ปุ…เสียงหนึ่งดังขึ้น เมื่อกระบองหวู่เต้าทะลุออกมาจากอกของเทพสงครามมังกรคชาธารแล้วนั้น ร่างของเขาได้กลายเป็นหมอกเลือดไปทันที พริบตาเดียวนั่นเอง ชะตาแท้ของเขาก็คล้ายดั่งประกายของดาวแวบหนึ่งที่ถูกโจมตีจนแตกสลายและหลอมรวมเข้ากับน้ำเลือด
นาทีนี้ เรียกได้ว่าวิญญาณของเทพสงครามมังกรคชาธารแตกสลายไปแล้วจริงๆ เมื่อชะตาแท้ถูกทำให้แตกกระจายไปจึงเสียชีวิตโดยพลัน ในเวลานี้เขาไม่สามารถเหมือนเช่นก่อนหน้านั้นสร้างกายเนื้อขึ้นมาใหม่ได้อีกแล้ว
เมื่อกายเนื้อถูกทำลายย่อยยับยังสามารถสร้างขึ้นมาได้ใหม่ แต่ว่าชะตาแท้ถูกทำให้สลายไป เป็นการบ่งบอกว่าเสียชีวิตอย่างแท้จริง
ครั้นกระบองหวู่เต้าแทงทะลุร่างกายของเทพสงครามมังกรคชาธาร พลันถูกโจมตีจนกลายเป็นหมอกเลือด และชะตาแท้แตกสลายกลายเป็นดั่งดาวที่ส่งประกายแวบหนึ่งแล้วหลอมรวมเขาไปในเลือดสดๆ นั่น
ในพริบตาเดียวนั่นเอง เลือดสดๆ ที่มีประกายของชะตาแท้ก็ได้หลอมรวมเข้าไปในพลังแก่นฟ้าดินทันที ในชั่วพริบตาเดียวนี้เลือดสดๆ ของเทพสงครามมังกรคชาธารได้ย้อมพลังแก่นที่คล้ายดั่งน้ำในมหาสมุทรจนกลายเป็นสีแดง ทะเลพลังแก่นทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีสีแดงลอยอยู่
เมื่อเลือดสดๆ ได้ปนเปอยู่ในมหาสมุทรพลังแก่น เสมือนหนึ่งสีสันของดอกกุหลาบที่ไปแต่งแต้มให้กับมหาสมุทรพลังแก่นอย่างนั้น ในเวลานี้ ประกายชะตาแท้ที่เดิมเป็นของเทพสงครามมังกรคชาธารได้แหวกว่ายอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรนี้ เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ได้กลับกลายเป็นเส้นสีเงินแต่ละเส้น คล้ายเป็นม่านแหอย่างนั้น
ได้ยินเสียงตึง ตึง ตึงดังขึ้นภายในระยะเวลาอันสั้น เส้นสีเงินที่เกิดจากการจับตัวกันของประกายชะตาแท้พลันรวบรวมเลือดสดๆ ไว้ทั้งหมด เสมือนดั่งกลับกลายเป็นกฎเกณฑ์สัจธรรมแต่ละข้อ โดยที่กฎเกณฑ์สัจธรรมแต่ละข้อมีสีแดงที่สวยสดงดงาม คล้ายหลอมกลั่นจากเลือดวัฒนะอย่างนั้น
ในพริบตาเดียวนั่นเอง ม่านแหกฎเกณฑ์พลันเหมือนทำการพันธนาการมหาสมุทรพลังแก่นเอาไว้ มันไม่เพียงหลอมเข้าไปภายในทั้งยังพันธนาการพลังแก่นทั้งหมด มันสามารถนำพาพลังแก่นทั้งหมด ไม่ให้มีพลังแก่นแม้แต่สายเดียวกระจายออกไป
ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นและสำเร็จภายในชั่วพริบตาเดียว ขณะที่กระบองหวู่เต้ายังไม่ทันได้ปักตรึงลงผืนแผ่นดิน ทุกสิ่งทุกอย่างก็สำเร็จลุล่วงไปแล้ว
ปังเสียงดังกึกก้องดังขึ้น ในวินาทีสุดท้าย กระบองหวู่เต้าไม่เพียงแค่ทะลุผ่านมหาสมุทรพลังแก่นทั้งหมดเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังทำการตรึงมหาสมุทรพลังแก่นทั้งหมดกับพื้นดิน ขณะที่กระบองหวู่เต้าได้ปักตรึงกับพื้นดินโดยตรง เสมือนหนึ่งยิงผืนแผ่นดินของจูเซียงหวู่ถิงจนทะลุอย่างนั้น
หลังจากที่มหาสมุทรพลังแก่นถูกตรึงอยู่กับพื้นดินแล้ว ได้ยินเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น ภายใต้การนำพาและฉุดลากของกฎเกณฑ์ที่เกิดจากการจับตัวของเลือดสดๆ พลังแก่นทั้งหมดล้วนแล้วแต่ซึมลงไปในพื้นดิน
กฎเกณฑ์ที่เกิดจากเลือดสดๆ จับตัวขึ้นมาก็คล้ายเป็นแหขนาดใหญ่ปากหนึ่งอย่างนั้น ทำการคลุมพลังแก่นทั้งหมดลงไปใต้พื้นดิน ไม่ปล่อยให้พลังแก่นได้เล็ดลอดหนีไปได้แม้เพียงน้อยนิด
พลังแก่นทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกตรึงเอาไว้บนผืนแผ่นดิน เพียงพริบตาเดียวก็ถูกนำพา และลากให้เข้าไปอยู่ในพื้นดิน
ภายในระยะเวลาอันสั้นหลังจากนั้น เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับผืนแผ่นดิน พื้นที่นับล้านลี้ที่ถูกใจมารหวู่จู่กลืนกินไปแต่เดิมเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง
ผืนแผ่นดินนับล้านลี้ที่หลังจากถูกใจมารหวู่จู่กลืนกินแล้วก็ได้กลายเป็นแผ่นดินแห้งผาก ปราศจากความมีชีวิตชีวา ทุกแห่งหนล้วนแล้วแต่เป็นบรรยากาศที่ซบเซา
แต่ทว่า นาทีนี้พื้นที่ที่แห้งผากนับล้านลี้ก็เหมือนผ้าที่สำหรับเขียนภาพขนาดยักษ์สีแดงชาดอย่างนั้น นาทีนี้บนผืนผ้าเขียนภาพเช่นนี้กลับปรากฎสีเขียวขึ้นมาจุดหนึ่ง
อีกทั้งสีเขียวจุดนี้อาศัยความเรีวที่รวดเร็วมากแผ่ขยายออกไป เสมือนหนึ่งมีจิตรกรที่มาวาดภาพอย่างนั้น ปรากฏเป็นสีเขียววงแล้ววงเล่าที่ละเลงลงบนผืนผ้าผืนนี้
ภายในระยะเวลาอันสั้น บนผืนผ้าเขียนภาพนี้ก็เต็มไปด้วยสีเขียว ภาพรวมทั้งหมดดูอลังการยิ่งนัก
แน่นอน นี่หาใช่ผืนผ้าเขียนภาพอะไรนั่น และก็ไม่ใช่สีเขียว นี่คือพลังแก่นฟ้าดิน
นี่คือมูลค่าแห่งการเสียสละของเทพสงครามมังกรคชาธาร เทพสงครามมังกรคชาธารอาศัยความเสียสละของตนแลกทุกสิ่งทุกอย่างนี้มา เขาถูกใช้ให้เป็นตัวนำทาง นำพาพลังแก่นฟ้าดิน พลังชีวิตทั้งหมดให้กลับมายังผืนแผ่นดินผืนนี้
หลังจากที่ผืนแผ่นดินนับล้านลี้เหล่านี้ถูกใจมารหวู่จู่กลืนกินกลายเป็นพื้นดินที่ถูกเผาจนเกรียม ถ้าหากไม่ทำการฟื้นฟู อนาคตจะต้องเป็นพื้นที่ไร้ประโยชน์
ดังนั้น หลังจากที่หลี่ชิเย่ทำการหลอมกลั่นใจมารหวู่จู่ไปแล้ว ทำให้ใจมารหวู่จู่และพลังแก่นฟ้าดิน พลังชีวิตที่ถูกเขากลืนกินไปทั้งหมดกลับคืนสู่ต้นกำเนิด ในเวลานี้เองจำเป็นต้องมีผู้ที่คอยนำพาพลังแก่นฟ้าดินและพลังชีวิตกลับคืนสู่ผืนแผ่นดิน กลับคืนสู่แผ่นดินของตน
ดังนั้นเทพสงครามมังกรคชาธารเสียสละตนเอง ตัวเขาได้กลายเป็นผู้นำทาง นำพาพลังแก่นฟ้าดิน พลังชีวิตทั้งหมดกลับคืนสู่ผืนแผ่นดินผืนนี้
ดังนั้น ขณะที่พลังแก่นฟ้าดิน พลังชีวิตทั้งหมดซึมซับลงบนแผ่นดินแห้งผากนับล้านลี้นั้น แผ่นดินแห้งผากนับล้านลี้ก็คล้ายดั่งถูกสีเขียวแต่งแต้มลงไปวงแล้ววงเล่าอย่างนั้น
ได้เห็นแผ่นดินที่เดิมได้กลายเป็นพื้นดินแห้งผากที่ไหม้เกรียมได้มีหญ้าสีเขียวและกิ่งอ่อนแตกขึ้นมาใหม่ ภูเขาแม่น้ำทยอยกันสร้างขึ้นมาใหม่ หุบเขาและภูเขาต่างๆ ที่แต่เดิมพังถล่มลงมาได้ทยอยกันสร้างขึ้นมาใหม่ แม่น้ำลำคลองที่แต่เดิมแห้งผากเริ่มมีน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก ทุกอย่างได้เริ่มต้นใหม่อย่างนั้น
ในเวลานี้ พื้นที่แห่งนี้เรียกได้ว่าความมีชีวิตคึกคัก เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา ทั่วทั้งแผ่นดินกลับกลายเป็นทวีปสีเขียวที่เปี่ยมไปด้วยพลังความมีชีวิตชีวา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...