ตอนที่ 2662 ตั๊กแตนจับจักจั่น นกขมิ้นอยู่ด้านหลัง
พวกของซุนหลิ่งหยิ่งสองคนได้วิ่งหลบหนีไปทางทิศทางที่ตั้งตระกูลมู่ มาคราวนี้พวกเขาทั้งสองคนเรียกได้ว่าขโมยไก่ไม่สำเร็จ กลับเสียข้าวสารไปอีกกำมือ
มาคราวนี้ เพื่อต้องการลักพาตัวหลิ่วชูฉิงให้ได้แล้ว เรียกได้ว่าได้ทุ่มสุดตัวเลยทีเดียว
ภายในใจของพวกซุนหลิ่งหยิ่งทั้งสองคนต่างรับรู้เป็นอย่างดีว่า เมื่อใดที่ลักพาตัวหลิ่วชูฉิงแล้ว เท่ากับว่าพวกเขาไปแตะต่อมโกรธของหลี่ชิเย่เข้า สิ่งนี้จะต้องทำให้หลี่ชิเย่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟอย่างแน่นอน
ระหว่างพวกเขากับหลี่ชิเย่ก็ต้องหักหน้ากันอย่างเปิดเผย เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ระหว่างพวกเขากับหลี่ชิเย่คือไม่ใช่เจ้าตายก็คือข้าม้วย
สมควรทราบว่า ก่อนหน้านี้พวกเขาหลบซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดตลอด แม้ว่าพวกเขาคอยวางแผนให้ร้ายอยู่เบื้องหลังตลอดมา แต่ว่า พวกเขาไม่ได้ขัดแย้งซึ่งหน้ากับหลี่ชิเย่ และไม่ได้มีความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ใดๆ
กล่าวได้ว่า ไม่ว่าพวกเขาจะคอยวางแผนให้ร้ายอยู่เบื้องหลังอย่างไรก็ตาม อย่างน้อยที่สุดระหว่างพวกเขาก็ยังไม่มีบุญคุณความแค้นแต่อย่างใด กระทั่งอาจกล่าวได้ว่ายังมีบุญคุณต่อหลี่ชิเย่อีกด้วย
แต่ว่า เมื่อใดที่ลักพาตัวหลิ่วชูฉิงไป นั่นย่อมเป็นการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์นี้ไปอย่างแน่นอน และพวกเขาจะต้องก้าวออกมาจากความมืดมาที่ที่เปิดเผย และระหว่างพวกเขากับหลี่ชิเย่ก็จะยืนอยู่ในตำแหน่งที่เป็นศัตรูต่อกัน ทั้งสองฝ่ายหากไม่ใช้เจ้าตายก็คือข้าม้วย
การปฏิบัติการในครั้งนี้ กล่าวได้ว่าเป็นการทุ่มสุดตัวของพวกซุ่นหลิ่งหยิ่ง แต่ พวกเขาก็ไม่มีทางเลือก พวกเขาคิดจะทำการนี้ให้สำเร็จจะต้องทำเรื่องนี้ให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งจะต้องหักหน้ากันอย่างเปิดเผยกับหลี่ชิเย่อย่างแน่นอน มิฉะนั้นล่ะก็ พวกเขาไม่สามารถหลอกล่อให้หลี่ชิเย่เข้าไปยังม่านฟ้าแหดินของตระกูลมู่ได้อยู่แล้ว
ดังนั้น พวกซุนหลิ่งหยิ่งจึงยอมเสี่ยงเพราะเข้าตาจน หลังจากที่มีการเตรียมการมายังดีแล้วจึงลงมือโดยพลัน ลักพาตัวหลิ่วชูฉิงท่ามกลางการคุ้มกันอย่างแน่นหนาของพวกปิ้งจวิน
ขั้นตอนการลักพาตัวหลิ่วชูฉิงนั้นเป็นเพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้นเอง แต่ว่า ภายในชั่วพริบตาเดียวสั้นๆ นี้กลับต้องสิ้นเปลืองกำลังกายใจของพวกเขาจำนวนมหาศาล พวกเขาได้ตระเตรียมการต่างๆ มากมาย เพื่อให้การทำการสำเร็จในชั่วพริบตาเดียวนี้
ยามที่พวกเขาลักพาตัวหลิ่วชูฉิงหลบหนีได้เป็นผลสำเร็จนั้น พวกเขาไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะเป็นตั๊กแตนจับจั๊กจั่น นกขมิ้นอยู่ด้านหลัง ขั้นตอนระหว่างหลบหนีของพวกเขาพลันถูกคนลอบโจมตี อีกทั้งผู้ที่ลอบโจมตีนั้นแข็งแกร่งยิ่งนัก ฉับพลันก็โจมตีพวกเขาทั้งสองจนตั้งตัวไม่ทัน และได้ชิงตัวหลิ่วชูฉิงไปจากมือของพวกเขา เมื่อพวกเขาได้สติกลับคืนมา ฝ่ายตรงข้ามก็ได้พาหลิ่วชูฉิงหนีไปเสียแล้ว
สมควรทราบว่า ซุ่นหลิ่งหยิ่งพวกเขาทั้งสองมีความแข็งแกร่งเช่นใด พวกเขาทั้งสองมีกำลังความสามารถที่แข็งแกร่งเพียงใด ถ้าหากพวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งอย่างเพียงพอล่ะก็ ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะลักพาตัวหลิ่วชูฉิงไปได้ท่ามกลางการอารักขาอย่างแน่นหนาของพวกปิ้งจวิน
แต่ว่า ผู้ที่ลอบโจมตีพวกเขาสองคนแข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกเขาเสียอีก ลอบโจมตีพวกเขาในฉับพลันและชิงตัวหลิ่วชูฉิงไปทันที พวกเขาต่างไม่สามารถจินตนาการได้ว่า มียอดฝีมือที่น่าสยองขวัญเช่นนี้โผล่ขึ้นมาในแดนลัทธิราชันตั้งแต่เมื่อใดกัน และพวกเขาก็นึกไม่ออกจริงๆ ว่า นอกเหนือจากนักพรตไป๋ยื่อแล้วยังจะมีใครที่แข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้
แต่ว่า พวกเขารู้ว่าคนผู้นี้ต้องไม่ใช่นักพรตไป๋ยื่ออย่างเด็ดขาด เนื่องจากนักพรตไป๋ยื่อพวกเขากำลังวางม่านฟ้าแหดินอยู่ที่ตระกูลมู่ รอให้หลี่ชิเย่เข้าไปติดกับดักเอง
ดังนั้น ในเวลานี้ภายในใจของซุนหลิ่งหยิ่งทั่งสองคนพลันเต้นกระตุกทีหนึ่ง ซุนหลิ่งหยิ่งอดที่จะมองดูคนที่อยู่ข้างกายทีหนึ่ง ท่าทางลังเลและกล่าวว่า “คนผู้นี้คือใคร?”
ผู้ที่มีน้ำเสียงที่ทุ้มลุ่มลึกนิ่งเงียบไปนิดหนึ่ง ไม่ได้ตอบปัญหาข้อนี้ของซุนหลิ่งหยิ่ง
ความจริงแล้ว ในเวลานี้ภายในใจของพวกเขาล้วนแล้วแต่นึกถึงคนๆ หนึ่ง เพียงแต่ พวกเขาต่างไม่ต้องการพูดคำตอบนี้ออกมา
“ไป คนโหดอันดับหนึ่งต้องตามมาแน่นอน เขายังไม่รู้ว่าในมือของพวกเราไม่มีตัวประกันอยู่” ผู้ที่มีน้ำเสียงที่ทุ้มลุ่มลึกกล่าวเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา และอาศัยความเร็วที่ยอดเยี่ยมมากมุ่งหน้าไปยังตระกูลมู่อย่างรวดเร็ว
ซุนหลิ่งหยิ่งยังจะพูดอะไรได้? ได้แต่ติดตามไป จะสำเร็จหรือล้มเหลวของพวกเขาขึ้นอยู่กับตรงนี้ พวกเขาได้แต่หวังว่าหลี่ชิเย่ยังคงไล่ติดตามมา มิฉะนั้นล่ะก็ คิดจะล่อให้หลี่ชิเย่มาติดกับดักด้วยตนเองอีกครั้งเกรงว่าคงไม่ง่ายนักอีกแล้ว
ตูม ตูม ตูมในเวลานี้เอง บนท้องฟ้าของแดนลัทธิราชันปรากฏเสียงดังตูมตามดังขึ้นมาเป็นระลอก
ในขณะนี้เอง มองเห็นท้องฟ้าด้านบนที่กว้างขวางใหญ่โตของแดนลัทธิราชันนั้น ปรากฎเมฆสีดำที่ไม่มีสิ้นสุดรวมตัวกันขึ้น ภายในระยะเวลาอันสั้น มองเห็นเพียงเมฆสีดำที่ปกคลุมไปทั่วทั้งแดนลัทธิราชัน ฟ้าแลบที่น่ากลัวได้วิ่งไปมาอยู่ท่ามกลางเมฆสีดำ เสมือนดั่งเป็นมังกรสายฟ้ายักษ์แต่ละตัวที่ต้องการฉีกท้องฟ้าของแดนลัทธิราชันให้ขาดอย่างนั้น
ตูม ตูม ตูมเสียงฟ้าผ่าดังก้องไปทั่วแดนลัทธิราชัน เหมือนต้องการระเบิดจนหายวับไปกับตาในพริบตาเดียวอย่างนั้น
ในเวลานี้ ทั่วทั้งแดนลัทธิราชันถูกปกคลุมไปด้วยเมฆดำ สายฟ้าขนาดใหญ่ได้อาละวาดบนท้องฟ้าอย่างบ้าคลั่ง เหนือศีรษะของทุกคนปรากฏสายฟ้าขนาดยักษ์แต่ละสายที่วิ่งโฉบผ่านไป และเคลื่อนที่ไปมาอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่สายฟ้าแต่ละสายที่เคลื่อนที่ไปมาอย่างบ้าคลั่งลักษณะเช่นนี้เหมือนพร้อมที่จะฟาดลงมา และต้องการฟาดระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิๆ หนึ่งให้แหลกละเอียดอย่างนั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ขณะที่สายฟ้าดังกล่าวเคลื่อนที่อย่างบ้าคลั่งนั้น เสียงฟ้าร้องที่น่าตกใจเหมือนระเบิดขึ้นที่ข้างหูของทุกคน เสียงฟ้าร้องที่น่ากลัวทำเอาแดนลัทธิราชันทั้งหมดสั่นไหวโคลงเคลงขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...