สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2617 ขัดขืนข้าม้วย – ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet
บท ตอนที่ 2617 ขัดขืนข้าม้วย ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 2617 ขัดขืนข้าม้วย
พวกแขกสวรรค์ชุดเขียวได้ใช้กำลังทั้งหมดที่มีอยู่ทั้งหมดพยายามวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ความเร็วของพวกเขาไม่อาจบอกว่าไม่เร็ว เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ได้ก้าวข้ามฟ้าดิน หนีไปไกลนับล้านล้านลี้ ความเร็วเช่นนี้เพียงชั่วพริบตาเดียวก็จะก้าวข้ามระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นไปได้แล้ว
แต่แล้ว ขณะมือขนาดใหญ่ของหลี่ชิเย่ที่คว้าตัวลงมานั้น ไม่ว่าพวกของแขกสวรรค์ชุดเขียวทั้งห้าจะพยายามหนีสุดชีวิตอย่างไร ยังคงนี้ออกจากบริเวณฝ่ามือของหลี่ชิเย่ไปไม่ได้
ลักษณะเช่นนี้เสมือนหนึ่งขณะที่มือขนาดใหญ่ของหลี่ชิเย่ที่คว้าตัวลงมานั้น ไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะมีอภินิหารเช่นใดก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่สามารถหนีไปจากฝ่ามือของหลี่ชิเย่ไปได้
ขณะที่มือขนาดใหญ่คว้าจับลงมานั้น ดูเหมือนจะมีขนาดใหญ่กว่าฟ้าดิน ดังนั้น ขอเพียงผู้นั้นยังคงอยู่ท่ามกลางฟ้าดิน ก็ไม่อาจหนีไปจากฝ่ามือนี้ไปได้
ทันทีที่มือใหญ่คว้าลงไป พวกแขกสวรรค์ทั้งห้าคนพลันตกไปอยู่บนฝ่ามือของหลี่ชิเย่ทันที เมื่อพวกเขาตกไปอยู่บนฝ่ามือของหลี่ชิเย่ เท่ากับได้ตกไปอยู่ท่ามกลางฟ้าดินอีกแห่งโดยสิ้นเชิง
เมื่อเงยหน้าขึ้นมองไปยังท้องฟ้าที่สูงและกว้างไกล มันไม่สามารถกระโดดออกไปจากท้องฟ้านี้ได้ตลอดกาล เมื่อมองห่างไกลออกไป ฝ่ามือกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต ไม่สามารถก้าวข้ามบริเวณของฝ่ามือตลอดไป
ฟ้าดินที่อยู่ท่ามกลางฝ่ามือ กว้างใหญ่ไพศาลจนไม่สามารถจินตนาการได้ เหมือนว่าใหญ่กว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นสิบแห่ง กระทั่งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นตกไปอยู่ท่ามกลางฝ่ามือ มันก็แค่เป็นพื้นที่ผืนเล็กๆ เท่านั้นเอง
สำหรับพวกแขกสวรรค์ทั้งห้ารึ เมื่อพวกเขาตกไปอยู่บนฝ่ามือแล้ว พวกเขาพลันกลายเป็นมีขนาดที่เล็กจิ๋วมาก ท่ามกลางฟ้าดินบนฝ่ามือที่กว้างไกลไร้ขอบเขตเช่นนี้ อย่าว่าแต่พวกเขาเป็นเพียงมดปลวกตัวหนึ่ง กระทั่งแม้แต่เม็ดฝุ่นเม็ดหนึ่งยังไม่เท่า
นาทีนี้ พวกแขกสวรรค์ทั้งห้าที่อยู่ท่ามกลางฟ้าดินบนฝ่ามือมีขนาดเล็กจนไม่อาจจินตนาการได้ แม้แต่มดปลวกยังไม่ได้เลย
“มดปลวกเท่านั้น” หลี่ชิเย่พูดขึ้นมาอีกครั้ง เสียงของเขาดังก้องไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในสถานะแข็งแกร่งเพียงใด ภายใต้เสียงของเขาต่างถูกทำให้ตกใจจนเข่าอ่อนทั้งสองข้าง ไม่รู้ว่ามีผู้คนมากน้อยเท่าไรที่ถูกเสียงที่ดังกังวานยิ่งกว่าเสียงฟ้าร้องทำเอาตกใจจนหมอบอยู่บนพื้น ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้อยู่นาน
“ไม่” นาทีนี้พวกพวกแขกสวรรค์ชุดเขียวที่เป็นแขกสวรรค์ทั้งห้าต่างร้องเสียงแหลมขึ้นมาด้วยความสิ้นหวัง เมื่อเห็นว่าตนได้ตกอยู่ท่ามกลางฟ้าดินบนฝ่ามือของหลี่ชิเย่ พวกเขารู้สึกว่าตนเองนั้นตัวเล็กมากจนไม่สามารถจินตนาการได้ ท่ามกลางฟ้าดินบนฝ่ามือลักษณะเช่นนี้
ในอดีต พวกเขาไม่เคยนึกถึงเลยว่าตัวเองจะมีขนาดเล็กจิ๋ว กระทั่งกล่าวได้ว่า พวกเขาจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวเล็กเช่นนี้อยู่แล้ว
สมควรทราบว่า แม้ว่าพวกเขาไม่นับเป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะที่อยู่ในระดับสูงสุดของแดนลัทธิราชันในยุคปัจจุบัน แต่ก็เป็นเทพแท้จริงขั้นอมตะที่แข็งแกร่งมาก ด้วยกำลังความสามารถ และฐานะของพวกเขาแล้ว มีแต่ผู้อื่นที่มีขนาดเล็กจิ๋วในสายตาของพวกเขา พวกเขาเป็นผู้กุมความเป็นความตายของผู้คนจำนวนมากมาย
แต่แล้ว ในวันนี้หลังจากที่ตกอยู่ท่ามกลางฟ้าดินบนฝ่ามือนี้แล้ว พวกเขาพลันรู้สึกว่าตนเองมีขนาดเล็กดังมดปลวกจริงๆ ในทันที ไม่ กระทั่งมีขนาดเล็กเหมือนเม็ดฝุ่นเม็ดหนึ่ง ช่างไร้ค่าคู่ควรจะกล่าวถึง
“ไม่” แขกสวรรค์เขาทองคำร้องเสียงดังขึ้นมาด้วยความสิ้นหวัง ท่ามกลางเสียงร้องนี้ของเขาเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ เขาถึงกับคำรามเสียงดังออกมาด้วยความโกรธ
แต่ว่า นาทีนี้ทุกอย่างล้วนแล้วแต่สายเกินไปเสียแล้ว เมื่อฝ่ามือของหลี่ชิเย่หุบเข้าหา ฟ้าดินที่อยู่ท่ามกลางฝ่ามือพลันบีบอัดเข้ามา คล้ายโลกทั้งโลกพลันพังทลายลงมาทันทีอย่างนั้น พลังทั้งหมดของโลกๆ หนึ่งล้วนแล้วแต่บีบอัดลงบนตัวของพวกแขกสวรรค์ทั้งห้าคน
จังหวะที่พลังของโลกทั้งโลกล้วนแล้วแต่บีบอัดลงบนตัวของแขกสวรรค์ทั้งห้านั้น ไม่ว่าพวกเขาจะดิ้นรนอย่างไร ไม่ว่าพวกเขาจะต่อต้านอย่างไรก็ช่วยอะไรไม่ได้
ได้ยินเสียงปุดังขึ้น พวกแขกสวรรค์ทั้งห้าพลันถูกบดอัดจนกลายเป็นหมอกเลือด แต่ว่า หมอกเลือดที่อยู่ท่ามกลางฟ้าดินของฝ่ามือที่กว้างใหญ่ไพศาลช่างไร้ค่าคู่ควรจะกล่าวถึง ลอยกระจายไปตามลม
นาทีนี้ ทุกคนต่างตัวสั่นเทาทีหนึ่ง ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มีอยู่ไม่กี่คนที่กล้าบอกว่าตนเองนั้นแข็งแกร่งมากกว่าพวกแขกสวรรค์ทั้งห้า ต่อให้มีระดับบรรพบุรุษที่เก่ากะลาแข็งแกร่งกว่าแขกสวรรค์ทั้งห้า แต่ก็คงแข็งแกร่งกว่ากันไม่เท่าไร
เวลานี้แขกสวรรค์ทั้งห้าเมื่ออยู่ท่ามกลางฝ่ามือของหลี่ชิเย่ ถูกบีบจนตายเสมือนดั่งมดปลวกอย่างนั้น ช่างไร้ค่าคู่ควรจะกล่าวถึง ช่างตัวเล็กปราศจากเรี่ยวแรงอะไรอย่างนั้น ภาพเช่นนี้ช่างเป็นเรื่องที่สะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจของผู้คนเหลือเกิน เป็นเรื่องที่น่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงมากเหลือเกิน
ในเวลานี้ ทุกคนล้วนแล้วแต่ถูกสยบเอาไว้ ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า สร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจยิ่งกว่าสิบวัชระถูกสังหารมากทีเดียว
จะอย่างไรเสีย การร่วมมือของแขกสวรรค์ทั้งห้า กำลังความสามารถของพวกเขาอยู่เหนือกว่าสิบวัชระเป็นอันมาก เวลานี้ ห้าแขกสวรรค์ยังคงถูกบีบจนกลายเป็นหมอกเลือด ช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวเหลือเกิน
ที่น่ากลัวมากที่สุดก็คือ หลี่ชิเย่ไม่ได้อาศัยอาวุธเลยตั้งแต่ต้นจนจบ อาศัยมือเปล่าตลอดมา มันช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวเหลือเกิน ถ้าหากหลี่ชิเย่ลงมือด้วยอาวุธ มันเป็นเรื่องที่ไม่กล้าจะจินตนาการ
ขณะที่ทุกคนกำลังสะเทือนหวั่นไหวอยู่นั้น มองเห็นร่างกายของหลี่ชิเย่ที่มีขนาดใหญ่โตจนไม่สามารถจินตนาการได้นั้นค่อยๆ หดเล็กลง ค่อยๆ เล็กลง แม้จะกล่าวว่า “เป็นการค่อยๆ” หดเล็กลง นั่นเป็นการเทียบกับร่างกายที่ใหญ่โตมโหฬารของหลี่ชิเย่ ความจริงแล้วขั้นตอนดังกล่าวเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่ง
สุดท้ายแล้ว ร่างกายของหลี่ชิเย่ได้กลับคืนสู่รูปร่างที่เป็นตามเดิม ในเวลานี้เขายังคงดูธรรมดาทั่วไปมาก ยังคงธรรมดาเหมือนว่าเขาก็คือนาย ก นาย ข ที่เดินอยู่ตามถนนเท่านั้นเอง
“แม้ว่าโลกนี้ไม่มีสวรรค์ ข้าก็จะทำพิธีโปรดให้พ้นจากห้วงแห่งความทุกข์ส่งวิญญาณพวกเจ้าสักหน่อย” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยขึ้นมา
ย่อมไม่ต้องสงสัย อนุภาคของแสงแต่ละเม็ดที่เห็นนั้น ก็คือบรรดาชีวิตที่เคยถูกหลอมสร้างให้กลายเป็นคันฉ่องโลหิตและกักขังอยู่ภายในทะเลสาบเลือดเหล่านั้น นาทีนี้พวกเขาทั้งหมดได้ถูกทำพิธีโปรดให้พ้นจากห้วงแห่งความทุกข์ ถูกทำให้ความอาฆาตพยาบาทจางหายไป บ่ายหน้าไปทางแห่งสว่าง ขึ้นสู่สวรรค์
ทุกคนที่ได้มองเห็นภาพนี้ต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ ในเวลานี้ ทุกคนไม่รู้ว่าสมควรจะพูดอะไรออกมา มองเห็นใบหน้าจำนวนนับไม่ถ้วนที่บ่งบอกถึงรอยยิ้มแห่งความสุข ทำให้เวลานี้ไม่มีใครสามารถพูดอะไรออกมาได้ ในใจของผู้คนจำนวนไม่น้อยได้ก่อเกิดความไม่เห็นแก่ตัว และความเมตตากรุณาอย่างหนึ่งขึ้นมา
สมควรทราบว่า หลายล้านชีวิตนี้ถูกพวกของลู่เคอะเวิงจับมาบูชายันต์เป็นๆ มาวันนี้หลี่ชิเย่ได้ลงมือโปรดพวกเขาให้พ้นจากห้วงแห่งความทุกข์ จึงทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกเศร้าสลด
“คุณชาย” หลินยี่เสวี่ยน้ำตาไหลอาบแก้มโดยไม่รู้ตัวขณะมองดูภาพนี้ หยดน้ำตาได้ทำให้ปกคอเสื้อของนางเปียกปอน นาทีนี้ไม่มีใครสูงส่งมากไปกว่าหลี่ชิเย่ในความคิดของนางอีกแล้ว ในความคิดของนางหลี่ชิเย่ก็คือพระเจ้าที่ช่วยโลก เป็นผู้ปกปักรักษาโลกใบนี้
หลังจากที่หลี่ชิเย่มองดูอนุภาคของแสงกระจายหายไปบนท้องฟ้าจนหมดสิ้นแล้วจึงได้ละสายตากลับมา จ้องมองทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวท่าทีเอ้อระเหยขึ้นมาช้าๆ ว่า “นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกคนที่มาจากภายนอกให้ถอนตัวออกไปจากเมืองหมิงลั่วเฉิง ใครกล้าเหยียบเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว ฆ่าไม่มีละเว้น! ”
เมื่อคำพูดหลี่ชิเย่คำนี้ถูกพูดออกไป หนักแน่นจริงจัง ไม่ว่าใครก็ห้ามมีข้อสงสัย
“นี่ นี่ นี่มันออกจะอันธพาลไปแล้ว เมืองหมิงลั่วเฉิงหาใช่บ้านของเจ้า…” พลันที่หลี่ชิเย่พูดขาดคำ มียอดฝีมือได้แสดงความไม่พอใจต่อการตัดสินใจเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ ถึงกับกล่าวคัดค้านขึ้นมา
ปุเสียงหนึ่งดังขึ้น ยอดฝีมือผู้นี้พูดยังไม่ทันจบ เลือดสดๆ แตกกระจาย หลี่ชิเย่เพียงงอนิ้วนิดหนึ่งเท่านั้น ก็จัดการดีดเขาจนกลายเป็นหมอกเลือดไป
ภายใต้นิ้วมือเดียว ทำเอาทุกคนต่างทยอยกันก้าวถอยหลังด้วยความตกใจ สีหน้าขาวซีด
หลี่ชิเย่ไม่ได้เลิกกระทั่งหนังตา และไม่ได้มองเขาสักแวบหนึ่ง กล่าวเรียบเฉยขึ้นมาว่า “ถูกต้อง ข้าก็คืออันธพาล ข้าเป็นฮ่องเต้ทรราช ข้าไม่จำเป็นให้คนอื่นมาพูดเหตุผลกับข้า ทำตามคำพูดของข้าก็พอ ปฏิบัติตามเดี๋ยวนี้ ไม่มีช่องว่างใดๆ ที่จะเจรจา”
คำพูดของหลี่ชิเย่เย็นชาอย่างยิ่ง ทุกคนที่ได้ยินคำพูดนี้แล้ว อดที่จะสั่นเทาทีหนึ่งไม่ได้
“พวกเราไปกันเถอะ” ในเวลานี้เอง ไม่มีใครกล้าพูดคำว่า “ไม่” ออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...