ตอนที่ 2665 ละเอียดด้วยหนึ่งฝ่ามือ
อ๊ากกกเสียงร้องแหลมเศร้ารันทดที่น่าเวทนาดังก้องทั่วฟ้าดิน เลือดสดๆ แตกกระจาย ภายใต้มือขนาดใหญ่ของหลี่ชิเย่ที่บดขยี้ลงไป ยอดฝีมือของกองทัพหยินมี่ถูกบดขยี้จนแหลกละเอียด มียอดฝีมือจำนวนมากถูกบดขยี้จนกลายเป็นหมอกเลือดในพริบตา
นี่มันคือกองทัพหยินมี่ที่เคยสยบทั่วหล้านะเนี่ย เคยสร้างความตื่นตระหนกทั่วหล้าในศึกเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งธงศึกของกองทัพหยินมี่ปรากฏขึ้นที่ใด ทำให้ผู้คนขวัญหนีดีฝ่อเพียงได้ข่าว
แต่ว่า ในขณะนี้ กองทัพหยินมี่เมื่ออยู่ในมือของหลี่ชิเย่เรียกว่าสู้ไม่ได้เลย ภายใต้พลังของหลี่ชิเย่แล้วถูกบดขยี้สังหารโดยสิ้นเชิง ไม่สามารถต่อต้านพลังที่ไร้เทียมทานของหลี่ชิเย่ได้เลย
ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนบางส่วนที่ไม่ได้เห็นการต่อสู้ระหว่างคนโหดอันดับหนึ่งกับพวกของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนทั้งสี่คนมากับตา ถึงกับหวาดหวั่นพรั่นพรึงขึ้นมาขณะที่ได้เห็นภาพนี้ อดที่จะร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่งไม่ได้ ความแข็งแกร่งของคนโหดอันดับหนึ่งสมคำเล่าลือจริงๆ
“ฆ่า…” จังหวะที่เสียงร้องน่าเวทนาดังก้องฟ้าดินนั้น เห็นประกายเยือกเย็นแวบหนึ่ง ขณะที่ยังไม่ทันสิ้นเสียง กระบี่นี้ก็ได้มุ่งไปที่บริเวณคอของหลี่ชิเย่แล้ว
กระบี่นี้รวดเร็วจนสุดจะหาผู้เทียบเทียม แม้แต่เทพกระบี่สายฟ้าก่อนหน้านั้นที่ขึ้นชื่อด้านความเร็ว แต่ ความไวกระบี่ของเทพกระบี่สายฟ้าที่ว่ารวดเร็วมากแล้ว ยังห่างไกลเทียบไม่ได้กับหนึ่งกระบี่ตรงหน้า
หนึ่งกระบี่นี้ไม่เพียงแค่รวดเร็ว หนึ่งกระบี่ทะลุคอหอย มีความเหี้ยมโหดอย่างยิ่ง ความแข็งแกร่งของพลังกระบี่นั้น สามารถแทงทะลุสุริยันจันทราทางช้างเผือกในพริบตา ความแหลมคมนั้นไร้ต้าน ต่อให้สิ่งที่แข็งแกร่งมากกว่านี้ก็ต้องถูกแทงจนทะลุโดยพลันภายใต้หนึ่งกระบี่นี้ เสียชีวิตในทันที
ตึงเสียงหนึ่งดังขึ้น แต่แล้ว ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง เวลาเหมือนหยุดลง จังหวะที่หนึ่งกระบี่แทงเข้าที่คอหอยของหลี่ชิเย่ในพริบตาเดียวนั้น กาลเวลาเหมือนถูกปิดผนึกเอาไว้โดยพลันอย่างนั้น ไม่สามารถไหลเคลื่อนที่ต่อไปได้ทันที
นาทีนี้ ทุกคนต่างมองเห็นภาพนี้ ภาพที่หลี่ชิเย่อาศัยนิ้วทั้งสองคีบกระบี่ที่ลอบโจมตีเข้ามาอย่างกะทันหัน ปลายกระบี่ได้จ่ออยู่ที่คอหอยของหลี่ชิเย่ อีกเพียงนิดเดียวก็จะทะลุผ่านชั้นผิวหนังเข้าไปแล้ว
ผู้ที่ลงมือคือซุนหลิ่งหยิ่งนั่นเอง จะอย่างไรเสียกองทัพหยินมี่เป็นตัวเขาที่สร้างขึ้นมากับมือ เวลานี้มองเห็นกองทัพหยินมี่ทั้งกองทัพถูกหลี่ชิเย่เข่นฆ่า เขาจะเต็มใจได้อย่างไรเล่า พลันลงมือหวังจะลอบโจมตีได้สำเร็จในกระบี่เดียว
เสียดาย แม้กระบี่ของซุนหลิ่งหยิ่งจะไวมากกว่านี้ แม้ว่าหนึ่งกระบี่ถึงตายจะโหดเหี้ยมมากกว่านี้ แต่ว่า ยังคงเร็วไม่เท่าหลี่ชิเย่ ยังคงเป็นไปไม่ได้ที่จะอาศัยหนึ่งกระบี่แทงทะลุคอหอยของหลี่ชิเย่ไปได้ ถูกหลี่ชิเย่คีบเอาไว้โดยพลัน
ปุเสียงหนึ่งดังขึ้น นาทีนี้เอง เหมือนว่าเวลาก็ได้ไหลเคลื่อนขึ้นมาอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงปุที่ดังขึ้น มองเห็นมือขนาดใหญ่ของหลี่ชิเย่ได้ตบลงไปอย่างสิ้นเชิง จัดการสังหารกองทัพหยินมี่จนสิ้นโดยพลัน โดบกองทัพหยินมี่ทั้งหมดถูกบดขยี้จนกลายเป็นหมอกเลือดไปทันที
ขณะที่หมอกเลือดปลิวกระจายออกไปนั้น กองทัพที่ได้ชื่อว่าปราศจากผู้เทียบเทียมได้หายวับไปกับตาในพริบตา กองทัพทั้งกองทัพที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรกลับไม่สามารถรับมือกับคนโหดอันดับหนึ่งได้แม้เพียงครึ่งกระบวนท่า เพียงมือขนาดใหญ่ข้างหนึ่งของเขาที่คว่ำลงก็เข่นฆ่าหมดทั้งกองทัพ กำลังของทั้งสองฝ่ายนับว่าห่างชั้นกันมากเหลือเกิน
ตึงเสียงหนึ่งดังขึ้น พริบตาเดียวกับจังหวะที่หลี่ชิเย่บดขยี้ทำลายกองทัพหยินมี่จนสิ้นทั้งกองทัพนั้น นิ้วของเขาบิดทีหนึ่ง พลันบิดกระบี่ยาวของซุนหลิ่งหยิ่งจนหัก และในเสี้ยววินาทีนี้เอง ซุนหลิ่งหยิ่งถอยหลังอย่างรวดเร็ว เขาได้อาศัยความเร็วที่ยอดเยี่ยมยากจะมีผู้เทียบเทียมดีดตัวถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว หวังจะถอยห่างออกไปเป็นหมื่นลี้
แต่ว่า ทุกอย่างล้วนแล้วแต่สายเกินไปเสียแล้ว ภายใต้ควาเร็วที่เด็ดขาดของหลี่ชิเย่ การล่าถอยอย่างรวดเร็วใดๆ การหลบหนีใดๆ ก็เสียงแรงเปล่า ล้วนแล้วแต่เชื่องช้าอะไรอย่างนั้น ล้วนแล้วแต่ไร้ค่าไม่คู่ควรจะกล่าวถึง
ได้ยินเสียงฉึกดังขึ้นเสียงหนึ่ง มองเห็นเลือดที่สาดกระเซ็น หลี่ชิเย่แค่พลิกมือกลับไปตามอารมณ์เท่านั้น กระบี่หักที่คีบอยู่กับนิ้วมือพลันปักเข้าไปยังอกของซุนหลิ่งหยิ่งทันที แม้ว่าซุนหลิ่งหยิ่งจะได้อาศัยความเร็วสูงสุดในการถอยห่างและหลบเลี่ยงแล้ว แต่ยังคงไม่สามารถหลบกระบี่หักไปได้พ้น ท่ามกลางเสียงฉึกที่ดังขึ้น หนึ่งกระบี่ได้ปักทะลุเข้าไปในอกของเขา
ท่ามกลางเสียงตึงเสียงหนึ่งที่ดังขึ้น กระบี่หักไม่เพียงแค่ทะลุอกของเขาเท่านั้น ทั้งยังจัดการตรึงสังหารเขาอยู่บนพื้น เลือดสดๆ ไหลหยดเป็นทาง
“หลิ่งหยิ่ง…” สีหน้าของฮ่องเต้ไท่ชิงเปลี่ยนไปมากทีเดียว ร้องเสียงหลงขึ้นมา เมื่อเห็นซุนหลิ่งหยิ่งถูกตรึงสังหารอยู่บนพื้น
“หนีไป…” ซุนหลิ่งหยิ่งที่มีเหลือดไหลหยดเป็นทาง เมื่อกระบี่หักได้ตรึงสังหารเขาอยู่กับพื้น แม้ว่ายังไม่ถึงกับคร่าเอาชีวิตของเขาไป แต่ว่า เขารู้ตัวดีว่ายากจะพ้นจากเคราะห์กรรมไปได้
ซุนหลิ่งหยิ่งที่มองเห็นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม จึงร้องเสียงดังขึ้นมาให้ฮ่องเต้ไท่ชิงหนีไป
ไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ตาม ผู้ที่ซุนหลิ่งหยิ่งนึกถึงเป็นคนแรกก็คือฮ่องเต้ไท่ชิง การคุ้มครองฮ่องเต้ไท่ชิงคือหน้าที่ของเขา และก็เป็นภารกิจของเขา ชั่วชีวิตของเขาก็เพื่อคุ้มครองฮ่องเต้ไท่ชิง ขอเพียงเขายังมีชีวิตอยู่ เขาก็จะต้องคุ้มครองฮ่องเต้ไท่ชิงจนถึงที่สุด แม้จะเหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้าย เขาก็จะปฏิบัติตามภารกิจของตน
มาคราวนี้ ฮ่องเต้ไท่ชิงไม่ได้หนีไป ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ร้องกล่าวเสียงทุ้มต่ำขึ้นมาด้วยเสียงอันดังว่า “เจ้าหนีไปก่อน…” สิ้นเสียง มืออยู่ในท่ามุทรา
“แม้ว่าเจ้าจะคิดไปเองว่าวางแผนให้ร้ายทั่วหล้า มองผู้คนทั่วหล้าเป็นดั่งเบี้ยบนกระดาน แต่ว่า ในสายตาของข้าแล้ว เจ้าก็แค่มดปลวกตัวหนึ่งเท่านั้น” หลี่ชิเย่จ้องมองฮ่องเต้ไท่ชิงแวบหนึ่ง และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ไม่ควรมาหาเรื่องกับข้า สุดแต่เจ้าจะก่อคลื่นยักษ์ที่โหดสาดซัดสะเทือนเลื่อนลั่นเช่นใด ข้าขี้คร้านจะไปสนใจเจ้า เสียดาย เจ้าไม่รู้จักสถานการณ์ รนหาที่ตายเอง”
“ถ้าเช่นนั้นก็สู้กันสักครั้ง!” ฮ่องเต้ไท่ชิงคำรามเสียงดัง รู้ว่าพูดมากความไปก็ไร้ประโยชน์ แม้ว่าเขารู้ตัวดีว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่ เขายังคงยืนขวางอยู่ข้างหน้า เพื่อยื้อเวลาเล็กน้อยให้กับซุนหลิ่งหยิ่ง
ตูม…เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ในพริบตาเดียวนั่นเอง ฮ่องเต้ไท่ชิงได้พวยพุ่งกลิ่นอายกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ไพศาลไม่มีสิ้นสุดออกมาทั่วร่าง
นาทีนี้ฮ่องเต้ไท่ชิงได้พวยพุ่งกลิ่นอายกษัตริย์ออกมาทั้งตัว กลิ่นอายกษัตริย์ดั่งคลื่นยักษ์ที่โหมสาดซัด พลันท่วมฟ้าดินจนจมมิด ท่ามกลางเสียงแว้งค์เสียงหนึ่ง มองเห็นกลิ่นอายกษัตริย์กลายเป็นเปลวไฟร้อนแรงที่ดั่งคลื่นยักษ์ เหมือนดั่งเป็นเปลวไฟที่หลอมกลั่นโลก เผาไหม้ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...