ดาบอริยะกวานไห่พกพาเอาดาบโบราณมาด้วย ปณิธานดาบที่เลี้ยวลดตามมาเป็นหมื่นลี้ ทำให้ผู้พบเห็นถึงกับผูกใจรักกับสิ่งนี้ แม้ว่าดาบอริยะกวานไห่ในเวลานี้ยังห่างชั้นเทียบไม่ได้กับผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะอมตะ แต่การที่เขายังอ่อนเยาว์เท่านี้ก็สามารถมีผลงานได้ขนาดนี้ อนาคตจะต้องล้ำหน้าเทพแท้จริงขั้นอมตะจำนวนมากอย่างแน่นอน ประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าประทับใจของผู้คน
ดาบอริยะกวานไห่สะพายดาบมาถึงแล้วมุ่งหน้าลงใต้ตลอดทาง สุดท้ายขึ้นไปยังเขาหงฮวงซาน
ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองหน้ากันและกันเมื่อเห็นดาบอริยะกวานไห่ขึ้นไปยังเขาหงฮวงซาน เนื่องจากทำให้ผู้คนนึกถึงหลิ่วชูฉิง องค์หญิงหลินไห่ขึ้นมาทันที
“หรือว่าหอหลินไห่เก๋อสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อฮ่องเต้องค์ใหม่ ยืนอยู่ข้างฝ่ายฮ่องเต้องค์ใหม่?” การที่มองเห็นดาบอริยะกวานไห่ที่เพิ่งมาถึงเขาจิ่วเหลียนซาน สถานที่แห่งแรกที่ไปก็คือขึ้นไปยังเขาหงฮวงซาน จึงทำให้เกิดการคาดเดาของผู้คนจำนวนไม่น้อย
จะอย่างไรเสีย ในบรรดาห้าแกร่งมีเพียงหอหลินไห่เก๋อที่ปฏิบัติตามสัญญาหมั้นหมาย ส่วนอีกสี่แกร่งที่เหลือต่างอาศัยวิธีการต่างๆ นานาไม่ยอมปฏิบัติตามสัญญาหมั้นหมายในครั้งนั้น ในบรรดาห้าแกร่งก็มีเพียงหลิ่วชูฉิง องค์หญิงหลินไห่ที่ติดตามอยู่ข้างกายฮ่องเต้องค์ใหม่ตั้งแต่ต้นจนจบ ยินดีแต่งงานกับฮ่องเต้องค์ใหม่
เวลานี้ จุดแรกที่ดาบอริยะกวานไห่ไปหลังจากมาถึงเขาจิ่วเหลียนซานก็คือเขาหงฮวงซาน เมื่อเป็นเช่นนี้ ย่อมต้องมีผุ้ที่คาดเดาว่าหอหลินไห่เก๋อนั้นให้การสนับสนุนต่อฮ่องเต้องค์ใหม่มาโดยตลอด ยืนอยู่ข้างฝ่ายฮ่องเต้องค์ใหม่ตลอดมาอย่างช่วยไม่ได้
“ไม่ใช่” มีระดับบรรพบุรุษตระกูลขุนนางโบราณที่ไวเรื่องการข่าวส่ายหน้าเบาๆ และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ที่ยินดีปฏิบัติตามสัญญาหมั้นหมายในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจขององค์หญิงหลินไห่เอง สำหรับหมั้นหมายแต่งงานในครั้งนี้ ภายในหอหลินไห่เก๋อมีระดับบรรพบุรุษจำนวนไม่น้อยที่คัดค้าน เพียงแต่ดาบอริยะกวานไห่โปรดปรานในตัวศิษย์น้องยิ่งนัก การมาเขาจิ่วเหลียนซานในครั้งนี้ ต้องมาเพื่อเยี่ยมเยียนองค์หญิงหลินไห่แน่นอน”
“ที่พูดมาก็ถูก” ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสพยักหน้าและกล่าวว่า “ถ้าหากหอหลินไห่เก๋อให้การสนับสนุนฮ่องเต้องค์ใหม่ตั้งแต่แรกจริงล่ะก็ ครั้งนั้นขณะฮ่องเต้องค์ใหม่อยู่ในวิกฤตคงส่งกองทัพเข้าให้การช่วยเหลือแล้ว ยังจะต้องรอจนฮ่องเต้องค์ใหม่สูญเสียแผ่นดินแล้วค่อยให้การช่วยเหลือรึ? กล่าวสำหรับผู้คนจำนวนมากแล้ว การที่ฮ่องเต้องค์ใหม่สูญเสียแผ่นดิน สูญเสียบัลลังก์ มันไม่มีคุณค่าต่อการสนับสนุนอีกแล้ว”
“ฟังมาว่า ดาบอริยะกวานไห่โปรดปรานในตัวองค์หญิงหลินไห่ ถ้าหากให้เขารู้ว่าองค์หญิงหลินไห่แต่งงานกับฮ่องเต้องค์ใหม่ที่โง่เขลาเบาปัญญาไร้ความสามารถแล้ว ไม่รู้ว่าดาบอริยะกวานไห่จะจัดการสังหารฮ่องเต้องค์ใหม่ในดาบเดียวหรือไม่” มีผู้พึมพำขึ้นมา
ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองตากันและกัน เมื่อได้ยินคำพูดลักษณะเช่นนี้ แน่นอนมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่บังเกิดความคิดที่เลวร้ายอยู่ในใจ เป็นความจริงที่ภายในใจของพวกเขากระหายอยากให้ดาบอริยะกวานไห่สังหารฮ่องเต้องค์ใหม่เสีย
“ในบรรดากลุ่มคนรุ่นใหม่นั้นดาบอริยะกวานไห่นับว่าปราศจากผู้ต่อกรแล้ว หากเขาลงมือ ต่อให้ฮ่องเต้องค์ใหม่มีวิธีการมากกว่านี้ เกรงว่าก็คงยากจะหนีความตายได้พ้น” มีอัจฉริยะบุคคลกลุ่มคนรุ่นใหม่พูดเสียงแผ่วเบาขึ้นมา คำพูดนั้นมีความอาฆาตแค้นอยู่ไม่น้อยโดยไม่รู้ตัว
จะไปโทษบรรดาอัจฉริยะบุคคลกลุ่มคนรุ่นใหม่มีความอาฆาตแค้นอยู่ในคำพูดก็ไม่ถูก ขณะอยู่ที่ป่าหินนั้น ความหยิ่งผยองของพวกเขาถูกฮ่องเต้องค์ใหม่ทำลายจนแตกละเอียด ถูกฮ่องเต้องค์ใหม่เหยียบย่ำลงบนตัวของพวกเขาโดยตรงด้วยซ้ำ การบังคับให้พวกเขาก้มกราบแทบเท้าของฮ่องเต้องค์ใหม่ ความอัปยศใหญ่หลวงเช่นนี้จะไม่ให้พวกเขาต้องแค้นเคืองอยู่ในใจได้อย่างไรกันเล่า?
ดาบอริยะกวานไห่ขึ้นไปถึงเขาหงฮวงซาน ก้าวเดินไปถึงด้านนอกของตำหนักศิลา เขาผลักประตูและเดินตรงเข้าไปโดยไม่ได้เคาะประตู สบายอกสบายใจและเป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง ไม่รู้สึกไม่คุ้นเคยแม้แต่น้อย เหมือนเดินเข้าไปภายในสวนหลังบ้านตนเองอย่างนั้น
ในเวลานี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยได้กลั้นลมหายใจเอาไว้ ผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่ต้องการทราบว่าระหว่างดาบอริยะกวานไห่กับฮ่องเต้องค์ใหม่จะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้น สายตาทุกคู่จ้องไปที่ประตูหิน ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรแอบคาดหวังอยู่ในใจ ถ้าหากสามารถระเบิดศึกขึ้นระหว่างดาบอริยะกวานไห่กับฮ่องเต้องค์ใหม่ล่ะก็ จะไม่มีอะไรดีไปกว่าวันนี้อีกแล้ว
ภายในห้อง หลี่ชิเย่นั่งอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทีสบายอกสบายใจ ขณะที่ดาบอริยะกวานไห่เดินเข้ามานั้นเขาไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมากมายนัก ยังคงนั่งเสพสุขยิ่งอยู่ตรงนั้น ขณะที่หลิ่วชูฉิงนั้นต้มชาอยู่ข้างกายของเขา ท่าทางจริงจังยิ่ง เสมือนหนึ่งเป็นภรรยาตัวน้อยๆ ที่เพรียบพร้อมด้วยคุณธรรมอย่างนั้น
“ศิษย์พี่…” ขณะดาบอริยะกวานไห่ก้าวเดินเข้ามานั้น หลิ่วชูฉิงได้เงยหน้าขึ้น ท่าทางดูจะตระหนกระคนความดีใจอยู่บ้าง
“ท่านอาจารย์บอกว่าเจ้าอยู่ที่นี่ ดังนั้นข้าจึงมาเยี่ยมเจ้าโดยเฉพาะ” ครั้นดาบอริยะกวานไห่พบกับศิษย์น้องของตนแล้ว เผยรอยยิ้มที่รักโปรดปรานที่เห็นได้ไม่ง่ายนัก
ดาบอริยะกวานไห่โปรดปรานศิษย์น้องผู้นี้ตั้งแต่เล็กจนโต และถือเอานางเป็นน้องสาวแท้ๆ ของตนตั้งแต่วัยเยาว์ คอยให้การดูแลนางอย่างดีตลอดมา
“ศิษย์พี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” หลิ่วชูฉิงอดที่จะเอ่ยด้วยความตระหนกระคนความดีใจความดีใจ
“กลับมาได้ระยะหนึ่งแล้ว” ดาบอริยะกวานไห่ยิ้มกล่าวว่า “หลังจากกลับมาแล้วพบว่าศิษย์น้องที่เป็นของล้ำค่าพวกเราไม่อยู่ในสำนักแล้ว ดังนั้น ข้าจึงได้รุดมาที่นี่”
“ข้าอยู่ที่นี่สบายดีมาก ศิษย์พี่ไม่ต้องเป็นห่วง” หลิ่วชูฉิงอดที่จะยิ้มอย่างเขินอายอยู่บ้าง
ดาบอริยะกวานไห่ทอดถอนใจออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง เขายังจะพูดอะไรได้อีกเล่า? ครั้งนั้น ปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสุงสุดได้ลงนามในสัญญาหมั้นหมายนี้เขาได้คัดค้านอย่างเต็มที่ เคยหารือกับปรมาจารย์ผู้มีอำนาจสุงสุดจนหมางใจกันในเรื่องนี้
เพียงแต่ด้วยสถานการณ์ ณ ขณะนั้น หอหลินไห่เก๋อของพวกเขาก็ไม่มีทางเลือกเท่านั้นเอง ภายใต้อำนาจของฮ่องเต้ไท่ชิงใครกล้าขัดขืน ใครกล้าไปแตะจุดต่ำสุดที่เขาสามารถยอมรับได้? เวลานี้สายตาของดาบอริยะกวานไห่ตกอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่ แววตาของเขาพลันสว่างไสวเสมือนดั่งตะเกียงวิเศษสองดวงที่ส่องสว่างขึ้นมาเมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่แล้ว พริบตาเดียวนี่เอง ทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของดาบอริยะกวานไห่ เสมือนเป็นดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ออกจากฝักเล่มหนึ่ง พร้อมที่จะสังหารเทพมารได้ตลอดเวลา ภายใต้สายตาที่ดุเดือดรุนแรงและน่ากลัวเช่นนี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรต้องขวัญหนีดีฝ่อกับสิ่งนี้
หลี่ชิเย่นั่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่ได้รับผลกระทบอย่างสิ้นเชิง เสมือนหนึ่งไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้น
“สามารถแต่งงานกับศิษย์น้องของข้านับเป็นบุญของเจ้า” เวลานี้ดวงตาทั้งสองของดาบอริยะกวานไห่ดูไม่เป็นมิตร เสมือนหนึ่งเป็นดาบศักดิ์สิทธิ์สองเล่มที่ออกจากฝัก ผ่าฟ้าดินแยกออกมา ตัดความขมุกขมัวออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...