ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2348

นายน้อยมู่เดินทางมา ทั้งยังประกาศว่าเจาะจงจะเล่นงานหลี่ชิเย่ ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองตากันและกันลับๆ เมื่อได้ยินข่าวนี้แล้ว

ทุกคนไม่ได้รู้สึกเหนือความคาดคิดเมื่อได้ยินข่าวๆ นี้ จะอย่างไรเสียหลี่ชิเย่ผูกความแค้นกับนายน้อยมู่มานานมากแล้ว โดยเฉพาะหลังจากที่หลี่ชิเย่ได้สังหารคนรับใช้เฒ่าของนายน้อยมู่ไปแล้ว ยิ่งเป็นการบ่งบอกว่าเป็นการหักหน้ากันอย่างเปิดเผยระหว่างหลี่ชิเย่กับนายน้อยมู่อย่างสิ้นเชิง ทั้งสองคนจะต้องออกมาในรูปเจ้าม้วยข้าอยู่

“ระหว่างนายน้อยมู่กับคนโหดอย่างหลี่ชิเย่ ใครจะเป็นฝ่ายชนะฝ่ายแพ้กันนะ?” ยอดฝีมือระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิบางคนถึงกับกล่าวคาดการณ์ในเรื่องนี้

“ข้าว่านะ คนโหดอันดับหนึ่งอย่างหลี่ชิเย่มีโอกาสมากกว่า” ระดับผู้อาวุโสรุ่นบุกเบิกพูดเสียงแผ่วเบาว่า คำพูดเช่นนี้เขากล้าพูดกับคนข้างกายตนเองเท่านั้นไม่กล้าพูดกับบุคคลภายนอก จะอย่างไรเสียไม่ว่าใครก็ไม่ต้องการไปหาเรื่องนายน้อยมู่

“แม้ว่านายน้อยมู่จะมาด้วยท่าทีที่อวดดีและดุดัน แต่ จะอย่างไรเสียเขาก็ขาดอะไรบางอย่าง แม้ว่านายน้อยมู่จะได้ชื่อว่ามีพรสวรรค์ที่เป็นหนึ่งไม่มีสอง สติปัญญาสูงปราศจากผู้เทียบเทียม แต่ว่า ที่ทุกคนหวั่นเกรงต่อเขามักจะเป็นเพราะตระกูลมู่เสมอๆ ไม่ได้เพราะตัวของเขาเอง ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ และสำนักสืบทอดส่วนใหญ่หวั่นเกรงต่อตระกูลมู่ สำหรับตัวของนายน้อยมู่เอง เกรงว่ายากจะสยบแดนลัทธิพรรษของพวกเราได้…”

ครั้นผู้อาวุโสรุ่นบุกเบิกได้เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้วได้ไอขึ้นมาทีหนึ่ง และกล่าวว่า “แตกต่างจากคนโหดอย่างหลี่ชิเย่ ไม่ว่าใครจะยอมรับหรือไม่ แต่ว่า อย่างน้อยที่สุดสามารถยืนยันได้ว่าเขานั้นก้าวเดินมาทีละก้าวๆ นับตั้งแต่เขาเป็นผู้กุมอำนาจปกครองระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหง เขาก็เอาชนะกองทัพพันธมิตรของแดนลัทธิพรรษ ขณะอยู่ที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ ก็ได้ช่วยนักพรตฉางเซินทำลายแคว้นว่านโซ่ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สุดท้ายเข่นฆ่าไปทุกที่…”

“…คนโหดอย่างหลี่ชิเย่ ไม่ว่าเขาจะยืมพลังของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหรือไม่ แต่ การเข่นฆ่าสังหารใหญ่ในเงินทองตกพื้นก็เพียงพอที่จะอธิบายได้ถึงศักยภาพของเขาได้แล้ว แม้ว่าศักยภาพของเขาจะแข็งแกร่งเช่นใดยังคงเป็นปริศนากระทั่งบัดนี้ ในมุมมองส่วนตัวข้ามองว่า เกรงว่าในกลุ่มคนรุ่นใหม่ไม่มีใครสามารถเทียบเคียงได้อีกแล้ว เขาคืออันดับหนึ่งกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างแน่นอน”

เมื่อระดับผู้อาวุโสรุ่นบุกเบิกสำนักเจ้าลัทธิผู้นี้เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว สายตาของเขาดูลึกล้ำยิ่งนัก มองไปยังที่ที่ห่างไกล ท่าทีดูหนักแน่นจริงจัง

“นายน้อยมู่ต้องชนะ…” มีบ้างเหมือนกันที่นายน้อยมู่ยังไม่ทันได้มาถึง ก็ชูคำขวัญเช่นนี้แล้ว คนเหล่านี้หากไม่เป็นเพราะสำนักของตนได้หันไปพึ่งพามู่เส้าเฉินแล้ว ก็คือพวกที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกันเป็นอันมาก

“เพราะอะไรบางคนจึงมั่นใจว่านายน้อยมู่จะต้องชนะล่ะ?” มียอดฝีมือของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเมื่อได้ยินบางคนที่ชูคำขวัญขึ้นมาเช่นนี้ได้หัวเราะและกล่าวว่า “อย่าลืมไปสิ ก่อนหน้านี้หนึ่งวันคนโหดอย่างหลี่ชิเย่ยังสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วด้วยการลงมือสังหารระดับบรรพบุรุษทั้งหมดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใหญ่ทั้งสาม แม้แต่เทพกระบี่กูตู๋ยังพ่ายแพ้ให้กับเขา ยิ่งพวกของเทพหมื่นแขนด้วยแล้วยังต้องถูกคนโหดอย่างหลี่ชิเย่สังหาร หลี่ชิเย่ นั้นไม่เสียทีที่เป็นคนโหดอันดับหนึ่ง อันดับที่หนึ่ง!”

“ฮึ เรื่องนี้เจ้าน่ะไม่รู้อะไร” ยอดฝีมือของตระกูลขุนนางโบราณผู้ที่ยืนอยู่ข้างฝ่ายของมู่เส้าเฉินหัวเราะเยาะทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ต่อให้หลี่ชิเย่แข็งแกร่งมากกว่านี้แล้วอย่างไรล่ะ อย่าลืมไปสิ นายน้อยมู่นั้นมาจากแดนลัทธิราชันเลยนะ แม้แต่เทพแท้จริงขั้นอมตะยังต้องมาเป็นผู้คุ้มกันให้กับเขา ความสูงส่งของนายน้อยมู่ใช่ว่าหลี่ชิเย่จะสามารถเทียบเคียงได้อยู่แล้ว”

“เรื่องบางเรื่องก็พูดยาก” ในอดีตผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่ไม่มั่นใจในตัวของหลี่ชิเย่ ผู้คนจำนวนมากมองว่าการที่หลี่ชิเย่ผูกความแค้นกับมู่เส้าเฉินเป็นการรนหาที่ตายเอง

แต่ทว่า เร็วๆ นี้หลี่ชิเย่ได้ทำการเข่นฆ่าครั้งใหญ่ กระทั่งการร่วมมือกันระหว่างระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิทั้งสาม ระดับบรรพบุรุษของพวกเขายังถูกสังหารจนยับเยิน ดังนั้น คราวนี้พลันหวั่นไหวยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนเป็นจำนวนมาก เวลานี้ ได้ทำให้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจำนวนมากได้เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อหลี่ชิเย่ ต่างเข้าใจแล้วว่าการที่หลี่ชิเย่เรียกตัวเองว่าเป็นคนโหดอันดับหนึ่งนั้นใช่จะไม่มีเหตุผล เป็นอะไรที่แข็งแกร่ง น่ากลัวจนวุ่นวายไปหมดอย่างแน่นอน

“เรื่องนี้พวกเจ้าไม่เข้าใจแล้วล่ะ หากนายน้อยมู่จะสังหารหลี่ชิเย่จริงล่ะก็นับว่าง่ายดายเหลือเกิน แค่กระดิกนิ้วมือนิดหนึ่งเท่านั้นเอง” ยอดฝีมือผู้ให้การสนับสนุนมู่เส้าเฉินเต็มที่หัวเราะเสียงประหลาดทีหนึ่ง และกล่าวว่า “กล่าวสำหรับนายน้อยมู่แล้ว ลำพังแค่หลี่ชิเย่คนหนึ่งนับเป็นอะไรได้ หากนายน้อยมู่ต้องการสังหารเขาจริง เรียกว่าไม่ต้องเปลืองแรงเลยแม้แต่น้อย”

“คำพูดนี้โอ้อวดเกินไปแล้ว แม้หลี่ชิเย่จะกำแหง แต่ว่ากำลังความสามารถเห็นๆ กันอยู่ แม้แต่เทพกระบี่กูตู๋ยังพ่ายแพ้ยับเยิน กลุ่มคนรุ่นใหม่เกรงว่าไม่มีใครสามารถเทียบเคียงกับเขาได้อีกแล้ว” มีผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับคำพูดนั้น รู้สึกว่าบรรดาสำนักต่างๆ ที่หนุนมู่เส้าเฉินเต็มที่นั้นลำพองเกินไป

“เรื่องนี้เจ้าไม่รู้อะไรแล้วล่ะ” ยอดฝีมือตระกูลขุนนางโบราณผู้นี้กล่าวท่าทีลึกลับว่า “ขอบอกความลับเรื่องหนึ่งให้พวกเจ้า อย่าได้ไปบอกต่อกับบุคคลภายนอกอย่างเด็ดขาด ข้าได้รับข่าวที่ยืนยันมาว่า การมาแดนลัทธิพรรษคราวนี้ของนายน้อยมู่หาใช่ธรรมดา เขาได้นำเอาอาวุธยอดเยี่ยมมาด้วยชิ้นหนึ่ง”

“อาวุธยอดเยี่ยม? อาวุธยอดเยี่ยมบรรพบุรุษ?” แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพแท้จริงก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปมากทีเดียวเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ รู้สึกใจหายใจคว่ำ และกล่าวว่า “เรื่องจริงหรือเท็จ?”

“จริงยิ่งกว่าจริงเสียอีก” ยอดฝีมือตระกูลขุนนางโบราณผู้นี้กล่าวด้วยความลำพองใจว่า “อาวุธยอดเยี่ยมในมือของนายน้อยมู่พลันสำแดงออกไป เรียกได้ว่าเกรียงไกรไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ปราศจากผู้ต่อกรในหล้า แค่หลี่ชิเย่คนหนึ่งจะนับเป็นอะไรได้”

“นี่ นี่มันเป็นไปไม่ได้กระมัง นี่ นี่มันคืออาวุธยอดเยี่ยมเลยนะ” แม้แต่ระดับเทพแท้จริงก็รู้สึกเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เมื่อได้ยินข่าวเช่นนี้

“มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ อย่าลืมไปสิ ปฐมบรรพบุรุษของตระกูลมู่คือปฐมบรรพบุรุษชั้นแดนลัทธิเซียน เขาย่อมสามารถสร้างอาวุธยอดเยี่ยมได้อยู่แล้ว” ยอดฝีมือตระกูลขุนนางโบราณผู้นี้กล่าวอย่างลำพองว่า “นายน้อยมู่ได้นำเอาอาวุธยอดเยี่ยมชิ้นนี้มาด้วยนั่นแหละ”

เมื่อได้ยินข่าวเช่นนี้แล้ว ทำให้ผู้คนรู้สึกเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง กระทั่งมีบางคนที่รู้สึกไม่สบายใจ

สำหรับอาวุธยอดเยี่ยมโดยปรกติแล้ว มีเพียงระดับปฐมบรรพบุรุษแดนลัทธิเซียนเท่านั้นที่มีสิทธิ์สร้างอาวุธยอดเยี่ยมที่สมบูรณ์แบบขึ้นมาได้ อาวุธยอดเยี่ยมคืออาวุธที่ทรงพลังมากที่สุดของระดับบรรพบุรุษชั้นแดนลัทธิเซียน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล