“ตายแล้วมั้ง” แม้แต่ระดับบรรพบุรุษตระกูลขุนนางโบราณอดที่จะทิ้งตัวนั่งลงกับพื้น และพึมพำขึ้นมาเมื่อมองเห็นน้ำทะเลสาบที่ถูกย้อมจนกลายเป็นสีแดง
ในเวลานี้ แม้แต่ฉินเจี้ยนเหยา และดาบอริยะกวานไห่ต่างก็รู้สึกหวาดผวากับสิ่งนี้ โดยเฉพาะดาบอริยะกวานไห่ที่เคยลงมือรับการสอนสั่งในกำลังความสามารถจากหลี่ชิเย่ ยิ่งรู้สึกเสียวสันหลังวาบ บังเกิดความรู้สึกที่อึดอัดหายใจไม่ออก
แม้จะกล่าวว่าภายในใจของฉินเจี้ยนเหยา และดาบอริยะกวานไห่จะได้มีการคาดการณ์ถึงกำลังความสามารถของหลี่ชิเย่มาแล้ว พวกเขาล้วนแล้วแต่คิดว่าหม่าหมิงชุนจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฮ่องเต้องค์ใหม่เด็ดขาด
แต่ว่า การที่หม่าหมิงชุนพ่ายแพ้รวดเร็วขนาดนี้เป็นสิ่งที่ห่างไกลเกินกว่าที่พวกเขาคาดคิด แค่อาศัยกระบวนท่าเตะวงกว้างก็จัดการผ่าหม่าหมิงชุนออกเป็นสองท่อน จุดจบลักษณะเช่นนี้เป็นสิ่งที่พวกเขานึกไม่ถึง เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ เกินกว่าจินตนาการของพวกเขาไม่มากทีเดียว
ดังนั้น เวลานี้ภายในใจของดาบอริยะกวานไห่รู้สึกหนาวสะท้าน ร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่ง ความรู้สึกอึดอัดทำให้เขาแทบหายใจไม่ออก เมื่อครู่เขาต่อสู้กับหลี่ชิเย่ติดต่อกันสามกระบวนท่า สิ่งนี้ใช่เพียงเป็นการออมมือของหลี่ชิเย่นะเนี่ย มันคือสุดยอดของการพระราชทานอย่างหนึ่งแล้ว
ลองนึกภาพดู แค่ลูกเตะวงกว้างกระบวนท่าเดียวก็จัดการผ่าหม่าหมิงชุนออกเป็นสองซีก การลงมือของหลี่ชิเย่มีอานุภาพที่น่ากลัวเช่นใด หม่าหมิงชุนคือเทพแท้จริงขั้นอมตะที่ของแท้แน่นอนคนหนึ่ง หากพูดกันถึงเรื่องกำลังความสามารถแล้ว ไม่รู้ว่าแกร่งกว่าตัวเขาอยู่เท่าใด
ถ้าหากหลี่ชิเย่คิดอยากจะสังหารเขาจริงๆ ล่ะก็ อย่าว่าแต่หนึ่งดาบเลย เกรงว่าแค่เพิ่งจะเริ่มต้นก็สังหารเขาได้แล้ว เขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะลงมือ การที่เขาสามารถสู้กับหลี่ชิเย่ถึงสามดาบ นั่นคือสุดยอดพระราชทานสูงสุดอย่างหนึ่งแก่เขาอย่างแท้จริง
ไม่ง่ายนักกว่าดาบอริยะกวานไห่จะได้สติกลับมา เวลานี้เขาอดที่จะหนาวสะท้านไปทั่วร่างไม่ได้ ความจริงก็คือ เมื่อครู่ได้ไปเดินอยู่บริเวณประตูนรกมาแล้วรอบหนึ่งโดยไม่รู้ตัว ความเป็นความตายของเขาขึ้นอยู่กับความนึกคิดของเขาเท่านั้นเอง
ฉินเจี้ยนเหยาที่มีความสงบเยือกเย็นมาโดยตลอด นาทีนี้ก็อดมีสีหน้าขาวซีดไม่ได้อยู่บ้าง ตลอดเวลาที่ผ่านมานางมีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่แข็งแกร่งมาก สามารถคงความสงบเยือกเย็นเป็นอิสระแม้เผชิญกับอุปสรรคใหญ่หลวง แต่ทว่า นาทีนี้นางเองก็รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงจนขนลุกซู่ กำลังความสามารถเช่นนี้นับว่าสุดยอดแห่งความน่ากลัวปราศจากผู้ใดเทียม
ในพริบตาเดียวนั่นเอง ภายในใจของฉินเจี้ยนเหยาบังเกิดภาพลวงตาขึ้นมาอย่างหนึ่ง นางอดที่จะนึกถึงคำพูดของหลี่ชิเย่ขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้ นั่นก็คือมดปลวก!
ก่อนหน้านี้ ภายในใจของนางรู้สึกว่าคำพูดของหลี่ชิเย่จะมากหรือน้อยดูจะมีความถือดีลำพองอยู่บ้าง แต่ว่า เวลานี้ดูไปแล้วมันเป็นคำพูดที่จริงแท้แน่นอน สรรพสิ่งมีชีวิตเป็นได้เพียงมดปลวกเท่านั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่
ในเวลานี้เอง ฉินเจี้ยนเหยาจึงตระหนักได้ว่า แม้แต่จิ้งเหลียนกวานที่แข็งแกร่งขนาดนี้ของพวกเขา ก็เหมือนดั่งที่หลี่ชิเย่ได้พูดเอาไว้อย่างนั้น ในสายตาของเขาก็ยังคงเป็นได้แค่มดปลวกเท่านั้นเอง หากหลี่ชิเย่ต้องการทำลายล้างจิ้งเหลียนกวานของพวกเขาล่ะก็ เกรงว่าก็คงอยู่ที่หนึ่งความนึกคิดเท่านั้นเอง
เมื่อฉินเจี้ยนเหยานึกถึงตรงนี้แล้วถึงกับสั่นเทิ้มขึ้นในใจ การกระทำแต่ละอย่างของฮ่องเต้องค์ใหม่ที่น่ากลัวไร้ขอบเขตเช่นนี้ดูเหมือนเหลวไหล กระทั่งเพิ่งนั่งบัลลังก์ก็ถูกคนเขาไล่ลง สูญเสียแผ่นดิน มันเป็นเพราะสาเหตุอะไรกันแน่นะ? เขาสามารถปกครอง และบัญชาการใต้หล้าได้อย่างสิ้นเชิง?
ดังนั้น ในเวลานี้ ภายในใจของฉินเจี้ยนเหยาได้บังเกิดแนวความคิดที่เหลวไหลมากความคิดหนึ่ง นั่นก็คือเล่นสนุก! ที่หลี่ชิเย่ทำไปทุกสิ่ง มันก็แค่เล่นสนุกเท่านั้นเอง
ไม่ว่าจะเป็นพวกเขา หรือจะเป็นอำนาจฮ่องเต้ แผ่นดิน กระทั่งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ทั้งหมด ในสายตาของเขามันก็แค่ของเล่นชิ้นหนึ่งเท่านั้นเอง เมื่อเขามีอารมณ์ก็เล่นเป็นเพื่อนกับพวกเขาสักหน่อย ถ้าหากเขาหมดอารมณ์แล้ว เป็นไปได้อาจทิ้งไม่สนใจ และเป็นไปได้ที่ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างเสียโดยพลัน แม้แต่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ทั้งหมดก็ไม่เว้น
บางที ในสายตาของฮ่องเต้องค์ใหม่ ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ทั้งหมดมันก็แค่รังมดรังหนึ่งเท่านั้นเอง เมื่ออารมณ์ดีอาจจะหยอกเล่นกับมดเหล่านี้บ้าง หากไม่สบอารมณ์ อาจจะวางเพลิงเผารังมดจนวอดไปทั้งรัง
นาทีนี้กล่าวได้ว่า ฉินเจี้ยนเหยาคิดไปได้ไกลกว่าทุกคน คิดไปได้ลึกซึ้งมากกว่าผู้ใดก็ตามไปหลายชั้น
ดังนั้น เมื่อนางนึกไปถึงเรื่องที่เป็นไปได้นี้แล้ว แม้แต่นางที่ปรกติแล้วสงบนิ่งและมีความอิสระยังอดที่จะหวาดหวั่นพรั่นพรึงจนขนลุกซู่ ถูกทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ ในเวลานี้นางตระหนักได้อย่างสิ้นเชิงแล้วว่า หากหลี่ชิเย่ต้องการ เขาสามารถทำลายระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย
ฉินเจี้ยนเหยาถึงกับรู้สึกสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัวกับสิ่งนี้ขึ้นมา ไม่ง่ายนักกว่านางจะกลับคืนสู่สภาพปรกติ นางอดที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง เพื่อปรับความตื่นตระหนกตกใจให้ปรกติ
ช่าาา…เสียงหนึ่งดังขึ้น จังหวะที่ทุกคนกำลังอยู่ระหว่างตื่นตระหนกตกใจ เสียงน้ำเสียงหนึ่งดังขึ้น ทุกคนทยอยกันหันไปมอง เห็นร่างของคนผู้หนึ่งลอยอยู่ท่ามกลางทะเลสาบ
“เป็นหม่าหมิงชุน” มีผู้ร้องเสียงดังขึ้นมาเมื่อได้เห็นผู้ที่ลอยตัวอยู่ท่ามกลางทะเลสาบ
ผู้ที่ปรากฏลอยตัวอยู่ท่ามกลางทะเลสาบเป็นหม่าหมิงชุนจริงๆ ในเวลานี้ร่างกายของหม่าหมิงชุนที่ถูกตัดขาดเป็นสองท่านถึงกับเชื่อมติดกันเรียบร้อยโดยไม่เหลือร่องรอยของบาดแผล ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะนับว่าแข็งแกร่งโดยแท้ แม้ร่างกายจะถูกฟันจนขาดสองท่อนยังคงมีชีวิตอยู่ได้
แต่ทว่า แม้หม่าหมิงชุนจะรอดชีวิตมาได้ เขาต้องแลกด้วยค่าตอบแทนที่หนักหนาสาหัสมาก สีหน้าขาวซีด ขณะลุกขึ้นมาจากทะเลสาบนั้นร่างสั่นเทาไปทั้งร่าง เขาต้องอาศัยพลังทั้งหมดในการลุกขึ้นยืน
กล่าวได้ว่า เวลานี้ร่างกายของเขาได้เชื่อมเย็บติดเข้าด้วยกันทำให้อาการบาดเจ็บคงที่ ซึ่งเขาได้สูญเสียพลังของเขาไปหมดแล้ว
“นับว่าพอมีฝีมืออยู่บ้าง” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมย ท่าทางตามอารมณ์ยิ่งนัก ขณะมองดูหม่าหมิงชุนที่ลุกขึ้นมา
แม้ว่าเขาจะอาศัยลูกเตะวงกว้างเตะจนหม่าหมิงชุนขาดสองท่อนก็ตาม เหมือนว่าสิ่งนี้สำหรับเขาแล้วเป็นเรื่องที่เล็กน้อยมากไม่คู่ควรจะกล่าวถึง ดังนั้น เขาจึงยังคงสงบนิ่งและสบายอกสบายใจยิ่งนัก
หลังจากหม่าหมิงชุนลุกขึ้นมาได้แล้ว ไม่ง่ายนักกว่าจะทำอารมณ์ที่หวาดผวาให้คงที่ และทำให้อาการสั่นเทาของแขนขาทั้งสี่ให้คงที่ ในขณะนี้ เขารู้สึกเหมือนหมดแรงทั้งตัวอย่างนั้น
“อย่างน้อยก็ยังมีชีวิตอยู่” ผู้ที่ดูชมอยู่ในระยะห่างไกลถึงกับหายในด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นหม่าหมิงชุนลุกขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ตาม อย่างน้อยหม่าหมิงชุนก็ยังคงลุกขึ้นมาได้
ในเวลานี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่รู้สึกว่า การที่หม่าหมิงชุนสามารถรอดชีวิตจากกระบวนท่าเดียวของหลี่ชิเย่มาได้ ก็เป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การแสดงความปิติยินดีแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...