ตอนที่ 2622 น้ำเต้าม่วงทอง
ผู้เป็นอาจารย์มองดูน้ำเต้าม่วงทองที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารลูกนี้ เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “แข็งแกร่งมาก เล่าลือกันว่า น้ำเต้าม่วงทองของฉางจินต้งเคยทำลายระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิไปแห่งหนึ่ง”
“เคยทำลายระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิแห่งหนึ่ง…” บรรดาศิษย์ทั้งหลายต่างตัวสั่นเทิ้มทีหนึ่ง และรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้
ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิแห่งหนึ่งใช่จะทำลายได้ง่ายๆ จะอย่างไรเสียระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิแต่ละแห่งก็จะมีต้นกำเนิดสัจธรรมอยู่ ขณะที่ต้นกำเนิดสัจธรรมคือสุดยอดพลังสูงสุดที่ปฐมบรรพบุรุษบรรลุสัจธรรมแล้วทิ้งเอาไว้ มีความฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่งนัก เว้นแต่ปฐมบรรพบุรุษแล้ว คนอื่นๆ คิดจะทำลายล้างระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่าขึ้นไปบนสวรรค์เสียอีก
“พลันที่น้ำเต้าม่วงทองปรากฏ สื่อความหมายถึงต้องการเปิดศึก น้ำเต้าม่วงทองคือสัญลักษณ์แห่งการเปิดศึกของฉางจินต้งตลอดเวลาที่ผ่านมา ถ้าหากน้ำเต้าม่วงทองไปปรากฏตัวขึ้นที่สถานที่ใดที่หนึ่ง เป็นการบ่งบอกว่าน้ำเต้าม่วงทองต้องการทำลายล้างสำนักแห่งนั้น กระทั่งทำลายระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิแห่งนั้นไป” ระดับบรรพบุรุษตระกูลขุนนางโบราณมีท่าทีหนักแน่นจริงจัง เมื่อเห็นน้ำเต้าม่วงทองปรากฎขึ้นบนที่ราบลุ่มแห่งนี้
ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมีท่าทีหนักแน่นจริงจังขึ้นมา หลังจากที่ได้เห็นการปรากฎตัวของน้ำเต้าม่วงทองแล้ว ในเวลานี้ทุกคนต่างก็เข้าใจ ฉางจินต้งไม่ได้มาด้วยเรื่องของระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่น
ระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่นได้เสื่อมลงแล้ว กระทั่งกล่าวได้ว่าทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่นไม่สามารถรับมือกับการโจมตีได้เลย หากฉางจินต้งต้องการทำลายลางระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่นจริงๆ ล่ะก็ ไม่มีความจำเป็นต้องอาศัยน้ำเต้าม่วงทองอยู่แล้ว
เวลานี้ การปรากฏตัวของน้ำเต้าม่วงทองบนที่ราบลุ่มของระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่น ทุกคนต่างนึกถึงคนโหดอันดับหนึ่งขึ้นมาโดยไม่ได้นัดหมาย
ย่อมไม่ต้องสงสัย น้ำเต้าม่วงทองของฉางจินต้งมาด้วยเรื่องของคนโหดอันดับหนึ่งอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ คนโหดอันดับหนึ่งได้สังหารสิบวัชระ ทำลายกองเรือรบ เรียกได้ว่าสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับฉางจินต้งเลยทีเดียว
กล่าวได้ว่า ความเสียหายเช่นนี้เป็นความเสียหายที่หนักหนาสาหัสมากที่สุดตั้งแต่มีการก่อตั้งฉางจินต้งขึ้นมา ฉางจินต้งย่อมไม่สามารถกล้ำกลืนความอัปยศในครั้งนี้อย่างแน่นอนกับการสูญเสียอย่างหนักในครั้งนี้ ไม่อาจปล่อยให้พวกของสิบวัชระต้องเสียสละไปเปล่าๆ เช่นนี้อย่างเด็ดขาด
“เล่าลือกันว่า น้ำเต้าม่วงทองของฉางจินต้งมีเพียงสี่พุทธาเท่านั้นที่สามารถควบคุมได้ ถ้าหากจะให้น้ำเต้าม่วงทองสำแดงอานุภาพที่ทรงพลังที่สุดออกมาจะต้องอาศัยสี่พุทธาลงมือพร้อมกัน เวลานี้ดูไปแล้วเกรงว่าสี่พุทธาของฉางจินต้งจะต้องมาด้วยกันแน่นอน” มีระดับบรรพบุรุษสำนักเจ้าลัทธิเอ่ยขึ้นช้าๆ
ในเวลานี้ ทุกคนต่างถือเอาคนโหดอันดับหนึ่งหลี่ชิเย่เป็นมาตรฐานสูงสุด เวลานี้ในสายตาของทุกคนมองว่าหากคิดจะสังหารคนโหดอันดับหนึ่งล่ะก็ ลำพังอาศัยเพียงหนึ่งในสี่พุทธาคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เสียแล้ว จะต้องอาศัยมาตรฐานสูงสุด มีเพียงการร่วมมือของสี่พุทธายังจะมีโอกาสสังหารคนโหดอันดับหนึ่งได้ มิฉะนั้นแล้วมันก็คือการรนหาที่ตายเองชัดๆ เป็นการเข้ามาเพื่อรนหาที่ตาย
“เกรงว่าพวกของสี่พุทธาคงไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมๆ กันมานานมากแล้วกระมัง เกรงว่าพวกเขาไม่ได้ร่วมมือกันมานานมากแล้ว” มีผู้อดที่จะพึมพำขึ้นมาไม่ได้
“ได้ยินมาว่า มีอยู่ครั้งหนึ่ง” มีระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ที่มีประสบการณ์กว้างขวางได้เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “เล่าลือกันว่า หลายปีก่อนฉางจินต้งยกตนข่มท่าน ไปเป่าประกาศตามที่ต่างๆ ไปทั่วว่าฉางจินต้งของพวกเขามีศักยภาพพอที่จะท้าสู้กับสามยักษ์ใหญ่ได้ กระทั่งกองเรือรบของพวกเขาได้บินไปยังทุกๆ ที่ของแดนลัทธิราชัน ด้วยท่าทีที่เที่ยวใช้อำนาจโดยไม่มีความยำเกรง เพียงแต่ภายหลังได้เก็บอาการลงไม่น้อย ไม่กล้าไปท้าทายต่อสามผู้ยิ่งใหญ่โดยง่ายดาย โดยเฉพาะตระกูลหลี่”
“เกี่ยวข้องกับตระกูลหลี่รึ?” มีผู้เอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“เกี่ยว แต่ว่า รายละเอียดข้าเองก็แค่ได้ยินมาเท่านั้นเอง” ระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ผู้นี้กล่าวว่า “เล่าลือกันว่า กู่อี้เฟยแห่งตระกูลหลี่เคยไปเยี่ยมฉางจินต้งเพียงลำพังคนเดียว โดยมีสี่พุทธาของฉางจินต้งให้การต้อนรับ”
ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องมองหน้าซึ่งกันและกัน กู่อี้เฟยเยี่ยมเยือนฉางจินต้งโดยลำพัง นั่นคือการเยี่ยมเยียนอย่างเดียวจริงรึ? ขณะที่สี่พุทธาของฉางจินต้งก็แค่มาให้การต้อนรับอย่างเดียวจริงรึ? “กู่อี้เฟยต่อสู้กับสี่พุทธารึ?” เรื่องนี้สร้างความสนใจให้กับผู้ที่ชอบเส่เรื่องชาวบ้านจำนวนไม่น้อยรีบเอ่ยถามขึ้น
“ไม่ทราบราละเอียด อาจเป็นไปได้ แต่ว่าผู้คนจำนวนไม่น้อยทายว่า เป็นความจริงที่สี่พุทธาได้ร่วมมือกันสู้กับกู่อี้เฟย” ระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ผู้นี้กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “สรุปก็คือ หลังจากที่กู่อี้เฟยไปเยี่ยมเยียนแล้ว ฉางจินต้งได้เจียมเนื้อเจียมตัวมากขึ้นทีเดียว ไม่ไปเที่ยวเป่าประกาศว่าฉางจินต้งของตนนั้นสามารถท้าสู้กับสามผู้ยิ่งใหญ่ได้”
“เห็นทีการร่วมมือของสี่พุทธายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกู่อี้เฟย” มีผู้กล่าวคาดเดาขึ้นมา
“ต่อให้พ่ายแพ้ให้กับกู่อี้เฟยก็ไม่มีอะไรต้องน่าอับอาย ใครบ้างที่ไม่รู้ว่ากู่อี้เฟยเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลหลี่ กระทั่งมีผู้คาดเดาว่ากู่อี้เฟยคือขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลแล้ว” มียอดฝีมือที่พูดขึ้นมาได้อย่างชัดเจน
“กู่อี้เฟยจะเป็นขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลหรือไม่นั้นไม่ทราบ ที่มั่นใจได้ก็คือ เกรงว่าเขาไม่เพียงเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลหลี่เท่านั้น ยังเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของแดนลัทธิราชันในยุคปัจจุบันอีกด้วย ในครั้งนั้นเขาก็เคยเกรียงไกรไปทั่งแดนลัทธิราชันปราศจากผู้ต่อกรมาแล้ว เขาไม่ได้ลงมือนานมากแล้ว ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เกรงว่ามาวันนี้ยังคงปราศจากผู้ต่อกรกระมัง”
กู่อี้เฟย ระดับบรรพบุรุษของตระกูลหลี่ ถูกยกย่องว่าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลหลี่ ขณะที่ยังหนุ่มแน่นเคยเป็นอัจฉริยะบุคคลลที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งอย่างยิ่งคนหนึ่ง เย้ยหยันทั่วหล้า ภายหลังได้ถอนตัวน้อยครั้งนักที่จะยุ่งกับเรื่องราวทางโลก แม้แต่ตระกูลหลี่ ผู้ที่สามารถเชิญตัวเขาได้คงมีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้น
“ต่อให้สี่พุทธาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ก็ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร” มียอดฝีมือเอ่ยขึ้นมาย่า “ครั้งนั้นฮ่องเต้ไท่ชิงใช้อำนาจบาตรใหญ่มากพอแล้วสินะ เป็นฮ่องเต้มาสามยุคสามสมัย ดูสิ ชั่วชีวิตของฮ่องเต้ไท่ชิงเคยเห็นใครอยู่ในสายตาบ้าง? ครั้งนั้นขณะที่เขาไปยังตระกูลมู่ ถึงกับเมินใส่เจ้าบ้านของตระกูล่มู่โดยตรง ต้องการให้ระดับบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลมู่มาให้การรับรอง ช่างเป็นคนที่บ้าระห่ำและพาลเหลือเกิน แต่ทว่า กับกู่อี้เฟยเขายังให้เกียรติยิ่งนัก เมื่อเอ่ยถึงกู่อี้เฟยแล้วเขายังต้องยกย่องคำหนึ่งว่าพี่ชาย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...