“ฆ่า…” ครั้นมองเห็นหวู่ปิงหนิงลงมือทำลายอากาศที่ว่างเปล่าจนแหลก บีบบังคับให้องค์ชายดาบมารปรากฎตัวแล้ว นางเองก็เปิดเผยตัวเองขึ้นมา พริบตาเดียวนั่นเองคุณชายพานหลงและเจี้ยนจุนคำรามเสียงยาวขึ้นมา อาศัยความเร็วที่รวดเร็วมากโจมตีเข้าใส่หวู่ปิงหนิง
คุณชายพานหลงนั้นคำรามเสียงยาวคำหนึ่ง พร้อมกับของวิเศษแปดชิ้นที่โจมตีเข้าไปจากทุกทิศทุกทาง บดขยี้ช่องว่างปิดกั้นฟ้าดิน โดยไม่เปิดโอกาสให้หวู่ปิงหนิงหนีรอดไปได้
ขณะที่เจี้ยนจุนนั้นกระบี่คำรามเก้าชั้นฟ้า ได้ยินเสียงตึงดังขึ้น ปรากฎประกายกระบี่ที่เจิดจ้าอาศัยท่วงท่าที่ยอดเยี่ยมปราศจากผู้เทียบเทียมฟาดฟันลงมา วิชากระบี่ที่น่าเกรงขามพลันล็อคเป้าที่ตัวของหวู่ปิงหนิง เห็นแสงกระบี่แวบผ่านไปแวบหนึ่ง หวังจากตัดศีรษะของหวู่ปิงหนิงออกมา
เรียกได้ว่าพวกเขาทั้งสามคนพลันลงมือก็ไม่เปิดโอกาสให้หวู่ปิงหนิงอีกเลย พวกเขาต้องการให้ถึงแก่ชีวิตจากการโจมตีครั้งเดียว คาดหวังอาศัยเพียงกระบวนท่าเดียวเล่นงานหวู่ปิงหนิงให้ถึงตาย
แต่ทว่า ไม่ว่าพวกของคุณชายพานหลงจะบดขยี้ช่องว่างอย่างไร ทำการปิดกั้นฟ้าดินเช่นใดก็ตาม ก็ไม่สามารถพันธนาการหวู่ปิงหนิงเอาไว้ได้ ได้ยินเสียงดังแว้งค์เสียงหนึ่ง ภายใต้การพันธนาการและสยบช่องว่าง เมื่อหวู่ปิงหนิงโจมตีไม่เป็นผลพลันล่องหนหายตัวไปทันที และหลุดรอดจากช่องว่างหนีไปได้
นาทีนี้ หวู่ปิงหนิงไม่เพียงอาศัยหญ้าเร้นกายที่ฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่งเท่านั้น ขณะเดียวกันวิชาล่องหนของนางก็ยอดเยี่ยมมาก กระทั่งเหนือกว่าองค์ชายดาบมารเสียด้วยซ้ำ
ปุ…เสียงหนึ่งดังขึ้น จังหวะที่หวู่ปิงหนิงหายตัวไปในพริบตาเดียวกันนั้น พลันปรากฏประกายเยือกเย็นขึ้นที่ด้านหลังของเจี้ยนจุน ประกายเยือกเย็นอาศัยความเร็วที่ปราศจากผู้เทียบเทียมแทงเข้าใส่แผ่นหลังของเจี้ยนจุน ง้าวกระบวนท่านี้หมายแทงทะลุหัวใจของเจี้ยนจุน
ตึงเสียงหนึ่งดังขึ้น พริบตาเดียวนั่นเอง กระบี่ศักดิ์สิทธิ์แต่ละเล่มที่หมุนวนอยู่รอบตัวของเจี้ยนจุนส่งประกายเจิดจ้าขึ้นมาโดยพลัน และกระบี่ศักดิ์สิทธิ์แต่ละเล่มได้ขยายตัวมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น กลายเป็นกำแพงกระบี่ที่แน่นหนาด้านหนึ่ง
อีกทั้งในเสี้ยววินาทีนี้เอง เจี้ยนจุนได้ฟันสวนออกไปหนึ่งกระบี่ อาศัยท่าทีที่เบิกฟ้าเปิดดินหวังทำให้ง้าวกระเด็นหลุดจากมือ
ตึง…เสียงหนึ่งดังขึ้นอ สะเก็ดไฟแตกกระจาย เสียงตึงเสียงนี้ไม่เพียงแต่ง้าวของหวู่ปิงหนิงที่แทงทะลุกำแพงกระบี่เข้าไป ขณะเดียวกันยังเป็นเสียงกระบี่ของเจี้ยนจุนที่ฟันเข้าไปที่ง้าว เสียงกระทบกันเช่นนี้ดังก้องจนแก้วหูแทบแตก
ในเวลานี้ มองเห็นหยดเลือดกระเซ็นออกมา แม้ว่าหนึ่งง้าวจากการปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของหวู่ปิงหนิงไม่สามารถแทงทะลุร่างของเจี้ยนจุน แต่ปลายแหลมของง้าวที่กวาดผ่านไปบนแผ่นหลังของจี้ยนจุน ได้ฝากรอยแผลลึกแผลหนึ่งเอาไว้
“ฆ่า…” ในเสี้ยววินาทีนี้เอง องค์ชายดาบมารและคุณชายพานหลงได้พุ่งเข้าถึงตัว พวกเขาทั้งสองคนต่างลงมือด้วยกระบวนท่าสังหารที่เด็ดขาด หวังสังหารหวู่ปิงหนิงเสีย
แต่ว่า ร่างของหวู่ปิงหนิงแวบหนึ่ง ได้หายตัวไปในทันที เมื่อองค์ชายดาบมารกับคุณชายพานหลงมีปฏิกิริยาขึ้นอีกครั้ง หวู่ปิงหนิงได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเสียแล้ว
ฉึก…ในขณะที่พวกขององค์ชายดาบมารเฝ้าระวังอย่างเต็มที่นั้น ประกายเยือกเย็นปรากฏขึ้นอีกครั้ง พุ่งเป้าไปที่คอหอยของคุณชายพานหลง
พริบตาเดียวนั่นเอง พวกขององค์ชายดาบมารก็เข้ารุมสังหาร ได้ยินเสียงดังปัง ปัง ปังขึ้นมา สามารถบีบให้หวู่ปิงหนิงต้องล่าถอยกลับไป แต่ จังหวะที่หวู่ปิงหนิงสู้ไม่ได้ก็ได้หายตัวไปอีกครั้งในพริบตาเดียว
ย่อมไม่ต้องสงสัย ด้วยศักยภาพของหวู่ปิงหนิงหาใช่คู่ต่อสู้ของพวกองค์ชายดาบมารเด็ดขาด บางทีอาจไม่ได้เหนือกว่าพวกขององค์ชายดาบมารสักเท่าไร แต่ หญ้าเร้นกายของหวู่ปิงหนิงนั้นฝืนลิขิตสวรรค์มากเหลือเกิน ทำให้นางสามารถไปมาได้อย่างอิสระภายใต้การล้อมปราบของพวกองค์ชายดาบมารสามคน พวกขององค์ชายดาบมารไม่สามารถขวางนางเอาไว้ได้อยู่แล้ว ออกจากจนด้วยเกล้าอยู่บ้าง
ในด้านนี้หวู่ปิงหนิงดูจะแข็งแกร่งกว่าคุณชายผิงเฉิงมากทีเดียว เมื่อคุณชายผิงเฉิงเผชิญหน้ากับการล้อมปราบของพวกองค์ชายดาบมารสามคนนั้น ส่วนใหญ่เขาจะอาศัยการปะทะซึ่งหน้า เขาไม่สามารถทำได้เหมือนเช่นหวู่ปิงหนิงที่ไปมาไร้ร่องรอย ไปมาได้อิสระเสรี และลอบสังหารพวกขององค์ชายดาบมารอยู่เสมอๆ ทำให้พวกขององค์ชายดาบมารต่างจนด้วยเกล้า
“หญ้าเร้นกาย หญ้าประหลาดที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสอง” แม้แต่ระดับบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิก็ต้องกล่าวทอดถอนใจออกมา
ผู้คนจำนวนมากต่างมองออกว่า ถ้าหากหวู่ปิงหนิงไม่มีหญ้าเร้นกายต้องไม่ใช่คุ่ต่อสู้ขององค์ชายดาบมารอย่างแน่นอน สถานการณ์ของนางไม่เห็นจะดีไปกว่าคุณชายผิงเฉิงสักเท่าไร แต่ภายใต้ประสิทธิผลประหลาดของหญ้าเร้นกายที่ทำให้หวู่ปิงหนิงไปมาไร้ร่องรอย พลันสามารถตรึงพวกขององค์ชายดาบมารไว้อย่างแน่นหนาในทันที บังเอิญพวกขององค์ชายดาบมารก็ทำลายประสิทธิผลวิเศษของหญ้าเร้นกาย พวกเขาไม่มีศักยภาพเช่นหลี่ชิเย่ ไหนเลยสามารถขัดขวางการไปๆ มาๆ ระหว่างช่องว่างอย่างอิสระเสรีได้อย่างไรเล่า?
แม้ว่าพวกของคุณชายพานหลงจะถูกหวู่ปิงหนิงลอบฆ่าหลายครั้ง แม้ว่าหวู่ปิงหนิงจะทำการไม่สำเร็จ แต่ทว่า อย่างน้อยก็ทำให้บนร่างกายของพวกคุณชายพานหลงได้รับบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ แม้ว่าอาการบาดเจ็บเหล่านี้สำหรับพวกคุณชายพานหลงแล้วไม่นับเป็นอะไรได้
แต่ว่า การที่พวกเขายอดฝีมือทั้งสามคนกลับทำอะไรหวู่ปิงหนิงคนเดียวไม่ได้ นับว่าทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาไม่หลงเหลืออีกเลย และไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน
ในเวลานี้เอง สายตาของคุณชายพานหลงพลันตกไปอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่ที่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้นมาโดยตลอด เขาพลันบังเกิดความคิดขึ้นมา โดยสบตากับองค์ชายดาบมาร และเจี้ยนจุน
“ตรึงนางเอาไว้…” พริบตาเดียวนั่นเอง คุณชายพานหลงไม่สนใจต่อหวู่ปิงหนิงว่าจะลอบโจมตีเขาหรือไม่ เห็นกายของเขาแวบหนึ่งดั่งสายฟ้า เสียงตูมดังสนั่นขึ้นมา เจดีย์วิเศษในมือพลันพุ่งเข้าโจมตีต่อหลี่ชิเย่
ปัง…เสียงหนึ่งดังขึ้น พริบตาเดียวนั่นเอง ง้าวปรากฏขึ้นและปัดเอาเจดีย์วิเศษที่พุ่งโจมตีเข้าหาหลี่ชิเย่
“ฆ่า…” พริบตาเดียวนั่นเอง องค์ชายดาบมารและเจี้ยนจุนทั้งสองคนได้บุกโจมตีเข้ามาพร้อมกัน คนหนึ่งดาบดั่งมาร ทุกๆ ดาบพกพาความบ้าระห่ำมาด้วย คลื่นดาบดุจดั่งคลื่นยักษ์ ปณิธานดาบที่น่ากลัวกดดันเข้าหาหวู่ปิงหนิง
อีกคนหนึ่งนั้นรวมทุกสิ่งในหนึ่งกระบี่ ภายใต้หนึ่งกระบี่ได้รวบรวมปณิธานกระบี่ที่แข็งกร้าวปราศจากผู้ต่อกร หนึ่งกระบี่ที่เจิดจ้ายิ่งนัก ทำให้ดวงตะวันยังต้องสลดและอับแสง หนึ่งกระบี่ที่พุ่งแหวกอากาศดุจดั่งสายรุ้งที่พาดผ่านทะลุดวงตะวัน พลันแทงทะลุทุกสิ่งทุกอย่าง มุ่งตรงไปยังลำคอของหวู่ปิงหนิง
หวู่ปิงหนิงส่งเสียงคำรามเสียงหนึ่งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับกระบวนท่าสังหารที่เข้ามาพร้อมกันจากองค์ชายดาบมารและเจี้ยนจุน ง้าวที่อยู่ในมือกวัดแกว่ง พลันทำให้เสมือนหนึ่งเกิดเป็นคลื่นยักษ์ที่น่ากลัวขึ้นมาอย่างนั้น ง้าวนั้นพร้อมสรรพทั้งรุกและรับ ดุจดั่งกลายเป็นกำแพงทองแดงสูงหมื่นจ้าง ต้านรับซึ่งหน้ากับกระบวนท่าขององค์ชายดาบมารและเจี้ยนจุน
แม้ว่ากระบวนท่าสังหารขององค์ชายดาบมารและเจี้ยนจุนจะมีความยอดเยี่ยมยิ่งนัก แต่ หวู่ปิงหนิงยังคงสามารถล่องหนหายตัวได้ อย่างไรก็ตามเวลานี้หวู่ปิงหนิงกลับไม่สามารถล่องหนหายตัวได้อีก นางได้แต่รับเอาไว้ตรงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...