ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2366

เทพอินทรีหวินตู้…ทุกคนที่มองเห็นผู้เฒ่าที่อยู่ตรงหน้าแล้วต่างถึงกับกลั้นลมหายใจเอาไว้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องขนลุกซู่ในใจ เวลานี้เทพอินทรีหวินตู้เพลิงโกรธลุกโชนรุนแรง เพลิงโกรธของเขาเสมือนหนึ่งสามารถเผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกได้ ยิ่งสร้างความหวาดผวาจนขนลุกซู่ขึ้นมา

แต่เดิมขั้นอมตะคนหนึ่งนับว่ามีความแข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรอยู่แล้ว ระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์สู้ไม่ได้เลยเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าของเขา ยามที่ขั้นอมตะเช่นนี้โกรธแค้นอย่างบ้าคลั่งนั้น บรรยากาศแห่งความโกรธลักษณะเช่นนั้นช่างน่ากลัวอะไรเช่นนั้น เสมือนดั่งเป็นวันสิ้นโลกอย่างนั้น เหมือนว่าภูเขาไฟทั้งหมดบนโลกล้วนแล้วแต่จะปะทุระเบิดขึ้นมาอย่างนั้น เหมือนหนึ่งลาวาที่แตกกระจายท่วมโลกทั้งโลกจนจมมิดอย่างนั้น

ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องสั่นเทิ้มทีหนึ่ง เข่าอ่อนทั้งสองข้าง กระทั่งไม่กล้าจ้องมองเทพอินทรีหวินตู้ตรงๆ เมื่อรับรู้ถึงความโกรธที่น่ากลัวของเทพอินทรีหวินตู้

ในเวลานี้ ไม่รู้ว่ามีระดับบรรพบุรุษ ยอดฝีมือจำนวนเท่าไรที่ค่อยๆ ถอยฉากออกไป พวกเขาต่างควบคุมอารมณ์และคำพูดถอยหลังไปอย่างเงียบเชียบ ด้วยเกรงว่าจะรบกวนคนอื่นๆ

เนื่องจากการลงมือของขั้นอมตะคนหนึ่งที่โกรธอย่างบ้าคลั่ง เกรงว่าพลันที่เขาลงมือก็ต้องทำลายฟ้าดินเป็นแน่แท้ พลังที่น่ากลัวจะบดขยี้ทุกสิ่งทุกอย่างในที่นี้จนกลายเป็นเถ้าธุลีไป เกรงว่าถ้าหากทุกคนอยู่ใกล้สมรภูมิต่อสู้ใกล้เกินไปล่ะก็ อาจจะพลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย ภายใต้การโจมตีด้วยความโกรธของเทพอินทรีหวินตู้ ไม่แน่นักพวกเขาอาจจะถูกคลื่นพลังที่หลงเหลืออยู่เข้าให้ เมื่อถึงตอนนั้นพวกเขาไม่รู้กระทั่งว่าตัวเองตายได้อย่างไร

เทพแท้จริง ขั้นอมตะ… เวลานี้ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องรู้สึกสั่นเทาภายในใจขณะจ้องมองดูเทพอินทรีหวินตู้ ผ่านไปกี่ปีแล้วที่ยากนักสำหรับทุกคนที่จะได้เห็นเทพแท้จริงขั้นอมตะที่แท้จริง

กล่าวสำหรับเทพแท้จริงขั้นอมตะแล้ว เมื่อใดที่พวกเขาก้าวสู่ขั้นอมตะแล้วก็มีโอกาสได้ก้าวขึ้นไปยังแดนลัทธิราชัน ขณะเดียวกัน ประโยชน์ที่ดีที่สุดในการก้าวขึ้นไปยังแดนลัทธิราชันก็คือ อายุขัยจะยืนยาวมากกว่าอยู่ที่แดนลัทธิพรรษไม่น้อยเลยทีเดียว

ด้วยเหตุนี้เอง ขั้นอมตะส่วนใหญ่ที่มีศักยภาพเช่นนั้นแล้ว ก็จะทยอยกันไปจากแดนลัทธิพรรษขึ้นไปยังแดนลัทธิราชัน จะอย่างไรเสียยอดฝีมือระดับนี้ล้วนแล้วแต่มีอายุมากกันแล้ว กระทั่งอายุขัยกำลังจะเหือดแห้ง ดังนั้น พวกเขายินดีก้าวขึ้นสู่แดนลัทธิราชันมากกว่า กล่าวสำหรับพวกเขาแล้วไม่มีสิ่งใดสำคัญมากไปกว่าการมีอายุขัยที่ยืนยาวมากขึ้นอีกแล้ว

สุดท้ายแล้ว เทพแท้จริงขั้นอมตะที่ยังคงเหลืออยู่จึงมีน้อยมากๆ เทพแท้จริงขั้นอมตะที่ยังคงรั้งอยู่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นประเภทไม่อาจปล่อยวางระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของตนได้ อาสาอยู่คุ้มครองในแดนลัทธิพรรษเอง

ด้วยเหตุนี้เอง แม้ว่าแดนลัทธิพรรษในทุกยุคทุกสมัยล้วนแล้วแต่ให้กำเนิดเทพแท้จริงขั้นอมตะไม่น้อยทีเดียว แต่ว่า ท้ายสุดเทพแท้จริงขั้นอมตะที่ยังคงรั้งอยู่ที่แดนลัทธิพรรษมีหร็อมแหร็มเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

เทพอินทรีหวินตู้หยางซิ่นก็คือเทพแท้จริงขั้นอมตะที่รั้งอยู่และเฝ้าปกป้องอยู่ที่แดนลัทธิพรรษ เขามีศักยภาพที่จะขึ้นสู่แดนลัทธิราชันมานานมากแล้ว แต่ว่า เขากลับไม่หวั่นไหวกับสิ่งนี้

เป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่าก็คือ การมาที่แดนลัทธิพรรษของมู่เส้าเฉินในครั้งนี้ เทพอินทรีหวินตู้ถึงกับยอมเสี่ยงต่อการสูญเสียอายุขัยกลับสู่ยุทธภพ เพื่อสนับสนุนมู่เส้าเฉินอย่างแข็งขัน ซึ่งเป็นเรื่องที่หาได้ยากจริงๆ

“ไม่สับเจ้าให้เป็นหมื่นๆ ชิ้น ข้าจะไม่แซ่หยาง!” เวลานี้เทพอินทรีหวินตู้ถึงกับขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน อดที่จะร้องคำรามออกมาด้วยความโกรธ

ขณะที่เขาคำรามออกมาด้วยความโกรธ ทำให้ดวงดาวต้องแหลกละเอียดไป ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องกระอักเลือดออกมาอย่างแรงเมื่อถูกพลังคลื่นเสียงที่หลงเหลืออยู่กระทบเข้า การร้องคำรามด้วยความโกรธของเขานั้นเจาะจงพุ่งเป้าไปที่หลี่ชิเย่ แต่ว่า แม้แต่เทพแท้จริงทั่วไปยังยากที่จะรองรับได้เมื่อถูกคลื่นพลังเสียงที่หลงเหลืออยู่ถูกตัว ช่างเป็นกำลังความสามารถที่น่ากลัวเหลือเกิน

การที่อินทรีเทพของเขาถูกหลี่ชิเย่เหยียบจนกลายเป็นเนื้อบดต่อหน้าผู้คนทั่วหล้า ทำให้เทพอินทรีหวินตู้เลือดเข้าตาแล้วจริงๆ อยากจะลอกเส้นเอ็น ถลกหนังของหลี่ชิเย่เสียให้มันรู้แล้วรู้รอดไป!

แต่ว่า ต่อให้เสียงคำรามด้วยความโกรธของเทพอินทรีหวินตู้ที่สามารถทำลายดวงดาวจนแหลกละเอียดได้ก็ตาม หลี่ชิเย่ยังคงไม่หวั่นไหว ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบสงบ เอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“เจ้าจะแซ่หยางหรือไม่มันเกี่ยวอะไรกับข้า” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมยและกล่าวว่า “ต่อให้เจ้าไม่แซ่หยางแล้ว วันนี้ก็หนีความตายไปไม่พ้น”

คำพูดคำนี้ทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องมองหน้ากันและกัน ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกใจหายใจคว่ำ

หากเป็นเมื่อก่อน จะต้องมีผู้คนจำนวนมากที่คิดว่าหลี่ชิเย่นั้นกล่าววาจาสามหาวไม่รู้จักคำว่าตาย ถึงกับกล้าพูดคำว่า “ยากจะหนีความตายได้พ้น” มันเป็นการอวดดีมากเหลือเกิน

แต่ว่า หลังจากได้รู้จักการเข่นฆ่าไร้ความปราณีของหลี่ชิเย่แล้ว ผู้คนจำนวนมากถึงกับสะดุ้งในใจเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ เจ้าหมอนี่เรียกว่าพาลจนสุดจะหาผู้ใดเทียบเทียมจริงๆ ไม่สามารถบรรยายความพาลของเขาด้วยหมึกและพู่กัน

“คนโหดอันดับหนึ่ง คงมีเพียงเขาเท่านั้นที่มีสิทธิ์เรียกขานเช่นนี้แล้ว” ระดับบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิถึงกับพึมพำขึ้นมา

“ดี ดี ดี…” เทพอินทรีหวินตู้โกรธจัดจนต้องหัวเราะออกมา หัวเราะเสียงดังและกล่าวว่า “กี่ปีมาแล้วนี่ที่ไม่มีใครกล้าพูดคำพูดเช่นนี้ต่อหน้าข้ามาแล้ว ดี ดี ดีคนหนุ่มมีพลังที่น่าเคารพเลื่อมใสยิ่ง”

“แต่ ยังคงยากจะหนีความตายได้พ้น!” ครั้นเทพอินทรีหวินตู้เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว ดวงตาทั้งสองดูไม่เป็นมิตร เผยให้เห็นถึงปณิธานการฆ่าที่สยองขวัญยิ่ง ปณิธานการฆ่าที่อยู่ในดวงตาทั้งสองคล้ายดั่งเป็นของมีคมแต่ละเล่มที่กำลังเฉือนเนื้อของคนอย่างนั้น ทำให้ผู้คนรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่าง

“วันนี้ ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าให้ตายในทันที ข้านี่แหละจะถลกหนังของเจ้าออกมาทีละนิดๆ เลาะเอาเส้นเอ็นแต่ละเส้นออกมา ให้เจ้าร้องโหยหวนไปร้อยวัน ให้เสียงโหยหวนของเจ้าดังก้องไปทั่วแดนลัทธิพรรษ…” ครั้นเทพอินทรีหวินตู้เอ่ยมาถึงตรงนี้ก็ได้เผยรอยยิ้มที่โหดเหี้ยมออกมา

“เอาล่ะ ข้ารู้แล้ว” หลี่ชิเย่โบกมือเบาๆ กล่าวตัดบทคำพูดของเทพอินทรีหวินตู้ กล่าวท่าทีเฉยเมยว่า “ความฝันนับว่างดงามอย่างยิ่ง เสียใจด้วย ข้าอดที่จะทำให้เจ้าฝันค้างไม่ได้ เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น หนึ่งเดียวที่จะเกิดขึ้นก็คือข้าข้าสังหารเจ้าเสีย!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล