ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2353

เสียงที่ปรากฏขึ้นกะทันหันเช่นนี้ ทำเอาทุกคนล้วนแล้วแต่ตกใจจนสิ้น เนื่องจากในขณะนี้แดนลัทธิพรรษมีระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิอยู่จำนวนเท่าไร มีผู้คนมากน้อยเท่าไร ล้วนแล้วแต่รวมตัวกันอยู่ที่ตรงนี้ ล้วนแล้วแต่เรียกร้องให้มีการกำจัดหลี่ชิเย่ที่เป็นจอมมารผู้นั้นเสีย เรียกได้ว่าในขณะนี้การผดุงคุณธรรมขจัดมารเป็นกระแสหลัก หลี่ชิเย่คือศัตรูร่วมของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิจำนวนมากของแดนลัทธิพรรษ

แต่กลับจะมีผู้ที่ก้าวออกมายืนอยู่ตรงกันข้ามในเวลานี้ หนุนหลี่ชิเย่เต็มที่ ผู้คนจำนวนมากมองว่าเรื่องลักษณะเช่นนี้ เป็นการกระทำในสิ่งที่ทุกคนมองว่าเป็นเรื่องไม่ดี

มองเห็นผู้บำเพ็ญตนหญิงผู้หนึ่งที่เดินคดเคี้ยวเข้ามา ความงดงามนั้นสยบผู้คนทั่วหล้า มีท่วงทำนองที่ล่องลอยเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

“นักพรตฉางเซิน” ผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่จดจำนางได้เมื่อมองเห็นผู้บำเพ็ญตนหญิงที่เดินคดเคี้ยวเข้ามา ผู้คนจำนวนไม่น้อยร้องด้วยความตกใจออกมาเบาๆ

นักพรตฉางเซินปกครองหุบเขาอมตะ และเป็นตัวแทนของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ คำพูดของนางก็มีน้ำหนัก และไม่มีผู้ใดสงสัยในอำนาจบารมีของนาง

แม้แต่มู่เส้าเฉินก็มองไปที่นักพรตฉางเซินในเวลานี้ แววตาเต้นกระตุกทีหนึ่งบังเกิดความคิดที่ไม่ปรกติขึ้นมา เขาเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ได้ยินชื่อของท่านนักพรตมานานแล้ว”

“นายน้อยมู่ ได้ยินชื่อมานาน” นักพรตฉางเซินที่ยืนอยู่ท่ามกลางท้องฟ้า กลิ่นอายที่ลอยล่องอยู่เหนือมนุษย์ปุถุชนธรรมดาตลบอบอวลภายในจิตใจของผู้คน เสมือนดั่งนางก็คือดอกไม้ดอกหนึ่งในเครื่องลายครามชิงฮวาฉือที่งดงามทำให้ใต้หล้าสงบสุข

เวลานี้ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจมองดูภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า ทุกคนต่างรู้ดีว่ามู่เส้าเฉินต้องการกำจัดหลี่ชิเย่ให้จงได้ เวลานี้นักพรตฉางเซินกลับปกป้องหลี่ชิเย่เต็มที่ การกระทำของนักพรตฉางเซินไม่เพียงต้องเป็นศัตรูกับมู่เส้าเฉินเท่านั้น ยังต้องเป็นศัตรูกับแดนลัทธิพรรษ

“เกรงว่าท่านนักพรตจะถูกจอมมารของพรรคมารหลอกลวงเสียแล้วล่ะ” มู่เส้าเฉินเผยรอยยิ้มที่สุภาพมีมารยาท และกล่าวว่า “หลี่ชิเย่แค่อาศัยฐานะปลอมหลอกให้นักพรตไว้ใจขณะอยู่ที่หุบเขาอมตะ จนได้ตำแหน่งศิษย์ลำดับที่หนึ่งมา พฤติกรรมของเขาส่อเจตนาต้องการทำลายระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ หลี่ชิเย่คือจอมมารของพรรคมาร ก่อกรรมทำชั่ว”

“ข้ารู้ว่าเขามีชาติกำเนิดมาจากระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิลานกำแหง และรู้ว่าเขากุมอำนาจปกครองสูงสุดของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิลานกำแหง” นักพรตฉางเซินเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “แล้วอย่างไรล่ะ? เขายังคงเป็นศิษย์อันดับหนึ่งหุบเขาอมตะของพวกเรา ยังคงเป็นศิษย์พี่ใหญ่ภายใต้การปกครองของข้า ใครแตะต้องศิษย์หุบเขาอมตะของพวกเรา ก็เป็นศัตรูกับหุบเขาอมตะพวกเรา”

เมื่อนักพรตฉางเซินพูดคำพูดนี้ออกมา ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกใจหายใจคว่ำ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่มองหน้ากันและกัน คำพูดของนักพรตฉางเซินมีความชัดเจนอย่างยิ่ง พวกเขาต้องการหนุนหลี่ชิเย่อย่างเต็มที่ปกป้องหลี่ชิเย่ซึ่งหน้า

ในเวลานี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกงงงัน ต่างมองหน้ากันและกัน ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่เข้าใจว่า เพราะอะไรทางหุบเขาอมตะจึงต้องหนุนหลี่ชิเย่เต็มที่และยอมกระทำในสิ่งที่ทุกคนมองว่าเป็นเรื่องไม่ดีเล่า

ถ้าหากนักพรตฉางเซินไม่ยอมรับฐานะความเป็นศิษย์ลำดับที่หนึ่งของหลี่ชิเย่ในช่วงที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ หากเป็นเช่นนี้ผู้คนจำนวนมากก็สามารถเข้าใจได้ และมีไม่กี่คนที่จะไปประณามหุบเขาอมตะอยู่แล้ว

แต่ว่า นักพรตฉางเซินกลับหนุนหลี่ชิเย่เต็มที่ในเวลานี้ ถึงกับยอมเป็นศัตรูกับมู่เส้าเฉิน เป็นศัตรูกับแดนลัทธิพรรษ

สายตาของมู่เส้าเฉินเพ่งตรงไปข้างหน้า และกล่าวว่า “ท่านนักพรต เกรงว่าคำพูดนี้จะเกินเลยไปแล้วกระมัง หลี่ชิเย่ก่อกรรมทำชั่ว เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ทุกคนสามารถฆ่าได้ หากท่านนักพรตจะปกป้องจอมมารเช่นนี้ เกรงว่าเป็นการกระทำในสิ่งที่ทุกคนมองว่าเป็นเรื่องไม่ดี เกรงว่าจะนำพาระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะให้ตกลงไปในหุบเหวลึกที่ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกเลย”

“กระทำในสิ่งที่ทุกคนมองว่าเป็นเรื่องไม่ดี?” นักพรตฉางเซินยิ้มขึ้นมาช้าๆ รอยยิ้มของนางงดงามยิ่งนัก แม้แต่มู่เส้าเฉินเองยังถึงกับจ้องมองด้วยความโลภอยู่นาน

นักพรตฉางเซินเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “กระทำในสิ่งที่ทุกคนมองว่าเป็นเรื่องไม่ดี หมายถึงใครรึ? เป็นท่านรึ? หรือหากเจ้าคิดว่าใครเป็นจอมมาร คนนั้นก็คือจอมมารอย่างนั้นรึ?”

“ไม่ นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนในหล้าเขาว่ากัน” เวลานี้มู่เส้าเฉินได้กล่าวว่า “หลี่ชิเย่เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ สังหารศิษย์ของสามระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใหญ่ เป็นเรื่องที่ทุกคนในหล้าต่างเห็นมากับตา ดังนั้น จอมมารที่ทำร้ายแดนลัทธิพรรษเช่นนี้ ทุกคนมีสิทธิ์สังหาร และเป็นไปตามกระแสของใต้หล้า และเป็นความต้องการของทุกคนในแดนลัทธิพรรษ”

“อย่างนั้นรึ?” นักพรตฉางเซินเพียงยิ้มเฉยเมยเท่านั้น

“ดังนั้น ขอท่านนักพรตไตร่ตรองให้รอบคอบ” มู่เส้าเฉินจ้องมองดูนักพรตฉางเซิน เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “เกรงว่าหากเป็นศัตรูกับใต้หล้าแล้วจะไม่มีจุดจบที่ดี หากท่านนักพรตกระทำการตามความคิดของตนโดยไม่ฟังคำผู้อื่น เกรงว่าจะผลักให้ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตนลงไปในหุบเหวลึก เมื่อถึงตอนนั้น จะต้องมีศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะจำนวนเท่าไรที่ต้องเสียชีวิตเพียงเพราะจอมมารอย่างหลี่ชิเย่คนเดียว แล้วมีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องบ้านแตกสาเหรกขาดเพราะสิ่งนี้ ถึงเวลานั้น เกรงว่าท่านนักพรตฉางเซินเองก็ต้องตกต่ำจน…”

“ข่มขู่ข้ารึ?” นักพรตฉางเซินกล่าวตัดบทคำพูดของมู่เส้าเฉิน พลันมีแววตาที่เย็นชาและเอ่ยขึ้นช้าๆ

“ไม่ ท่านนักพรตเข้าใจผิดแล้ว” มู่เส้าเฉินรีบยิ้มกล่าวว่า “ข้าเพียงต้องการให้ท่านนักพรตได้รู้ว่า แม้เส้าเฉินจะเป็นเพียงบุคคลภายนอก แต่ก็ถือเอาแดนลัทธิพรรษเป็นบ้านหลังหนึ่ง ข้าคาดหวังให้แดนลัทธิพรรษมีความสงบสุข ปราศจาก ใต้หล้ามีความสงบ เพียงแต่จอมมารอย่างหลี่ชิเย่ยกตนข่มท่าน เป็นภัยทั่วหล้า เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ดังนั้น เส้าเฉินจึงยินดีก้าวออกมาอาศัยกำลังที่มีอยู่น้อยนิด หวังกวาดล้างพวกที่ทำตามอำเภอใจในแดนลัทธิพรรษ ทำการจัดระเบียบของแดนลัทธิพรรษขึ้นมาใหม่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล