังเห็นเต็มบ่ออยู่เลยพลันรั่วซึมลงดินทั้งหมดในชั่วพริบตาเดียว บ่อหินได้กลับกลายเป็นไม่เหลือน้ำแม้แต่หยดเดียว

ในเวลาเดียวกันนี้เอง น้ำของตาน้ำสัตว์ที่มีอยู่ในบริเวณนี้ทั้งหมดล้วนแล้วแต่แห้งขอดในทันที น้ำของตาน้ำสัตว์ทั้งหมดหายไปภายในระยะเวลาอันสั้น ไม่สนใจว่าปี้โซ่วทั้งหมดจะได้ดื่มกินน้ำจากตาน้ำสัตว์แล้วหรือยัง เหมือนว่าเมื่อถึงเวลา น้ำจากตาน้ำสัตว์ทั้งหมดก็จะหายไปพร้อมกัน

“สารเลวเอ๊ย ข้ายังไม่ทันได้รองน้ำจากตาน้ำสัตว์เลย!” มีผู้บำเพ็ญตนอดที่จะสบถออกมาเมื่อเห็นตาน้ำสัตว์แห้งขอดไปในพริบตา

“ไข่ชั้นดี” หลี่ชิเย่มองดูไข่ปี้โซ่วฟองนี้แล้ว ยิ้มบางๆ และกล่าวว่า “แม้ว่าจะไม่สามารถฟักออกมาเป็นหงส์เพลิงได้ แต่ สายเลือดของมันก็คงใกล้เคียงกับหงส์เพลิงแล้วล่ะ ไม่แน่นักอนาคตอาจมีสิทธิ์เหมือนเช่นปี้โซ่วตัวนี้ก็เป็นได้” กล่าวพลางตบหัวของปี้โซ่วที่เหมือนวัวขุยหนิวเบาๆ

“ไข่ปี้โซ่วที่มีความแข็งแกร่งเพียงนี้!” ทั้งหวู่ปิงหนิงและหลินซิม่อต่างรู้สึกประทับใจ เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่

ต่อให้นางไม่เคยพบเห็นปี้โซ่วตัวที่อยู่ตรงหน้าลงมือ แต่ขณะที่มันปรากฏตัวขึ้นมา ทำให้ปี้โซ่วทั้งหมดต้องหมอบกราบ ก็รู้ได้ว่าตัวของมันมีความแข็งแกร่งและน่ากลัวเพียงใด

“ถูกต้อง” หลี่ชิเย่พยักหน้าแต่ไม่ได้หวั่นไหว ปล่อยให้ปี้โซ่วทุกพวกเขาเดินจากไป

“ทำไมไม่เอาล่ะ?” เมื่อหวู่ปิงหนิงเห็นว่าหลี่ชิเย่ไม่หวั่นไหวให้รู้สึกแปลกใจ สมควรทราบว่า หากให้ใครทราบว่ามีไข่ปี้โซ่วลักษณะเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะมีผู้คลั่งไคร้เท่าไรอย่างแน่นอน

“แค่สายเลือดใกล้เคียงกับหงส์เพลิงเท่านั้นเอง ใช่ว่าเป็นหงส์เพลิงจริงๆ เสียเมื่อไร” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมยและกล่าวว่า “ถ้าหากเป็นหงส์เพลิงที่แท้จริงยังจะทำให้รู้สึกสนใจอยู่บาง แต่ทว่าแค่สายเลือดใกล้เคียงนับว่าห่างชั้นมากแล้ว ซึ่งสิ่งนี้ปัญหาใช่ว่าจะอยู่ที่ตัวของเขาเองแข็งแกร่งหรือไม่อย่างใด สัตว์เทพมันมีคุณค่าในตัวของมันเองอยู่แล้ว คุณค่าของตัวมันเองย่อมอยู่เหนือพลังของตัวพวกเขาเอง นั่นแหละคือสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้อย่างแท้จริง”

“มีจิตใจที่จะไปบ่มเพาะปี้โซ่วที่แข็งแกร่งสักตัว มิสู้บ่มฟักปฐมบรรพบุรุษสักคน” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมยและกล่าวว่า “เฉกเช่นปี้โซ่วตัวนี้ เมื่อต่อสู้ชี้ขาดกับปฐมบรรพบุรุษก็จะไม่ได้เปรียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระดับปฐมบรรพบุรุษจากแดนลัทธิเซียน มันไม่สามารถต่อกรได้อยู่แล้ว” กล่าวพลางตบหัวของปี้โซ่วที่เหมือนวัวขุยหนิวทีหนึ่ง

โซ่วที่เหมือนวัวขุยหนิวเหมือนไม่ค่อยพอใจใจคำพูดของหลี่ชิเย่ ถึงกับคำรามเสียงค่อยออกมาทีหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการโกรธ เหมือนว่ามันได้เบิกปัญญาไปแล้ว หาใช่ปี้โซ่วทั่วไปสามารถเทียบเคียงได้ มันมีสติปัญญาที่แท้จริงในครอบครองแล้ว

เมื่อได้ฟังคำบอกเล่าจากหลี่ชิเย่แล้ว หวู่ปิงหนิงถึงกับงงงันนิดหนึ่ง กล่าวสำหรับผู้คนจำนวนมากแล้ว หากสามารถฝักออกมาเป็นปี้โซ่วที่ทรงพลังสักตัวก็เป็นที่อิจฉาของผู้คนยิ่งนักแล้ว เฉกเช่นราชันแท้จริงเต้าเจี่ยในครั้งนั้น เขาได้ฟักเป็นปี้อ้านออกมาได้ตัวหนึ่ง ขณะที่ปี้อ้านตัวนี้ก็คือเทพผู้พิทักษ์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิฟู่หนิวในปัจจุบัน

แคว้นว่านโซ่วเองก็มองดูไข่ปี้โซ่วฟองนี้แวบหนึ่ง ไข่ปี้โซ่วลักษณะเช่นนี้นางไม่กล้าแม้แต่จะคิด ยังไม่ต้องพูดถึงว่านางมีกำลังพอที่จะหยิบไข่ปี้โซ่วฟองนี้มาได้หรือไม่ ต่อให้นางได้มา นางเองก็ไม่มีเงื่อนไขเพียงพอที่จะไปฟักและบ่มฟักสัตว์เทพเช่นนี้ได้

จะอย่างไรเสียการดำรงอยู่ของสัตว์เทพเช่นนี้ ใช่ว่าใครก็มีสิทธิ์ครอบครอง มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งจนถึงระดับหนึ่งแล้ว จึงมีกำลังพอที่จะไปฟักให้เป็นตัวและไปบ่มฟักสัตว์เทพสักตัว

………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล