ท้องฟ้าเงียบสงัดโดยทั่วไป ดวงตาที่ใหญ่โตมโหฬารนั่นยังคงจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่ แววตาที่รวมอยู่จุดเดียวนั้น คล้ายทางช้างเผือกที่อยู่ภายใต้ท้องฟ้าที่คลาคล่ำไปด้วยดวงดาวเกิดระเบิดขึ้นมาอย่างนั้น
“ยืมดวงตาของข้า” สุดท้าย จิตเทพได้ดังขึ้นภายในใจอีกครั้ง และกล่าวว่า “มองโลกโดยผ่านดวงตาของข้า นี่หาใช่เป็นเพียงการทำลายให้พินาศย่อยยับเท่านั้น เกรงว่าเป็นการทำให้ชีวิตต้องตกต่ำอยู่ในความทุกข์ทรมาน ผู้กล้าจำนวนเท่าไรนับแต่อดีตต่างตกต่ำลงอยู่ท่ามกลางความมืดมิด หากยืมดวงตาของข้าไปมองดู จะมีสักกี่คนที่สามารถยืนหยัดไปได้?”
“ข้าขอบใจในความหวังดีนี้” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมยและกล่าวว่า “บางทีข้าอาจไม่ใช่ผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุดในอดีตคนนั้น บางทีบนโลกอาจมีคนจำนวนมากที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งมากยิ่งกว่าข้าเสียอีก แต่ทว่า หากพูดถึงจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรแล้ว ข้าไม่สะทกสะท้านตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน”
เมื่อหลี่ชิเย่ได้พูดคำๆ นี้ออกมา ท้องฟ้าได้นิ่งเงียบอีกครั้ง เหมือนว่ากำลังชั่งน้ำหนักอยู่อย่างนั้น และคล้ายดั่งกำลังไตร่ตรองอยู่อย่างนั้น
ไม่รู้ว่าเวลาได้ผ่านไปนานเท่าไรแล้ว สุดท้ายจิตเทพได้ดังขึ้นภายในใจอีกครั้ง และกล่าวว่า “เช่นนั้นแล้วก็ให้เจ้าได้ยืมดูสักครั้ง เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ”
พลันที่จิตเทพจบลง มองเห็นรูรับแสงขนาดยักษ์พลันหดตัว ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ภาพที่สุดอลังการปรากฏขึ้นในดวงตา คล้ายทางช้างเผือกและดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนพลันหดตัวพังทลายอย่างนั้น ตลอดขั้นตอนมีความอลังการยิ่งจนสุดที่จะเทียบเทียมได้ สิ่งที่มองเห็นนั้นหาใช่การถูกทำลายพังพินาศย่อยยับของโลกๆ หนึ่ง แต่เป็นการหดตัวลงของโลกทั้งโลกในฉับพลันทันทีอย่างนั้น เหมือนหว่าดวงดาวนับล้านล้านดวงล้วนแล้วแต่หดตัวและพังทลายลงเหลือเพียงจุดๆ เดียวในพริบตา!
เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ในพริบตาเดียวนั่นเอง ดวงตาดวงนี้พลันยิงเป็นลำแสงมหาประลัยที่ปราศจากผู้ต่อกรในหล้าออกมา ฉับพลันที่มีการยิงลำแสงดังกล่าวออกมา คล้ายดวงดาวนับล้านล้านดวงขณะกำลังหดตัวและพังทลายในชั่วพริบตาเดียวได้พวยพุ่งพลังทั้งหมดออกมา พวยพุ่งลำแสงที่มีอยู่ทั้งหมดออกมา อานุภาพลักษณะเช่นนี้น่ากลัวเสียยิ่งกว่าการระเบิดของดวงดาวนับล้านล้านดวง
ก่อนหน้านั้น แคว้นว่านโซ่วก็เคยรวบรวมพลังทั้งหมดของแคว้นที่มีอยู่และยิงลำแสงมหาประลัยมาสายหนึ่ง แต่ว่า เมื่อเปรียบเทียบกับลำแสงมหาประลัยที่อยู่ตรงหน้าแล้ว ลำแสงมหาประลัยสายนั้นของแคว้นว่านโซ่วก็เปรียบเสมือนเป็นหยดน้ำหยดเดียวท่ามกลางคลื่นยักษ์ที่โหมสาดซัดเท่านั้นเอง
เมื่อถูกยิงด้วยลำแสงมหาประลัยลักษณะเช่นนี้ อย่าว่าแต่แคว้นอย่างแคว้นว่านโซ่วเลย แม้แต่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิที่แข็งแกร่งเฉกเช่นพรรคหยางหมิง หรือจูเซียงหวู่ถิง ล้วนแล้วแต่กลับกลายเป็นเถ้าธุลีไปในชั่วพริบตา
จะเป็นอมตะก็ดี ราชันแท้จริงระดับสูงก็ช่าง ก็ไม่สามารถต้านรับเอาไว้ได้ภายใต้ลำแสงมหาประลัยสายนี้ ถูกยิงจนกลายเป็นเถ้าลีไปเช่นเดียวกัน ลำแสงมหาประลัยลักษณะนี้ช่างน่าสยองขวัญเหลือเกิน แม้แต่ปฐมบรรพบุรุษมาด้วยตนเองก็ต้องหน้าถอดสีกับสิ่งนี้
ปุ…เสียงหนึ่งดังขึ้น ขณะที่ลำแสงมหาประลัยสายนี้ยิงใส่ตัวหลี่ชิเย่นั้น ร่างของหลี่ชิเย่ไม่ได้ถูกยิงจนกระเด็นออกไป
ได้ยินเสียงคร๊ากกกเสียงหนึ่งดังขึ้น ภายใต้การยิงของลำแสงมหาประลัย ร่างกายของหลี่ชิเย่พลันแหลกละเอียดไป ภายใต้การยิงของลำแสงมหาประลัยที่น่าสยองขวัญเช่นนี้ทำให้เนื้อตัวแหลกละเอียดเหมือนฝุ่นผงที่ปลิวกระจายออกไป ร่างกายของหลี่ชิเย่กำลังจะแหลกเป็นผุยผง
สมควรทราบว่า ร่างกายของหลี่ชิเย่นั้นได้ผ่านการต่อสู้และทดสอบมาแล้วอย่างโชกโชน ขอเพียงเขาปะทุให้อยู่ภายใต้สภาพที่แข็งแกร่งที่สุด ก็สามารถต้านกับวิบากสวรรค์ได้อย่างปลอดภัย แต่เมื่อต้องสัมผัสกับลำแสงมหาประลัยนี้แล้ว ร่างกายของเขาเหมือนหนึ่งจะแหลกละเอียดไปอย่างนั้น
ทันใดนั้นเอง ได้ยินเสียงตึง ตึง ตึงดังขึ้น มองเห็นชะตาดั้งเดิมโลกยุคดึกดำบรรพ์ปรากฏ วังวนใหญ่ทั้งสามหมุนวน ขวางลำแสงมหาประลัยที่ยิงเข้ามา ขณะเดียวกัน หลักกฎเกณฑ์สอบสองข้อได้ทิ้งตัวลงมา ทำการปกป้องคุ้มกนตัวหลี่ชิเย่เอาไว้อย่างแน่นหนา
เสียงตูม…ดังสนั่น ลำแสงมหาประลัยดูเจิดจรัสสว่างไสวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แม้แต่การระเบิดของดวงอาทิตย์นับล้านล้านดวงก็ไม่เจิดจรัสละลานตาเท่ากับมัน ความสว่างของมันเรียกได้ว่าถึงขีดสูงสุดแล้ว ทั่วโลกเวลานี้สว่างไสวจนถึงขีดสุด
พริบตาเดียวนั่นเอง อานุภาพของลำแสงมหาประลัยนี้ได้เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ในเวลานี้ อย่าว่าแต่ราชันแท้จริงแลย แม้แต่ปฐมบรรพบุรุษมาด้วยตนเองก็ไม่เห็นจะต้านรับกับลำแสงมหาประลัยเช่นนี้ได้ อีกทั้ง นี่ยังคงเป็นเพียงแค่แววตาเท่านั้นเอง
ตูม…เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ในพริบตาเดียวนี้ สิบสามลัคนาของหลี่ชิเย่ได้พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง กลับกลายเป็นอารมณ์ความรู้สึกที่รำลึกถึงเหตุการณ์ในสมัยโบราณที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เสมือนหนึ่งเป็นตัวเขาที่เป็นดั่งสวรรค์ที่ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง และในพริบตาเดียวนั้นหลี่ชิเย่ได้อยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่างและหลุดพ้นทุกอย่างไป
“พระธรรมไม่มีวันดับ อายุวัฒนะชั่วนิรันดร์” หลี่ชิเย่ท่องเป็นคาถาขึ้นมา ต้นไม้แห่งโลกยุคดึกดำบรรพ์ลอยล่อง เปิดศักราชที่ใหม่ทั้งหมดขึ้นมา โลกทั้งโลกเสมือนหนึ่งถูกแยกออกท่ามกลางความขมุกขมัว เป็นการถือกำเนิดขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยหลี่ชิเย่ก็คือผู้ที่ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ภายในนั้น
ความคิดแวบหนึ่งกลายเป็นความสว่างไสว ความคิดแวบหนึ่งกลายเป็นความมืด ความคิดแวบหนึ่งมีเซียน ความคิดแวบหนึ่งเป็นมาร สรรพสิ่งในฟ้าดินล้วนแล้วแต่ขึ้นอยู่กับความคิดแวบหนึ่งของหลี่ชิเย่ สุริยันและจันทราก็แค่อยู่ระหว่างการลืมตาหรือหลับตาของเขาเท่านั้น
ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง หลี่ชิเย่ได้แซงล้ำหน้าทุกสิ่งไป เขาเหมือนเป็นผู้สร้างโลกที่อยู่สูงเด่นนั่น สองสถานะทับซ้อนกัน ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ทำให้หลี่ชิเย่กลายเป็นผู้ที่อยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง กระทั่งแซงล้ำหน้าสวรรค์ไป
นาทีนี้ หลี่ชิเย่ควบคุมความเป็นความตาย ในมือกุมหยินกับหยางเอาไว้ ภายใต้สภาพที่แข็งแกร่งที่สุด แม้แต่ปฐมบรรพบุรุษยังต้องอ่อนข้อหลบไป มิฉะนั้นจะต้องกลายเป็นเถ้าธุลีไป
ภายใต้สภาพเช่นนี้ หลี่ชิเย่นับว่าปราศจากผู้ต่อกรอย่างแท้จริง และมีเพียงสิ่งซึ่งดำรงอยู่ในฐานะที่สยองขวัญเช่นนี้เท่านั้นที่บีบให้หลี่ชิเย่ต้องระเบิดสภาพที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา มิฉะนั้นล่ะก็ แม้แต่ต่อสู้ชี้ขาดกับปฐมบรรพบุรุษ หลี่ชิเย่ก็ไม่ต้องมใช้กำลังเต็มความสามารถ
ตูม ตูม ตูม…ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง หลี่ชิเย่ยกเท้าขึ้นก้าวย้อนประกายตาขึ้นไป ก้าวไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของดวงตาขนาดยักษ์ดวงนี้ทีละก้าวๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...