ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2626

สรุปบท ตอนที่ 2626 คงความอมตะตลอดกาล: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2626 คงความอมตะตลอดกาล – ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet

บท ตอนที่ 2626 คงความอมตะตลอดกาล ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 2626 คงความอมตะตลอดกาล

ท่าทีของลู่เคอะเวิงพลันทำให้ทุกคนต้องตกใจ ในใจของทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกสะดุ้งกับสิ่งนี้ ทั่วทั้งแดนลัทธิราชันยังจะมีใครเล่าที่คู่ควรให้ลู่เคอะเวิงต้องให้ความเกรงใจถึงเพียงนี้ได้เล่า?

ในเวลานี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ครุ่นคิดจนแย่ก็ยังนึกไม่ออก

“เรียนท่านผู้อาวุโส ปรมาจารย์ท่านสบายดี นับตั้งแต่ออกมาจากการกักตนแล้วก็อยู่ว่างๆ ในบ้าน คอยให้การชี้แนะผู้เยาว์อย่างพวกเรา” หลูเหว่ยจวินยิ้มกล่าว

พลันที่เอ่ยถึงปรมาจารย์ของตน ท่าทีของเขาดูภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ยืดอกมากขึ้นกว่าเดิมอีก ท่าทีหยิ่งยโสยิ่ง ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา

“ไป่ยื่อ แซ่หลู” เทพแท้จริงเก่ากะลาขั้นอมตะผู้หนึ่งครุ่นคิดพิจารณาอยู่ คาดคะเนถึงฐานะของหลูเหว่ยจวินผู้นี้ สุดท้าย เขาเริ่มได้เค้ามาบ้างแล้ว

“คงไม่ใช่นักพรตไป่ยื่อกระมัง” สุดท้ายแล้ว เทพแท้จริงเก่ากะลาขั้นอมตะผู้นี้นึกถึงบุคคลที่อยู่ในตำนานผู้หนึ่งแล้ว รู้สึกตกใจยิ่งนัก

“นักพรตไป่ยื่อ? เป็นใครมาจากไหน?” ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกแปลกใจ เมื่อได้ฟังคำพูดที่เสียบุคลิคของระดับเทพแท้จริงเก่ากะลาขั้นอมตะผู้นี้ ความจริงแล้ว ผู้คนจำนวนมากต่างรู้สึกไม่คุ้นกับชื่อของ ‘นักพรตไป่ยื่อ’ ผู้นี้เอาเสียเลย

“นักพรตไป่ยื่อน่าจะเป็นบุคคลหลายยุคก่อนหน้าแล้ว” เทพแท้จริงเก่ากะลาขั้นอมตะผู้นี้ท่าทางหนักแน่นจริงจัง เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ขณะที่นักพรตไป่ยื่อยังอยู่ หากแดนลัทธิราชันจะเลือกผู้ที่มีความแข็งแกร่งที่สุดขึ้นมาสักคนล่ะก็ เกรงว่าจะไม่ใช่กู่อี้เฟย แต่เป็นนักพรตไป่ยื่อ ในยุคนั้น นักพรตไป่ยื่อได้เป็นผู้ที่ปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้าแล้ว เกรงว่ามาวันนี้ กู่อี้เฟยที่แข็งแกร่งมากที่สุดก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”

“แข็งแกร่งถึงเพียงนี้เชียว?” ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกตกใจ เมื่อได้ยินคำพูดคำนี้

“แข็งแกร่งมาก ณ ขณะนั้นเขาคือระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นศักราชแล้ว เคยเกรียงไกรไปทั่วแดนลัทธิราชันปราศจากผู้ต่อกร” ครั้นเอยมาถึงตรงนี้ เทพแท้จริงเก่ากะลาขั้นอมตะก็ดูจะใฝ่ฝันอยากจะไปให้ถึงอย่างยิ่ง ได้กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ในครั้งนั้น ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่เคยมีราชันแท้จริงหลายคนร่วมมือกันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”

เขาเองเคยเป็นยอดฝีมือในยุคสมัยนั้น เมื่อนึกถึงภาพในครั้งนั้นแล้วก็อดที่จะทอดถอนใจขึ้นมา

“เป็นถึงระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นศักราชตั้งแต่ยุคสมัยที่นานมากก่อนหน้านั้น” ทุกคนถึงกับสะดุ้งกับสิ่งนี้ แม้ว่ากล่าวสำหรับเทพแท้จริงขั้นอมตะแล้ว ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นศักราชนั้นเป็นผู้อยู่ในฐานะน่ากลัวยิ่ง ทั่วทั้งแดนลัทธิราชันคงมีระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะชั้นศักราชอยู่ไม่กีคน กู่อี้เฟยที่มีชื่อเสียงโด่งดังก็คือหนึ่งในนั้น

“ภายหลังได้ข่าวมาว่านักพรตไป่ยื่อสิ้นอายุขัยแล้ว ดังนั้น เขาจึงได้จัดการผนึกร่างของตนเข้าไปกักตนหากไม่สำเร็จก็จะไม่ออกมาตลอดไป หวังจะทะลุข้อจำกัดนี้ เพื่อขึ้นสู่จุดสูงสุด แต่ทว่า จากนั้นก็ไม่มีข่าวคราวอีกเลย ผู้คนในหล้าต่างเข้าใจว่าเขาก็นั่งกรรมฐานจนแห้งตายไปในการกักตนเสียแล้ว” เทพแท้จริงเก่ากะลาขั้นอมตะผู้นี้กล่าวด้วยท่าทีตกใจยิ่งว่า “เวลานี้เขาถึงกับออกจากการกักตนมาได้ หรือว่าเขาได้ฟื้นคืนชีพมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว”

ในเวลานี้ผู้คนจำนวนมากต่างมองหน้าซึ่งกันและกันเมื่อได้ฟังความของเทพแท้จริงขั้นอมตะผู้นี้ เมื่อผู้ที่อายุขัยสิ้นสุดลงแล้วยังสามารถออกมาจากการกักตนตลอดไปได้ มันบ่งบอกถึงสิ่งใด

“ความสำเร็จของผู้อาวุโสไป๋ยื่อเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของรุ่นพวกเรา” ในเวลานี้ ปรากฏเสียงที่เบาๆ และห่างไกลดังออกมาจากน้ำเต้าม่วงทอง

การที่น้ำเต้าม่วงทองจู่ๆ ได้ส่งเสียงออกมากะทันหัน ทำเอาทุกคนถึงกับตกใจยิ่งนัก แรกทีเดียวทุกคนยังเข้าใจว่าน้ำเต้าม่วงทองเป็นเพียงของวิเศษที่ไร้เทียมทานชิ้นหนึ่งเท่านั้น ไม่คิดว่าจะมีคนอยู่ภายใน

“ผู้อาวุโสไป๋ยื่อสำเร็จขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลนับเป็นสิ่งที่รุ่นพวกเราไม่อาจที่จะเอื้อมถึงได้ เสียใจที่ตอนนั้นไม่สามารถแสดงความยินดีต่อผู้อาวุโสไป๋ยื่อได้” ภายในน้ำเต้าม่วงทองปรากฏเสียงบางเบาและห่างไกลยิ่งออกมา

“พุทธาเกรงใจไปแล้ว ยินดีต้อนรับพุทธามาเป็นแขกที่บ้านตระกูลหลูทุกเมื่อ” หลู่เหว่ยจวินหัวเราะเสียงดัง ท่าทีดูยโสอย่างยิ่ง

“อะไรนะ…” ทุกคนต่างรู้สึกตกใจอย่างยิ่ง เมื่อได้ยินเสียงบางเบาและดูห่างไกลยิ่งที่ออกมาจากน้ำเต้าม่วงทอง ไม่ว่าจะเป็นผู้บำเพ็ญตนธรรมดา หรือเทพแท้จริงขั้นอมตะที่ปราศจากผู้ต่อกรล้วนแล้วแต่รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องหวาดผวากับสิ่งนี้

“ว่าอะไรนะระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาล!” เทพแท้จริงขั้นอมตะที่ได้ยินคำว่า ‘คงความอมตะตลอดกาล’ แล้วเสมือนดั่งแมวถูกเหยียบหางอย่างนั้น กระโดดตัวลอยขึ้นมาทันที กล่าวด้วยท่าทีหวาดผวาว่า “นักพรตไป่ยื่อได้บรรลุการกักตน สำเร็จกลายเป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาล!”

“คงอยู่ตลอดกาล คงความอมตะตลอดกาล…” ผู้คนทั้งหมดต่างหวาดผวาหลังจากได้ยินคำๆ นี้ ในเวลานี้ไม่รุ้มีผู้คนจำนวนเท่าไรที่มองหน้ากันและกัน รู้สึกใจหายใจคว่ำ กล่าวด้วยความหวาดผวาว่า “ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาล นี่ นี่ นี่เป็นการดำรงอยู่ในฐานะไล่หลังปฐมบรรพบุรุษมาติดๆ นะเนี่ย”

ในเวลานี้ ผู้คนจำนวนมากต่างถูกข่าวที่สะเทือนเลื่อนลั่นนี้ทำให้หวั่นไหว ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลดำรงอยู่ในฐานะเสมือนหนึ่งระดับปฐมบรรพบุรุษ เป็นระดับสูงสุดของเทพแท้จริงแล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่เทพแท้จริงทั้งหมดกระหายอยากก้าวไปให้ถึง สิ่งนี้ก็คล้ายดั่งบรรดาราชันแท้จริงทั้งหลายต้องการกลายเป็นปฐมบรรพบุรุษอย่างนั้น

“ชั้นคงความอมตะตลอดกาลของแดนลัทธิราชันคนก่อนหน้าเกิดขึ้นมาเมื่อใดแล้ว? เกรงว่า เกรงว่าคงเป็นเรื่องที่หลายยุคสมัยมาแล้วกระมัง” ในเวลานี้ระดับบรรพบุรุษถึงกับเหม่อลอยและพึมพำขึ้นมา

แม้จะกล่าวว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาในแดนลัทธิราชันมีเทพแท้จริงขั้นอมตะที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งอยู่จำนวนไม่น้อย แต่ว่า เทพแท้จริงขั้นอมตะจำนวนมากเมื่อมีความแข็งแกร่งจนถึงระดับหนึ่งแล้วก็จะไปจากแดนลัทธิราชัน และขึ้นไปยังแดนลัทธิเซียน เนื่องจากการไปอยู่ที่แดนลัทธิเซียนมีโอกาสกลายเป็นชั้นคงความเป็นอมตะได้ง่ายยิ่งกว่า

กล่าวสำหรับ เทพแท้จริงขั้นอมตะจำนวนไม่น้อย เมื่อแข็งแกร่งจนถึงระดับหนึ่งแล้วยังคงรั้งอยู่ ไม่ว่าจะต่อตัวเองหรือต่อสำนักของตนล้วนแล้วแต่เป็นภาระ กล่าวได้ว่าผู้ที่สำเร็จถึงชั้นคงความเป็นอมตะตลอดกาลแล้วยังคงรั้งอยู่ต่อไปได้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น และล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่งทั้งสิ้น

“ชั้นคงความเป็นอมตะ เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลที่แท้จริงนะเนี่ย” ไม่ง่ายนักที่เทพแท้จริงขั้นอมตะได้สติกลับมา ถึงกับทอดถอนใจยาวๆ ขึ้นมา และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “หลังจากที่ตำแหน่งชั้นคงความเป็นอมตะของแดนลัทธิราชันว่างเว้นมาเป็นเวลานานขนาดนี้ ในที่สุดก็มีชั้นคงความเป็นอมตะตลอดกาลสักคนแล้ว”

“ราชันแท้จริงมู่เจี้ยน ในที่สุดก็มีราชันแท้จริงองค์หนึ่งมาแล้ว เกรงว่าจะต้องเกรียงไกรไปทั่วหน้า” มีผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นช้าๆ เมื่อรับรู้ถึงกลิ่นกายราชันแท้จริงที่น่าเกรงขามปราศจากผู้ต่อกร

ความโด่งดังด้านชื่อเสียงของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนเป็นที่รู้กันทั่วหล้า หนึ่งในราชันแท้จริงที่แข็งแกร่งมากที่สุดในแดนลัทธิราชันยุคปัจจุบัน และเป็นอัจฉริยะบุคคลที่ยอดเยี่ยมที่สุดของแดนลัทธิราชันในปัจจุบัน ในที่สุดเขาจะลงมือแล้ว พลันทำให้ผู้คนเปี่ยมด้วยการเฝ้ารอ

“หากราชันแท้จริงมู่เจี้ยนสู้กับคนโหดอันดับหนึ่ง ใครแกร่งใครด้อย?” มีผู้ที่เอ่ยเสียงแผ่วเบาขึ้นมา

พลันที่ได้ยินปัญหาข้อนี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อนต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน คนแรกที่ทุกคนนึกถึงก็คือคนโหดอันดับหนึ่ง เนื่องจากกระทั่งวันนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าคนโหดอันดับหนึ่งมีความแข็งแกร่งเพียงใด ความตื้นลึกหนาบางของเขานั้นไม่อาจคาดเดาได้ตลอดมา

แต่ว่า ความโด่งดังด้านชื่อเสียงของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนก็หาใช่ผู้อ่อนแอ ทุกคนยากที่จะตัดสินได้ง่ายดาย

ตูม…เสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น นาทีนี้ มองเห็นน้ำเต้าม่วงทองพวยพุ่งเป็นประกายที่ดังคลื่นยักษ์ออกมา ประกายสีม่วงได้ดันท้องฟ้าให้เปิดออก และแยกพสุธาออกไป โดยที่น้ำเต้าม่วงทองเสมือนหนึ่งต้องการสยบเหล้าชั้นฟ้าอย่างนั้น

“สีพุทธาก็จะลงมือแล้วรึ?” ผู้คนจำนวนไม่น้อยถึงกับสั่นเทาเมื่อรับรู้พลังของน้ำเต้าม่วงทองที่ต้องการสยบและสังหารทุกสิ่ง

ในเวลานี้ ปรากฏเสียงกวางขึ้นมาบริเวณป่าที่ลู่เคอะเวิงอาศัยอยู่พลันส่งประกายสีเขียวที่เหมือนน้ำทะเลอย่างนั้น ได้ยินเสียงตูมที่ดังสนั่น ประกายสีเขียวที่ดั่งคลื่นยักษ์ได้พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง เสมือนดั่งคลื่นที่หาสาดซัด และท่วมฟ้าดินจนจมมิด

“ลู่เคอะเวิงก็จะลงมือแล้ว” มีคนรู้สึกแอบตกใจอยู่ในใจ เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว

เสียงช่าาา ช่าาาดังขึ้น เวลานี้ต้นเหวินจุ๊จินสือก็โยกแยกไม่หยุด แผ่พลังที่น่าเกรงขามขึ้นมา เหมือนว่าก็ส่งเสียงขานรับกับทุกฝ่ายอย่างนั้น

“เมืองหมิงลั่วเฉิงคือพื้นที่ของใต้หล้า ใครก็ตามไม่สามารถเสนอความเห็นโดยพละการ มิฉะนั้นก็เท่ากับเป็นศัตรูกับทั่วหล้า” ในขณะนี้ หลูเหว่ยจวินได้แสดงท่าทีแล้ว เสียงของเขาดังก้องท้องฟ้า ย่อมไม่ต้องสงสัย คำพูดนี้ของเขาพุ่งเป้าไปที่หลี่ชิเย่อยู่แล้ว

ฐานะของหลูเหว่ยจวินไม่ธรรมดา เมื่อเขาแสดงท่าทีออกมา เท่ากับบ่งบอกว่าเป็นตัวแทนของนักพรตไป่ยื่อ

ในเวลานี้ ทุกคนต่างมองไปที่เมืองหมิงลั่วเฉิง ทุกคนต่างรอคอยการปรากฏตัวของคนโหดอันดับหนึ่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล