ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2452

สรุปบท ตอนที่ 2452 สินสอด: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2452 สินสอด – ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet

บท ตอนที่ 2452 สินสอด ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บรรดาระดับบรรพบุรุษของสำนักเสินสิงเหมินที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างนั่งกันสงบอยู่ตรงนั้น เมื่อธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาก้าวออกมาและพูดคำพูดลักษณะเช่นนี้ออกมา ไม่ได้รู้สึกเหนือความคาดคิด สิ่งนี้หาใช่อยู่ในความคาดคิดของพวกเขา แต่เป็นเพราะทุกอย่างล้วนแล้วแต่อยู่ในแผนการของพวกเขา

สำหรับศิษย์ส่วนมากของสำนักเสินสิงเหมินที่อยู่นอกประตูนั้น มีอยู่จำนวนมากที่ทยอยกันจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่ บางคนบันดาลโทสะ บางคนเหยียดหยาม และมีบางคนที่ยิ้มเยาะ ยิ่งกว่านั้นยังมีคนที่ดีใจ…

กล่าวสำหรับศิษย์สำนักเสินสิงเหมินจำนวนมากกว่านั้น พวกเขายังไม่ทราบว่าวันนี้บรรดาระดับบรรพบุรุษทั้งหลายต้องการทำอะไร ขณะที่พวกของเทียนเฮ่อเจินเหรินเหมือนมีความมั่นใจอยู่ในใจ

หลี่ชิเย่มองดูธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาทีหนึ่งแล้วถึงกับหัวเราะขึ้นมา และยิ้มกล่าวว่า “”พูดไปพูดมา พวกเจ้าคิดจะถอนหมั้น หรือว่าปฏิเสธงานแต่งในครั้งนี้”

“ถูกต้อง” ธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวามองหลี่ชิเย่ด้วยสายตาเย้ยหยัน กล่าวน่าเกรงขามขึ้นว่า “เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญของชีวิต ว่ากันด้วยเรื่องของความเหมาะสมของฐานะ เจ้าเองไม่ใช่ฮ่องแต้ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่อีกต่อไปแล้ว ราชวงศ์โต่วเซิ่นในวันนี้สิ้นชาติและแผ่นดินแตกสลาย ไม่คู่ควรกับสำนักเสินสิงเหมินอีกแล้ว! หากรู้จักกาลเทศะล่ะก็ถอนหมั้นครั้งนี้เสีย อย่าหาเหาใส่หัว! ”

ธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาได้พูดอย่างชัดเจนแล้ว และพูดได้เย็นชาไร้น้ำใจยิ่ง เหมือนดั่งที่นางพูดเอาไว้ว่า เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญในชีวิต นี่เป็นโอกาสที่นางจะชิงเอาสิทธิ์ของการเป็นฝ่ายรุกที่ดีที่สุด ก่อนที่จะได้ข้อสรุปโดยสิ้นเชิง และเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของนางในการเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของนาง นางจะไม่ยอมปล่อยผ่านโอกาสที่ดีที่สุดนี้ไป ดังนั้น นางจะไม่ยอมแต่งงานกับหลี่ชิเย่ที่เป็นฮ่องแต้ชั่วอย่างเด็ดขาด และจะไม่ยอมปล่อยให้ชะตาชีวิตของตนมาผูกติดอยู่กับฮ่องแต้สิ้นชาติคนหนึ่งเด็ดขาด

กล่าวสำหรับ ธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาแล้วนางมีอนาคตที่ไร้ขอบเขต ในฐานะที่เป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ของสำนักเสินสิงเหมิน นางไม่เพียงมีรูปโฉมที่งดงามเป็นที่ประทับใจ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีพรสวรรค์ที่สูงมาก นางจะยอมเคียงข้างอยู่กับฮ่องแต้ชั่วที่สิ้นชาติสิ้นแผ่นดินไปชั่วชีวิตได้อย่างไรเล่า นางคือหงส์ที่อยู่บนท้องฟ้าย่อมไม่ยอมผูกติดอยู่กับฮ่องแต้ชั่วคนหนึ่ง ครั้นนางโผบินขึ้นเมื่อใด นางถูกลิขิตเอาไว้แล้วว่าจะต้องบินร่อนอยู่เหนือเก้าชั้นฟ้า!

ฐานะเหมาะสม…หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมาเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ ส่ายหน้าและกล่าวว่า “อาศัยเจ้าน่ะหรือ? ก็มีสิทธิ์มาพูดคำว่าฐานะเหมาะสมกับข้า? ”

เจ้า…สีหน้าของธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาพลันแดงก่ำและถึงกับจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธ ปรากฎอารมณ์ขุ่นมัวฉุนเฉียวสายหนึ่งขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

เจ้านับเป็นตัวอะไร…มีศิษย์ของสำนักเสินสิงเหมินที่รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที และกล่าวดั่งไม่ได้รับความเป็นธรรมว่า “เวลานี้เจ้าก็คือผู้ที่หมดที่พึ่ง ไร้ญาติขาดมิตรยังกล้าพูดจาอย่างไม่มียางอาย! ”

ฮึ…แม้แต่คุณชายเฟยเฮ่อก็ส่งเสียงฮึเย็นชาขึ้นมา แววตาดูน่าเกรงขาม กล่าวน่าครั่นคร้ามว่า “มองข้ามความหวังดีของผู้อื่น”

อะแอม…ในเวลานี้เอง เทียนเฮ่เจินเหรินส่งเสียงไอขึ้นมาตัดบททุกคน เผยรอยยิ้มขึ้นมา และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ฝ่าบาท คนหนุ่มก็จะอารมณ์ร้อนเช่นนี้ ทำอะไรมักใช้อารมณ์ ท่านอย่าได้ถือสา หวังว่าฝ่าบาทจะให้อภัย”

หลี่ชิเย่ไม่พูดตอบแต่อย่างใด เพียงยิ้มแต้จ้องมองไปที่เทียนเฮ่เจินเหริน รอยยิ้มบนใบหน้าดูเข้มอย่างยิ่ง

เทียนเฮ่เจินเหรินส่งเสียงไอทีหนึ่ง กล่าวด้วยท่าทีจริงจังต่อหลี่ชิเย่ว่า “ฝ่าบาท สำนักเสินสิงเหมินพวกเราคือหนึ่งในห้าเกร่งของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ คำพูดย่อมเชื่อถือได้ พูดแล้วย่อมรักษาสัจจะ สำหรับเรื่องแต่งงานในครั้งนั้น สำนักเสินสิงเหมินของพวกเราก็ไม่มีแนวคิดที่จะคืนคำ…”

ธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาพลันรู้สึกร้อนรนขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินบิดาของตนพูดออกมาเช่นนี้ จึงส่งเสียงร้องขึ้นมา เพราะมันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับข้อเรียกร้องของนางในตอนนั้น นางถึงกับร้อนรนอย่างยิ่ง เกรงว่าบิดาของตนเห็นด้วยที่จะให้ตนนั้นแต่งงานกับฮ่องแต่ชั่วอย่างฮ่องแต้องค์ใหม่นี้

อะแอม..เวลานี้ เทียนเฮ่เจินเหรินได้ส่งเสียงไอขึ้นมาตัดบทธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวา เอ่ยขึ้นช้าๆ กับหลี่ชิเย่ว่า “ฝ่าบาท สำนักเสินสิงเหมินของพวกเราไม่ได้คิดที่จะกลับคำเรื่องการแต่งงานในครั้งนี้ ขอเพียงมีความเหมาะสม เป็นความจริงที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์สำนักเสินสิงเหมินพวกเราก็สมควรแต่งงานกับฝ่าบาท…”

ท่านพ่อ…เมื่อธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้วรู้สึกตกใจอย่างยิ่ง จึงร้องกล่าวเสียงดังขึ้นทันทีว่า “ท่านพ่อ ข้าไม่ยอมแต่งงานกับฮ่องแต้ชั่วที่มั่วโลกีย์ไร้ความสามารถเช่นนี้! เว้นแต่ข้าจะตายเสียก่อน! ”

ห้ามก่อเรื่องวุ่นวาย…เทียนเฮ่เจินเหรินทำหน้าเข้มทันที งัดเอาอำนาจความเป็นเจ้าสำนักออกมา ส่งเสียงตวาดเสียงดังว่า “เรื่องใหญ่ของสำนัก ไหนเลยให้เจ้ามาก่อกวนได้! ”

ท่าน…ธิดาศักดิ์สิทธิ์เฟยฮวาทั้งโมโหทั้งโกรธ กระทืบเท้าอย่างแรงและก้าวไปยืนอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไรออกมาอีก นางทั้งอับอายทั้งโกรธจนไม่สามารถระงับอารมณ์ได้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าบรรดาเหล่าบรรพบุรุษแล้ว นางก็ไม่กล้าที่จะทำบุ่มบ่ามอะไร

คุณชายเฟยเฮ่อที่ยืนอยู่ด้านข้างถึงกับตระหนกเช่นกันเมื่อได้ยินคำพูดของผู้เป็นอาจารย์ เขาเองก็นึกไม่ถึงว่าเรื่องราวจะกลับตาลปัตรถึงเพียงนี้

เทียนเฮ่อเจินเหรินทำเสียงไออะแฮ่มทีหนึ่ง หัวเราะชอบใจและกล่าวว่า “ฝ่าบาทก็ควรจะทราบดีว่า สำนักเสินสิงเหมินพวกเราคือหนึ่งในห้าแกร่ง การออกเรือนของธิดาศักดิ์สิทธิ์คือเรื่องใหญ่มาก การแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญในชีวิตจะทำลวกๆ ไม่ได้ ไหนเลยทำเป็นเด็กเล่นขายของได้? ฝ่าบาทว่าอย่างนั้นหรือไม่? ”

“จากนั้นล่ะ? ” หลี่ชิเย่พลันหัวเราะเสียงดังขึ้นมา ท่าทางเหมือนรู้สึกน่าสนุกขึ้นมาโดยพลันอย่างนั้น

“บุตรีของข้ากำลังจะแต่งงานกับฝ่าบาทอยู่แล้ว” เทียนเฮ่เจินเหรินหัวเราะชอบใจและกล่าวว่า “ฝ่าบาทต้องการแต่งงานกับบุตรีของข้าก็สมควรได้เวลาที่จะต้องมีการมอบสินสอดกันแล้ว ไม่ทราบว่าฝ่าบาทจะมอบสิ่งใดเป็นสินสอดเล่า? ”

“ไม่ทราบว่าพวกเจ้าต้องการสินสอดแบบไหนกัน” หลี่ชิเย่อดเผยรอยยิ้มที่ลึกซึ้งและเอ่ยเอ้อระเหยขึ้นมา

เนื่องจากหลี่ชิเย่ได้ทำให้คุณชายเฟยเฮ่อบาดเจ็บสาหัสเมื่อวานนี้ ไม้บรรพจารย์สิบแปดผันที่อยู่ในมือของเขานั้น นับเป็นของวิเศษที่ฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่งและยอดเยี่ยมมากทีเดียว

แน่นอนที่สุด การที่หลี่ชิเย่มีของวิเศษที่ทรงพลังและฝืนลิขิตสวรรค์เช่นนี้ในครอบครองก็ใช้เป็นเรื่องที่เหนือความคาดคิด จะอย่างไรเสียเขาเคยเป็นถึงฮ่องแต้ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ และราชวงศ์โต่วเซิ่นเคยมีคลังสมบัติที่ใหญ่ที่สุดในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ มีของวิเศษจำนวนมหาศาล

ดังนั้น เทียนเฮ่เจินเหรินจึงอยากรู้ว่า ขณะหลี่ชิเย่หนีเอาชีวิตรอดนั้น ได้นำเอาของวิเศษที่อยู่ในคลังสมบัติมาเท่าไร ขณะเดียวกันก็ทำให้ภายในใจของเทียนเฮ่เจินเหรินบังเกิดความโลภขึ้นมา

ถ้าหากบนตัวของหลี่ชิเย่ได้นำเอาของวิเศษติดตัวมาด้วยมากพอ กระทั่งมีอาวุธระดับปฐมบรรพบุรุษ เมื่อสวรรค์ได้ประทานโอกาสดีเช่นนี้มาให้แล้ว สำนักเสินสิงเหมินของพวกเขาจะปล่อยผ่านได้อย่างไรกัน หากไม่ทำการีดเอาสมบัติบนตัวของหลี่ชิเย่ออกมาให้หมด ไม่แย่งชิงเอาสมบัติทุกชิ้นบนตัวของเขาออกมาให้หมด สำนักเสินสิงเหมินของพวกเขาจะไม่ยอมเลิกราอย่างเด็ดขาด

ความจริงแล้ว ไม่เพียงแต่เทียนเฮ่เจินเหรินที่สายตาเผยแววตาที่โลภออกมาเท่านั้น แม้แต่บรรดาบรรพบุรุษของสำนักเสินสิงเหมินที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างทยอยกันจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่ และแววตาได้เผยประกายตาที่โลภออกมา

สิ่งนี้จะไปโทษเทียนเฮ่เจินเหริน และบรรดาบรรพบุรุษสำนักเสินสิงเหมินเผยแววตาแห่งความโลภออกมาก็ไม่ถูก การที่ฮ่องเต้ไท่ชิงเป็นฮ่องแต้มาสามยุคสมัย เป็นใหญ่แต่ผู้เดียวใต้หล้า ได้รวบรวมและรีดเอาสมบัติล้ำค่าและอาวุธศักดิ์สิทธิ์มาเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนจนกองเต็มคลังสมบัติของราชวงศ์โต่วเซิ่น

กล่าวได้ว่า ภายในคลังสมบัติของฮ่องเต้ไท่ชิงมีของวิเศษที่ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วยใฝ่ฝันอยากได้มาครอบครอง ขณะที่ฮ่องแต้องค์ใหม่ในฐานะผู้สืบทอดตำแหน่งของฮ่องเต้ไท่ชิง ก็ต้องสืบทอดสมบัติล้ำค่าและอาวุธศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดของฮ่องเต้ไท่ชิงเช่นกัน

แม้ว่าราชวงศ์โต่วเซิ่นในเวลานี้ได้ล่มสลายไปแล้ว แต่ว่า ไม่แน่นักหลี่ชิเย่ที่เป็นฮ่องแต้ชั่วที่สิ้นชาติได้นำเอาสมบัติล้ำค่าและอาวุธศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดของฮ่องเต้ไท่ชิงหลบหนีออกมาด้วย

“สมบัติล้ำค่าระดับราชันแท้จริงสามถึงห้าชิ้นใช่มั้ย” ขณะที่ทุกคนต่างจ้องมองดูหลี่ชิเย่นั้น หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา และกล่าวว่า “นี่มันเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น”

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างงงงันเมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่ รวมทั้งเทียนเฮ่เจินเหริน ตัวเขาเองก็ถึงกับงุนงงนิดหนึ่ง ไม่นึกเลยว่าหลี่ชิเย่จะตอบตกลงได้รวดเร็วถึงเพียงนี้

วาจาสามหาว…คุณชายเฟยเฮ่อส่งเสียงดังขึ้นมาทันที กล่าวด้วยท่าทีเยาะเย้ยว่า “เจ้าคิดว่าสมบัติวิเศษระดับราชันแท้จริงเป็นผักกาดขาวที่วางขายกันข้างถนน สามารถหยิบออกมาสามหรือห้าชิ้นได้ตามอารมณ์! ”

“แค่สมบัติล้ำค่าระดับราชันแท้จริงสามถึงห้าชิ้นเท่านั้นเอง ใช่สมบัติล้ำค่าระดับปฐมบรรพบุรุษสามถึงห้าชิ้นเสียเมื่อไร ไร้ค่าคู่ควรจะกล่าวถึง” หลี่ชิเย่อดที่จะหัวเราะขึ้นมาไม่ได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล