ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2387

จากการดูดของอสรพิษคลั่งฟ้ากรรแสง ร่างกายของหลี่ชิเย่พลันถูกแยกร่างในชั่วพริบตาเดียว มองเห็นชิ้นส่วนที่แหลกละเอียดบินเข้าไปในปากที่กว้างใหญ่ของอสรพิษคลั่งฟ้ากรรแสง

สิ่งนี้ได้ทำให้ทุกคนถึงกับใจหายใจคว่ำ เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่ถูกแยกร่างในชั่วพริบตาเดียว แม้แต่หลี่ชิเย่ก็ไม่สามารถรองรับการดูดลักษณะเช่นนี้ได้ ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่ามันมีความน่ากลัวเพียงใดแล้ว

“หลี่ชิเย่จะพ่ายแพ้แล้วรึ?” มีผู้ที่เอ่ยขึ้นมาด้วยความตระหนก

“พูดยาก แต่ว่ากระบวนท่านี้ของอสรพิษคลั่งฟ้ากรรแสงนับว่าน่าสยองขวัญมากเหลือเกิน มันเป็นกระบวนท่าที่ไม่มีกระบวนท่า แต่ว่า ทุกคนต่างก็มีกาลเวลาและเวลาที่เป็นของตนเอง เวลานี้มองดูแล้วร่างกายของหลี่ชิเย่กำลังถูกแยกร่าง ผู้ที่ไม่ทราบเรื่องเข้าใจว่าเป็นอสรพิษคลั่งฟ้ากรรแสงที่กำลังกลืนกินร่างของเขา ความจริงเป็นการกัดกินกาลเวลาที่เป็นของหลี่ชิเย่ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ หลี่ชิเย่กำลังแก่ชราลง เมื่อกาลเวลาและเวลาของหลี่ชิเย่ถูกกลืนกินไปทั้งหมด เขาก็จะแก่ตายอย่างแท้จริง”

ระดับบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิผู้หนึ่งกล่าวด้วยท่าทีหนักแน่นจริงจังว่า “สิ่งนี้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อยู่แล้ว ทุกคนต่างก็มีกาลเวลาที่เป็นของตนเอง ขอเพียงอสรพิษคลั่งฟ้ากรรแสงดูดเข้าให้กับบุคคลผู้นั้น เว้นแต่บุคคลผู้นั้นสามารถต่อต้านเข้าได้ มิฉะนั้นล่ะก็ วันเวลาและอายุขัยของบุคคลผู้นั้นก็จะถูกเขาดูดเอาไป ก็ต้องแก่เฒ่าและตายไป แห้งและกลายเป็นเถ้าธุลีไป”

ร่างกายของหลี่ชิเย่ถูกแยกร่างอย่างรวดเร็วภายใต้การดูดของอสรพิษคลั่งฟ้ากรรแสง เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น มองเห็นร่างกายของหลี่ชิเย่ถูกแยกไปจนเกือบจะหมดอยู่แล้ว ร่างกายทั้งร่างแทบจะกลายเป็นเถ้าธุลีอยู่แล้ว เหมือนว่าร่างกายของเขาได้ถูกดึงออกไปทีละนิดๆ ทุกๆ ส่วนของเนื้อหนัง เอ็นและกระดูกล้วนแล้วแต่กลายเป็นผุยผง

มองเห็นร่างกายของหลี่ชิเย่กำลังจะถูกแยกร่างไปโดยสิ้นเชิง ทั้งมู่เส้าเฉินและอสรพิษคลั่งฟ้ากรรแสงต่างรู้สึกดีใจ แม้ว่าเคล็ดวิชาของหลี่ชิเย่จะหนึ่งไม่มีสองในหล้า กระบวนท่าที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสอง แต่ทว่า ในโลกนี้จะมีสักกี่คนที่สามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้กาลเวลาของตนเคลื่อนไปดั่งสายน้ำได้เล่า? ไม่มีเคล็ดวิชาใดๆ สามารถขัดขวางขณะที่กาลเวลาไหลไปดั่งสายน้ำ และไม่มีวิธีใดๆ สามารถรั้งเอาไว้ได้อยู่แล้ว

“เจ้าคนแซ่หลี่ เจ้าตายแน่แล้วล่ะ” ในเวลานี้เอง มู่เส้าเฉินถึงกับหัวเราะเสียงดังขึ้นมา

ปุเสียงหนึ่งดังขึ้น จังหวะที่ร่างกายของหลี่ชิเย่กำลังจะถูกแยกออกไปอย่างสิ้นเชิงนั้น ทันใดนั้นเองปรากฎประกายแสงแต่ละสายที่ระเบิดขึ้น มองเห็นร่างกายของหลี่ชิเย่ที่ถูกแยกออกพลันระเบิดเปล่งประกายเจิดจ้าขึ้นมา ดูช่างพร่างพราวและบริสุทธิ์เหลือเกิน

ประกายแต่ละสายที่เบ่งบานขึ้นมาในชั่วพริบตาเดียว คล้ายดั่งเป็นวันเวลานับล้านล้านปีที่พุ่งเข้ามา ประกายแต่ละสายทำให้ผู้คนก้าวข้ามเป็นล้านล้านปีในพริบตาเดียวอย่างนั้น

ภาพเช่นนี้สร้างความหวั่นไหวต่อจิตใจของผู้คนมากเหลือเกิน เฉกเช่นการพนันศิลาอย่างนั้น เมื่อลอกเอาพื้นผิวแต่ละชั้นออกมา ดูท่ากำลังจะได้หินที่ไร้ค่าชิ้นหนึ่งอยู่แล้ว แต่ทว่า การลงมีดครั้งสุดท้ายกลับเผยประกายมรกตขึ้นมา หินวิเศษที่ยอดเยี่ยมมีเพียงหนึ่งไม่มีสองกำลังจะปรากฏขึ้นในหล้าแล้ว ความรู้สึกที่ทั้งตื่นเต้นและดีใจนั้น ช่างเป็นสิ่งที่สร้างความหวั่นไหวให้กับผู้คนมากเหลือเกิน

สิ่งนี้ยังคล้ายการขุดหาขุมทรัพย์อย่างนั้น ขุดลึกลงไปถึงหนึ่งหมื่นจ้างไม่ปรากฏสิ่งใดๆ เลย ทุกคนต่างเข้าใจว่านี่เป็นเหมืองร้างที่ไร้ค่า แต่การลงจอบขุดลงไปครั้งสุดท้าย ปรากฏแสงวิเศษที่พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง สมบัติวิเศษที่แท้จริงถูกฝังอยู่ด้านล่างสุด นี่แหละคือสิ่งที่สร้างความหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนได้มากที่สุด

ตูมเสียงหนึ่งดังขึ้น ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง หลังจากที่ประกายแต่ละสายระเบิดไปแล้ว ภายใต้การดูดของอสรพิษคลั่งฟ้ากรรแสง ประกายแสงทั้งหมดได้พุ่งเข้าไปหาพวกของอสรพิษคลั่งฟ้ากรรแสง

เสียงปังดังสนั่น แต่ทว่า ประกายแสงลำนี้ไม่รู้ว่ามีกาลเวลาในนั้นอยู่เท่าใด การที่มันพุ่งเข้ามาแล้วมองเห็นเพียงประกายแสงลูกกลมๆ ที่อยู่ในปากขนาดใหญ่ของอสรพิษคลั่งฟ้ากรรแสงพลันถูกยิงจนแหลกละเอียด ขณะที่ประกายแสงลำนี้พุ่งเข้าหาอสรพิษคลั่งฟ้ากรรแสงนั้น ได้ยินเสียงดังจี๊ดขึ้นมาเสียงหนึ่ง ในเสี้ยววินาทีนี้เอง อสรพิษคลั่งฟ้ากรรแสงได้กลายเป็นคนที่แก่หง่อมยิ่งนัก

เนื่องจากเขารองรับกับกาลเวลาเช่นนี้ได้ กาลเวลาลักษณะเช่นนี้ช่างยิ่งใหญ่ไพศาลและน่าเกรงขามมากเกินไป ถ้าหากจะกล่าวว่าอสรพิษคลั่งฟ้ากรรแสงสามารถกลืนกินกาลเวลาขนาดเท่ากับน้ำในทะเลสาบได้ เช่นนั้นแล้วกาลเวลาของหลี่ชิเย่ที่พุ่งเข้ามานั้นคือทะเลแห่งดวงดาวที่ไม่มีสิ้นสุด สามารถทำลาลตัวเขาให้พินาศย่อยยับได้ในพริบตา

ขณะที่ประกายแสงลำนี้พุ่งเข้ามาในพริบตา ไม่เพียงแต่อสรพิษคลั่งฟ้ากรรแสง แม้แต่มู่เส้าเฉินก็พลอยถูกลามเข้าไปด้วย เขาร้องเสียงดังอ๊ากกกขึ้น ถูกชำระชะเอาอายุขัยไปนับพันปี ทำให้มีผมเผ้ากลายเป็นสีขาวโพลน

ภายใต้การชะล้างของประกายแสงลำนี้ ได้ยินเสียงปุดังขึ้น ไม่เพียงแต่อสรพิษคลั่งฟ้ากรรแสงที่ดูแก่หง่อมยิ่งนัก ร่างกายของเขายังปรากฏเป็นรอยร้าวขึ้นมามากมาย และร่างกายได้กลับกลายเป็นผุยผงนับไม่ถ้วน เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น เขาก็ไม่สามารถรองรับได้กับการชะล้างของกาลเวลาในลักษณะเช่นนี้

“ผู้อาวุโสหวู่” ในขณะนี้ มู่เส้าเฉินยิ่งรองรับไม่ไหว เขาร้องเสียงแหลมขึ้นมา

เสียงตูมดังสนั่น ในที่สุดปรากฏกำแพงศักดิ์สิทธิ์ด้านหนึ่งลงมาจากบนท้องฟ้า เข้าขวางประกายแสงที่ทำการชะล้างกาลเวลาที่มีต่ออสรพิษคลั่งฟ้ากรรแสงเอาไว้

จี๊ดเสียงหนึ่งดังขึ้น ในเสี้ยววินาทีนี่เอง กำแพงศักดิ์สิทธิ์ที่พราวพร่างด้านนี้ก็ต้านเอาไว้ไม่อยู่ ได้ยินเสียงปัง กำแพงศักดิ์สิทธิ์ด้านนี้ถูกหลอมละลายไปโดยสิ้นเชิงและแตกละเอียดในทันที กลายเป็นผุยผงจำนวนนับไม่ถ้วน

ในเสี้ยววินาทีนี้เอง ร่างเงาสายหนึ่งได้ช่วยอสรพิษคลั่งฟ้ากรรแสงและมู่เส้าเฉินไปได้

ผู้ที่ช่วยอสรพิษคลั่งฟ้ากรรแสงและมู่เส้าเฉินไปก็คือเทพสงครามมังกรคชาธารนั่นเอง เทพสงครามมังกรคชาธารได้ช่วยเหลืออสรพิษคลั่งฟ้ากรรแสงและมู่เส้าเฉินไปไว้ในตำหนักศิลาที่ลอยล่องอยู่บนท้องฟ้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล