ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2623

ตอนที่ 2623 แหลกละเอียดในหนึ่งฝ่ามือ

ท่ามกลางเสียงแว้งค์ที่ดังขึ้น บนเนินเขาสูงได้แผ่ลวดลายเต๋าออกมา โดยลวดลายดังกล่าวได้กระจายตัวออกไปดั่งคลื่นที่กระเพื่อมอย่างนั้น อานุภาพราชันแท้จริงตลบอบอวล เหมือนว่าพร้อมจะมีราชันแท้จริงองค์หนึ่งก้าวออกมาทุกเวลา เหมือนว่าพร้อมจะมีราชันแท้จริงองค์หนึ่งที่จะปกครองใต้หล้าทุกเมื่อ ทำศึกปราบปรามทั่วหล้า

ผู้ที่อยู่ด้านนอกเมืองหมิงลั่วเฉิงจำนวนมากถูกดึงดูดสายตาไปในทันที เมื่อรับรู้ถึงอานุภาพราชันแท้จริงที่ตลบอบอวล

“ตระกูลมู่จะลงมือแล้วรึ?” มีผู้กล่าวเสียงแผ่วเบาขึ้นมา เมื่อมองเห็นลวดลายราชันแท้จริงที่ตลบอบอวลบนเนินเขาสูง

“ไม่เร็วขนาดนั้นกระมัง” มียอดฝีมือส่ายหน้าเบาๆ ขณะมองดูเนินเขาสูงนั่น และกล่าวว่า “ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนยังมาไม่ถึง กองกำลังทัพใหญ่ของตระกูลมู่จะไปเอาอะไรมาต้านกับคนโหดอันดับหนึ่ง อาศัยเพียงเทพกระบี่สายฟ้ากับกองทัพตระกูลมู่เกรงว่าคงไม่พออุดขี้ฟันให้กับคนโหดอันดับหนึ่งกระมัง”

“ก็ใช่ ถ้าหากราชันแท้จริงมู่เจี้ยนยังมาไม่ถึง และระดับบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งของตระกูลมู่ยังไม่ได้มา ตระกูลมู่ไม่มีความหวังหรอกนะ ลำพังอาศัยพวกเทพกระบี่ไม่สามารถต้านกับคนโหดอันดับหนึ่งได้อยู่แล้ว เกรงว่าคงมีแต่รนหาที่ตายอย่างเดียว” ระดับบรรพบุรุษก็เอ่ยขึ้นพร้อมกับพยักหน้า

ทุกคนเคยเห็นถึงความแข็งแกร่งของคนโหดอันดับหนึ่งมาแล้ว สังหารเทพแท้จริงขั้นอมตะเสมือนดั่งเชือดหมูหมาอย่างนั้น ต่ำกว่าระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะยิ่งไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแล้ว

เป็นความจริงที่เทพกระบี่เทพกระบี่สายฟ้านั้นแข็งแกร่ง แต่ นั่นมันก็แค่สำหรับผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ธรรมดาเท่านั้น เมื่อยู่ต่อหน้าคนโหดอันดับหนึ่งไม่เพียงพอที่จะสร้างความกดดันได้ เว้นแต่ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนอาจารย์ของเขาจะมาถึง ยังพอที่จะน่าดูบ้างไม่มากก็น้อย

“ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนต้องมาแน่ ช้าหรือเร็วเท่านั้น” ยอดฝีมือที่มองดูศิษย์ตระกูลมู่ที่ตั้งค่ายอยู่บนเนินเขาสูง และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ตระกูลมู่จะไม่พลาดโอกาสนี้ไปอย่างเด็ดขาด”

แม้ว่าตระกูลมู่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ แต่ว่า เมื่ออานุภาพราชันแท้จริงตลบอบอวล ทุกคนต่างก็รู้ว่า ตระกูลมู่จะไม่ยอมรามือง่ายๆ แน่นอน พวกเขาต้องลงมือต่อเมืองหมิงลั่วเฉิงแน่นอน และต้องส่งกองทัพเข้าไปยังเมืองหมิงลั่วเฉิงแน่นอน กล่าวสำหรับพวกเขาแล้วมันเป็นเพียงปัญหาเรื่องของเวลาเท่านั้น

“สหายหลี่ พวกเราต้องการเข้าไปยังเมืองหมิงลั่วเฉิง” จังหวะวันที่สองที่เมืองหมิงลั่วเฉิงปรากฏประกายเซียนตลบอบอวล ในที่สุด เทพกระบี่สายฟ้าในฐานะศิษย์เอกของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนก็ได้แสดงท่าทีออกมาแล้ว เขายังคงยืนกอดกระบี่อยู่ ยังคงเย็นชาและพูดน้อย

“จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว” ขณะเทพกระบี่สายฟ้าก้าวออกมาแสดงท่าที บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่รั้งอยู่นอกเมืองหมิงลั่วเฉิงต่างถูกดึงดูดเอาไว้ ทุกคนทยอยหันไปมองดู

“ตระกูลมู่ยังต้องให้เกียรติคนโหดอันดับหนึ่งนะเนี่ย เจรจาด้วยเหตุผลก่อนแล้วค่อยใช้กำลัง” มีบางคนรู้สึกเหนือความคาดคิด ขณะมองดูเทพกระบี่สายฟ้าก้าวออกมาแสดงท่าที

ตระกูลมู่ดำรงอยู่ในฐานะอะไร คือหนึ่งในสามผู้ยิ่งใหญ่แดนลัทธิราชันในปัจจุบัน อีกทั้งเจ้าบ้านของตระกูลมู่ยังเป็นถึงราชันแท้จริงที่ยอดเยี่ยม เรียกได้ว่าตระกูลมู่ในปัจจุบันมีความโดดเด่นไร้ขอบเขต ผู้ที่สามารถต่อกรกับเขามีอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น

ในแดนลัทธิราชัน มีระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิกี่แห่ง หรือผู้บำเพ็ญตนกี่คนที่ไม่ให้เกียรติตระกูลมู่ หากเปลี่ยนเป็นปรกติ เปลี่ยนเป็นผู้อื่น เฉกเช่นเทพกระบี่สายฟ้าที่อยู่ในฐานะศิษย์เอกของราชันแท้จริงมู่เจี้ยน ถ้าหากเขาแสดงท่าทีว่าต้องการเข้าเมือง ไม่รู้ว่าทำให้ผู้คนจำนวนเท่าไรเข้าใจว่าเป็นเกียรติยศอย่างหนึ่งกระทั่งให้การต้อนรับไม่ทันด้วยซ้ำ

“ไสหัวไป…” สำหรับการแสดงท่าทีของเทพกระบี่สายฟ้านั้น คนโหดอันดับหนึ่งหลี่ชิเย่มีเพียงคำนี้คำเดียวเท่านั้น ง่ายๆ และตรงๆ หยาบคายยิ่งนัก และไม่ได้มองเลยว่าเทพกระบี่สายฟ้าคือบุคคลประเภทใด และไม่ได้ให้ความสนใจว่าเทพกระบี่สายฟ้ามีฐานะเช่นใด

ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ด้านนอกเมืองหมิงลั่วเฉิงทั้งหมดต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน เมื่อได้ยินคำว่า ‘ไสหัวไป’ ได้ยินคนโหดอันดับหนึ่งกระทั่งศิษย์เอกของตระกูลมู่เทพกระบี่สายฟ้ายังกล้าตวาดใส่เขาตรงๆ ว่า ‘ไสหัวไป’ สิ่งนี้ทำให้ทุกคนได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ทุกคนนอกเหนือจากยิ้มเจื่อนๆ แล้วยังจะทำอะไรได้?

คนโหดอันดับหนึ่ง ย่อมเป็นคนโหดอันดับหนึ่ง ยังคงใช้อำนาจบาตรใหญ่เช่นนั้น ยังคงดุเดือดเช่นนั้น การกระทำยังคงง่ายๆ และหยาบคาย

ในเวลานี้ ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดมองว่า เกรงว่าในแดนลัทธิราชันไม่มีระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใด ไม่มียอดฝีมือใดทีคนโหดอันดับหนึ่งไม่กล้าล่วงเกินอีกแล้ว เหมือนว่าเขาไม่แคร์ว่าจะไปล่วงเกินใครเข้า กระทั่งเป็นศัตรูกับทั่วหล้า เขาก็มีมีท่าทีที่อย่างไรก็ได้อย่างสิ้นเชิง

“คนโหดอันดับหนึ่งมีความดุร้ายอย่างนี่แหละ” แม้แต่ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่มองหลี่ชิเย่แล้วขัดหูขัดตาต่างได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ทีหนึ่ง ไม่อาจไม่ยอมรับและกล่าวว่า “เริ่มจากเป็นศัตรูกับฉางจินต้ง ต่อมาก็เป็นศัตรูกับเคอะเหมิง เวลานี้ก็จะเป็นศัตรูกับตระกูลหลี่อีก นี่คือต้องการล่วงเกินต่อระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิ ยอดฝีมือที่มีกำลังความสามารถในแดนลัทธิราชันทั้งหมดอย่างนั้น เกรงว่าผู้ที่กล้าเป็นศัตรูกับทั่วหล้าคงมีเพียงคนโหดอันดับหนึ่งเท่านั้น”

ผู้คนจำนวนมากได้แต่เลื่อมใสศรัทธา เมื่อได้ยินคำว่า ‘ไสหัวไป’ ที่พาลยิ่งนักคำนั้น

แม้จะกล่าวว่ายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่อยู่บนโลกใช่จะไม่มีโอกาสเป็นศัตรูกับใคร แต่ทว่า เฉกเช่นคนโหดอันดับหนึ่งที่มีรูปแบบการกระทำเหมือนต้องการล่วงเกินทุกคนในหล้าให้รู้แล้วรู้รอดไปอย่างนั้น เรียกว่าคงมีเขาคนเดียวจริงๆ มองใต้หล้าไม่อยู่ในสายตา ท่าทีที่ถืออำนาจบาตรใหญ่เช่นนี้ไม่อาจไม่ทำให้ผู้คนต้องเลื่อมใสศรัทธากับสิ่งนี้

เทพกระบี่สายฟ้าไม่ได้แสดงอาการโกรธขึ้นมาเมื่อได้ยินคำว่า ‘ไสหัวไป’ ของหลี่ชิเย่ และไม่ได้มีใบหน้าที่บึ้งตึงด้วยความโกรธ เพียงยืนกอดกระบี่อยู่ ยังคงนิ่งเงียบ

“เจ้าคนแซ่หลี่ เจ้าทำเช่นนี้มันเกินไปแล้ว” เทียบกับเทพกระบี่สายฟ้าซูม่อไป๋ที่นิ่งเงียบแล้ว หยางถิงอวี่กลับโกรธแค้นอย่างยิ่ง

หยางถิงอวี่ปรากฏตัว และร้องกล่าวเสียงดังขึ้นมาว่า “ข้าคือศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่น ยิ่งกว่านั้นจวนลั่วคือสำนักอันดับหนึ่งของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่น ในฐานะที่ข้าเป็นเจ้าบ้านจวนลั่ว มีสิทธิ์ตัดสินใจในกิจการงานต่างๆ ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่น เมืองหมิงลั่วเฉิงคือเมืองของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิสือยวิ่นพวกเรา เจ้าเองเป็นเพียงผู้ที่เข้ามายึดครองเท่านั้นเอง…”

“ผู้ใดเข้ามา ฆ่าไม่มีละเว้น!” สำหรับหยางถิงอวี่ที่จะอาศัยฐานะเป็นเจ้าบ้าน และพยายามแก้ต่างให้กับตนเอง หลี่ชิเย่ไม่ได้พูดอะไรให้มากความ เพียงอาศัยคำง่ายๆ เช่นนี้โต้ตอบออกไป

หลี่ชิเย่อาศัยคำง่ายๆ เพียงไม่กี่คำ พลันสกัดกั้นคำพูดที่ยืดยาวของหยางถิงอวี่เอาไว้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล