ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2352

ขณะที่หลี่ชิเย่เข้าไปยังถ้ำหินที่มือตึดตื๋ออยู่นั้น ปรากฏเดือดพล่านไปทั่วเงินทองตกพื้นไปแล้ว เนื่องจากมู่เส้าเฉินกำลังจะมาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น นาทีนี้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจำนวนนับไม่ถ้วนของแดนลัทธิพรรษได้รวมตัวกันเป็นพันธมิตร ต่างทยอยกันประกาศต้องการปราบปรามจอมมารอย่างหลี่ชิเย่ ในขณะนี้หลี่ชิเย่ได้กลายเป็นมารร้ายที่ทุกคนตราหน้า เหมือนกลายเป็นบุคคลที่ทุกคนอยากจะกำจัด

ตูม…ตูม…ตูม…ขณะที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจำนวนมากได้รวมตัวกันเป็นพันธมิตรนั้น มาวันนี้ปรากฏเสียงดังตูมตามดังขึ้นไม่ขาดสาย มองเห็นเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง เปลวเพลิงที่ไม่มีสิ้นสุดพลันบดบังท้องฟ้าเอาไว้

เวลานี้นาทีนี้ เห็นรถม้าคันหนึ่งวิ่งมาช้าๆ สามารถมองเห็นประกายสีดำที่เปล่งออกมาจากระยะที่ห่างไกลมาก ประกายสีดำที่เป็นสายๆ แทงทะลุท้องฟ้าขึ้นไป มีอานุภาพที่หนักแน่นจริงจัง ทำให้ผู้คนรู้ว่าเป็นรถศักดิ์สิทธิ์ที่ยอดเยี่ยมมากตั้งแต่มองเห็น

อิ้วววเสียงร้องที่ใสดังขึ้นมาไม่ขาดสาย มองเห็นนกหงส์เขียวแปดตัวร้องขับขานเสียงยาว นกหงส์เขียวแปดตัวโบยบินอยู่บนท้องฟ้า งดงามยิ่งนัก ขนนกสีเขียวของพวกเขาเปล่งประกายออกมาดั่งหยกเขียว

ภายใต้การร้องขับขานของนกหงส์เขียวแปดตัว มองเห็นพวกมันลากรถศักดิ์สิทธิ์คันนี้บินอย่างรวดเร็วบนท้องฟ้า มุ่งหน้ามาทางด้านนี้ พวกมันบินได้รวดเร็วยิ่งนัก ท่ามกลางเสียงตูม ตูม ตูมที่ดังตูมตามเป็นระลอก รถศักดิ์สิทธิ์ได้บดขยี้ท้องฟ้าจนแหลกละเอียด

รถศักดิ์สิทธิ์วิ่งเข้ามา มองเห็นธงที่ปักอยู่ผืนหนึ่ง บนนั้นปักอักษรคำว่า ‘มู่’ ธงผืนนี้ไม่รู้ว่าใช้มานานเท่าไรแล้วดูเก่าแก่ยิ่งนัก ดูจากรูปแบบของธงแล้วน่าจะเป็นธงศึก แม้ว่ามันได้ผ่านกาลเวลามานานนับไม่ถ้วน ตัวอักษรคำว่า ‘มู่’ ยังคงเผยปณิธานสู้รบออกมาสายหนึ่ง เป็นปณิธานสู้รบที่ดุเดือดรุนแรงอย่างยิ่ง เป็นปณิธานสู้รบที่ทำให้ผู้คนต้องหวาดกลัวดั่งลูกนก

ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่สะท้านขึ้นภายในใจ เมื่อมองเห็นอักษรคำว่า ‘มู่’ บนธงผืนนั้น ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากต้องหลบไปไกลไม่กล้าขวางทางตั้งแต่มองเห็นอักษรคำว่า ‘มู่’ แต่ไกล

นายน้อยมู่มาแล้ว…มีเจ้าสำนักของสำนักเจ้าลัทธิรุ้สึกสะดุ้งในใจ เมื่อมองเห็นธงผืนนี้ ต่างทยอยกันลงจากรถม้ามาให้การต้อนรับ

รถศักดิ์สิทธิ์บดขยี้ท้องฟ้าใกล้เข้ามาทุกขณะ เมื่อทุกคนจ้องมองไป มองเห็นซ้ายขวาของรถศักดิ์สิทธิ์ล้วนแล้วแต่มีผู้เฒ่าสี่คนคอยคุ้มกัน ที่ทำให้ผู้คนตระหนกยิ่งกว่าก็คือผู้เฒ่าเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ทั้งสิ้น! แม้ว่าจะไม่ใช่ระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด แต่ยังคงมีศักยภาพที่น่าตกใจ

นกหงส์เขียวลากรถ ระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์เปิดทาง มองเห็นความหรูหราเช่นนี้แล้วหลายคนรู้สึกใจหายใจคว่ำ ต่อให้เป็นระดับบรรพบุรุษของสำนักเจ้าลัทธิก็ไม่เว้น ในโลกนี้ไม่มีกี่คนที่หรูหราฟุ่มเฟือยเช่นนี้อีกแล้ว

ต้องให้ระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์เปิดทางให้ ความหรูหราฟุ่มเฟือยเช่นนี้เกรงว่าคงมีแต่ผู้ดำรงอยู่ในฐานะเทพสงครามมังกรคชาธารที่ออกจากสำนักเท่านั้น เวลานี้นายน้อยมู่กลับมีความหรูหราเช่นนี้ ช่างเป็นการฝืนลิขิตสวรรค์เพียงใด

เมื่อรถศักดิ์สิทธิ์ขับเข้ามาใกล้ ผู้คนจำนวนมากต่างมองเห็นสภาพภายในรถได้อย่างชัดเจน มองเห็นภายในรถศักดิ์สิทธิ์มีชายหนุ่มนั่งอยู่คนหนึ่ง ชายหนุ่มผู้นี้สวมชุดกษัตริย์ แม้ว่าเขาจะมีอายุน้อย แต่เมื่อสวมใส่ชุดกษัตริย์นี้แล้วเหมือนว่าสมเหตุสมผลอย่างนั้น

ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าหล่อและรูปงามยิ่งนัก พลันที่เห็นก็รู้ว่าเป็นผู้ที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจ บุรุษผู้นี้มีคู่นัยน์ตาที่สดใสมาก นัยน์ตาคู่นี้ของเขาคล้ายดั่งอัญมณีที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสอง เสมือนดั่งดาวประกายพรึกบนท้องฟ้า สามารถก้าวข้ามทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างนั้น

ท่วงท่าของชายหนุ่มผู้นี้มีทีท่าหมางเมินทั่วหล้า แต่ไม่มีความพาลแบบนั้น ดังนั้น ท่วงท่าเช่นนี้ที่ปรากฎออกมาบนตัวของเขา ดูจะเป็นคนยโสและชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่ ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา อวดดียิ่งนัก

เวลานี้ ชายหนุ่มผู้นี้นั่งอยู่ภายในรถศักดิ์สิทธิ์ตะกองกอดซ้ายขวา ด้านซ้ายและขวาของเขามีสุดยอดสาวงามแห่งยุคนั่งอยู่สองคน คนหนึ่งสวมชุดสีแดง เปี่ยมด้วยความสูงส่ง พลันที่มองเห็นก็รู้ว่ามีชาติกำเนิดมาจากตระกูลขุนนางโบราณที่สูงส่ง ส่วนอีกผู้หนึ่งส่วมชุดเขียวทั้งชุด งดงามน่าประทับใจ เสมือนดั่งเป็นดอกกุหลาบที่เบ่งบานท่ามกลางหุบเขา เป็นที่ดึงดูดใจผู้คนยิ่งนัก มีเสน่ห์ที่เย้ายวนจิตใจผู้คน

เวลานี้สาวงามทั้งสองนั่งอยู่ซ้ายขวาของชายหนุ่ม ถูกชายหนุ่มตะกองกอดซ้ายขวา อีกทั้งหนึ่งในพวกนางป้อนสุราให้กับชายหนุ่ม ส่วนอีกคนปอกเปลือกผลไม้ แล้วนำผลไม้ที่ส่งประกายระยิบระยับป้อนเข้าปากของชายหนุ่ม

ชายหนุ่มดื่มสุรา เคี้ยวผลไม้ แถมยังหอมแก้มสาวงามทั้งสองอยู่เสมอ เสมือนดั่งเป็นการเสพสุขของราชันอย่างนั้น

“องค์หญิงสำนักเป่าฉี สาวหยกแห่งตระกูลขุนนางโอวหยาง!” ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยถึงกับหวั่นไหว บังเกิดความรู้สึกร้อยแปดพันเก้าในใจ เมื่อเห็นชายหนุ่มตะกองกอดซ้ายขวาสาวงามทั้งสอง

หญิงสาวที่เป็นสาวงามทั้งสองตรงหน้าคือองค์หญิงเหออวี่ถังแห่งสำนักเป่าฉี และโอวหยางซือฉี สาวหยกแห่งตระกูลขุนนางโบราณโอวหยาง พวกนางล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีชื่อเสียงของแดนลัทธิพรรษ ล้วนแล้วแต่เป็นสาวงามที่ติดอันดับของแดนลัทธิพรรษ แม้ว่าจะห่างชั้นเทียบไม่ได้กับเทพธิดาสงครามหวู่ปิงหนิง แต่ในแดนลัทธิพรรษก็นับว่ามีหนุ่มๆ ที่รักใคร่ในตัวนางไม่รู้จำนวนเท่าไร

“ไหนบอกว่านายน้อยมู่จะแต่งกับเทพธิดาสงครามมิใช่รึ? องค์หญิงหวินตู้ยังจะเป็นภรรยาน้อยของเขา!” ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่เมื่อเห็นภาพนี้แล้ว ถึงกับพูดเสียงแผ่วเบาที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม และกล่าวว่า “แล้วเพราะอะไรองค์หญิงของสำนักเป่าฉีถึงอยู่กับเขาได้!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล