ในเวลานี้ บรรดายอดฝีมือที่เป็นองครักษ์ในเหตุการณ์ทั้งหมดได้คุกเข่าและโน้มตัวไปข้างหน้าก้มกราบกับพื้น เมื่อทอดสายตามองออกไป เห็นเป็นผู้คนที่คุกเข่ากราบอยู่เต็มพื้นที่ แลดูเป็นภาพที่อลังการยิ่งนัก
“ใต้เท้า…” องครักษ์ทั้งหมดคุกเข่าอยู่กับพื้น เอ่ยคำออกมาด้วยความเคารพยิ่ง ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่ว่าจะมีกำลังความสามารถระดับไหน แม้แต่ระดับหัวหน้าเล็กๆ ที่อยู่ในระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ก็ยังคงให้ความเคารพอย่างยิ่ง กระทั่งกล่าวได้ว่า ท่ามกลางความเคารพยังมีความหวั่นเกรงอยู่ด้วย
องครักษ์ทั้งหมดที่คุกเข่าอยู่กับพื้นต่างมองหน้าผู้ที่ก้าวเดินเข้ามาทีหนึ่งด้วยความเคารพยำเกรงอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเป็นการเหลือบมองแบบแอบๆ แล้วก้มหัวลงอย่างรวดเร็ว ไม่กล้ามองเป็นครั้งที่สองอีก
องครักษ์ทั้งหมดที่คุกเข่าอยู่กับพื้นต่างอดที่จะกลั้นลมหายใจเอาไว้ไม่ได้ ไม่กล้าแม้กระทั่งหายใจแรง ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า พวกเขาหวั่นเกรงต่อผู้เฒ่าที่อยู่ตรงหน้ามากกว่าเคารพนับถือเสียอีก
ผู้ที่เข้ามาโดยปราศจากซุ่มเสียงเป็นผู้เฒ่าผู้หนึ่ง เขาสวมชุดสีเท่าทั้งชุด ภาพรวมของเขาดูผอมมากไม่มีอะไรที่เป็นจุดเด่นพิเศษ บนตัวของเขาไม่มีทั้งกลิ่นอายการฆ่าที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัว และไม่มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ที่สยบจนผู้คนหายใจไม่สะดวก แลดูไปแล้วเหมือนเป็นผู้เฒ่าธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น
แต่ทว่า พริบตาเดียวยามที่ประกายตาเบ่งบานออกมาจากนัยน์ตาของผู้เฒ่าผู้นี้นั้น เสมือนดั่งทั้งจักรวาลถูกระเบิดแตกออก อย่าว่าแต่ระดับเทพแท้จริงทั่วไปเลย ต่อให้เป็นเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ก็ต้องถูกสังหารในทันที
ย่อมไม่ต้องสงสัยเลยว่า ผู้เฒ่าที่อยู่ตรงหน้าคือระดับอมตะที่น่ากลัวคนหนึ่ง อีกทั้งยังมีกำลังที่น่าสยองขวัญยิ่ง สังหารเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ง่ายเหมือนบดขยี้มดตายตัวหนึ่งอย่างนั้น
ถ้าหากจะกล่าวว่าในแดนลัทธิราชันยังมียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนคนอื่นๆ ที่ได้เห็นผู้เฒ่าผู้นี้แล้ว ก็ต้องตกใจจนดูขวัญอ่อนไปเลย ผู้ที่รู้จักผู้เฒ่าผู้นี้ที่อยู่ตรงหน้าจะต้องถูกทำให้ตกใจจนเข่าอ่อนทั้งสองข้าง
ซุนหลึ่งหยิ่ง! เป็นชื่อที่สะเทือนขวัญในแดนลัทธิราชัน และเป็นชื่อที่เสมือนดั่งเงาทมิฬที่ครอบคลุมทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่
ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ต้องสั่นเทา เมื่อมีการเอ่ยถึงชื่อของ ‘ซุนหลึ่งหยิ่ง’
ซุนหลึ่งหยิ่งไม่ใช่ชื่อที่แท้จริงของเขา เขามีชื่อจริงว่า ‘ซุนลิเฉียง’ เพียงแต่ปัจจุบันมีผู้คนน้อยนักที่รู้จักชื่อของเขา ต่อให้มีผู้ที่รู้ก็ไม่กล้าเรียกชื่อของเขาออกมาตรงๆ ส่วนมากจะเรียกว่า ‘ใต้เท้าซุน’
ซุนหลึ่งหยิ่งเสมือนหนึ่งเป็นเงาสายหนึ่ง ปรากฏตัวได้ทุกที่ อีกทั้งเขาเป็นเงาที่เยือกเย็น แข็งกร้าวไร้ความปราณี ปรากฏอยู่ด้านหลังฮ่องแต้ไท่ชิงตลอดเวลา
“มีแขกมาถึงแล้ว อย่าเสียมารยาท” ซุนหลึ่งหยิ่งกล่าวท่าทีเฉยเมย เขาดูเหมือนไม่ได้น่ากลัวเช่นในตำนาน การพูดการจาเรียบเฉย อีกทั้งยังดูมีมารยาทอีกด้วย
แต่ ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ และผู้ที่รู้จักซุนหลึ่งหยิ่งก็จะเข้าใจถึงความน่ากลัวของเขา ผู้ที่เคยพบเห็นซุนหลึ่งหยิ่งต่างเข้าใจดี อย่าได้ถูกเปลือกนอกทำให้ไหลหลงอย่างเด็ดขาด มือคู่นั้นของซุนหลึ่งหยิ่งไม่รู้ว่าเปื้อนเลือดมาแล้วเท่าไร
องครักษ์ที่ถือดาบทาบอยู่บนคอของหลี่ชิเย่พลันรู้สึกสั่นเทาเมื่อได้ยินคำพูดของซุนหลึ่งหยิ่ง รีบเก็บดาบยาวของตนกลับคืนทันที ตุบเสียงทิ้งตัวคุกเข่าลงอย่างหนักดังขึ้น กล่าวด้วยความใจฝ่อยิ่งว่า “ข้าน้อยสมควรตาย”
สมควรทราบว่า องครักษ์ผู้นี้คือระดับเทพแท้จริงที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่ใดก็นับเป็นผู้เยี่ยมยอดคนหนึ่ง แต่เวลานี้เมื่ออยู่ต่อหน้าซุนหลึ่งหยิ่งแล้ว พลันถูกทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ
ซุนหลึ่งหยิ่งยังคงยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทีเย็นชา สายตาตกอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่ เขาไม่ได้มีน้ำเสียงที่มีอำนาจเป็นที่หวาดผวา ไม่มีท่าทีการยกตนข่มท่าน แววตาเรียบเฉยมากขณะจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่ พยักหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “ฝ่าบาทพวกเราต้องการพบแขกผู้นี้สักครั้ง”
บรรดาองครักษ์ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดถึงกับใจหายใจคว่ำเมื่อได้ยินคำพูดของซุนหลึ่งหยิ่ง รู้สึกหวาดผวาในใจ ต่างมองดูหลี่ชิเย่ทีหนึ่งและรู้สึกงงงัน ไม่รู้ว่าหลี่ชิเย่เป็นใครมาจากไหนกันแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...