ผ่าทวนยาวออกสองซีก ฟันแขนเทพอินทรีหวินตู้ขาดทั้งสองข้าง ทั้งหมดนี่เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้นเอง
อีกทั้งในชั่วพริบตาเดียวนั้น ไม่ได้มีท่าการโจมตีที่สะเทือนเลื่อนลั่น ไม่มีกระบวนท่าที่สุดยอดปราศจากผู้ต่อกรในหล้า ไร้ซุ่มไร้เสียง ไร้เงาไร้รูป กระทั่งไม่มีผู้ใดมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหลี่ชิเย่นั้นลงมืออย่างไร
เลือดสดๆ ไหลไปตามตัวกระบี่และหยดลงพื้นทีละหยดๆ ไหลท่วมและย้อมดินบริเวณนั้น
เมื่อเลือดสดๆ ไหลรินผ่านกระบี่ จังหวะนั้นทุกคนจึงได้มองเห็นกระบี่เล่มนั้นที่อยู่ในมือหลี่ชิเย่อย่างชัดเจนโดยแท้ มันบางดั่งปีกจั๊กจั่น ไร้เงาไร้รูป ตัวกระบี่คมกริบจนสุดจะจินตนาการได้
มันคือกระบี่คริสตัล หนึ่งใน ‘กระบี่สิ้นสุด’ ของหลี่ชิเย่นั่นเอง กระบี่ดังกล่าวมีความคมอย่างที่สุด หนึ่งกระบี่ที่สะบัดออกไปปราศจากสิ่งใดต้านทานได้ สามารถผ่าทุกสิ่งทุกอย่างได้โดยพลัน
แม้ว่าทวนดาราหวินตู้ของเทพอินทรีหวินตู้ยอดเยี่ยมมากไปกว่านี้ แม้ว่าวัสดุที่ใช้ในการสร้างทวนยาวเล่มนี้จะอาศัยดวงดาวที่ล้ำค่าและหาได้ยากยิ่งในการหลอมสร้างขึ้นมา ยังคงต้านกระบี่คริสตัลของหลี่ชิเย่ไม่ได้ ภายใต้การตัดของกระบี่คริสตัลแล้ว พลันถูกฟันแยกออกเป็นสองชิ้นเหมือนแผ่นเต้าหู้อย่างนั้น
หากไม่เป็นเพราะเทพอินทรีหวินตู้ไหวพริบดี ล่าถอยไปในชั่วพริบตาเดียวล่ะก็ เกรงว่าหนึ่งกระบี่เช่นนี้ของหลี่ชิเย่คงจะฟันร่างกายของเทพอินทรีหวินตู้ออกเป็นสองท่อน
ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่มองเห็นแขนที่ขาดและมีเลือดไหลหยดลงพื้นคู่นั้นของเทพอินทรีหวินตู้แล้ว ถึงกับผวาดผวาจนขนลุกซู่ ร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่ง กระทั่งมีผู้ที่กระเพาะบิดตัว อยากจะอาเจียนออกมา
หนึ่งกระบี่ผ่าเอาทวนยาวของเทพแท้จริงขั้นอมตะแยกออก และฟันแขนทั้งสองข้างของเขาขาด มันช่างเป็นเรื่องที่น่าสยองขวัญเพียงใด ถ้าหากหนึ่งกระบี่นี้ฟันใส่ตัวของพวกเขา ต้องจัดการฟันพวกเขาเป็นสองท่อนอย่างแน่นอน ไม่มีกำลังแม้แต่จะขัดขืน
ปุ…เสียงหนึ่งดังขึ้น เลือดสดๆ แตกกระจาย เพียงชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง แขนคู่นั้นของเทพอินทรีหวินตู้ที่ถูกตัดขาดพลันถูกสร้างขึ้นมาใหม่ภายในระยะเวลาอันสั้น แขนคู่หนึ่งที่สมบูรณ์ไร้ที่ติปรากฏขึ้นมาแล้ว
ผู้ที่ก้าวมาถึงระดับเฉกเช่นเทพอินทรีหวินตู้นี้แล้ว ขอเพียงเขายังคงมีชีวิตอยู่ เขาก็สามารถสร้างกายเนื้อขึ้นมาได้ใหม่ทุกที่ทุกเวลา แม้ว่าร่างทั้งร่างถูกทำลายไปทั้งหมด เขายังคงสร้างร่างกายที่ใหม่ทั้งหมดขึ้นมาได้ใหม่เช่นเดิม
ดังนั้น กล่าวสำหรับเทพอินทรีหวินตู้แล้ว การสร้างแขนสองข้างขึ้นมาใหม่หาใช่เรื่องใหญ่แต่อย่างไร เป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากเสียอีก
ถึงแม้ว่าการสร้างแขนสองข้างขึ้นมาใหม่หาใช่เป็นเรื่องยากอะไรสำหรับเทพอินทรีหวินตู้ แต่ว่า นาทีนี้สีหน้าของเขาดูไม่จืดถึงขีดสุด สายตาคู่นั้นของเขาที่จ้องมองหลี่ชิเย่นั้นถึงกับม่านตาหดลง
เขามีฐานะเป็นถึงขั้นอมตะ แต่จากการปะมือกันเพียงแค่หนึ่งกระบวนท่าเท่านั้น ก็ถูกหลี่ชิเย่ผ่าทวนดาราหวินตู้ออก แถมถูกตัดแขนขาดสองข้าง สิ่งนี้กล่าวสำหรับเขาแล้วมันคือความอัปยศอย่างยิ่ง
ผู้คนจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะระดับบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิต่างทยอยกันหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อเห็นแขนทั้งสองของเทพอินทรีหวินตู้ได้งอกขึ้นมาใหม่
สิ่งนี้หาใช่เป็นเพราะบรรดาระดับบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิเหล่านี้ให้การสนับสนุนเทพอินทรีหวินตู้ หรือยืนอยู่ข้างฝ่ายของเทพอินทรีหวินตู้ แต่เป็นเพราะเทพอินทรีหวินตู้เป็นตัวแทนของยอดฝีมือรุ่นอาวุโสของพวกเขา ในฐานะเทพแท้จริงขั้นอมตะคนหนึ่ง เทพอินทรีหวินตู้ย่อมเป็นตัวแทนเกียรติยศรุ่นอาวุโสเช่นพวกเขาในระดับหนึ่ง เวลานี้ หากเทพแท้จริงขั้นอมตะที่แข็งแกร่งที่สุดในรุ่นอาวุโสของพวกเขาก็ยังรับมือกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างหลี่ชิเย่ไม่ได้แม้เพียงกระบวนท่าเดียวล่ะก็ เช่นนั้นแล้วก็จะเป็นที่ผิดหวังของบรรดาพวกเขาที่เป็นยอดฝีมือรุ่นอาวุโส
ถ้าหากเทพอินทรีหวินตู้ไม่สามารถรับมือหลี่ชิเย่ได้แม้เพียงกระบวนท่าเดียว เช่นนั้นแล้วพวกเขาที่เป็นระดับบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่อยู่แล้ว พวกเขาที่เป็นรุ่นอาวุโสคงต้องไสหัวกลับไปพักผ่อนในฐานะผู้แก่ผู้เฒ่าแล้วล่ะ อนาคตจะเป็นโลกของกลุ่มคนรุ่นใหม่แล้ว
ด้วยเหตุนี้เองไม่รู้ว่ามีระดับบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิที่หายใจด้วยความโล่งอก เมื่อเห็นแขนทั้งสองของเทพอินทรีหวินตู้สมบูรณ์ไม่มีสึกหรอ อย่างน้อยเทพอินทรีหวินตู้ยังคงสู้ต่อไปได้อีก
เวลานี้ เทพอินทรีหวินตู้จ้องเขม็งไปที่กระบี่คริสตัลในมือของหลี่ชิเย่ ม่านตาของเขาหดตัวเนื่องจากมองไม่รู้ว่ากระบี่ในมือหลี่ชิเย่คือกระบี่อะไร ทำให้ไม่สามารถสอดส่องถึงความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของกระบี่เล่มนี้ได้
ขณะที่หลี่ชิเย่ลงมือนั้นคนอื่นไม่ทันได้เห็นอย่างชัดเจน แต่ว่า เขากลับมองเห็นชัดเจน ขณะที่หนึ่งกระบี่ของหลี่ชิเย่ที่ฟาดฟันมานั้นไม่มีกระบวนท่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันมานั้นกลับผ่าทวนยาวของเขาจนแยกออก
เขาไม่เคยเห็นกระบี่เช่นนี้มาก่อน และเขาก็ไม่เชื่อว่าบนโลกนี้จะมีกระบี่ที่คมได้ถึงเพียงนี้ ไม่มีวัสดุใดๆ สามารถสร้างกระบี่ที่คมกริบปราศจากผู้เทียบเทียมเช่นนี้ได้
สุดท้าย เห็นร่างของเทพอินทรีหวินตู้แวบหนึ่งพลันล่าถอยไปทันที แต่ว่า เขาไม่ได้หลบหนีไป แต่เป็นการเว้นช่วงห่างกับหลี่ชิเย่ให้มากขึ้น ทั้งยังเป็นการดึงช่วงห่างกับหลี่ชิเย่ออกไปอย่างเพียงพอ เทพอินทรีหวินตู้ในเวลานี้อยู่บนท้องฟ้าสูง ยึดชัยภูมิที่ได้เปรียบจากที่สูง
“เยี่ยมมาก” เวลานี้เทพอินทรีหวินตู้กล่าวน่าเกรงขามว่า “แต่ว่า สิ่งนี้ไม่ได้แทนว่าเจ้านั้นปราศจากผู้ต่อกร วันนี้หากไม่สังหารเจ้าข้าจะไม่เลิกรา”
หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมยและกล่าวว่า “อาศัยเพียงเจ้าเกรงว่าคงเป็นการฝันกลางวันแล้ว ไม่ก็พวกเจ้าเข้ามาพร้อมกันสองคน!” กล่าวพลาง มองดูมู่เส้าเฉินที่ยืนเหม่ออยู่ข้างๆ มาโดยตลอด
มู่เส้าเฉินยืนอยู่ด้านข้างตรงนั้นด้วยความสงบท่ามกลางขั้นตอนที่เกิดขึ้น โดยไม่ได้หนีไปไหน เหมือนว่ากำลังครุ่นคิดถึงวิธีการเอาชนะศัตรูอยู่ อีกทั้งในขณะนี้แววตาของเขาดูสว่างไสวขึ้น เหมือนว่าคิดหาวิธีที่จะเอาชนะหลี่ชิเย่ได้แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...