“เอาไป สินสอดเล็กๆ น้อยๆ นับเป็นอะไรได้ ข้าให้ได้อยู่แล้ว” หลี่ชิเย่ยิ้มพลางและจัดการโยนของวิเศษทั้งห้าออกไปตามอารมณ์ ขณะที่ของวิเศษทั้งห้าชิ้นถูกโยนออกไป พลันปรากฏกลิ่นอายราชันแท้จริงที่ตลบอบอวล
ของวิเศษทั้งห้าชิ้นก็คือของวิเศษทั้งห้าชิ้นระดับราชันแท้จริงนั่นเอง ในจำนวนของวิเศษทั้งห้าชิ้นนี้ประกอบด้วย มุกราชัน เสื้อเกราะศักดิ์สิทธิ์ เสื้อสวรรค์…ของวิเศษทุกชิ้นล้วนแล้วแต่เปล่งประกายลอยขึ้นมา และอานุภาพราชันที่ตลบอบอวล
ของวิเศษราชันแท้จริง…ขณะที่หลี่ชิเย่โยนของวิเศษราชันแท้จริงออกมาห้าชิ้นนั้น ศิษย์สำนักเสินสิงเหมินทั้งหมดที่อยู่ด้านนอกประตูพลันส่งเสียงฮือฮาขึ้นมา ทุกคนอดที่จะยืดคอของตนให้ยาวขึ้น และคู่ดวงตาเบิกกว้างสุดๆ ไม่ได้
แม้แต่เทียนเฮ่อเจินเหริน และระดับบรรพบุรุษของสำนักเสินสิงเหมินก็ตะลึงงัน พวกเขาต่างทยอยกันเบิ่งตามองดูของวิเศษทั้งห้าชิ้นนี้
แม้จะกล่าวว่า สำหรับสำนักเสินสิงเหมินแล้ว พวกเขาก็สามารถนำเอาของวิเศษราชันแท้จริงจำนวนสามถึงห้าชิ้น และหรือของวิเศษที่อยู่ในระดับเดียวกันออกมาได้เหมือนกัน แต่ทว่า การโยนของวิเศษราชันแท้จริงห้าชิ้นออกมาตามอารมณ์ ทั้งยังไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย เหมือนดั่งที่โยนออกมานั้นคือผักกาดขาวห้าต้นอย่างนั้น ข้อนี้สำนักเสินสิงเหมินของพวกเขายังไม่สามารถทำได้
ไม่ง่ายนัก หลังจากที่เทียนเฮ่อเจินเหรินกับระดับบรรพบุรุษของสำนักเสินสิงเหมินจะได้สติกลับมาแล้ว พวกเขาต่างมองหน้ากันและกัน พวกเขาเองก็นึกไม่ถึงว่าหลี่ชิเย่แค่หยิบออกมาตามอารมณ์ก็โยนเอาของวิเศษราชันแท้จริงออกมาได้ ซึ่งอยู่เหนือความคาดคิดของพวกเขาโดยสิ้นเชิง ในเวลานี้ เทียนเฮ่อเจินเหรินกับระดับบรรพบุรุษของสำนักเสินสิงเหมินล้วนแล้วแต่พูดอะไรไม่ออก
แรกที่เดียวที่เทียนเฮ่อเจินเหรินเสนอข้อเรียกร้องเช่นนี้ออกมานั้น เขาต้องการให้หลี่ชิเย่รู้ว่าเรื่องนี้ทำได้ยากแล้วยอมถอย เป็นการกลั่นแกล้งหลี่ชิเย่ ขณะเดียวกันก็ต้องการทดสอบหยั่งเชิงหลี่ชิเย่
ถ้าหากว่าหลี่ชิเย่ไม่สามารถเอาของวิเศษราชันแท้จริงห้าชิ้นออกมาเป็นสินสอด เช่นนั้นแล้วการถอนหมั้นของสำนักเสินสิงเหมินพวกเขาก็ทำได้สมเหรตุสมผล ถึงเวลานั้นก็ไม่สามารถบอกว่าสำนักเสินสิงเหมินของพวกเขาไม่รักษาคำพูด และไม่สามารถหาว่าสำนักเสินสิงเหมินพวกเขาไม่ทำตามคำมั่นสัญญา แต่เป็นเพราะหลี่ชิเย่ไม่สามารถนำเอาสินสอดมาแต่งงานกับธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวา
เวลานี้ เทียนเฮ่อเจินเหรินกับระดับบรรพบุรุษของสำนักเสินสิงเหมินต่างมองตากันและกัน ท่าทางของพวกเขาดูจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก พวกเขานึกไม่ถึงว่าหลี่ชิเย่จะโยนของวิเศษราชันแท้จริงออกมาได้ตามใจเช่นนี้
ในขณะนี้เอง ภายในใจของพวเขาก็รู้สึกหวั่นไหว เวลานี้เทียนเฮ่อเจินเหรินกับระดับบรรพบุรุษของสำนักเสินสิงเหมินต่างตระหนักถึงปัญหาข้อหนึ่งพร้อมกัน
การที่หลี่ชิเย่สามารถโยนของวิเศษราชันแท้จริงทั้งห้าออกมาตามอารมณ์ อีกทั้งยังทำเหมือนเป็นการโยนผักกาดขาวออกมาอย่างนั้น ย่อมเป็นการบ่งบอกว่าหลี่ชิเย่ไม่ได้หวงแหนของวิเศษราชันแท้จริงที่ทุกคนมองว่าเป็นของวิเศษเลยแม้แต่น้อย และเป็นการอธิบายได้ว่า ของวิเศษราชันแท้จริงที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่ยังมีอยู่อีกเป็นจำนวนมาก ไม่ได้มีอยู่เพียงเท่านี้
ภายในใจของเทียนเฮ่อเจินเหรินกับระดับบรรพบุรุษของสำนักเสินสิงเหมินถึงกับหวั่นไหวเมื่อนึกถึงข้อนี้ คลังสมบัติส่วนตัวของฮ่องแต้ไท่ชิงมีมากเพียงใด เป็นที่ต้องการครอบครองมากของผู้คนเท่าไร แม้จะกล่าวว่า ฮ่องแต้ไท่ชิงได้ตายไปแล้ว และราชวงศ์โต่วเซิ่นก็ล่มสลายไป แต่หลี่ชิเย่ที่อยู่ในฐานะฮ่องแต้องค์ใหม่กลับได้สืบทอดคลังสมบัติของฮ่องแต้ไท่ชิงเลยนะ
ในเวลานี้ ทั้งเทียนเฮ่อเจินเหรินและระดับบรรพบุรุษของสำนักเสินสิงเหมินอดที่จะแอบมองตากันและกันลับๆ เผยให้เห็นแววตาของความโลภออกมา ถ้าหากว่าสำนักเสินสิงเหมินของพวกเขาสามารถได้รับคลังสมบัติหลวงของฮ่องแต้ไท่ชิงมาครอบครอง มันบ่งบอกถึงสิ่งใด?
นั่นจะเป็นการบ่งบอกว่า ธาตุแท้ภายในของสำนักเสินสิงเหมินพวกเขาได้ก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง และเป็นการบ่งบอกว่าในอนาคตหากสำนักเสินสิงเหมินพวกเขาจะชิงแผ่นดินกับอีกสี่แกร่งที่เหลือ ก็จะมีกำลังและธาตุแท้ภายใจเพิ่มมากขึ้นอีกส่วนหนึ่ง
ไม่ ข้าไม่แต่ง…ในเวลานี้เอง ธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาได้ก้าวออกมาและส่งเสียงดังว่า “ท่านพ่อ ต่อให้เป็นของวิเศษราชันแท้จริงร้อยชิ้นข้าก็ไม่แต่ง ข้าไม่ใช่สินค้า! ข้าไม่เห็นด้วยกับการค้าเช่นนี้อยู่แล้ว และข้าก็จะไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานในครั้งนี้อย่างเด็ดขาด! ”
“อย่างนั้นรึ? ” หลี่ชิเย่มองดูธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาที่มีท่าทีโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ กล่าวเอ้อระเหยขึ้นมาว่า “ข้าได้มอบสินสอดให้แล้ว นับจากวันนี้เป็นต้นไป เจ้าก็คือผู้หญิงของข้าแล้ว”
“ฝันไปเถอะ! ” ธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาเชิดใส่หลี่ชิเย่ทีหนึ่ง กล่าวน่าเกรงขามขึ้นมาว่า “ต่อให้เจ้ามีของวิเศษราชันแท้จริงเป็นพันเป็นหมื่นชิ้น ต่อให้มีคลังหลวงทั้งหลังอยู่ในครอบครอง ข้าก็จะไม่แต่งกับเจ้า! ฮึแค่สวะที่อ่อนแอไร้ความสามารถก็คิดจะแต่งงานกับข้า เป็นความฝันของคนปัญญาอ่อน! ”
ในสายตาของธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวามองว่า หลี่ชิเย่ก็คือฮ่องแต้ชั่วที่มั่งโลกีย์ไร้คุณธรรมคนหนึ่ง คือสวะที่อ่อนแอไร้ความสามารถคนหนึ่ง นางที่อยู่ในฐานะสตรีผู้สูงศักดิ์ เป็นผู้ที่อยู่ในฐานะสูงส่งตลอดมา และมีท่าทีที่หยิ่งผยอง ไหนเลยจะมองเห็นหลี่ชิเย่อยู่ในสายตาเล่า ยิ่งไม่ยินยอมแต่งกับหลี่ชิเย่อยู่แล้ว
“คืนนี้ให้นางมาอุ่นเตียงให้กับข้าก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่แสดงท่าทียิ้มๆ นิดหนึ่ง เชิดคางกับธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาทีหนึ่ง และพูดเอ้อระเหยกับเทียนเฮ่อเจินเหรินว่า “วันนี้เราจะเล่นให้สนุกสักหน่อย จัดการอบรมสั่งสอนผู้หญิงเช่นนี้ให้อย่างดี! ”
พลันที่หลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา สีหน้าของธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาปั้นยากจนถึงขีดสุด จ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธเคืองอย่างยิ่ง ดวงตาทั้งสองแทบจะพ่นเป็นเพลิงแห่งความโกรธออกมา ศิษย์สำนักเสินสิงเหมินที่อยู่นอกประตูต่างมีอารมณ์โกรธร่วม คำพูดลักษณะเช่นนี้นับว่าเป็นการสร้างความอัปยศอย่างยิ่งกับเทพธิดาในดวงใจของพวกเขา!
ปากเจ้าให้มันเป็นมงคลหน่อย…คุณชายเฮ่อเฟยส่งเสียงดังออกมาด้วยความโกรธจัด
“ทำไมรึ? ไม่พอใจรึ? ” หลี่ชิเย่ที่มีท่าทางที่เหนื่อยหน่าย กล่าวว่า “แค่ผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้นเอง สามารถได้รับการอบรมสั่งสอน สามารถคุกเข่าเลียข้า มันคือเกียรติอย่างหนึ่ง! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...