ในพริบตาเดียวนั่นเอง เกิดการสั่นไหวโคลงเคลงไปมาที่เงินทองตกพื้น แม้ว่าไม่ได้มีเสียงของฟ้าดินที่ถูกทำลายพินาศย่อยยับ แต่ภายในใจของทุกคนล้วนแล้วแต่บังเกิดเสียงตูมดังขึ้นมา คล้ายมีอะไรบางสิ่งที่เกิดระเบิดขึ้นโดยพลัน
ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ทุกคนต่างหวาดหวั่นพรั่นพรึงจนขนลุกซู่และร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่ง เหมือนว่ามีเงาทมิฬที่น่ากลัวยิ่งครอบลงกลางใจของตนอย่างนั้น
แดนปรลัยราชัน…ทันใดนั้นเอง จิตใต้สำนึกบรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดที่อยู่ในเงินทองตกพื้นต้องมองไปยังทิศทางอันเป็นที่ตั้งของแดนปรลัยราชัน แม้แต่ผู้ที่ไม่รู้ว่าแดนปรลัยราชันตั้งอยู่ที่ใดก็ยังมองไปยังทิศทางดังกล่าว เนื่องจากความรู้สึกหวาดกลัวที่อยู่ภายในจิตใจของผู้คนทุกคนก็มาจากทิศทางนั้น
“มันคือแดนปรลัยราชัน” ระดับบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิผู้หนึ่งกล่าวว่า “เป็นจอมวายร้ายในแดนปรลัยราชันถูกปลุกให้ฟื้นตื่นขึ้นมา ตามตำนานกล่าวไว้ว่าเป็นมารร้ายที่อยู่ในความมืดตนนี้สังหารปฐมบรรพบุรุษเซิ่นอี”
“ใครกันนะที่ไปรบกวนเจ้ามารร้ายตนนี้?” แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่ที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรก็ยังต้องมีสีหน้าที่ขาวซีดในเวลานี้ ร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่ง สมควรทราบว่าแม้แต่ปฐมบรรพบุรุษเซิ่นอียังต้องสู้จนตัวตายอยู่ด้านใน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่นๆ อีกแล้วล่ะ
“ถ้าหากมีใครไปรบกวนทำให้จอมมารร้ายแตกตื่นจริงล่ะก็ มันเป็นการรนหาที่ตายชัดๆ แม้แต่ปฐมบรรพบุรุษเซิ่นอีก็สู้รบจนตัวตายอยู่ในนั้น ยิ่งไม่พูดถึงคนอื่น” ระดับเจ้าสำนักถึงกับเสียวสันหลังวาบ “มีเพียงคนที่จะฆ่าตัวตายเท่านั้นที่เข้าไป”
ในเวลานี้ ยอดฝีมือทุกคนที่อยู่ในเงินทองตกพื้นต่างตกใจเป็นการใหญ่ ไม่มีใครรู้ว่าเป็นใครกันที่ไปทำให้มารร้ายตนนั้นภายในแดนปรลัยราชันแตกตื่น ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ร่างสั่นเทิ้ม และพึมพำขึ้นมาว่า “นี่มันเสียสติไปแล้วชัดๆ กล้าไปกระทั่งแดนปรลัยราชัน”
เสียงตูมดังสนั่นขึ้นภายในตำหนักโบราณ เงาทมิฬไม่พูดไม่จา พลันที่ปรากฏตัวก็หนึ่งฝ่ามือยักษ์ที่ฟาดลงมาเพื่อสังหาร ภายใต้ฝ่ามือยักษ์เช่นนี้ ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่แตกสลาย ทุกสิ่งล้วนถูกยิงจนกลับสู่จุดดั้งเดิม ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนจมหายไปในบัดดล ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่ไม่ได้ดำรงอยู่อีกต่อไป ปราศจากเวลา ปราศจากช่องว่าง ทุกสิ่งทุกอย่างกลับไปสู่จุดเดิม
ภายใต้หนึ่งฝ่ามือลักษณะเช่นนี้ แม้แต่เทพแท้จริงขั้นอมตะล้วนแล้วแต่ถูกบดขยี้จนแหลกละเอียด หนึ่งฝ่ามือที่น่ากลัวเช่นนี้เกรงว่าคงมีเพียงผู้ดำรงอยู่ในฐานะปฐมบรรพบุรุษจึงสามารถต้านรับไว้ได้
หลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่รู้สึกหวั่นไหว เมื่อต้องเผชิญกับหนึ่งฝ่ามือที่ทำลายล้างโลกเช่นนี้ ยิ้มเฉยเมยและกล่าวว่า “เจ้าก็แค่หลงทางเท่านั้นเอง เจ้าสมควรชี้นำทางให้ข้าได้พบกับผู้ดำรงอยู่ในฐานะเงินทองตกพื้นที่แท้จริง!”
ระหว่างที่หลี่ชิเย่พูดคุยอยู่นั้น บนฝ่ามือได้ถือลูกบอลน้ำอยู่ลูกหนึ่งไว้แล้ว ลูกบอลน้ำลูกนี้ดูไปแล้วคล้ายเป็นดวงตาของน้ำที่เป็นฟอง ทั้งใหญ่และสุกใส
ดวงตาของน้ำที่เป็นฟองลูกนี้หลี่ชิเย่ไปได้มาจากบริเวณส่วนที่ลึกที่สุดของเมืองปี้โซ่วเฉิง ณ ที่ตรงนั้นแม้แต่ปี้โซ่วที่คล้ายวัวขุยหนิวก็เคยเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ใหม่ทั้งหมด
แว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น เวลานี้ดวงตาของน้ำที่เป็นฟองนี้พลันกลับกลายเป็นสุกใสยิ่งนัก เสมือนดั่งส่องสว่างไสวไปทั่งทั้งโลกาอย่างนั้น พลันส่องให้โลกที่กว้างใหญ่ไพศาลและโล่งแห่งนี้จนสว่างไสวปราศจากผู้เทียบเทียม และขับไล่ความมืดมิดทั้งหมดไปในทันที
จี๊ด จี๊ด จี๊ดเสียงที่ดังขึ้นเป็นระลอก ในพริบตาเดียวนั่นเอง เงาทมิฬที่น่ากลัวอย่างยิ่งพลันถูกดวงตาขนาดยักษ์ปราศจากผู้เทียบเทียมดูดเข้ามาหา กลายเป็นหมอกควันสีดำเป็นสายๆ ลอยเข้าไปในดวงตาของน้ำที่เป็นฟอง
เงาทมิฬนี้รู้สึกหวาดกลัวยิ่งนัก คิดหันหลังหนีไป แต่ทุกอย่างสายไปเสียแล้ว เหมือนว่าแต่เดิมมันกับดวงตาของน้ำที่เป็นฟองนี้เป็นร่างเดียวกัน เมื่อดวงตาของน้ำที่เป็นฟองนี้ปรากฏขึ้นมา มันก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองและถูกดูดเข้าไปทันที
เสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้นมาไม่ขาดสาย ภายในระยะเวลาอันสั้น เงาทมิฬที่น่ากลัวอย่างยิ่งพลันถูกดวงตาของน้ำที่เป็นฟองดูดเข้าไปจนหมดสิ้น
ในเวลานี้ เงาทมิฬดังกล่าวถูกรวบรวมไปอยู่บริเวณตรงกลางของดวงตาของน้ำที่เป็นฟอง ดูไปแล้วเวลานี้จึงนับเป็นดวงตาที่สมบูรณ์โดยแท้จริง
ก่อนหน้านั้น ดวงตาของน้ำที่เป็นฟองดูไปแล้วเป็นเพียงแก้วตาที่ไม่มีรูม่านตาเท่านั้น แต่ว่า เมื่อมันได้ดูดเอาเงาทมิฬเข้าไปแล้ว เงาทมิฬก็ได้กลายเป็นรูม่านตาของดวงตาของน้ำที่เป็นฟอง ทั้งดำและสว่างแวววาว
ก๊อก ก๊อกเสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้ดวงตาของน้ำที่เป็นฟองซึ่งถืออยู่บนฝ่ามือของหลี่ชิเย่ถึงกับมีการเคลื่อนไหว คล้ายกับตาของคนที่มีการกรอกตาไปมาอย่างนั้น คนที่ขวัญอ่อนคงตกใจน่าดูกับสิ่งนี้
“สิ่งนี้แหละที่เป็นต้นกำเนิดของเจ้า” หลี่ชิเย่มองดูดวงตาของน้ำที่เป็นฟองบนมือ หัวเราะและกล่าวว่า “ได้เวลาสมควรนำทางให้ข้าได้แล้ว”
เสียงปุดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ดวงตาของน้ำที่เป็นฟองนี้เหมือนรู้ฟังคำพูดของหลี่ชิเย่อย่างนั้น
แว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้เอง ดวงตาของน้ำที่เป็นฟองได้เปล่งแสงออกมาอีกครั้งหนึ่ง แสงดังกล่าวมีความสว่างไสวมากขึ้นเรื่อยๆ และดวงตาของน้ำที่เป็นฟองเหมือนค่อยๆ ละลายไปอย่างนั้น ถึงกับเหมือนน้ำใสแจ๋วที่กระเพื่อมเป็นวงและเปล่งประกายออกมายามต้องแสงอาทิตย์ อีกทั้งวงแหวนที่เกิดจากการละลายนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นๆ สุดท้าย ดวงตาของน้ำที่เป็นฟองก็ได้ละลายจนหมดอย่างสิ้นเชิง
ดวงตาของน้ำที่เป็นฟองหลังจากละลายไปจนหมดโดยสิ้นเชิงแล้ว ได้ละลายเหมือนหนึ่งกลายเป็นทะเลสาบอย่างนั้น อีกทั้งเป็นทะเลสาบที่มีน้ำซึ่งใสแจ๋ว แต่ทว่า ตรงกลางของทะเลสาบกลับมีความมืดอยู่ก้อนหนึ่งที่เหมือนไม่สามารถทำให้มันจางหายไปได้
นาทีนี้ความมืดกลางทะเลสาบที่ไม่สามารถทำให้จางหายไปได้นั้น ได้ค่อยๆ หมุนวนรอบตัวขึ้นมาจนกลายเป็นเหมือนวังวนที่คล้ายบันไดทอดยาวไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของทะเลสาบ
หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมย และก้าวเท้าลงไปในทะเลสาบทันที เมื่อมองเห็นบันไดวังวนดำมืดที่ทอดยาวออกไปยังบริเวณที่ลึกยิ่งกว่านี้
เสียงปุเสียงหนึ่งดังขึ้น จังหวะที่หลี่ชิเย่ก้าวเดินบนบันไดดำมืดที่เสมือนวังวนสายนี้ ทั่วทั้งช่องว่างคล้ายมีการหลอมละลายไปอย่างนั้น
เมื่อหลี่ชิเย่ก้าวเท้าขึ้นไปบันไดดำมืดนั้น ช่องว่างช่องนั้นคล้ายค่อยๆ หลอมละลายไปอย่างนั้น ในเวลานี้เหมือนว่าช่องว่างทั้งหมดภายใต้ฟ้าดินล้วนแล้วแต่ทับซ้อนกันกับทะเลสาบอย่างช้าๆ และค่อยๆ ละลาย จนสุดท้ายช่องว่างและทะเลสาบก็หลอมกลายเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่สามารถแยกได้อีกว่าคือช่องว่างหรือทะเลสาบกันแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...