หลี่ชิเย่มองดูนัยน์ตาที่ใสแจ๋วของหลิ่วชูฉิงแล้วถึงกับเผยรอยยิ้มเต็มใบหน้าขึ้นมา กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยว่า “ถ้าหากข้าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ล่ะ ข้ายังคงเป็นฮ่องแต้ชั่วที่มั่วโลกีย์ไร้คุณธรรมคนนั้น ข้ายังคงเป็นคนที่ไม่เป็นโล้เป็นพายคนนั้น เช่นนั้นแล้วเจ้าจะทำอย่างไรดีล่ะ? ”
หลิ่วชูฉิงอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรออกมา แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดีเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่แล้ว นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก้มหน้าลงและพูดเสียงแผ่วเบาว่า “ข้า ข้าจะพยายาม”
หลี่ชิเย่ถึงกับเผยรอยยิ้มออกมาขณะมองดูผู้หญิงใกล้เคียงกับคำว่าไร้เดียงสา รู้สึกน่าสนใจอย่างยิ่ง ยิ้มกล่าวว่า “ผู้หญิงสักคนหากคิดจะให้ผู้ชายคนหนึ่งเปลี่ยนแปลง อันดับแรกจะต้องสามารถดึงดูดผู้ชายคนนี้เอาไว้ ดังนั้นกล่าวได้ว่า หากเจ้าคิดจะเปลี่ยนแปลงข้า ย่อมต้องมีวิธีที่จะผูกมัดตัวข้าเอาไว้”
ครั้นหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้วได้หยุดนิดหนึ่ง กระพริบตาทีหนึ่ง และกล่าวยั่วยวนว่า “เป็นต้นว่า คนอย่างข้าบ้าผู้หญิงเป็นพิเศษ พลันที่มองเห็นสาวงามก็ตาลุกวาว เจ้าบอกว่าไม่ให้ข้าเจ้าชู้เกรงว่าคงยาก ไม่ปฏิเสธว่าเจ้านั้นงดงามยิ่งนัก แต่ หากคิดจะให้ข้าสำรวมจิตใจจริงๆ ล่ะก็ ต้องปรนนิบัติข้าให้ดี เป็นต้นว่าเรื่องบนเตียง ถ้าหากทำให้ข้าถึงกับหลงใหลจนลืมกลับบ้านกับเรื่องบนเตียงจริงล่ะก็ ไม่แน่นักอาจสามารถมัดข้าเอาไว้ได้จริงๆ ”
“ไหนเจ้าลองว่ามาซิ เจ้าสมควรแสดงบทบาทให้ดีบนเตียง งัดเอากลยุทธเด็ดพรายของเจ้าออกมาอย่างไร” หลี่ชิเย่หัวเราะเบาๆ ทีหนึ่ง ขณะที่พูดแฝงไว้ซึ่งความชั่วร้ายอยู่หลายส่วน
ท่าน ท่าน ท่าน…หลิ่วชูฉิงพลันมีใบหน้าที่แดงก่ำ รู้สึกแสบร้อนบนใบหน้า ไม่กล้าเงยหน้าไปจ้องมองหลี่ชิเย่ รู้สึกเดือดดาลอยู่บ้าง พูดเสียงแผ่วเบาว่า “ท่าน ท่าน ท่านทำอย่างนี้ได้อย่างไร…” ครั้นนางเอ่ยมาถึงตรงนี้ อับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี
จะอย่างไรเสีย หลิ่วชูฉิงยังคงเป็นสาวรุ่นคนหนึ่งที่ยังไม่ได้แต่งงาน เดิมนางก็เหนียมอายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ ยิ่งอยากจะให้พื้นดินแยกเป็นร่องออกมาเพื่อให้หัวสามารถมุดเข้าไปได้ให้รู้แล้วรู้รอดไป อายจนไม่กล้าพบปะผู้คน
หลิ่วชูฉิงเวลานี้นับว่าทั้งอายทั้งเคือง นางนึกไม่ถึงว่าหลี่ชิเย่จะพูดคำพูดที่โจ่งแจ้งถึงเพียงนี้ออกมา
“ทำไม่ทำเช่นนี้ไม่ได้? ” หลี่ชิเย่หัวเราะขึ้นมา ท่าทีเรียบเฉย มีเหตุผลเต็มที่ที่จะพูดออกมาได้เต็มปากเต็มคำว่า “อย่าลืมสิ ในเมื่อเจ้ายินดีมาปฏิบัติตามสัญญาหมั้นหมายของพวกเรา เช่นนั้นเจ้ากับข้าก็คือสามีภรรยากัน การที่จะแสดงความรักบนเตียงระหว่างสามีภรรยามิใช่เป็นเรื่องปรกติของมนุษย์รึ? มีอะไรที่จะให้คนอื่นรู้ไม่ได้? ”
ข้า ข้า ข้า…หลิ่วชูฉิงอ้าปากจะพูดอะไร แต่พูดได้แค่ข้าคำเดียว จะอย่างไรเสียงนางคือสาวน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ไหนเลยจะเป็นคู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่ได้
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าสมควรที่จะปรนนิบัติข้าใช่หรือไม่? ” หลี่ชิเย่หัวเราะเบาๆ ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายความชั่วร้าย
“ข้า ข้า ข้ารู้แล้ว” สุดท้ายหลิ่วชูฉิงก็ไม่สามารถหาเหตุมาตอบโต้ได้ ถูกสยบโดยหลี่ชิเย่ ถึงกับก้มหน้าลงเบาๆ ท่าทางเหมือนหมดอาลัยตายอยากอยู่บ้าง
“ถ้าเช่นนั้นล่ะก็ดีมาก เข้ามาสิ” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวและกวักมือต่อหลิ่วชูฉิง
หลิ่วชูฉิงถึงกับตื่นตระหนกเมื่อได้ยินคำพูดคำนี้ สัญชาตญาณบอกให้นางก้าวถอยหลังไปหลายก้าว พลันต้องการรักษาระยะห่างกับหลี่ชิเย่อย่างเพียงพอ ในเวลานี้ภายในใจของนางถึงกับขนสุกซู่ จะอย่างไรเสียนางก็คือสาวรุ่นที่ยังไม่ได้มีการแต่งงาน
“ท่าทีเช่นนี้ทำให้ข้าเสียใจเหลือเกิน ชั่วดีอย่างไรพวกเราก็คือสามีภรรยากัน หรือข้าจะเป็นสัตว์ประหลาดที่คอยจับผู้คนกินเป็นอาหารอย่างนั้นรึ? ” หลี่ชิเย่ถึงกับเผยรอยยิ้มเต็มใบหน้าขึ้นมา
หลิ่วชูฉิงพลันยืนแข้งทื่ออยู่ตรงนั้น ทำอะไรไม่ถูก แม้ว่าก่อนที่นางจะมาที่นี่ก็ได้คำนึงถึงความน่าจะเป็นต่างๆ นานาไว้แล้ว กระทั่งเรื่องอย่างว่าก็มีการสมมุติเอาไว้แล้ว จะอย่างไรเสียนางมาที่นี่เพื่อปฏิบัติตามสัญญาหมั้นหมาย จะอย่างไรเสียพวกเขาจะต้องเป็นสามีภรรยากัน แต่ว่าเรื่องนี้มาเร็วเกินไป เพิ่งพบกันครั้งแรกก็จะให้มีเรื่องนั้นกันซึ่งทำให้นางไม่ทันตั้งตัว
ในเวลานี้ หลิ่วชูฉิงไม่ทันได้เตรียมตัวให้พร้อม ทำให้ภายในใจรู้สึกว้าวุ่นตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“เข้ามาสิ” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวพร้อมกับกวักมือ
สุดท้าย หลิ่วชูฉิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง กำหมัดแน่นให้กำลังใจกับตนเองในใจ ที่หลี่ชิเย่พูดมาก็ถูก พวกเขาคือสามีภรรยา เรื่องเช่นนี้สักวันก็ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว
ในเวลานี้ หลิ่วชูฉิงรู้สึกขนหัวลุก แต่ก็ต้องกัดฟันทำ ก้าวเดินเข้าหาหลี่ชิเย่ทีละก้าวๆ
หลิ่วชูฉิงก้าวเดินเข้าหาหลี่ชิเย่ทีละก้าวๆ ภายในระยะทางสั้นๆ เพียงไม่กี่ก้าว นางกลับรู้สึกว่ามันยาวไกลมากเป็นพิเศษเหมือนว่าต้องก้าวเดินเป็นศตวรรษอย่างนั้น อีกทั้งเมื่อนางเดินเข้าไปใกล้หลี่ชิเย่มากขึ้นเท่าไรก็จะรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น รู้สึกได้ว่าขาทั้งสองข้างอยู่ในอาการสั่นเทา สั่นเทิ้มตลอด
ขณะที่หลิ่วชูฉิงยืนอยู่ตรงหน้าหลี่ชิเย่ และห่างจากตัวของหลี่ชิเย่แค่เอื้อมนั้น ในเวลานี้เอง หลิ่วชูฉิงเหมือนรับรู้ได้ถึงลมหายใจของหลี่ชิเย่ลางๆ เหมือนว่าลมหายใจอุ่นๆ ที่เขาหายใจออกมาได้รดรินลงบนตัวของนาง ทำให้นางรู้สึกตัวชาไปทั้งตัวไร้ซึ่งเรี่ยวแรงอย่างนั้น
การมายืนอยู่ตรงหน้าและอยู่ใกล้หลี่ชิเย่แค่เอื้อมของหลิ่วชูฉิงในเวลานี้ทำให้นางตื่นเต้นถึงขีดสุด ภายในใจของนางในขณะนี้ได้บังเกิดอารมณ์ที่จะหลบหนีขึ้นมา แต่นางยังคงอดกลั้นเอาไว้
เวลานี้หลิ่วชูฉิงยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงหน้าของหลี่ชิเย่ หลับตาลงไม่กล้าจ้องมองหลี่ชิเย่ จิตใต้สำนึกบอกให้มือทั้งสองของนางขยุ้มมุมชายเสื้อของตนเอาไว้แน่น
ในขณะนี้ หลี่ชิเย่เสมือนดั่งเป็นชายหนุ่มที่ประพฤติชั่วร้าย ขณะที่หลิ่วชูฉิงก็คือสาวใช้ตัวน้อยๆ ที่ถูกรังแกคนนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...