สรุปตอน ตอนที่ 2344 มือคว้าดวงดาว – จากเรื่อง ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet
ตอน ตอนที่ 2344 มือคว้าดวงดาว ของนิยายActionเรื่องดัง ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ในเวลานี้ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ ทุกคนล้วนแล้วแต่จ้องมองดูหลี่ชิเย่ ดูว่าหลี่ชิเย่จะเผชิญหน้ากับการท้าสู้ของเทพแท้จริงดาบสังหารได้อย่างไร
ความจริงแล้ว ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการรู้ว่าศักยภาพที่แท้จริงของหลี่ชิเย่เป็นเช่นใด บางทีภายใต้สภาพการณ์เช่นนี้ของเทพแท้จริงดาบสังหารอาจมีความเป็นไปได้สามารถสืบเสาะถึงกำลังความสามารถที่แท้จริงของหลี่ชิเย่ได้
นับตั้งแต่การปรากฏตัวของหลี่ชิเย่ ศักยภาพของเขาเป็นปริศนาตลอดมากระทั่งบัดนี้ และเป็นปริศนาแม้กระทั่งเขาใช้เคล็ดวิชาของสำนักใด
ความจริงแล้วตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าหลี่ชิเย่จะได้ลงมือหลายครั้งด้วยกัน แต่ทุกคนต่างไม่รู้ว่าเขาฝึกเคล็ดวิชาของสำนักใด แม้จะกล่าวว่าทุกคนล้วนแล้วแต่รู้ว่าเขาคือผู้กุมอำนาจของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิลานกำแหงเวลานี้ ทั้งยังเป็นศิษย์ลำดับที่หนึ่งของหุบเขาอมตะ แต่ทว่า โดยพื้นฐานแล้วตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่ค่อยจะได้สำแดงเคล็ดวิชาของสองระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่นั่น
ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับทุกคน เคล็ดวิชาแท้จริงที่หลี่ชิเย่ฝึกนั้นคืออะไรกันแน่ จะอย่างไรเสียผู้บำเพ็ญตนต่างก็มีเคล็ดวิชาหลักที่ตนฝึก เนื่องจากมันจะเป็นวิถีการก้าวเดินที่เป็นของตนเอง
แต่ว่า ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับวิถีของหลี่ชิเย่เลย แม้ว่าเขาเคยสำแดงเคล็ดวิชากระบี่สุดยอดที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสอง แต่ว่าลางสังหรณ์บอกทุกคนว่า นี่หาใช่วิถีของหลี่ชิเย่
กล่าวสำหรับการท้าสู้ของเทพแท้จริงดาบสังหารนั้น หลี่ชิเย่ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทีที่เอ้อระเหย เพียงมองดูเทพแท้จริงดาบสังหารแวบหนึ่งด้วยท่าทีสบายๆ
“เจ้าลงมือก่อนเถอะ ในเมื่อพวกเจ้าอุตส่าห์งัดเอาคนยักษ์เช่นนี้ออกมาอย่างยากเย็น และสิ้นเปลืองกำลังกายใจไปไม่น้อย ให้พวกเจ้าได้สำแดงฝีมือของตนออกมาบ้าง จะได้ไม่หาว่าข้าไม่เปิดโอกาสให้กับพวกเจ้า ถ้าหากข้าลงมือก่อน เกรงว่าสิ่งที่พวกเจ้าเรียกว่าเป็นวิธีการที่สะเทือนฟ้านั้นจะไม่มีโอกาสได้สำแดงออกมาแล้วล่ะ” หลี่ชิเย่ทำท่ายิ้มๆ
พลันที่หลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา บรรดาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำ ลักษณะของเทพแท้จริงดาบสังหารในเวลานี้นับว่าแข็งแกร่งมากแล้ว แข็งแกร่งกว่าเทพกระบี่กูตู๋อย่างแน่นอน ภายใต้สภาพการณ์เช่นนี้ เกรงว่าเทพแท้จริงดาบสังหารสามารถพาตัวเองเบียดเข้าไปอยู่ในระดับขั้นของอมตะแล้ว
อย่างไรก็ตาม ต่อให้แข็งแกร่งถึงขั้นนี้แล้ว หลี่ชิเย่ยังไม่เห็นอยู่ในสายตา กระทั่งกล่าววาจาไร้ยางอายออกมาว่าขอเพียงเขาลงมือ เทพแท้จริงดาบสังหารก็จะไม่มีโอกาสได้ลงมือ
สีหน้าของเทพแท้จริงดาบสังหารดูไม่จืดถึงขีดสุด ไม่ง่ายนักกว่าที่เขาจะมาถึงขั้นพาลอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้ได้ ส่งผลให้เขามีความมั่นใจอย่างยิ่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หลี่ชิเย่ ถึงกลับไม่เห็นอยู่ในสายตา แล้วจะไม่ให้เขาต้องโกรธจนคลั่งได้อย่างไรกันเล่า
“เจ้าเดรัจฉานน้อย วันนี้จะต้องสับเจ้าเป็นหมื่นๆ ชิ้นให้ได้” เทพแท้จริงดาบสังหารโกรธอย่างบ้าคลั่ง ร้องคำรามเสียงดังออกมาถึงขั้นทำให้ดวงดาวแตกละเอียด
ตูม…เสียงดังสนั่น ในพริบตาเดียวนั่นเองเทพแท้จริงดาบสังหารเอื้อมมือขนาดใหญ่ซ้ายขวาคว้าออกไปทีหนึ่ง ถึงกับคว้าเอาดวงดาวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดสองดวงลงมาจากท้องฟ้า ดวงดาวขนาดยักษ์สุดเปรียบเปรยพุ่งโจมตีลงมา
โอ้แม่เจ้า…ผู้บำเพ็ญตนจำนวนไม่น้อยตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ เมื่อเห็นดวงดาวขนาดยักษ์สองดวงที่ถูกสอยลงมา ทั่วท้องฟ้าถึงกับมืดลงเหมือนดั่งวันสิ้นโลกอย่างนั้น
เสียงตูมดังสนั่น หลังจากที่ดวงดาวทั้งสองถูกคว้าลงมาแล้ว มันได้เข้าโจมตีขนาบซ้ายขวาอย่างแรงต่อหลี่ชิเย่ที่ลอยตัวอยู่บนท้องฟ้าสูงนั่น
ภาพที่น่ากลัวเช่นนี้ได้สร้างความตื่นตระหนกกับผู้คนจนขวัญหนีดีฝ่อไม่รู้จำนวนเท่าไร เมื่อดวงดาวทั้งสองกระแทกเข้ามา มันคือการทำลายฟ้าดินกันชัดๆ ทำเอาผู้คนไม่รู้จำนวนเท่าไรที่หันหลังหนีไปทันที
เสียงตูมดังสนั่น ประดุจดั่งโลกทั้งโลกระเบิดขึ้นมา เมื่อดวงดาวสองดวงเข้าโจมตีซ้ายขวากระแทกใส่หลี่ชิเย่อย่างแรง หลี่ชิเย่ยืนอยู่ระหว่างกลางจากการพุ่งชนเข้าหากันของดวงดาวทั้งสอง
ปังเสียงคล้ายฟ้าดินถูกระเบิดทำลาย เหมือนว่าโลกทั้งโลกถูกระเบิดจนแตกออก มองเห็นฝุ่นที่พวยพุ่ง แสงไฟที่น่ากลัวพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง และปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า เสมือนหนึ่งโลกทั้งโลกถูกทำลายไปแล้วอย่างนั้น
จากการพุ่งชนที่น่ากลัวเช่นนี้ ดวงดาวทั้งสองล้วนแล้วแต่กลายเป็นจุณไป ทั่วท้องฟ้าเต็มไปด้วยฝุ่นผง พลังพุ่งชนที่น่ากลัวพุ่งขึ้นท้องฟ้าอย่างรุนแรง ไม่รู้ว่ามีดวงดาวจำนวนเท่าไรที่ถูกทำลายในพริบตาเดียว ด้วยพลังที่น่ากลัวเช่นนี้สามารถสังหารระดับเทพแท้จริงนับพันนับหมื่นได้ในพริบตาเดียว
“จบสิ้นแล้วรึ?” ทุกคนต่างมองดูภาพที่น่ากลัวเช่นนี้ด้วยความหวาดผวาจนขนลุกซู่ นำเอาดวงดาวสองดวงมากระแทกใส่กัน ด้วยการกระแทกใส่ตัวของหลี่ชิเย่ อานุภาพเช่นนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน อย่าว่าแต่ยอดฝีมือทั่วไปเลย เกรงว่าต่อให้เป็นเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ก็ต้องกลายเป็นเนื้อบดโดยพลันเมื่อถูกพลังเช่นนี้กระแทกใส่
เวลานี้ ทุกคนต่างมองดูท้องฟ้าที่มืดครื้ม ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการเห็นจุดจบของหลี่ชิเย่เป็นเช่นใด ถูกกระแทกจนกลายเป็นเนื้อบดหรือไม่อย่างไร
สุดท้าย ฝุ่นผงบนท้องฟ้าก็ได้จางหายไปในที่สุด ท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าของทุกคน
“อยู่ตรงนั้น…” ในเวลานี้มีผู้ที่ตาแหลมพลันมองเห็นหลี่ชิเย่ได้ในทันที รีบชี้ไปบนท้องฟ้าและร้องกล่าวเสียงดังขึ้นมา
ทุกคนมองไป เห็นหลี่ชิเย่ยังคงยืนอยู่บนท้องฟ้าสูง เขาไม่ได้ขยับตัวเลย ไม่มีการเคลื่อนย้ายตัวแม้แต่ครึ่งก้าว เขายืนอยู่ตรงนั้นแหละ ยังคงเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิด่ขึ้น
ในขณะนี้ หลี่ชิเย่ยังคงยืนเรียบเฉยอยู่ตรงนั้น อย่าว่าแต่ถูกกระแทกจนกลายเป็นเนื้อบดเลย เกรงว่าจะไม่ได้บาดเจ็บแม้แต่เส้นขนสักเส้น หากไม่เป็นเพราะบนตัวเขามีฝุ่นจับอยู่บ้าง เกรงว่ายังทำให้ผู้คนเข้าใจว่าไม่ได้กระแทกถูกตัวของหลี่ชิเย่
ตูม…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในพริบตาเดียวนั่นเองเสมือนดั่งความตายมาเยือน กลิ่นอายแห่งความตายค่อยๆ ลอยขึ้นมา เหมือนโลกแห่งความตายได้ปรากฏอยู่ต่อหน้าทุกคนอย่างนั้น
ในเวลานี้ ร่างเงาสายหนึ่งได้ปรากฏต่อหน้าผู้คนทุกคน เห็นเขายืนอยู่ตรงตำแหน่งที่หลี่ชิเย่ยืนอยู่เมื่อครู่
เขาก็คือหลี่ชิเย่ แต่ว่า ในเวลานี้หลี่ชิเย่ได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ตัวของเขาเหมือนหนึ่งกลายมาจากความตายอย่างนั้น ไม่ใช่กายเนื้อที่มีชีวิตตัวเป็นๆ อีกต่อไป
ก่อนหน้านั้น แม้ว่าคำพูดของหลี่ชิเย่จะฟังดูน่ากลัวอย่างยิ่ง แต่ว่า จะอย่างไรเสียเขาก็เป็นคนเป็นๆ คนหนึ่ง
หลี่ชิเย่ในเวลานี้ไม่ใช่คนเป็นๆ อีกต่อไป เหมือนว่าเขาก็คือเทพแห่งความตายผู้หนึ่ง ร่างของเขาแปลงมาจากความตาย พริบตาเดียวนั่นเอง ตัวเขาเสมือนหนึ่งคือต้นกำเนิดแห่งความตาย ขอเพียงตัวเขาคงอยู่ ความตายทั้งหมดล้วนแล้วแต่อยู่ภายใต้การปกครองของเขา เขาก็คือจุดเริ่มต้นแห่งความตายทั้งหมด
“นั่น นั่นเขายังเป็นคนอีกหรือนี่?” แม้จะกล่าวว่า ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างเคยพบเห็นกับความตายมาแล้ว แต่ว่า ทุกคนล้วนแล้วแต่สั่นเทิ้มขึ้นมาเมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่ในเวลานี้ โดยเฉพาะสายตาแห่งความตายคู่นั้นของหลี่ชิเย่ ไม่มีใครกล้าไปจ้องมัน เนื่องจากทุกคนรู้สึกว่าเมื่อมองเห็นดวงตาคู่นี้แล้วก็จะรู้ถึงที่พักพิงสุดท้ายของตน รับรู้ถึงความตายของตน
“เขา เขา เขาก็คือจอมมาร จอมมารที่ทุกคนต้องกำจัด…” ระดับจอมเทพผู้หนึ่งร้องเสียงดังขึ้นมาเมื่อได้เห็นหลี่ชิเย่ในสภาพของความตาย ตวาดเสียงดังว่า “มารร้ายเช่นนี้ ทุกคนต้องกำจัดมัน!”
เมื่อหลี่ชิเย่ได้ยินคำตวาดของเทพแท้จริงผู้นี้จึงหันมามอง ขณะที่เขามองมานั้น ความตายพลันปกคลุมเทพแท้จริงผู้นี้เอาไว้
เสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น นาทีนี้เองมองเห็นระดับเทพแท้จริงผู้นี้แห้งกรังไปทั้งตัว ดุจดั่งถูกดึงเอาชีวิตไปทันที ถูกนำเอาความมีชีวิตชีวาไปจนสิ้น
“ไม่…” เทพแท้จริงผู้นี้รับรู้ถึงความมีชีวิตทุกอย่างที่ไหลผ่านไปดุจสายน้ำ เขาร้องเสียงแหลมขึ้นมา แต่ไม่สามารถทำอะไรได้
พริบตาเดียวนั่นเอง ระดับเทพแท้จริงผู้นี้ได้กลายเป็นศพแห้ง หลังจากนั้นร่างกายของเขาได้แตกละเอียดกลายเป็นผุยผงล่องลอยปลิวกระจายไปตามลม เสมือนว่าไม่เคยปรากฏตัวบนโลกมนุษย์อย่างนั้น
ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองดูจนอ้าปากตาค้าง เมื่อมองเห็นระดับเทพแท้จริงผู้นี้ได้สูญเสียชีวิต สูญเสียความมีชีวิตชีวา กลายเป็นเถ้าธุลีไปในชั่วพริบตาเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...