ตอนที่ 2661 แตะต้องต่อมโกรธ
หลี่ชิเย่ก้าวข้ามโดยพลัน ในเสี้ยวนาทีนั่นเองก็ได้ก้าวข้ามท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวไปหลายผืน ความรวดเร็วนั้นไม่อาจจินตนาการได้อีกแล้ว ภายใต้เท้าของเขา แม้แต่กาลเวลาก็ดูจะเชื่องช้าเสมือนดั่งการเคลื่อนไหวของหอยทากอย่างนั้น
แว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น ท่ามกลางกาลเวลาในเสี้ยววินาที ช่องว่างกระเพื่อมเสมือนดั่งน้ำที่กระเพื่อมเป็นวงกว้างออกไป หลี่ชิเย่ที่ก้าวไปก้าวเดียวก็ก้าวข้ามท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวไปจำนวนนับไม่ถ้วน ได้หยุดลงโดยพลัน
ชั่วพริบตาเดียวที่เขาหยุดการก้าวเดิน สภาพที่อยู่ตรงหน้าได้เปลี่ยนไป ในพริบตาเดียวนั้นเองหลี่ชิเย่ก็ได้มายืนอยู่ท่ามกลางพระราชวังของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่แล้ว
กล่าวสำหรับหลี่ชิเย่ในขณะนี้แล้ว การก้าวข้ามจากเมืองหมิงลั่วเฉิงของระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่นถึงยังพราะราชวังของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ก็แค่ก้าวเดียวเท่านั้น ระยะทางของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวหนึ่งล้านล้านล้านผืนนั้น คนอื่นอาจจะต้องอาศัยระยะเวลาที่ยาวนานในการก้าวข้าม ขณะที่หลี่ชิเย่ก้าวเท้าออกไปก้าวเดียวก็เพียงพอแล้ว
แน่นอนที่สุด หากไม่ใช่เกิดเรื่องที่ใหญ่โตมากๆ ล่ะก็ หลี่ชิเย่ก็จะไม่ใช้สุดยอดอภินิหารเช่นนี้ และจะไม่นำเอาความเร็วสูงสุดเช่นนี้มาใช้โดยง่ายดาย
ในเวลานี้ ภายในพระราชวังเต็มไปด้วยสิ่งของที่กระจัดกระจาย ร่องรอยการต่อสู้ชัดเจนอย่างยิ่ง มีหอและวิหารโบราณหลายหลังพังถล่มลงมาระหว่างการต่อสู้
เวลานี้บรรดาห้องหอและวิหารโบราณที่พังถล่มลงมายังปรากฎฝุ่นผงที่ปลิวกระจาย ย่อมเป็นการชัดเจนว่า การต่อสู่เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อครู่นี้เอง
เสียงแว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น ในพริบตาเดียวนั่นเอง ปรากฏคนหลายคนอยู่ตรงหน้าของหลี่ชิเย่
“คุณชาย…” หลายคนร้องเสียงหลงขึ้นมา ตื่นตระหนกตกใจระคนกับดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเห็นหลี่ชิเย่ คล้ายพบผู้ที่จะมาช่วยชีวิตอย่างนั้น
พวกหลายคนนี้ก็คือพวกของปิ้งจวิน นอกเหนือจากนี้แล้วยังมีชายตัดฟืนแห่งเขาหนานซานจากเขาจิ่วเหลียนซาน
“ชูฉิงล่ะ…” หลี่ชิเย่กวาดตามอง สายตาเพ่งไปข้างหน้าและเผยปณิธานการฆ่าออกมา พลันที่ปณิธานฆ่าเช่นนี้ปรากฎ ฟ้าดินหนาวเย็น เหล่าเทพต้องสั่นเทา แม้แต่พวกปิ้งจวินยังต้องหวาดหวั่นพรั่นพรึงขึ้นมา
“บ่าวไร้ความสามารถ ไม่สามารถสกัดศัตรูกล้าแข็งเอาไว้ได้ ถูกศัตรูจับตัวไปแล้ว” พวกของปิ้งจวินทั้งห้าคนรู้สึกละอาย ต่างทยอยกันก้มหน้าลง
“เรื่องนี้จะโทษพวกเขาก็ไม่ถูก ศัตรูทั้งสองคนนี้เตรียมการมาอย่างดี พวกเขาแฝงตัวอยู่ภายในพระราชวังและลงมือกะทันหัน ลักพาตัวฮองเฮาไป” ชายตัดฟืนแห่งเขาหนานซานยิ้มเจื่อนๆ และกล่าวว่า “ข้าเองก็มาสายไปก้าวหนึ่ง ไม่สามารถรั้งตัวพวกเขาสองคนเอาไว้”
แท้จริงแล้ว เมื่อครู่เพียงชั่วพริบตาเดียวนั้น ทั้งสองได้ปรากฏตัวขึ้นกะทันหันและต้องการจับตัวหลิ่วชูฉิงไป การลงมือกะทันหันของทั้งสองคนนี้ เล่นงานจนพวกของเทพไฉไลหงส์พิษจนตั้งตัวไม่ทัน
อีกทั้งการร่วมมือของคนทั้งสอง กำลังความสามารถเทียบกับพวกของเทพไฉไลหงส์พิษทั้งสี่คนแล้วมีแต่แกร่งกว่าไม่ได้ด้อยกว่า จังหวะที่ถูกศัตรูทั้งสองโจมตีจนไม่ทันตั้งตัว พวกเขาไม่สามารถขวางศัตรูทั้งสองนี้ได้อีกแล้ว
ขณะที่ปิ้งจวินลงมือนั้น ศัตรูทั้งสองก็ได้ลักพาตัวหลิ่วชูฉิงเอาไว้แล้ว ที่แย่ยิ่งกว่านั้นก็คือ ศัตรูทั้งสองดูจะชำนาญเกี่ยวกับพระราชวังเหลือเกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสถานการณ์การป้องกันของพระราชวังนั้นดูจะมีความมั่นใจอย่างยิ่ง ตรงกันข้าม พวกของเทพไฉไลหงส์พิษพวกเขากลับไม่คุ้นเคยเท่า
ขณะที่ปิ้งจวินนำพาพวกของเทพไฉไลหงส์พิษตามฆ่าศัตรูทั้งสองนั้น พวกเขาได้วิ่งหนีไปยังนอกพระราชวังแล้ว
ในเวลานี้ ชายตัดฟืนแห่งเขาหนานซานในเขาจิ่วเหลียนซานได้รับสัญญาณเตือนภัย จึงรีบรุดมาโดยอาศัยความเร็วที่ปราศจากผู้เทียบเทียม แต่ว่า ยังคงช้าไปก้าวเดียวไม่สามารถสกัดศัตรูทั้งสองคนเอาไว้ได้ ถูกศัตรูทั้งสองลักพาตัวหลิ่วชูฉิงแล้วหลบหนีไป
ขณะที่พวกเขาคิดจะไล่ติดตามไป หลี่ชิเย่ก็ได้รุดมาถึงแล้ว
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น ศัตรูทั้งสองนับตั้งแต่กระโดดปรากฎตัวขึ้นและลักพาตัวหลิ่วชูฉิงหนีไป ตลอดขั้นตอนดังกล่าวเป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ แค่ดีดนิ้วทีหนึ่งเท่านั้น จากขั้นตอนที่สั้นมาก ความไวของศัตรูนั้นเรียกได้ว่าทำให้ผู้คนต้องส่งเสียงจิ๊ดจ๊ะขึ้นมา เรียกได้ว่าพวกเขาบุกสังหารพวกของปิ้งจวินจนตั้งตัวไม่ทันโดยแท้
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น จะไม่สามารถทำสำเร็จได้ง่ายดายเช่นนี้ แต่ว่า สองคนนี้รับรองได้ว่าจะต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับระบบป้องกันภายในพระราชวังเป็นอย่างดี และมีความมั่นใจในสถานการณ์โดยรวม ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นจังหวะที่ลงมือ หรือช่วงที่หลบหนี ล้วนแล้วแต่หลบเลี่ยงไปจากระบบป้องการ และด่านสกัดของพระราชวังได้ทั้งหมด
เหมือนว่าพวกเขารู้อย่างละเอียดว่า ภายในพระราชวังตรงไหนที่ด่านสกัด ตรงไหนมีค่ายกลโดยไม่พลาดเลยแม้แต่น้อย
“เจ้าชั่วทั้งสองจะต้องเป็นซุนหลิ่งหยิ่งกับฮ่องเต้ไท่ชิงสองคนนั้นแน่นอน กระบี่เล่มนั้นของซุนหลิ่งหยิ่งต่อให้กลายเป็นผงข้าก็จำได้!” วัวคลั่งกล่าวโวยวายด้วยความแค้นเคือง เวลานี้เขาใช้มือปิดแผลบนแขนที่เลือดไหลหยดเป็นทาง
ศัตรูลงมือกะทันหัน วัวคลั่งที่เอาตัวเข้าขวางจึงถูกกระบี่แทงที่แขน แต่ยังคงไม่สามารถขวางศัตรูเอาไว้ได้
“อย่าได้พูดอะไรเพ้อเจ้อ” ปิ้งจวินระวังคำพูดมากกว่าใครๆ เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ศัตรูได้ปิดบังหน้าตาของตนเอง ปิดบังทุกอย่าง ไม่กล้ายืนยันว่าจะต้องเป็นพวกเขาอย่างแน่นอน เพียงแต่มีความเป็นไปได้เช่นนี้ และ ฮ่องเต้ไท่ชิงก็ได้สวรรคตแล้ว”
“ฮึหากไม่ใช่พวกเขาแล้วยังจะมีใครได้อีก ต่อให้พวกเขาปิดบังอย่างไรข้าก็ดูออกได้ว่า นี่จะต้องเป็นเคล็ดวิชาที่ปราศจากผู้ต่อกรของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่อย่างแน่นอน!” วัวคลั่งกล่าวด้วยความแค้น
“คุ้นเคยต่อระบบป้องกันของพระราชวังหนือกว่าพวกรามากมายขนาดนี้ นอกจากพวกเขาแล้วเกรงว่าคงไม่มีผู้ใดอีกแล้วกระมัง” เทพไฉไลหงส์พิษก็สงสัยอย่างนี้เข่นเดียวกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...