อ่านสรุป ตอนที่ 2337 สังหารในหนึ่งกระบี่ จาก ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet
บทที่ ตอนที่ 2337 สังหารในหนึ่งกระบี่ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายAction ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
เสียงตูม…ดังสนั่น พริบตาเดียวนั่นเองทั้งสองฝ่ายปะทะซึ่งหน้า ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถอาศัยเล่ห์เหลี่ยม เนื่องจากนี่คือกระบวนท่าที่รุนแรงอันธพาลและบ้าระห่ำที่สุด ทั้งสองฝ่ายต่างงัดเอาศักยภาพทั้งหมดที่ตนมีออกมา ทั้งสองฝ่ายทำได้แค่ต้านรับกันซึ่งหน้า
ภายใต้การโจมตีด้วยกระบวนท่าซึ่งกันและกัน ช่องว่างถูกซัดทำลายจนแหลกละเอียด ท้องฟ้าพลันสลดลงมาทันที เสมือนหนึ่งโลกทั้งโลกถูกยิงโจมตีจนพิการไปแล้วอย่างนั้น พื้นแผ่นดินปรากฏเป็นรอยร้าวนับไม่ถ้วนขึ้นมา ทำให้ผู้คนต้องหวาดกลัวจนขนลุกซู่ เมื่อมองเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าเช่นนี้
นาทีนี้ ได้ยินเสียงตึง ตึง ตึงดังขึ้น หวู่ปิงหนิงก้าวถอยหลังติดต่อกัน อุ๊กเสียงหนึ่งดังขึ้น เวลานี้นางไม่สามารถสะกดเอาไว้ได้อีกต่อไป กระอักเลือดออกมาอย่างแรง
ในเวลานี้ หวู่ปิงหนิงอาศัยง้าวมาค้ำยันกับพื้นเพื่อพยุงตัวเองเอาไว้ สีหน้าของนางในขณะนี้ขาวซีด เข่าอ่อนทั้งสองข้าง คิดจะยืนให้มั่นคงก็ยากไม่น้อยทีเดียว
เนื่องจากกล่าวสำหรับนางแล้ว กระบวนท่าที่เป็นสามกระบวนท่าเชื่อมประสานเข้าด้วยกันเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก เนื่องจากจูเซียงหวู่ถิงของพวกเขาได้ทำสิบสองกระบวนท่าหวู่จู่ฉบับสมบูรณ์สูญหายไปนานมากแล้ว แม้ว่านางจะได้ฝึกกระบวนท่าที่เชื่อมต่อกันได้มากที่สุดสามกระบวนท่า แต่การที่จะนำกระบวนท่าเหล่านี้มาเชื่อมประสานเข้าด้วยกันนั้นมันยากมาก
นาทีนี้ หวู่ปิงหนิงถูกบีบบังคับจนต้องฝืนสำแดงออกมาในลักษณะสามกระบวนท่าเชื่อมติดต่อกัน ซึ่งทำให้นางต้องแลกมาด้วยค่าตอบแทนที่สูงมาก ลมปราณตีย้อนกลับ เกือบจะทำให้ร่างระเบิดจนเสียชีวิต ทำให้นางเกือบจะต้องแลกด้วยชีวิต ในเวลานี้นางสามารถสะกดลมปราณของตนให้สงบนิ่งเอาไว้ได้ก็นับว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว
ในขณะนี้ หวู่ปิงหนิงปราศจากเรี่ยวแรงกระทั่งยืนและเข่าอ่อนทั้งสองข้าง หากไม่เป็นเพราะนางอาศัยง้าวมาพยุงร่างกายเอาไว้ล่ะก็ เกรงว่าเวลานี้นางคงล้มลงไปแล้ว
ขณะที่เวลานี้พวกขององค์ชายดาบมารก็ไม่เห็นจะดีไปกว่ากันสักเท่าไร เลือดสดๆ ที่หยดลงมาแต่ละหยดๆ พวกขององค์ชายดาบมารทั้งสามต่างได้รับบาดเจ็บในระดับที่แตกต่างกันไป
บริเวณไหล่ของคุณชายพานหลงถูกแทงทะลุกลายเป็นรูเลือดที่น่ากลัวขึ้นมา แขนข้างนั้นดุจดั่งพิการไปเลยเลยอย่างนั้น กระบี่ในมือของเจี้ยนจุนแตกร้าว เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดและย้อมเสื้อผ้าของเขาจนแดงฉาน ในบรรดาพวกเขาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเบาที่สุดก็คือองค์ชายดาบมาร แม้ว่าบนตัวของเขาจะถูกแทงด้วยง้าวไปทีหนึ่ง แต่เป็นแค่ถูกง้าวกวาดผ่านทำให้กระดูกแหลกละเอียดไปไม่กี่ท่อนเท่านั้นเอง
ในเวลานี้เอง ความได้เปรียบขององค์ชายดาบมารก็ปรากฏให้เห็นแล้ว จะอย่างไรเสียองค์ชายดาบมารได้ฝึกเคล็ดวิชาของปฐมบรรพบุรุษมา เคล็ดวิชาบรรพบุรุษของเขาเมื่อเทียบกับคุณชายพานหลง และเจี้ยนจุนแล้วมีความสมบูรณ์ยิ่งกว่า
ดังนั้น ต่อให้พลังวัตรขององค์ชายดาบมารจะไม่ได้ดีไปกว่าเจี้ยนจุนและคุณชายพานหลง แต่ทว่า ในจังหวะที่ต้องรับมือกับกระบวนท่าที่เป็นสามกระบวนท่าเชื่อมประสานกันของหวู่ปิงหนิงนั้น องค์ชายดาบมารกลับสามารถรับมือกับพลังที่แข็งแกร่งทรงพลังได้มากกว่านี้ได้
เพียงแต่ว่า น่าเสียดายตรงที่หากกระบวนท่าที่เป็นสามกระบวนท่าเชื่อมประสานเข้าด้วยกันของหวู่ปิงหนิงจำเพาะเจาะจงกับคนใดคนหนึ่งล่ะก็ ไม่ว่าจะเป็นองค์ชายดาบมาร หรือว่าคุณชายพานหลง และหรือเจี้ยนจุนก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย เสียดาย นางจำเป็นต้องอาศัยคนเดียวลำพังต้านกับศัตรูสามคน จึงทำให้พลังของสามกระบวนท่าเชื่อมประสานเข้าด้วยกันที่โจมตีใส่พวกเขาสามคนต้องถูกลดทอนลงไปไม่น้อย
เวลานี้บรรยากาศดูหนักแน่นจริงจัง ฟ้าดินเงียบสงัด ทุกคนต่างรู้สึกเสียวสันหลังวาบกับการได้เห็นภาพนี้ชนิดขนหัวลุก
ในที่สุด ทุกคนก็ได้เห็นอานุภาพของสิบสองกระบวนท่าหวู่จู่แล้วในวันนี้ โดยเฉพาะสามกระบวนท่าเชื่อมประสานเข้าด้วยกัน มันมีความน่ากลัวจนปราศจากสิ่งใดมาเทียบเทียมอยู่แล้ว ถ้าหากหวู่ปิงหนิงจะท้าสู้กับอัจฉริยะบุคคลที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่คนใดคนหนึ่งของแดนลัทธิพรรษในยุคนี้ล่ะก็ ขอเพียงสำแดงสามกระบวนท่าเชื่อมประสานเข้าด้วยกัน ไม่ว่าใครก็รับมือไม่ได้ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย จะเป็นสามคุณชายก็ดี สองสุดยอดดาบกระบี่ก็ช่าง ล้วนแล้วแต่รับมือกับสามกระบวนท่าเชื่อมประสานเข้าด้วยกันนี้ไม่ได้
ฉึก…ทันใดนั้นเอง องค์ชายดาบมารลงมืออีกครั้ง เขาเป็นนักฆ่าคนหนึ่ง รู้ว่าเวลาไหนเป็นโอกาสที่เหมาะที่สุด
นาทีนี้ย่อมไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นช่วงเวลาที่รุกกลับที่ดีที่สุด เขาไม่เปิดโอกาสให้หวู่ปิงหนิงได้ฟื้นตัว หนึ่งดาบที่กลายเป็นประกายเยือกเย็นตรงเข้าหาหลี่ชิเย่โดยไม่ได้พุ่งเป้าไปที่หวู่ปิงหนิง ประกายเยือกเย็นแวบผ่านไปฟันเข้าใส่หลี่ชิเย่ ต้องการตัดเอาศีรษะของหลี่ชิเย่ภายในหนึ่งดาบ
การหมายเอาชีวิตภายในหนึ่งดาบขององค์ชายดาบมารทำให้หวู่ปิงหนิงตกใจยิ่งกับสิ่งนี้ ง้าวในมือพลันยกขึ้นทันทีเพื่อต้านหนึ่งดาบขององค์ชายดาบมาร แต่ทว่าในเวลานี้กำลังอันแข็งแกร่งของนางอยู่ในสภาพที่อ่อนกำลังถึงขีดสุดแล้ว ไหนเลยจะต้านขวางดาบนี้ขององค์ชายดาบมารเอาไว้ได้
ได้ยินเสียงดังตึง ง้าวในมือของหวู่ปิงหนิงพลันถูกกระแทกจนหลุดมือ เวลานี้หวู่ปิงหนิงก็ไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อีกแล้ว
ครั้นเห็นหนึ่งดาบขององค์ชายดาบมารที่ฟาดฟันเข้าใส่หลี่ชิเย่ ทุกคนต่างรู้ว่าคราวนี้หลี่ชิเย่ต้องตายอย่างแน่นอนแล้ว
ขณะที่พริบตาเดียวนั้นเอง หลินซิม่อที่ขวางอยู่ด้านหน้าหลี่ชิเย่ก็ไม่มีกำลังพอที่จะไปต้านรับกับดาบขององค์ชายดาบมาร นางทำได้แค่เอาตัวเข้าบังและรับดาบ ด้วยการยืนขวางอยู่ด้านหน้าของหลี่ชิเย่ ปล่อยให้ดาบยาวขององค์ชายดาบมารฟันใส่ร่างของตนตามอำเภอใจ
ภายในใจของหวู่ปิงหนิงถึงกับเย็นวาบ รู้ว่าหลี่ชิเย่จะต้องตายภายใต้ดาบนี้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่นางไม่สามารถทำอะไรได้ และช่วยหลี่ชิเย่ไม่ได้
ปังเสียงหนึ่งดังขึ้น ในเสี้ยววินาทีนี้เอง เหมือนว่าทุกสิ่งล้วนแล้วแต่หยุดนิ่ง หลังจากเวลาผ่านไปชั่วครู่ หลินซิม่อจึงได้สติคืนกลับมา เห็นว่าตัวเองไม่ได้ตาย และไม่รู้สึกเจ็บบนร่างกายแม้แต่น้อย และไม่มีเลือดที่ไหลออกมา
เดิมหวู่ปิงหนิงที่หลับตาเพราะไม่สามารถกอบกู้สถานการณ์ได้อีกต่อไป พลันลืมตาทั้งสองขึ้น และจ้องมองไปในทันที
เมื่อทุกคนมองไป เห็นเพียงดาบยาวขององค์ชายดาบมารถูกนิ้วคู่หนึ่งหนีบเอาไว้ โดยที่นิ้วทั้งสองนี้ได้หนีบดาบยาวขององค์ชายดาบมารเอาไว้อย่างง่ายดายด้วยท่าทีเอ้อระเหย อีกทั้งไม่ว่าองค์ชายดาบมารจะชักดาบยาวของตนกลับอย่างไรก็ไม่เป็นผล ทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปมากทีเดียว
พวกเขาอยากจะร้องเสียงแหลมออกมา แต่ปากที่อ้ากว้างมากนั้นไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้แม้แต่เสียงเดียว ภาพเช่นนี้นับว่าน่ากลัวเหลือเกิน หนึ่งกระบี่ลักษณะเช่นนี้นับว่ารวดเร็วเหลือเกิน
ในเวลานี้ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกว่าตนเองหายใจลำบาก ไม่รู้ว่าผู้คนจำนวนเท่าไรที่ถูกหนึ่งกระบี่ที่น่ากลัวเข่นนี้สยบเอาไว้
“เจ้าเดรัจฉานน้อย…” ในเวลานี้สุสานกระบี่มียอดฝีมือร้องกล่าวเสียงดังขึ้นมา เนื่องจากเจี้ยนจุนเป็นเจ้าสำนักของพวกเขา พวกเขาจะปล่อยให้เจ้าสำนักของตนถูกสังหารด้วยการมองตาปริบๆ ได้อย่างไรกันเล่า
“ฆ่า…” ทันใดนั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นสุสานกระบี่ หรือว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิพานหลง และหรือระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิไคเทียนล้วนแล้วแต่มีระดับเทพแท้จริงที่ร้องคำรามออกมาด้วยความโกรธ นาทีนี้เอง มียอดฝีมือเทพแท้จริงหลายร้อยคนจากระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิทั้งสามที่อดส่งเสียงคำรามออกมาไม่ได้ ต่างเหินฟ้าขึ้นและลงมือพร้อมกัน ในเวลานี้ปรากฏเสียงตูมดังสนั่นขึ้นมา ของวิเศษแต่ละชิ้นที่ส่องท้องฟ้าจนสว่างไสวได้โจมตีเข้าหาหลี่ชิเย่ กลิ่นอายที่น่ากลัวเสมือนดั่งพายุร้ายที่พุ่งโจสมตีเข้าไป
ตึง…เสียงหนึ่งดังขึ้น กระบี่เหล็กออกจากฝัก จังหวะที่กระบี่เหล็กออกจากฝักนั้นเวลาพลันหยุดนิ่ง เมื่อได้ยินเสียงตึงดังขึ้นมาอีกครั้ง กระบี่เหล็กได้กลับเข้าไปอยู่ในฝัก และเวลาก็ได้ไหลรินไปตามปรกติอีกครั้ง
การออกกระบี่ของหลี่ชิเย่รวดเร็วเหลือเกิน ไม่มีใครมองเห็นหนึ่งกระบี่นี้ของหลี่ชิเย่ลงมือได้อย่างไร
เสียงตุบ ตุบ ตุบ…ดังขึ้น บนท้องฟ้าปรากฏหัวแต่ละหัวที่ตกลงมา ขณะที่แต่ละหัวตกและกลิ้งไปกับพื้นนั้น เมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้ายังสามารถมองเห็นร่างกายของตนที่พุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า แต่ในขณะเดียวกันเลือดสดๆ คล้างดั่งน้ำพุที่พุ่งขึ้นมาจากคอที่ถูกตัดขาด เหมือนรุ้งกินน้ำที่พาดผ่านท้องฟ้าไป
ในขณะนี้ เลือดที่คล้ายน้ำพุแต่ละสายที่พุ่งขึ้นไปเหมือนรุ้งกินน้ำพาดผ่านท้องฟ้า และเกิดเป็นฝนเลือดที่ตกลงมา สุดท้าย บรรดาศพที่ปราศจากหัวที่พุ่งขึ้นท้องฟ้าจึงได้ร่วงหล่นลงพื้นเสียงดังปัง ปัง ปัง
หัวแต่ละหัวที่มองเห็นศพของตนร่วงหล่นลงพื้นแล้วต่างอ้าปากกว้างแต่ไม่สามารถส่งเสียงร้องออกมาไม่ได้ สุดท้ายต้องเสียชีวิตไป ในเสี้ยววินาทีนั้นพวกเขาคิดจะลงมือสังหารหลี่ชิเย่ แต่ทว่า พลันที่กระบี่ยาวของหลี่ชิเย่สำแดงออกไปทุกอย่างก็เป็นที่แน่นอน ไม่ว่าใครก็ต้านหนึ่งกระบี่ของหลี่ชิเย่ไม่ได้ ไม่มีโอกาสแม้แต่จะขัดขืน
“ผู้ที่ยังมีชีวิตของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิทั้งสามอย่าหวังรอดชีวิตไปจากที่นี่แม้แต่คนเดียว” ในเวลานี้เอง หลี่ชิเย่เพียงจ้องมองบรรดาบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิทั้งสามอย่างเย็นชา!
.
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...