ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2658

ตอนที่ 2658 แผนการของซุนหลิ่งหยิ่ง

ขณะที่ประคองอ่างหินที่ปลูกต้นสามเซียนขึ้นมานั้น ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าแดนสามเซียนถูกประคองอยู่บนฝ่ามือนั่นแหละ ให้ความรู้สึกว่าสามารถได้มาอย่างง่ายดาย

“แดนสามเซียนอยู่ในมือข้านี่แหละ” หลี่ชิเย่ถึงกับเผยรอยยิ้มขึ้นมาขณะมองดูต้นสามเซียนที่มีประกายส่ายโอนเอนไปมา กล่าวเรียบเฉยว่า “ตาเฒ่า พวกเจ้าจะเอาอะไรมาไถ่แดนสามเซียนคืนไปเล่า?”

แน่นอน หลี่ชิเย่แค่พูดออกไปตามอารมณ์เท่านั้น ไม่ได้มีท่าทีที่ตื่นเต้นเป็นพิเศษ เนื่องจากผลที่ได้นี้อยู่ในความคาดคิดของเขาอยู่แล้ว

สุดท้าย หลี่ชิเย่ได้เก็บอ่างหินขึ้น แล้วไปจากโลกใต้ดินแห่งนี้

คุณชาย…ครั้นหลี่ชิเย่กลับไปยังตำหนักทองแดงแล้ว หวูโหย่วเจิ้นผู้เป็นอาจารย์และศิษย์ได้คุกเข่าลงกับพื้น พวกเขาอ้าปากต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ ไม่สามารถพูดอะไรออกมาเป็นเวลานาน ไม่รู้ว่าควรจะเรียบเรียงคำพูดออกมาอย่างไรดี

หลี่ชิเย่ได้ช่วยชีวิตระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่นทั้งหมด บุญคุณยิ่งใหญ่เช่นนี้ไม่สามารถอาศัยคำพูดเพียงสองสามคำง่ายๆ ก็สามารถแสดงถึงความรู้สึกออกมาได้แล้ว

หลี่ชิเย่มองดูพวกเขาแวบหนึ่ง ถือโอกาสโยนถุงจักรวาลที่มีขนาดใหญ่มากใบหนึ่งลงตรงหน้าของพวกเขา กล่าวท่าทีเรียบเฉยว่า “นี่คือของวิเศษ เคล็ดวิชาลับของบรรพบุรุษที่เป็นปรัชญาเมธีของพวกเจ้าได้ทิ้งเอาไว้ เวลานี้ได้ปรากฏต่อฟ้าดินอีกครั้งแล้ว”

หวูโหย่วเจิ้นและหลินยี่เสวี่ยตะลึงนิดหนึ่ง พวกเขาที่เป็นอาจารย์และศิษย์สองคนเปิดถุงจักรวาลออกมา เมื่อถุงจักรวาลถูกเปิดออก ปรากฏประกายศักดิ์สิทธิ์พวยพุ่งขึ้นมา มองเห็นภายในถุงจักรวาลได้บรรจุอาวุธที่ปราศจากผู้ต่อกรแต่ละชิ้น และเคล็ดวิชาลับที่ไม่ถ่ายทอดแต่ละเล่ม

ของวิเศษ และเคล็ดวิชาลับเหล่านี้ก็คือสิ่งที่บรรดาราชันแท้จริงทั้งสาม และเหล่าเทพแท้จริงขั้นอมตะของระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่นได้ทิ้งเอาไว้ ก่อนพวกเขาจะตายได้นำเอาของวิเศษเหล่านี้ทิ้งเอาไว้ภายในเรือโบราณ หวังว่าลูกหลานที่เป็นทายาทรุ่นหลังของพวกเขาได้ไป ทำการฟื้นฟูระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่นของพวกเขาให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นอีกครั้ง

ขณะที่หลี่ชิเย่จากไปได้ถือโอกาสนำเอาพวกของวิเศษ เคล็ดวิชาลับติดตัวมา เพื่อนำกลับมาให้กับพวกของหวูโหย่วเจิ้น

หวูโหย่วเจิ้นพวกเขาที่เป็นอาจารย์และศิษย์สองคนถึงกับดวงตาทั้งสองเบิกกว้าง ไม่อยากจะเชื่อสายตาของตนเอง ชั่วชีวิตของพวกเขาก็ไม่เคยได้เห็นของวิเศษ เคล็ดวิชาลับมากมายเช่นนี้มาก่อน ยิ่งกว่านั้นไม่เคยได้พบเห็นอาวุธที่ทรงพลังปราศจากผู้ต่อกรเช่นนี้มาก่อน

มาวันนี้ หลี่ชิเย่กลับนำเอาของวิเศษ และเคล็ดวิชาลับเหล่านี้ประทานกลับคืนให้กับพวกเขา และประทานระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่นคืนให้กับพวกเขา มันสร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อพวกเขามากเหลือเกิน

“คุณชาย…” หวูโหย่วเจิ้นและหลินยี่เสวี่ยโขกศีรษะอย่างแรงให้กับหลี่ชิเย่ เมื่อได้สติกลับมาแล้ว น้ำตานองหน้ากล่าวด้วยความตื่นเต้นอย่างยิ่งว่า “บุญคุณอันใหญ่หลวงของคุณชาย ระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่นของพวกเรายินดีเป็นวัวเป็นควายทุกชาติไป เพื่อตอบแทนคุณชาย…”

กล่าวสำหรับพวกของหวูโหย่วเจิ้นแล้ว บุญคุณใหญ่หลวงเช่นนี้นับว่าไม่สามารถอาศัยถ้อยวาจาใดๆ มาเปรียบเปรยได้อีกแล้ว หลี่ชิเย่เพียงช่วยให้ระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่นของพวกเขาฟื้นคืนชีพขึ้นมา ยังได้ประทานของวิเศษ เคล็ดวิชาลับของระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่นกลับคืนมา

สมควรทราบว่า ของวิเศษชิ้นใดชิ้นหนึ่ง เคล็ดวิชาลับเล่มใดเล่มหนึ่งที่อยู่ในถุงจักรวาลใบนี้ล้วนแล้วแต่มีค่าควรเมืองทั้งสิ้น เกรงว่าไม่ว่าใครก็ตามเห็นแล้วก็ต้องใจเต้นตูมตาม

ถ้าหากมีใครสักคนได้ของวิเศษ เคล็ดวิชาลับเช่นนี้มาถุงหนึ่งล่ะก็ ล้วนแล้วแต่ต้องยึดเอามาเป็นของตน อีกทั้งหากหลี่ชิเย่จะยึดเอาของวิเศษและเคล็ดวิชาลับเหล่านี้เป็นของตน รับรองได้ว่าจะไม่มีคนที่สองที่รู้เรื่องนี้เด็ดขาด

แต่ว่า หลี่ชิเย่ไม่ได้หยิบเอาไปเลยแม้แต่ชิ้นเดียว โดยได้ประทานของวิเศษ เคล็ดวิชาลับทั้งหมดคืนให้กับพวกเขาโดยตรง บุญคุณใหญ่หลวงเช่นนี้ไหนเลยสามารถอาศัยถ้อยวาจาใดๆ มาเปรียบเปรยได้อยู่แล้ว

หวูโหย่วเจิ้นและหลินยี่เสวี่ยได้โขกศีรษะต่อหลี่ชิเย่ครั้งแล้วครั้งเล่า คุกเข่าสามครั้งคำนับเก้าครั้ง ล้วนแล้วแต่ไม่สามารถแสดงออกถึงการสำนึกบุญคุณต่อหลี่ชิเย่ได้

“หมั่นฝึกปรือให้ดีก็แล้วกัน สามารถทำให้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิๆ หนึ่งเจริญรุ่งเรื่องขึ้นมาได้ นั่นก็คือเป็นการตอบแทนข้าอย่างหนึ่ง” หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีเรียบเฉย

“พวกเราจะไม่ทำให้คุณชายต้องผิดหวังอย่างเด็ดขาด” หวูโหย่วเจิ้นกำหมัดให้คำมั่นสัญญาเอาไว้

“ไปเถอะ ข้าอยากอยู่เงียบๆ” หลี่ชิเย่โบกมือเบาๆ สั่งการกับพวกเขาที่เป็นอาจารย์และศิษย์สองคน

หวูโหย่วเจิ้นและหลินยี่เสวี่ยที่เป็นอาจารย์และศิษย์สองคนกราบคารวะอีกครั้ง สุดท้าย จึงได้ล่าถอยไปด้วยความเคารพ

หลังจากที่หวูโหย่วเจิ้นและหลินยี่เสวี่ยที่เป็นอาจารย์และศิษย์สองคนล่าถอยออกไปแล้ว หลี่ชิเย่ก็จัดการปิดตำหนักทองแดงเอาไว้ทั้งหมด จากนั้นได้นำเอาหินสีดำก้อนนั้นออกมา

หินสีดำก้อนนี้ก็คือหินสีดำขนาดใหญ่ก้อนนั้นที่หลี่ชิเย่ได้มาหลังจากสังหารปลาหมึกสายชั่วร้ายนั้นไปแล้ว เวลานี้สายตาของหลี่ชิเย่เพ่งไปข้างหน้าเสมือนดั่งไฟเย็นที่จ้องเขม็งไปที่หินสีดำก้อนนั้น

“ข้าอยากจะได้ข่าวคราวที่มีประโยชน์ อยากจะรู้นักว่าเจ้าก้าวข้ามมาได้อย่างไรกัน ถึงกับมาถึงแดนสามเซียนได้” หลี่ชิเย่มองดูหินสีดำที่อยู่ในมือกล่าวขึ้นมาช้าๆ

เมื่อหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว ดวงตาทั้งสองดูน่าเกรงขาม แม้จะกล่าวว่าปลาหมึกสายชั่วร้ายนั่นยังไม่ได้แข็งแกร่งจนถึงขั้นที่สามารถกวาดล้างทำลายทุกอย่าง แต่ สมควรทราบว่ามันเป็นเพียงแค่ปลายแถวเท่านั้น มันเป็นเพียงส่วนที่เล็กมากๆ ส่วนหนึ่งเท่านั้น เป็นเพียงชิ้นส่วนเล็กๆ ชิ้นหนึ่งของสิ่งที่ใหญ่โตมโหฬารเท่านั้น กล่าวสำหรับสิ่งที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารนั่นแล้ว นี่เป็นเพียงหนวดเส้นหนึ่งเท่านั้นเอง

ลองนึกภาพดู แค่หนวดเส้นเล็กๆ เส้นหนึ่งก็น่ากลัวได้ถึงเพียงนี้แล้ว หากเป็นร่างของตัวที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารจะน่าสยองขวัญขนาดไหนเล่า?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล