แว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในพริบตาเดียวนั่นเอง หวู่ปิงหนิงได้ลงมือแล้ว พลันที่ง้าวสำแดงออกไป ปรากฎสายฟ้าที่วิ่งพรวดออกมาทันที พริบตาเดียวนั่นเอง สายฟ้าที่เป็นมัดดั่งน้ำหลากที่เทราดออกมาและพุ่งเข้าโจมตี
ได้ยินเสียงเปรียะเปรียะดังขึ้น สายฟ้าเสมือนดั่งน้ำหลากที่พุ่งพรวดทะลักออกมา แต่ว่าในด้านความเร็วนั้นไม่รู้ว่าเร็วกว่าน้ำหลากกี่เท่าตัว น่ากลัวอย่างยิ่ง ลองนึกภาพดู น้ำหลากที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า อานุภาพของมันจะน่าสยองขวัญเพียงใด มันสามารถพุ่งทำลายทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีสิ่งใดสามารถต้านทานได้
ดังนั้น จังหวะที่ง้าวถูกสำแดงออกไปในชั่วพริบตาเดียว ก็ได้ยินเสียงปังดังขึ้น ง้าวยังไม่ทันไปถึงแรงปะทะที่น่ากลัวได้ได้พุ่งทำลายท้องฟ้าที่ว่างเปล่านั้น ด้วยกระบวนท่าที่น่ากลัวพุ่งโจมตีเข้าไปกับพลังทำลายล้างรุนแรง ทุกๆ แนวป้องกัน พลังทุกอย่าง เคล็ดวิชาทุกวิชาก็ต้องถูกทำลายจนพังพินาศภายใต้กระบวนท่านี้
ที่น่าสยองขวัญที่สุดก็คือ ขณะที่สายฟ้าที่เป็นมัดพุ่งโจมตีเข้าไปดั่งน้ำหลากนั้น ท่ามกลางสายฟ้ายังปรากฏเสียงสัตว์ที่ร้องคำรามขึ้นมา ในพริบตาเดียวนั่นเอง ท่ามกลางสายฟ้าที่ดั่งน้ำหลากปรากฎร่างเงาของซวนหนีที่ดุร้ายขึ้นมา
ร่างเงาซวนหนีที่ดุร้ายตัวนี้วิ่งพรวดออกมา แล้วก็หายตัวไปในทันที นี่มันคือซวนหนีดุร้ายที่ดั่งสัตว์เทพนะเนี่ย ขณะที่มันพุ่งพรวดออกมานั้น กรงเล็บที่แหลมคมของมันพลันฉีกทำลายฟ้าดินในทันที ซวนหนีที่ดุร้ายวิ่งพล่านอยู่ท่ามกลางสายฟ้าดั่งน้ำหลากยิ่งเพิ่มความน่ากลัวมากขึ้นไปอีก มันดุจดั่งซวนหนีดุร้ายที่หิวโหยลงมาจากเขาอย่างนั้น ไม่ว่าสิ่งใดกั้นขวางตรงหน้าของมันก็ต้องถูกมันฉีกจนเป็นผุยผง
โฮ่ววว…ได้ยินเสียงร้องคำรามของซวนหนีท่ามกลางสายฟ้าที่ดั่งน้ำหลาก เสียงคำรามทำลายทุกสรรพสิ่ง ฉีกทำลายฟ้าดิน
ได้ยินเสียงปังดังขึ้น จังหวะที่ง้าวโจมตีเข้ามานั้น เหมือนว่าได้ทำให้ทุกสิ่งกลับคืนสู่จุดดั้งเดิม ภายใต้การโจมตีของง้าวเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกล้วนแล้วแต่ถูกทำลาย ทุกอย่างกลายเป็นศูนย์
ได้ยินเสียงฉึกดังขึ้นเสียงหนึ่ง กระบวนท่า ‘ซวนหนีไฟฟ้าลงเขา’ นี้รวดเร็วเหลือเกิน ผู้คนจำนวนมากยังไม่ทันได้มองเห็นอย่างชัดเจนว่ากระบวนท่านี้ถูกโจมตีออกมาได้อย่างใด ก็รู้สึกคล้ายหน้าผากของตนเย็นวาบ และเกิดมโนภาพขึ้นทันที เหมือนถูกง้าวแทงทะลุศีรษะของตนไปแล้ว ตกใจจนหวาดผวาขนลุกซู่ ก้าวถอยหลังติดต่อกันหลายก้าว
กระบวนท่าซวนหนีไฟฟ้าลงเขาคือหนึ่งในสิบสองกระบวนท่าหวู่จู่ และเป็นหนึ่งในสามกระบวนท่าที่เป็นกระบวนท่าเริ่มต้นของหวู่ปิงหนิง
พลันที่ง้าวพุ่งเข้าโจมตีองค์หญิงหวินตู้ด้วยความเร็วที่สุดยอดปราศจากผู้เทียบเทียม การโจมตีในลักษณะเช่นนี้นับว่ารวดเร็วเหลือเกิน รวดเร็วจนทำให้ผู้คนไม่สามารถจินตนาการได้ กระทั่งกล่าวได้ว่า ทุกคนยังสงสัยว่าองค์หญิงหวินตู้จะหลบเลี่ยงการโจมตีนี้ไปได้หรือไม่
แต่ทว่า องค์หญิงหวินตู้ที่เผชิญกับการโจมตีเช่นนี้ไม่เพียงไม่ได้หลบ จังหวะที่น้ำหลากสายฟ้าพุ่งโจมตีเข้ามาในพริบตาเดียวนั้น ร่างขององค์หญิงหวินตู้ถึงกับลอยตัวขึ้นมาในทันที ไม่รู้ว่าที่นางสำแดงออกมานั้นคือท่าร่างอะไรกันแน่ มองเห็นเพียงร่างของนางเสมือนดั่งลอยล่องไปตามลมอย่างนั้น
ในขณะที่องค์หญิงหวินตู้ล่องลอยขึ้นมานั้น นางคล้ายดั่งเป็นเมล็ดของดอกแดนดิไลออนที่ลอยล่องไปตามน้ำหลากสายฟ้า อีกทั้งตกลงไปท่ามกลางน้ำหลากสายฟ้าอีกด้วย
ในขณะที่องค์หญิงหวินตู้ที่ล่องลอยคล้ายเมล็ดพันธุ์แดนดิไลออนที่ตกลงไปในน้ำหลากสายฟ้านั้น นางได้ลงมือโดยพลัน อาวุธที่อยู่ในมือของนางหาใช่กระบี่หรือดาบ หรือเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์อะไรสักอย่าง แต่เป็นเส้นไหมโลหะที่ทั้งเล็กและยาวมากเส้นหนึ่ง คล้ายเป็นเส้นขนเส้นหนึ่งแต่มีความคล่องตัวอย่างยิ่ง
ได้ยินเสียงปุเสียงหนึ่ง พริบตาเดียวนั่นเอง มองเห็นไหมโลหะพลันเหมือนงูที่ว่องไวพันถักทอเข้าด้วยกัน ถึงกับจับเอาสายฟ้าเป็นมัดๆ นั้นค้ำยันเอาไว้ด้วยกันเหมือนขึงอยู่บนราว
สายฟ้าลักษณะเช่นนี้เกิดจากพลังของหวู่ปิงหนิงที่มีการจับตัวเข้าด้วยกัน มีพลังที่แข็งแกร่งทรงพลังอย่างยิ่ง เมื่อสายฟ้าที่เป็นมัดๆ ถูกจับไปขึงอยู่บนราวด้วยกันนั้น ทันใดนั้น ก่อให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นกับพลังของหวู่ปิงหนิง ทำให้การเคลื่อนที่ของพลังกลับกลายเป็นสับสนอย่างยิ่ง
ลองนึกภาพดู กระบวนท่า ‘ซวนหนีไฟฟ้าลงเขา’ ของหวู่ปิงหนิงนั้นคือกระบวนท่าที่พาลและดุดันยิ่งท่าหนึ่ง จังหวะที่นางสำแดงท่านี้ออกมานั้น พลัง และกำลังทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกจุดระเบิดขึ้นอย่างบ้าคลั่งในทันทีทันใด
ลองคิดดู เมื่อพลังและกำลังทั้งหมดที่ระเบิดขึ้นอย่างบ้าคลั่งในทันทีทันใดของหวู่ปิงหนิงเกิดสับสนวุ่นวายขึ้นกะทันหัน มันเป็นเรื่องที่น่ากลัวเพียงใด
ตูม…เสียงดังสนั่นขึ้นมา เมื่อหนึ่งกระบวนท่าของหวู่ปิงหนิงที่สำแดงออกไป ทันใดนั้น กระบวนท่า ‘ซวนหนีไฟฟ้าลงเขา’ ได้เกิดระเบิดขึ้น ได้ยินเสียงเปรียะ เปรียะ เปรียะดังขึ้น เหมือนทะเลไฟฟ้าเกิดระเบิดขึ้นอย่างนั้น ทำให้น้ำหลากสายฟ้าทั้งหมดวิ่งกันพล่าน
หวู่ปิงหนิงเองก็ถูกพลังของตนที่ระเบิดขึ้นจนตัวลอยในทันที และต้องกระอักเลือดออกมาอย่างแรง
พริบตาเดียวนั่นเอง เส้นโลหะในมือขององค์หญิงหวินตู้เสมือนดั่งสายฟ้า มองเห็นประกายแวบวับพุ่งตรงไปที่ลำคอของหวู่ปิงหนิง นางลงมือเหี้ยมโหดยิ่งนัก หวังเด็ดชีวิตหวู่ปิงหนิงจากการโจมตีเพียงครั้งเดียว
จังหวะที่เส้นโลหะยิงตรงไปที่ลำคอของหวู่ปิงหนิงนั้น เห็นร่างเงาของหวู่ปิงหนิงแวบหนึ่งพลันหายตัวไปทันที ทันใดนั้นเองหญ้าเร้นกายของนางได้สำแดงประโยชน์อย่างยอดเยี่ยมขึ้นมา
เมื่อองค์หญิงหวินตู้เห็นว่าลงมือพลาดก็ไม่กล้าเร่งสร้างผลงาน พลันล่าถอยกลับไปอยู่ข้างกายของมู่เส้าเฉินทันที
เสียงปังดังขึ้น ขณะที่หวู่ปิงหนิงปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ร่างของนางถูกกระแทกจนลอยออกไปและกระอักเลือดออกมา
สิ่งนี้ใช่ว่ามีใครที่ลอบโจมตีนาง แต่เป็นเพราะพลังของนางสับสน แม้ว่า ‘หญ้าเร้นกาย’ จะพานางหายตัวไป หลบการโจมตีที่ถึงแก่ชีวิตขององค์หญิงหวินตู้ไปได้ แต่ว่า ‘หญ้าเร้นกาย’ ไม่สามารถทำให้พลังที่สับสนสงบลงได้ ดังนั้น ขณะที่นางไปปรากฏตัวขึ้นอีกจุดหนึ่งนั้น พลังระเบิดที่ยังหลงเหลืออยู่ยังคงระเบิดจนร่างของหวู่ปิงหนิงต้องปลิวกระเด็นออกไป
กระบวนท่า ‘ซวนหนีไฟฟ้าลงเขา’ มีอานุภาพที่ปราศจากผู้เทียบเทียม ต่อให้เป็นหวู่ปิงหนิงเองหากคิดจะสลายพลังนี้ไปก็ไม่ง่ายดายนัก ภายในระยะเวลาอันสั้น กระบวนท่า ‘ซวนหนีไฟฟ้าลงเขา’ ของหวู่ปิงหนิงไม่เพียงไม่สามารถสังหารองค์หญิงหวินตู้ได้ กลับถูกกระบวนท่าของตนเองแว้งกัดจนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...