“บางที อาจไม่ต้องใช้วิธีการอะไรทั้งนั้น เหมือนดั่งเมื่อครู่อย่างนั้น แค่กระบวนท่าเดียวก็สังหารได้แล้ว” อีกคนอดที่จะพูดเสียงแผ่วเบาขึ้นมา
ผู้คนจำนวนมากต่างพยักหน้าคิดว่าถูกต้อง และเห็นด้วยเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ เมื่อครู่ทุกคนต่างคาดเดาว่าฮ่องเต้องค์ใหม่สามารถเอาชนะทังเฮ่อเสียงได้ภายในกี่กระบวนท่านั้น ไม่นึกไม่ฝันเลยว่า แค่กระบวนท่าเดียวเท่านั้นก็ล้มทังเฮ่อเสียงได้โดยตรงแล้ว
เวลานี้ดูไปแล้ว ฮ่องเต้องค์ใหม่ก็คงเหมือนเช่นเมื่อครู่อย่างนั้น ล้มทังเฮ่อเสียงได้ด้วยกระบวนท่าเดียว
“เจ้าดีใจเร็วเกินไปแล้ว ขอเพียงข้ายังไม่ตาย เจ้าก็อย่าได้ทำเป็นลำพองใจ” เพลิงแห่งความโกรธพลุ่งพล่านอยู่ภายในใจของทังเฮ่อเสียง อดที่จะต้องร้องกล่าวด้วยเสียงอันดังออกมาไม่ได้
ถูกหลี่ชิเย่ดูถูกก็ช่างเถอะ เวลานี้แม้แต่นาย ก นาย ข ที่ผ่านไปมาก็ยังดูถูกเขา แล้วจะให้ทังเฮ่อเสียงกล้ำกลืนความอัปยศเช่นนี้ได้อย่างไรกันเล่า
“เอาเถอะ เช่นนั้นแล้วข้าจะให้เจ้าได้ตายใจ” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉ่ยและเหินฟ้าขึ้นไปช้าๆ หนึ่งก้าวหนึ่งหมื่นจ้าง เพียงชั่วพริบตาเดียวหลี่ชิเย่ก็ไปยืนอยู่บนท้องฟ้าสูง เหนือท้องฟ้าขึ้นไป
แม้ว่าร่างกายของทังเฮ่อเสียงจะสูงใหญ่ยิ่งนัก แต่ในเวลานี้เมื่อหลี่ชิเย่ยืนอยู่สูงขนาดนั้น เขายังต้องแหงนหน้าขึ้นมอง
“ลงมือเถอะ จะได้ไม่แพ้แล้วไม่ยอมรับความพ่ายแพ้” หลี่ชิเย่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทีเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และพูดออกมาตามอารมณ์
ต่อให้หลี่ชิเย่ยืนอยู่บนจุดที่สูงมากไปกว่านั้นก็ยังคงดูเล็กจิ๋วขนาดนั้น เมื่อเทียบกับร่างกายที่สูงใหญ่ของทังเฮ่อเสียง ดูไปแล้วหลี่ชิเย่ก็คล้ายเป็นแมลงวันตัวหนึ่งที่บินอยู่เหนือศีรษะของทังเฮ่อเสียง เหมือนว่าโล่ยักษ์ที่อยู่ในมือของทังเฮ่อเสียงเพียงฟาดลงมา หลี่ชิเย่คงต้องถูกตบจนตายเหมือนเช่นแมลงวันตัวหนึ่ง
แม้จะกล่าวว่าร่างกายของทังเฮ่อเสียงนั้นสูงใหญ่ยิ่งนัก เทียบกับหลี่ชิเย่แล้วไม่รู้ว่าสูงกว่ากันกี่หมื่นเท่า แต่ทุกคนต่างก็รู้ดีว่า นาทีนี้ต่อให้ร่างกายสูงใหญ่มากไปกว่านั้น ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากนัก
“ฆ่า…” ในเวลานี้เอง ทังเฮ่อเสียงร้องคำรามด้วยความโกรธ ร่างทั้งร่างปรากฏประกายดาวที่เจิดจ้า เสมือนหนึ่งตัวของเขาได้กลับกลายเป็นดวงดาวแต่ละดวงที่มีประกายละลานตาอย่างนั้น
เสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว ในพริบตาเดียวนั่นเอง โล่ยักษ์ที่อยู่ในมือของทังเฮ่อเสียงได้ฟาดเข้าไปอย่างแรง ขนาดของโล่ที่ใหญ่โตนั้นได้บดบังท้องฟ้า ดวงดาวแต่ละดวงที่หมุนล้อมรอบ ขณะที่โล่ยักษ์เช่นนี้ทุบไปบนท้องฟ้านั้น ได้ยินเสียงแตกละเอียดดังตูม ตูม ตูมขึ้นมา มีดวงดาวที่ถูกโล่ยักษ์กระแทกใส่จนแตกละเอียดไปทันที
เมื่อโล่ยักษ์ขนาดนี้ฟาดไปบนท้องฟ้านั้น ปรากฏท้องฟ้ามืดมิด เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น โล่ยักษ์ที่มี่ขนาดยักษ์ขนาดนี้ฟาดไปถึงด้านหน้าของหลี่ชิเย่ เทียบกับขนาดของโล่ที่ใหญ่โตปราศจากผู้เทียบเทียมแล้ว หลี่ชิเย่ดูเล็กจิ๋วมากๆ เหมือนว่าสามารถทุบให้เป็นเนื้อบดได้ในทันที
“ช่างอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงเสียจริง” หลี่ชิเย่ยืนเอ้อระเหยอยู่ตรงนั้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่ายหัวเบาๆ ขณะมองดูโล่ยักษ์ที่หอบเอาพลังที่ทำลายฟ้าดิน สามารถทุบท้องฟ้าและดวงดาวจนแตกละเอียดฟาดเข้ามา
ในเวลานี้ หลี่ชิเย่เพียงยื่นมือออกไปเท่านั้น นิ้วทั้งห้ากางออก และกดทับลงไปตามอารมณ์ยิ่ง เมื่อเทียบมือของหลี่ชิเย่กับโล่ยักษ์ที่บดบังทั่วท้องฟ้าแล้ว ดูมีขนาดเล็กมากเหลือเกิน
เสียงปังดังสนั่น ช่องว่างสั่นสะเทือน แม้ว่ามือขนาดใหญ่ของหลี่ชิเย่จะมีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับโล่ยักษ์ แต่การอาศัยหนึ่งฝ่ามือที่กดทับลงไปตามอารมณ์นั้น พลันขวางโล่ยักษ์ที่ฟาดเข้ามาและทำให้หยุดกึกลง ไม่สามารถเดินหน้าได้แม้เพียงครึ่งก้าว ไม่สามารถสั่นคลอนต่อมือขนาดใหญ่ของหลี่ชิเย่ได้ ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง พลังที่คงเหลือจากการโจมตีของโล่ยักษ์พุ่งเข้ามา เพียงพอที่จะทำลายสุริยันจันทราและดวงดาวได้
แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ หลี่ชิเย่ยังคงยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทีเอ้อระเหย โดยไม่ได้รับผลกระทบใดๆ แต่อย่างใด
“กำลังความสามารถสองฝ่ายห่างกันมากเกินไป ร่างกายหรืออาวุธใหญ่ยักษ์มากไปกว่านี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้” ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสที่ได้เห็นภาพนี้แล้วต้องส่ายหน้าเบาๆ
ตามหลักแล้ว หลี่ชิเย่ที่มีขนาดเล็กเกินไปนั้น เมื่อเทียบกับทังเฮ่อเสียงที่มีขนาดสูงใหญ่ยิ่งนัก เหมือนว่าทังเฮ่อเสียงสามารถตบเขาให้ตายได้ทุกเมื่อ ความจริงก็คือ ไม่ว่าทังเฮ่อเสียงจะสูงใหญ่เพียงใดก็ตาม โล่ยักษ์ของเขาจะหนาและหนักเช่น่ใด ยังคงไม่สามารถสั่นคลอนต่อหลี่ชิเย่แม้แต่น้อย หลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ได้ขยับตัวแม้แต่น้อย
“ขึ้น…” ทังเฮ่อเสียงไม่เชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น คำรามเสียงดังและปล่อยพลังทั้งหมดพวยพุ่งออกมา ประกายดาวดั่งคลื่นบ้าคลั่งที่ปกคลุมไปทั่วฟ้าดิน ทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
ในเวลานี้เอง โล่ยักษ์ได้พวยพุ่งประกายที่ละลานตาออกมา พลังเพิ่มสูงขึ้นมากทีเดียว แต่ว่า ยังคงไม่อาจสั่นคลอนต่อหลี่ชิเย่ได้
ตูม ตูม ตูมเสียงตูมตามดังขึ้นเป็นระลอก โล่ยักษ์สั่นไหวอย่างรุนแรง อาศัยขอบเขตที่เล็กที่สุดพุ่งชนมือใหญ่ของหลี่ชิเย่ครั้งแล้วครั้งเล่า
ทว่ามือใหญ่ของหลี่ชิเย่กดทับลงบนโล่ยักษ์ตามอารมณ์เช่นนี้แหละ เสมือนหนึ่งสวรรค์ที่สยบอยู่ตรงนั้น ไม่สามารถล้ำเส้นไปได้แม้เพียงครึ่งก้าว ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งเช่นใดก็ตาม เมื่อมาถึงตรงนี้ก็ต้องหยุดอยู่ตรงนี้ ไม่สามารสั่นคลอนได้อยู่แล้ว
“ฆ่า…” ในพริบตานั่นเอง เมื่อทังเฮ่อเสียงเห็นว่าไม่สามารถสั่นคลอนได้แม้เพียงน้อยนิด ดวงตาทั้งสองพลันดูไม่เป็นมิตร ขณะที่โล่ยักษ์ยังคงยันอยู่กับมือใหญ่ของหลี่ชิเย่อยู่ ทวนมังกรได้ลงมือแล้ว
เสียงฉึกเสียงหนึ่งดังขึ้น ทวนมังกรพลันแทงออกไป กลายเป็นประกายเยือกเย็นที่น่ากลัวปราศจากผู้เทียบเทียม พลันแทงเข้าใส่ลำคอของหลี่ชิเย่ เป็นการโจมตีที่ถึงแก่ชีวิตในครั้งเดียว เหมือนว่าทังเฮ่อเสียงได้รอนาทีนี้มานานมากแล้ว ดังนั้น พริบตาเดียวที่หนึ่งทวนแทงออกไป ได้สำแดงความเร็วถึงขีดสูงสุด นับแต่นาทีที่เขาลงมือ ปลายทวนก็แทงไปถึงลำคอของหลี่ชิเย่แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...