ตอนที่ 2633 สยบทั่วหล้า
หลี่ชิเย่ลงมือโดยอาศัยท่าทีที่ไม่ให้ทันได้ตั้งตัว ไม่เพียงจัดการถอนเอาต้นเหวินจุ๊จินสือขึ้นมาแบบถอนรากถอนโคน ทั้งยังได้จัดการสังหารซาอวี่เฉิงในทันที ที่น่ากลัวยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือยังถูกหลี่ชิเย่ฟาดจนได้รับบาดเจ็บ แขนข้างหนึ่งเกือบถูกลำต้นฟาดจนละเอียด
ภาพลักษณะเช่นนี้สร้างความหวั่นไหวต่อจิตใจของผู้คนมากเหลือเกิน กระทั่งกล่าวได้ว่าสร้างความสะเทือนหวั่นไหวมากกว่าตอนที่สังหารแขกสวรรค์ทั้งห้าเสียอีก
โดยเฉพาะขณะมองเห็นศพของซาอวี่เฉิงที่ถูกเกี่ยวเอาไว้สูงๆ นั้น ยิ่งสร้างความสั่นเทาให้กับจิตใจของคนทุกคน
ซาอวี่เฉิงมีฉายาว่าราชาสวรรค์ เป็นหนึ่งในอัจฉริยะบุคคลที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุคปัจจุบัน หนึ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จสูงสุด กลับถูกหลี่ชิเย่สังหารในชั่วพริบตาเดียวเช่นนี้ ที่ทำให้ผู้คนต้องรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งก็คือ สิ่งที่สังหารซาอวี่เฉิงนั้นถึงกับเป็นต้นเหวินจุ๊จินสือของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิเหวินจุ๊ นี่มันคือต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นเทพผู้พิทักษ์ของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิพวกเขาเอง มาวันนี้กลับกลายเป็นอาวุธไล่ล่าวิญญาณของซาอวี่เฉิง
ปุ…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้มองเห็นลำต้นที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่สะเทือนทีหนึ่ง ศพของซาอวี่เฉิงพลันถูกกระแทกกลายเป็นหมอกเลือด ล่องลอยและกระจายไปตามลม
“ไม่รีบ ทีละคนๆ” หลี่ชิเย่จัดการโยนลำต้นนั้นลงกับพื้นตามอารมณ์ และกล่าเรียบเฉยขึ้นมา
นาทีนี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ในใจสั่นเทาทีหนึ่ง ซาอวี่เฉิงตายแล้ว อีกทั้งเมื่ออยู่ในมือของหลี่ชิเย่แล้วเสมือนหนึ่งเป็นมดปลวกที่ตายไปตัวหนึ่งเท่านั้น ช่างไร้ค่าคู่ควรจะกล่าวถึง
ในเวลานี้ ฟ้าดินเงียบสงัด ไม่ว่าจะเป็นลู่เคอะเวิง หรือว่าสี่พุทธา และหรือราชันแท้จริงมู่เจี้ยน เวลานี้พวกเขาต่างเงียบสงัดขึ้นมา
เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น พวกเขาต่างตระหนักว่า เกรงว่าหากสู้กันตัวต่อตัว ลำพังอาศัยกำลังความสามารถของพวกเขาคนเดียวคิดจะสังหารหลี่ชิเย่ล่ะก็ ไหนเลยเป็นเรื่องที่ง่ายดาย? นาทีนี้พวกเขาต่างนิ่งเงียบ หากพวกเขาคิดจะสังหารหลี่ชิเย่จะต้องมานั่งหารือถึงมาตรการกันใหม่
ในขณะนี้ พวกเขาต่างตระหนักดีว่า ก่อนหน้านั้นพวกเขายังคงประเมินกำลังความสามารถขอหลี่ชิเย่ต่ำไป เวลานี้พวกเขามีความชัดเจนแล้วว่า เกรงว่าต่อให้พวกเขาร่วมมือกันอย่างง่ายๆ ในเวลานี้ก็ไม่เห็นว่าจะสามารถสังหารหลี่ชิเย่ได้
ถ้าหากต้องการสังหารหลี่ชิเย่ พวกเขาจะต้องมีวิธีการที่แข็งแกร่งสุดเทียบเทียม อีกทั้งยังต้องเป็นการร่วมมือกันอย่างชนิดที่เรียกว่าแนบเนียนไร้ที่ติ พลันที่พวกเขาลงมือจะต้องเป็นท่าทีที่รุนแรงอย่างยิ่ง สังหารภายใต้การโจมตีเพียงครั้งเดียว ไม่สามารถปล่อยให้หลี่ชิเย่มีโอกาสได้พักหายใจ มิฉะนั้นล่ะก็ เมื่อไหร่ที่ปล่อยให้หลี่ชิเย่ได้สติกลับมาล่ะก็ สวรรค์เท่านั้นที่จะรู้ได้ว่ามันจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“เจ้าคิดจะทำอะไร…” ในเวลานี้ ได้ยินเสียงปังดังขึ้น หลูเหว่ยจวินที่ล้มลุกคลุกคลานหมายวิ่งไปหาลู่เคอะเวิง แต่ทว่า เขาวิ่งไปไม่ทันได้สองก้าว กลับถูกเท้าข้างหนึ่งของหลี่ชิเย่เหยียบติดอยู่กับพื้น
ต้นเหวินจุ๊จินสือที่ถูกหลี่ชิเย่เหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้าถึงกับร้องเสียงแหลมขึ้นมาด้วยความหวาดผวา
“เจ้าว่าข้าคิดจะทำอะไรนะ?” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉยทีหนึ่งและก้มมองดูหลูเหว่ยจวิน
“เจ้า เจ้า เจ้าอย่าทำอะไรบ้าๆ นะ” นาทีนี้หลูเหว่ยจวินตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ ถึงกับร้องเสียงแหลมขึ้นมา เวลานี้เขาไหนเลยยังมีเค้าโครงของความเป็นผู้หยิ่งยโส และถือดีเหมือนที่ผ่านมาอีก
ปรกติแล้ว แม้แต่ระดับบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิมายืนอยู่ต่อหน้าเข้า เขาก็จะมองด้วยท่าทีที่เหยิ่งยโส แต่ เวลานี้เขาถูกทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ ร่างกายสั่นไปทั้งร่าง ไม่เหลือท่วงท่าอันสง่างามอีกแม้แต่น้อย ขาดอยู่อย่างเดียวคือยังไม่ปัสสาวะรดกางเกงเท่านั้น
หลี่ชิเย่มองดูหลูเหว่ยจวินที่ถูกทำให้ตกใจจนตัวสั่นเทาตลอดเวลาที่อยู่ตรงหน้าแวบหนึ่ง ยิ้มกล่าวเรียบเฉยว่า “คนขี้ขลาดตาขาวอย่างเจ้าก็กล้าใช้ผู้อื่นมาเล่นงานข้าต่อหน้าข้ารึ? นับว่าน่าขันยิ่งนัก เฉกเช่นเจ้าคนขี้ขลาดตาขาวอย่างเจ้านับเป็นทายาทรุ่นหลังอะไรของชั้นคงความอมตะตลอดกาลอะไรนั่น เป็นการทำให้บรรพบุรุษต้องอับอายขายหน้าจนสิ้น”
“เจ้า เจ้า เจ้าคิดจะทำอะไร?” หลูเหว่ยจวินถูกทำให้ตกใจยิ่ง เวลานี้ตัวเขาถูกหลี่ชิเย่เหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้ากระดิกตัวไม่ได้ ร้องเสียงแหลมขึ้นมาด้วยความหวาดผวา
“ข้ายังจะทำอะไรได้?” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมยและกล่าวว่า “เมื่อครู่เจ้าบอกว่าต้องการดื่มเลือดของข้า เลาะเส้นเอ็นของข้า กินเนื้อข้ามิใช่รึ? ไหนเจ้าว่ามาสิ กับศัตรูลักษณะเช่นนี้ข้าควรจะทำอะไรบ้าง? ข้าก็จะเลาะเส้นเอ็นของเจ้า ดื่มเลือดของเจ้า กินเนื้อของเจ้าบ้างล่ะ?”
“เจ้า…” เมื่อหลูเหว่ยจวินถูกหลี่ชิเย่ขู่เช่นนี้ ถึงกับมีสีหน้าที่ขาวซีด เวลานี้ชีวิตน้อยๆ ของเขาอยู่ในมือของหลี่ชิเย่ เขากลัวหลี่ชิเย่จะทำเช่นนี้ขึ้นมาจริงๆ
“เมื่อครู่นี้ข้า ข้า ข้าแค่พูดล้อเล่นเท่านั้นเอง” หลู่เหว่ยจวินที่ถูกทำเอาตกใจไม่เบายอมแพ้ทันที รีบแสดงรอยยิ้มออกมาทางใบหน้ากล่าวด้วยท่าทียิ้มแย้มต่อหลี่ชิเย่ว่า “เมื่อครู่ข้า ข้า ข้ากับพี่ท่าน ไม่สิ เมื่อครู่ข้าแค่ล้อเล่นกับผู้อาวุโสเท่านั้น ผู้อาวุโสเป็นผู้ใหญ่ใจกว้าง อย่าได้ถือสาหาความกับคนที่ไม่มีความสำคัญอย่างข้าเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...