ตอน ตอนที่ 2449 คุณชายเฮ่อเฟย จาก ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 2449 คุณชายเฮ่อเฟย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
“ข้าเป็นตัวอะไร? ” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะได้ตามอารมณ์ยิ่งนัก ยิ้มกล่าวด้วยท่าทางสบายๆ ว่า “ข้าก็คือฮ่องเต้ที่พวกเจ้าคุกเข่าเลียเอาอกเอาใจคนนั้น ไม่ว่าจะเป็นสำนักเสินสิงเหมิน หรือห้าแกร่งอะไรก็แค่มดปลวกที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของข้าเท่านั้นเอง แม้แต่เทพวายุของพวกเจ้า เมื่ออยู่ต่อหน้าข้าก็ต้องคุกเข่าก้มกราบ สำหรับพวกเจ้าน่ะหรือ แค่มดปลวกตัวน้อยๆ ที่แม้แต่คุกเข่าเลียรองเท้าก็ยังไม่มีโอกาส ฐานะอย่างพวกเจ้า คิดจะก้มลงกราบและเลียให้กับข้าล่ะก็ เกรงว่าคงต้องเข้าแถวยาวไปถึงนอกเมืองกัวชางเฉิงราวแปดพันลี้กระมัง”
สีหน้าของบรรดาศิษย์สำนักเสินสิงเหมินที่อยู่ในเหตุการณ์พลันเปลี่ยนไป เมื่อหลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา คำพูดลักษณะเช่นนี้เป็นการสร้างความอับอายแก่สำนักเสินสิงเหมินของพวกเขาอย่างโจ๋งครึ่ม เป็นการทำให้ศิษย์ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดต้องอัปยศอดสู
พวกเขากลายเป็นไร้ค่าเมื่อออกจากปากของหลี่ชิเย่ แล้วจะไม่ให้พวกเขาบังเกิดเพลิงแห่งความโกรธที่สุมเต็มอกได้อย่างไร
พูดจาโอ้อวดไม่รู้จักอาย…ในเวลานี้ บรรดาศิษย์สำนักเสินสิงเหมินที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างทยอยกันด่าขึ้นมา และตวาดเสียงดังว่า “ลบหลู่สำนักเสินสิงเหมินพวกเรา โทษสมควรตายหมื่นครั้ง”
“ผู้กล้าไม่เอ่ยถึงวีรกรรมในอดีต! ” สีหน้าคุณชายเฮ่อเฟยในเวลานี้เยือกเย็น ดวงตาทั้งสองเผยปณิธานการฆ่าออกมา กล่าวหยามเหยียดว่า “ในครั้งนั้น ที่ผู้คนใต้หล้ายกย่องเป็นเพียงราชวงศ์โต่วเซิ่นเท่านั้น ที่ยกย่องเป็นเพียงฮ่องแต้ไท่ชิงเท่านั้น เจ้าที่เป็นฮ่องเต้ชั่วไร้ความสามารถ ใครเขาจะให้ความสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้น มาถึงวันนี้แล้วราชวงศ์โต่วเซิ่นของพวกเจ้าจบสิ้นไปแล้ว เจ้าก็แค่ฮ่องเต้สิ้นชาติที่มาอาศัยชายคาผู้อื่นเท่านั้น เป็นเพียงผู้หมดที่พึ่ง ไร้ญาติขาดมิตรคนหนึ่งเท่านั้น”
“ขอโทษ ต่อให้ข้าเป็นเพียงฮ่องเต้สิ้นชาติคนหนึ่ง เป็นผู้หมดที่พึ่ง ไร้ญาติขาดมิตรคนหนึ่ง ก็ยังคงเป็นคนที่ให้สำนักเสินสิงเหมินพวกเจ้าต้องคุกเข่าเลีย” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “สำหรับพวกเจ้าน่ะหรือ แม้แต่มาคุกเข่าเลียยังไม่มีโอกาสเลย เป็นได้แค่ฝุ่นใต้ตีนเท่านั้นเอง”
เจ้า…คุณชายเฮ่อเฟยพลันถูกยั่วโมโหจนใบหน้าแดงก่ำ ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เป็นเวลานาน
“ในฐานะเป็นบุรุษ อย่าได้อาศัยปากเก่ง” เวลานี้ธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวากล่าวน่าเกรงขามขึ้นมาว่า “เก่งจริงก็แสดงฝีมือที่แท้จริงออกมา มัวแต่เอ่ยถึงเรื่องราวในอดีต นับเป็นผู้ชายแบบไหนกัน! ”
“แสดงฝีมือที่แท้จริงออกมา” หลี่ชิเย่อดที่จะหัวเราะขึ้นมา กล่าวเอ้อระเหยว่า “เจ้ายังจะให้ความสำคัญในตัวเองจริงๆ แค่มดปลวกฝูงหนึ่งเท่านั้น คู่ควรให้ข้าแสดงฝีมือจริงรึ? แค่ยกเท้าขึ้นมาก็สามารถบดขยี้พวกเจ้าแล้ว”
อวดดียกตนข่มท่าน…เวลานี้ ศิษย์จำนวนไม่น้อยของสำนักเสินสิงเหมินต่างทยอยกันออกปากด่าว่า กระทั่งมีศิษย์ที่กระโดดตัวลอยและถลกแขนเสื้อขึ้น ร้องตวาดเสียงดังว่า “ศิษย์พี่สาว กับฮ่องเต้ชั่วแบบนี้ไหนเลยต้องให้ท่านลงมือด้วยตนเอง เป็นการทำให้ท่านเปื้อนมือเปล่าๆ ให้ศิษย์น้องสั่งสอนแทนก็พอแล้ว”
บรรดาศิษย์เหล่านี้ยังไม่ทันลงมือก็ถูกคุณชายเฮ่อเฟยโบกมือห้ามพวกเขาเอาไว้ ดวงตาทั้งสองเผยปณิธานการฆ่าที่น่ากลัวออกมา กล่าวน่าครั่นคร้ามว่า “ในเมื่อเจ้ามีฝีมือเช่นนี้ ถ้าเช่นนั้นก็ให้ข้าได้ขอคำชี้แนะสักหน่อย! ” กล่าวพลางก้าวเดินไปข้างหน้า ดวงตาทั้งสองฉายแววปณิธานการฆ่า ประกายเยือกเย็นคุกคามผู้คน
“ศิษย์พี่ ไม่ได้นะ” จางเจี้ยนชวนรีบเข้าขวางเอาไว้พร้อมกับส่ายหน้า เมื่อเห็นว่าคุณชายเฮ่อเฟยจะลงมือต่อหลี่ชิเย่
จางเจี้ยนชวนคั่นกลางระหว่างพวกเขาทั้งสอง เขาเองรู้สึกเจ็บปวด แต่ว่าเขาเองก็จนปัญญา เขาได้รับคำสั่งมาจะต้องรับผิดชอบในความปลอดภัยของหลี่ชิเย่
“ศิษย์น้อง เจ้าถอยไปอยู่ข้างๆ เสีย ต่อให้ฟ้าถล่มลงมาข้าก็จะรับผิดชอบเอง” คุณชายเฮ่อเฟยพูดเสียงเย็นชาขึ้นมา
จางเจี้ยนชวนส่ายหน้า และกล่าวด้วยท่าทีที่แน่วแน่มั่นคงว่า “ศิษย์พี่ ใช่ว่าน้องจงใจเป็นศัตรูกับท่าน เพียงแต่ท่านปรมาจารย์ก่อนไปจากได้สั่งเป็นมั่นเป็นเหมาะ จะต้องดูแลความปลอดภัยของฝ่าบาทเป็นอย่างดี ดังนั้น ขอศิษย์พี่โปรดอภัย มิฉะนั้นแล้วก็ไม่สามารถอธิบายต่อท่านปรมาจารย์ได้”
“ศิษย์พี่ เร็วๆ นี้น้องได้ฝึกเคล็ดวิชามาแขนงหนึ่ง น้องใคร่อยากศึกษากับศิษย์พี่สักหน่อย ขอศิษย์พี่ได้ชี้แนะให้บ้าง” ในเวลานี้เอง ธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาก็ก้าวออกมาทันที และเข้าขวางจางเจี้ยนชวนเอาไว้
ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า ไม่ว่าจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาหรือว่าคุณชายเฮ่อเฟย และหรือบรรดาศิษย์สำนักเสินสิงเหมินที่อยู่ในเหตุการณ์ในวันนี้ก็จะไม่ยอมเลิกราง่ายๆ เด็ดขาด
“ศิษย์น้อง ใยจะต้องทำเช่นนี้เล่า” เมื่อจางเจี้ยนชวนเห็นว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาต้องการขวางตนเอาไว้ และรู้จุดประสงค์ของจาง ถึงกับหัวเราะเจื่อนๆ ขึ้นมา
“ข้าไม่หาเรื่องเขาก็ได้ ให้เขาส่งมอบสัญญาแต่งงานออกมา และหรือปฏิเสธเรื่องแต่งงานในวันนั้นเสีย” ธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวากล่าวน้ำเสียงเย็นชาขึ้นมา
แม้จะกล่าวว่าเทพวายุจนด้วยเกล้าอย่างยิ่ง ในฐานะที่เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ เขาเป็นผู้รับปากเรื่องแต่งงานนี้กับฮ่องแต้ไท่ชิงด้วยตนเอง ดังนั้น ด้วยตำแหน่งฐานะ และนิสัยของเขาแล้ว ไม่สามารถกลับคำเรื่องแต่งงานในครั้งนี้ได้
แต่ทว่า สำหรับธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวานั้นต่างกัน นางย่อมไม่ยินยอมแต่งงานกับฮ่องเต้ชั่วที่มั่วโลกีย์ไร้คุณธรรม บ้ากามและไร้ความสามารถเช่นนี้ ดังนั้น เวลานี้สถานการณ์ของหลี่ชิเย่ได้เปลี่ยนไป นางที่อยู่ในฐานะธิดาศักดิ์สิทธิ์ของสำนักเสินสิงเหมิน ย่อมมีศักยภาพที่จะไปบีบบังคับหลี่ชิเย่ให้ยกเลิกงานแต่งนี้เสีย นางต้องการเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตน
ดังนั้น กล่าวสำหรับธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาแล้ว วันนี้ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม นางก็ต้องอาศัยกำลังบีบบังคับหลี่ชิเย่ให้ยกเลิกการแต่งงานในครั้งนี้ไปเสีย
จังหวะที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาขวางจางเจี้ยนชวนเอาไว้นั้น คุณชายเฮ่อเฟยได้บีบคั้นหลี่ชิเย่เพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่ง กล่าวต่อหลี่ชิเย่ด้วยท่าทีน่าเกรงขามว่า “ข้าจะไม่เอาเปรียบเจ้า ให้เจ้าได้ลงมือก่อนสามกระบวนท่า! หลังจากสามกระบวนท่าแล้ว ระวังข้าเอาชีวิตสุนัขอย่างเจ้า”
นาทีนี้ลูกบอลไม้ขนาดยักษ์ส่งเสียงดังตูมตามขึ้นมาไม่ขาดสาย และอาศัยความเร็วที่เหนือความเร็วของสายฟ้าแลบพุ่งเข้าใส่คุณชายเฮ่อเฟยที่บินขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้า
เสียงแว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น ขณะที่ลูกบอลไม้ขนาดยักษ์อาศัยความเร็วที่ปราศจากผู้เทียบเทียมพุ่งชนเข้ามา ช่องว่างมีการกระเพื่อมสั่นไหวทีหนึ่ง หลังของคุณชายเฮ่อเฟยคล้ายมีปีกงอกออกมาคุ่หนึ่งอย่างนั้น พลันมองเห็นท่าร่างของเขาที่พริ้วไหว คล้ายเป็นกระเรียนที่เต้นระบำอย่างนั้น อาศัยท่าร่างที่เคลื่อนที่ได้รวดเร็วหลบพ้นการพุ่งชนเข้ามาของลูกบอลไม้ขนาดยักษ์
ตูม…ลูกบอลไม้ขนาดยักษ์มีการสั่นไหวขึ้นอีกครั้งหลังจากที่พลาดเป้าไป มันได้เพิ่มความเร็วขึ้นมาอีกครั้ง ขนาดและความเร็วของมันก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
ตูม ตูม ตูมในเวลานี้ บนท้องฟ้าปรากฏเสียงดังตูมตามขึ้นมาเป็นระลอก ลูกบอลไม้ขนาดยักษ์กลิ้งไล่กวดพุ่งชนเข้าใส่คุณชายเฮ่อเฟยอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่ท่าร่างของคุณชายเฮ่อเฟยถือเป็นหนึ่งในสุดยอดเคล็ดวิชา เขาได้ฝึกท่าร่างที่ปราศจากผู้ต่อกรของสำนักเสินสิงเหมิน ร่ายรำดั่งนกกระเรียน หลบหลีกจากการพุ่งโจมตีของไม้บรรพจารย์สิบแปดผันได้ครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่ว่า ไม้บรรพจารย์สิบแปดผันนั้นมีการเพิ่มความเร็วขึ้นทุกครั้งที่กลิ้งเคลื่อนที่ไป และขนาดของมันก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งการเพิ่มขึ้นทุกครั้งล้วนแล้วแต่เป็นการเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ดังนั้น ต่อให้ท่าร่างของคุณชายเฮ่อเฟยสุดยอดมีเพียงหนึ่งไม่มีสองในหล้าก็ตาม เมื่อขนาดและความเร็วของไม้บรรพจารย์สิบแปดผันเพิ่มขึ้นจนได้ระดับหนึ่งแล้ว เขาก็ไม่สามารถหลบหลีกการพุ่งโจมตีของไม้บรรพจารย์สิบแปดผันได้อีกแล้ว
เปิด…จากการที่ได้ปรับความเร็วท่าร่างของตนขึ้นไปจนถึงขีดสุดแล้ว แต่ยังคงไม่สามารถสลัดหนีการตามล่าจากไม้บรรพจารย์สิบแปดผันทางด้านหลังไปได้ คุณชายเฮ่อเฟยได้คำรามเสียงดังขึ้น ปรากฏเป็นโล่ขนาดยักษ์อยู่ในมือ หวังอาศัยสิ่งนี้รับมือโดยตรงกับไม้บรรพจารย์สิบแปดผันที่พุ่งชนเข้ามา
ตูม…เสียงดั่งสนั่นหวั่นไหว แผ่นดินสะเทือน ภายใต้ลูกบอลไม้ขนาดยักษ์ที่มีขนาดและความเร็วปราศจากผู้เทียบเทียมพุ่งชนเข้ามานั้น ได้ยินเสียงปังดังขึ้น มองเห็นโล่ศักดิ์สิทธิ์ในมือของคุณชายเฮ่อเฟยพลันแตกละเอียด เศษชิ้นส่วนปลิวกระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้า
คร๊ากกกเสียงหนึ่งดังขึ้น เลือดสดๆ แตกกระจาย เสียงกระดูกแตกละเอียดดังแสบแก้วหู ได้ยินเสียงน่าเวทนาดังอ๊ากกกขึ้นมา ร่างของคุณชายเฮ่อเฟยถูกลูกบอลไม้ขนาดยักษ์พุ่งชนเข้าให้อย่างแรงจนเลือดไหลโทรมกาย ภายใต้การพุ่งชนลักษณะเช่นนี้ ไม่รู้ว่ากระดูกของคุณชายเฮ่อเฟยถูกชนจนแตกละเอียดไปเท่าไร เรียกว่าร่างนั้นยับเยินมาก
ภายใต้การพุ่งชนอย่างรุนแรง ทำให้ร่างของคุณชายเฮ่อเฟยร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าสูง
แต่ทว่า ไม้บรรพจารย์สิบแปดผันไม่ยอมละเว้นคุณชายเฮ่อเฟย ได้ยินเสียงตูมดังสนั่นขึ้นมา ลูกบอลไม้ขนาดยักษ์ได้กลิ้งเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วอีกครั้ง และท่ามกลางเสียงตูมที่ดังสนั่นหวั่นไหวครั้งนี้ มันได้อาศัยความเร็วที่ปราศจากผู้เทียบเทียมพุ่งชนลงมา พุ่งตรงเข้าโจมตีคุณชายเฮ่อเฟย มันต้องการพุ่งชนคุณชายเฮ่อเฟยให้กลายเป็นหมอกเลือด
………………………………………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...