พลันที่ได้เห็นหลี่ชิเย่ลงมือก็พันธนาการระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของจูเซียงหวู่ถิงเอาไว้ ทำให้ใจมารหวู่จู่ไม่สามารถกลืนกินฟ้าดินได้อีกเลย สร้างความสะเทือนหวั่นไหวให้กับทุกๆ คน
“เยี่ยมมาก คนโหดอันดับหนึ่ง นับจากนี้เป็นต้นไปสมควรเปลี่ยนชื่อเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งแล้ว” ระดับบรรพบุรุษถึงกับชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง
นาทีนี้ทุกคนต่างก็รู้ว่า คนโหดอันดับหนึ่งเมื่อเปรียบกับเทพสงครามมังกรคชาธารแล้วไม่รู้ว่าแข็งแกร่งกว่ากันเท่าไร เวลานี้มีเพียงเขาเท่านั้นที่มีสิทธิ์ได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งแดนลัทธิพรรษแล้ว
“เจ้าใช้วิชามารอะไร” สีหน้าของมู่เส้าเฉินเปลี่ยนไปมากทีเดียวเมื่อเห็นหลี่ชิเย่พันธนาการจูเซียงหวู่ถิงอาไว้ได้โดยพลัน เนื่องจากยังคงคาดหวังให้ใจมารหวู่จู่กลืนกินจูเซียงหวู่ถิงจนสิ้น
เนื่องจากใจมารหวู่จู่ในขณะนี้ยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอ ต่อให้สามารถเกรียงไกรแดนลัทธิพรรษในขณะนี้ได้ แต่ก็ไม่สามารถเกรียงไกรในแดนลัทธิราชัน ดังนั้น มีเพียงให้ใจมารหวู่จู่กลืนกินจูเซียงหวู่ถิงไปจนสิ้น กลับคืนสู่ขั้นสูงสุดแล้วจึงสามารถปราศจากผู้ต่อกรในแดนลัทธิราชันได้
แต่ว่า เวลานี้พลันที่หลี่ชิเย่ลงมือก็ทำการพันธนาการฟ้าดินของจูเซียงหวู่ถิงเอาไว้ ทำให้ความหวังของมู่เส้าเฉินล้มเหลวในทันที แล้วจะให้เขายอมรับได้อย่างไรกันเล่า
“เจ้าคนไร้สมอง โลกนี้ไหนเลยมีวิชามารเช่นนี้” หลี่ชิเย่ส่ายหน้า ยิ้มเฉยเมยและกล่าวว่า “แม้ว่าเจ้าจะมีพรสวรรค์ดีเยี่ยมก็เปล่าประโยชน์ เมื่อไม่มีความรู้ที่เป็นเลิศ มันก็ไม่ได้ต่างไปจากคนไร้ความสามารถสักเท่าไร”
“เจ้า…” มู่เส้าเฉินพลันมีสีหน้าที่แดงก่ำ จ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
โฮ่วววเวลานี้ใจมารหวู่จู่เห็นว่าไม่สามารถกลืนกินจูเซียงหวู่ถิงได้อีก เขาจึงร้องคำรามเสียงดังออกมาอย่างไม่พอใจ เสียงดังก้องฟ้าดิน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน เนื่องจากต่อให้เขาพยายามดูดอย่างเต็มกำลัง จูเซียงหวู่ถิงก็ไม่หวั่นไหว ทั่วทั้งจูเซียงหวู่ถิงถูกพันธนาการเอาไว้อย่างแน่นหนา แม้ว่าเขากับจูเซียงหวู่ถิงจะมีต้นกำเนิดเดียวกันก็ตาม ยังคงดูดไม่ได้แม้แต่นิดเดียว
หลี่ชิเย่ลอยตัวขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างช้าๆ เหนือใจมารหวู่จู่ กระบองหวู่เต้าในมือชี้ไปตามอารมณ์ และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ควรจบสิ้นได้แล้ว”
ฮือออเวลานี้ใจมารหวู่จู่ส่งเสียงคำรามเสียงดังขึ้นมา คำรามด้วยความเกรี้ยวกราด พริบตาเดียวนั่นเอง ได้ยินเสียงตูมดังสนั่น ใจมารหวู่จู่พลันไม่เป็นรูปร่างของคนอีกต่อไป ความมืดมนที่ไม่มีสิ้นสุดพลันพุ่งเข้าโจมตีต่อหลี่ชิเย่
นาทีนี้ ใจมารหวู่จู่เสมือนดั่งกลับกลายเป็นโลกธาตุที่มืดมนทั้งหมด ความมืดมนที่ดั่งกระแสน้ำขึ้นลงที่เชี่ยวกรากพุ่งเข้าหาหลี่ชิเย่
ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทุกคนต่างสะเทือนหวั่นไหวกับภาพที่อยู่ตรงหน้า เนื่องจากตัวของหลี่ชิเย่จมหายไปอยู่ท่ามกลางโลกที่มืดมนเช่นนี้แหละ ท่ามกลางความมืดมนนี้ไม่มีแสงสว่าง มีเพียงความมืดมนที่ไม่แปรเปลี่ยนตลอดกาล ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถหลบหนีออกมาจากความมืดมนเช่นนี้ไปได้
นาทีนี้ความมืดมนที่ไม่สิ้นสุดพลันปกคลุมท่วมร่างหลี่ชิเย่จนจมมิด ในการต่อสู้ชี้ขาดใจมารหวู่จู่ไม่อาศัยกระบวนท่าใดๆ แม้แต่ ‘สิบสองกระบวนท่าหวู่จู่’ ที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรมากที่สุดก็ไม่ใช้ เขาอาศัยความมืดมนท่วมปกคลุมหลี่ชิเย่จนจมมิดโดยตรง
ความมืดมนนั้นไม่มีสิ้นสุด แทรกเข้าไปได้ทุกที่ เหมือนว่าไม่มีที่ใดที่ไม่มีพวกมันอย่างนั้น ท่ามกลางความมืดมิดที่ไม่สิ้นสุดเช่นนี้ เหมือนหนึ่งเป็นวัฏจักรทุกชาติภพอย่างนั้น ไม่สามารถหลีกหนีไปจากความมืดมนนี้ไปได้ตลอดกาล ท่ามกลางโลกที่มีแต่ความมืดมนที่ไม่สิ้นสุดนี้ เหมือนว่ามองไม่เห็นแสงสว่างไปตลอดกาล
ในเวลานี้ ความมืดมนที่ไม่สิ้นสุดนี้ไม่เพียงท่วมหลี่ชิเย่จนจมมิดโดยพลันเท่านั้น ทั้งยังห่อหุ้มตัวหลี่ชิเย่เอาไว้อย่างหนาแน่นในทันที ปิดตายฟ้าดินทั้งหมด คล้ายไม่ต้องการให้หลี่ชิเย่ออกมาจากความมืดมนได้อย่างสิ้นเชิง
ใจมารหวู่จู่ เขาคือใจมารนะเนี่ย เขาก็คือสิ่งที่ถือกำเนิดขึ้นมาจากจิตด้านมืดของหวู่จู่นั่นเอง เขาย่อมรู้ว่าการที่ต้องเผชิญหน้ากับผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเช่นนี้นั้น ควรลงมือจากด้านใดจึงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
การเผชิญกับผู้ที่แข็งแกร่งเฉกเช่นหลี่ชิเย่ เกรงว่า ‘สิบสองกระบวนท่าหวู่จู่’ อะไรนั่นก็ไม่แน่ว่าจะได้ผล แต่ว่า หากความมืดมนรุกเข้าไปในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเขาก็ไม่แน่แล้วล่ะ จะอย่างไรเสียคนที่แข็งแกร่งมากกว่านี้ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีช่องโหว่ เมื่อใดที่เขาสามารถรุกเข้าไปในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ได้ เมื่อไรที่เขาทำได้สำเร็จ เขาก็สามารถยึดครองอยู่ภายในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ไว้ได้
เมื่อถึงขั้นนี้ เขาไม่เพียงสามารถพลิกกลับจากพ่ายแพ้เป็นฝ่ายชนะเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถอาศัยจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่มาทำให้ตนมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
‘จิตแห่งความมืดมน’ สีหน้าของเทพสงครามมังกรคชาธารเปลี่ยนไปมากทีเดียวเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว รับรู้วัตถุประสงค์ของใจมารหวู่จู่ เขาที่เป็นยอดฝีมือก็รับรู้ถึงอันตรายได้เช่นกัน
ถ้าหากปล่อยให้ใจมารหวู่จู่ทำได้สำเร็จจริงๆ ล่ะก็ เช่นนั้นแล้วเขาก็จะกลับกลายเป็นมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เมื่อนึกถึงข้อนี้แล้ว เทพสงครามมังกรคชาธารถึงกับร่างสั่นเทาทีหนึ่ง หากเป็นเช่นนี้จริง ไม่เพียงเป็นการจบสิ้นสำหรับจูเซียงหวู่ถิงของพวกเขา เกรงว่าแดนลัทธิพรรษก็จบสิ้นไปด้วย
“แย่แล้ว นี่เป็นการเข้าแทรกของความมืดมน คนโหดอันดับหนึ่งสามารถปกป้องจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรไว้ได้หรือไม่นะ?” ทุกคนต่างรู้สึกตกใจยิ่งนักเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว
กล่าวสำหรับผู้คนจำนวนมากแล้ว พวกเขามักสามารถต้านรับกับศัตรูที่แข็งแกร่งมากกว่าตนเองได้อยู่เสมอ แต่ว่า บางครั้งมักไม่สามารถปกป้องจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของตนได้ เมื่อไรที่ไม่อาจปกป้องจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรเอาไว้ ปล่อยให้ความมืดมนเข้าแทรก มันเป็นเรื่องที่น่าสยองขวัญอย่างยิ่ง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่าเจ้าคนแซ่หลี่ เจ้าตายแน่แล้ว ต่อให้เจ้าแข็งแกร่งมากกว่านี้ เมื่อไรที่ถูกความมืดมนเข้าแทรก เจ้าก็เป็นได้เพียงหุ่นเชิดของความมืดมนเท่านั้น อาศัยเจ้า เกรงว่าคงปกป้องจิตแห่งการบำเพ็ญเพียร ของตนไม่ได้” มู่เส้าเฉินที่มองเห็นหลี่ชิเย่ถูกห่อหุ้มด้วยความมืดมนเอาไว้อย่างแน่นหนา ถึงกับหัวเราะเสียงดังขึ้นมา
ในสายตาของเขามองว่า เฉกเช่นหลี่ชิเย่ที่ได้รับความพึงพอใจตั้งแต่อายุยังน้อยเช่นนี้ ไม่สามารถปกป้องจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของตนได้อยู่แล้ว
“เสียดาย ทำให้เจ้าต้องผิดหวังเสียแล้ว ในโลกนี้ยังจะมีใครที่จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรแกร่งมากไปกว่าข้าได้อีก?” ในเวลานี้เอง ท่ามกลางความมืดมนปรากฏเสียงที่เอ้อระเหยลอยออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...