ตอนที่ 2625 ชายหนุ่มลึกลับ
ลู่เคอะเวิงมาแล้ว คราวนี้พลันทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่อยู่ด้านนอกเมืองหมิงลั่วเฉิงมีจิตใจที่ฮึกเหิมขึ้นกับสิ่งนี้ กระทั่งรู้สึกคันไม่คันมือ อยากลองเต็มทีแล้ว
ในเวลานี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรรอคอยการบุกตีเข้าไปในเมืองหมิงลั่วเฉิงของพวกลู่เคอะเวิง และเอาชนะคนโหดอันดับหนึ่งอยู่เงียบๆ เมื่อเป็นดังนี้แล้ว พวกเขาจะได้ถือโอกาสฉกฉวยผลประโยชน์ขณะชุลมุนวุ่นวาย
ก่อนหน้านี้ คนโหดอันดับหนึ่งลงมือก็ทำลายต้นเหวินจุ๊จินสือไป ทำเอาผู้คนจำนวนมากเงียบกริบ ในเวลานี้ไม่มีใครกล้าเหยียบเข้าเมืองหมิงลั่วเฉิงแม้เพียงครึ่งก้าว ที่ว่าเข้าไปถือโอกาสฉกฉวยผลประโยชน์ขณะชุลมุนวุ่นวายนั้น ก็แค่ความคิดที่เลื่อนลอยเท่านั้น
ในเวลานั้น ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากมองว่า คิดจะอาศัยพวกของเทพกระบี่สายฟ้า และราชาสวรรค์เหวินจุ๊บุกตีเข้าเมืองหมิงลั่วเฉิงล่ะก็ มันเป็นเรื่องที่ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงอยู่แล้ว
เวลานี้แตกต่าง เมื่อลู่เคอะเวิงมาถึงแล้ว ทำให้ผู้คนมองเห็นความหวังในทันที ความแค้นระหว่างคนโหดอันดับหนึ่งกับเคอะเหมิงเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าใจอย่างชัดเจน
คนโหดอันดับหนึ่งสังหารรองผู้นำทั้งห้าของเคอะเหมิง ลู่เคอะเวิงในฐานะผู้นำจะไม่เลิกราง่ายๆ อย่างเด็ดขาด การบุกโจมตีเมืองหมิงลั่วเฉิงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นช้าหรือเร็วเท่านั้น
เนื่องเพราะมีการคาดการณ์เช่นนี้นี่เอง จึงมียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่อยู่ด้านนอกเมืองหมิงลั่วเฉิงรู้สึกคันไม่คันมือ อยากลองเต็มทีแล้ว คาดหวังให้ลู่เคอะเวิงนำพากองทัพใหญ่บุกเข้าตีเมืองหมิงลั่วเฉิง และเอาชนะคนโหดอันดับหนึ่งเดี๋ยวนี้ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
ในความเป็นจริง กล่าวสำหรับยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากซึ่งมาจากภายนอกที่อยู่ด้านนอกเมืองหมิงลั่วเฉิงแล้ว พวกเขากับคนโหดอันดับหนึ่งหลี่ชิเย่ไม่ได้มีความแค้นอะไรต่อกัน กระทั่งมียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนรู้สึกเคารพเลื่อมใสในการกระทำของคนโหดอันดับหนึ่ง
แต่ว่า ใครใช้ให้ของวิเศษทำให้จิตใจหวั่นไหวเล่า เวลานี้ปรากฏประกายเซียนวูบวาบภายในเมืองหมิงลั่วเฉิง ทุกคนต่างมองออกว่าศิลาเซียนจะต้องปรากฏอย่างแน่นอน ถ้าหากพลาดโอกาสนี้ไปแล้ว เกรงว่าศิลาเซียนจะต้องตกไปอยู่ในมือของคนโหดอันดับหนึ่ง
ดังนั้น กล่าวสำหรับยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่ต้องการถือโอกาสฉกฉวยผลประโยชน์ขณะชุลมุนวุ่นวายนั้น พวกเขาอยากจะให้ลู่เคอะเวิงนำพากองทัพใหญ่บุกตีเข้าเมืองหมิงลั่วเฉิงเสียเดี๋ยวนี้ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
แต่ว่า หลังจากที่ลู่เคอะเวิงมาถึงแล้วยังคงไม่ได้ปรากฏตัวออกมา ป่าแห่งนั้นเปี่ยมด้วยความมีชีวิตชีวาแลดูสวงงามยิ่งนัก กวางเทพแต่ละตัวเสมือนดั่งภูติที่อยู่ในป่า ตั้งแต่ต้นจนจบยังไม่มีผู้พบเห็นลู่เคอะเวิง
แม้ว่าตั้งแต่ต้นจนจบลู่เคอะเวิงก็ไม่เคยปรากฏตัว แต่ ไม่มีใครกล้าเข้าไปในป่าโดยพละการไปรบกวนลู่เคอะเวิง จะอย่างไรเสียชื่อเสียงของลู่เคอะเวิงโด่งดัง เกิดไปทำให้เขาต้องโกรธ มิเท่ากับเป็นการรนหาที่ตายเองรึ?
ตึง ตึง ตึงหลังจากที่ลู่เคอะเวิงมาถึงได้ไม่นาน ทันใดนั้น ปรากฏเสียงกลองดังขึ้นเป็นระลอก
“จะเปิดศึกกันแล้วรึ?” ทุกคนยังเข้าใจว่ามีผู้ที่ต้องการเริ่มบุกโจมตีเมืองหมิงลั่วเฉิงแล้วเมื่อได้ยินเสียงกลอง
แต่ว่า เมื่อผู้คนจำนวนมากแหงนหน้าขึ้นมอง หาใช่มีผู้ที่ต้องการบุกโจมตีเมืองหมิงลั่วเฉิง แต่เป็นเรือราชันขนาดใหญ่ลำหนึ่งแล่นเข้ามาช้าๆ บนท้องฟ้า
บนเรือราชัน เสียงกลองดังตึง ตึง ตึงขึ้นมาเป็นระลอกไม่ขาดสาย ด้านหนึ่งบนเรือราชันได้จัดวางกลองราชันเอาไว้ มีชายวัยกลางคนผู้หนึ่งลั่นกลองราชันอย่างแรงครั้งแล้วครั้งเล่า
เสียงกลองที่ดังเป็นระลอกลักษณะเช่นนี้ ดังก้องไปทั่วฟ้าดิน ทรงกำลังอำนาจและอันธพาลอย่างยิ่ง
เรือราชันลำนี้มีความหรูหราอลังการยิ่ง คำว่า ‘หรูหรา’ ไม่สามารถเปรียบเปรยมันได้อีกแล้ว มันคือความฟุ่มเฟือยชัดๆ
เรือราชันลำนี้ถูกสร้างขึ้นโดยไม้เซียนหัวหวินที่ล้ำค่ายิ่ง บนเรือราชันได้ประดับด้วยหินสี่เหลี่ยม กระเบื้องโบราณ ภาพวาดพยัคฆ์ที่เป็นของโบราณเป็นต้น ของโบราณแต่ละชิ้นหากไม่แผ่อานุภาพราชันแท้จริงที่พาล ก็จะเป็นกลิ่นอายเทพแท้จริงที่ต่อเนื่องออกมาไม่ขาดสาย
บรรดาของโบราณเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มาจากฝีมือของราชันแท้จริงที่ไร้เทียมทาน หรือไม่ก็เทพแท้จริงที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสอง แต่ เมื่อนำมาจัดวางอยู่ตรงนี้แล้วก็เป็นได้เพียงของประดับเท่านั้นเอง
บนเรือราชันมีธงราชันผืนหนึ่งที่แขวนอยู่กับเสา กล่าวโดยปรกติแล้ว มีเพียงผู้ที่เป็นราชันแท้จริงแล้วเท่านั้นที่ชักธงราชันได้
“เป็นราชันแท้จริงมู่เจี้ยนรึ?” พลันที่มองเห็นเรือราชันลำนี้แล้ว มีผู้เอ่ยขึ้นมาด้วยจิตใต้สำนึก แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง ธงราชันที่แขวนอยู่นั้นได้ปักอักษรคำว่า ‘หลู’
ทุกคนต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน เมื่อเห็นอักษรคำว่า ‘หลู’ ผู้คนจำนวนมากคิดแล้วคิดอีกก็คิดไม่ออกว่า แดนลัทธิราชันมีราชันแท้จริงที่แซ่ ‘หลู’ ตั้งแต่เมื่อไรกัน
ในแดนลัทธิราชันยุคปัจจุบัน ทุกคนต่างรู้จักกันดีมีพวกของราชันแท้จริงต้วนยวี่ ราชันแท้จริงมู่เจี้ยน แต่ไม่มีราชันแท้จริงที่แซ่หลู
ที่ทำให้ผู้คนต้องตกใจก็คือ เรือราชันลำนี้ได้ผ่านการปลุกเสกโดยพลังที่แข็งแกร่งปราศจากผู้เทียบเทียมมาก่อน พลังลักษณะเช่นนี้น่ากลัวและยอดเยี่ยมมาก เหมือนว่าสามารถกดทับเหล่าชั้นฟ้าจนพังพาบ สยบตลอดกาลได้อย่างนั้น มีเพียงหนึ่งไม่มีสองเป็นนิรันดร์ คล้ายเป็นพลังของระดับปฐมบรรพบุรุษอย่างนั้น
“นี่คือราชันแท้จริงอะไรกันแน่ ถึงกับมีพลังที่น่ากลัวเพียงนี้ เกรงว่าจะเหนือกว่าราชันแท้จริงต้วนยวี่ ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนกระมัง” ทุกคนต่างรู้สึกตระหนกอยู่ในใจ เมื่อมองเห็นพลังปลุกเสกที่อยู่บนเรือราชันลำนี้
เมื่อทุกคนมองไปที่เรือในเวลานี้ มองเห็นบนเรือราชันได้จัดวางเก้าอี้ราชันตัวหนึ่ง โดยเก้าอี้ราชันดังกล่าวตั้งวางอยู่สูงมาก เสมือนดั่งอยู่เหนือเมฆาอย่างนัน
กล่าวโดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่หาญกล้าจัดวางเก้าอี้ราชันลักษณะเช่นนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่ยอดเยี่ยมยิ่งนัก โดยทั่วไปแล้วผู้นั้นก็ต้องเป็นราชันแท้จริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...