ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2666

ตอนที่ 2666 สุนัขไม่มีเจ้าของ

หนึ่งฝ่ามือที่ฟาดออกไป ก็จัดการฟาดจนฮ่องเต้ไท่ชิงร่างแหลกเหลว ร่างทั้งร่างเสมือนดั่งเป็นเนื้อบดที่กองอยู่บนพื้น ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย

ภาพเช่นนี้สยองขวัญปราศจากผู้เทียบเทียม ทำให้ทุกคนรู้สึกหายใจไม่ออกในทันที ทุกคนต่างรู้สึกว่าตนเองถูกซัดเข้าให้อย่างแรง ดุจดั่งหน้าอกถูกซัดจนแตกละเอียดไปอย่างนั้น ทำให้ไม่สามารถหายใจลึกได้เป็นเวลานาน

ฮ่องเต้ไท่ชิงคือผู้ที่ดำรงอยู่ในสถานะเช่นใด ในโลกนี้จะมีสักกี่คนกล้าบอกว่าตนเองนั้นเหนือกว่าฮ่องเต้ไท่ชิง? แม้แต่ลู่เคอะเวิงขณะมีชีวิตอยู่ก็ไม่กล้าบอกว่าตนเองนั้นเอาชนะฮ่องเต้ไท่ชิงได้!

ทั่วโลกนี้ สิ่งที่ผู้คนรับรู้ก็คือ ผู้ที่เหนือกว่าฮ่องเต้ไท่ชิงคงมีกู่อี้เฟยแห่งตระกูลหลี่แล้ว

ผู้ที่แข็งแกร่งดั่งฮ่องเต้ไท่ชิง มาวันนี้กลับถูกหนึ่งฝ่ามือของหลี่ชิเย่ฟาดจนแหลกละเอียด โดยตัวของเขาถูกหลี่ชิเย่ฟาดจนกลายเป็นเนื้อบด ช่างเป็นภาพที่สร้างความสะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนเหลือเกิน ทุกคนถูกทำให้ตระหนกตกใจภายใต้หนึ่งฝ่ามือลักษณะเช่นนี้

“ฝ่าบาท…” ซุนหลิ่งหยิ่งรู้สึกหวาดผวายิ่งเมื่อมองเห็นภาพนี้ ในขณะนี้เขาได้ดิ้นรนจนหลุดออกจากการถูกกระบี่หักตรึงเอาไว้กับพื้นได้แล้ว จึงรีบวิ่งเข้าไปหา

เสียงปุ…เสียงหนึ่งดังขึ้น นาทีนี้มองเห็นแสงที่แวบวับ ฮ่องเต้ไท่ชิงที่ถูกตบจนกลายเป็นเนื้อบดได้ทำการสร้างกายเนื้อขึ้นมาใหม่และมีชีวิตได้อีกครั้ง ในพริบตาเดียวนั้นเอง สีหน้าของเขาขาวซีด แม้ว่าเขาจะสร้างกายเนื้อขึ้นมาใหม่ แต่ว่า เขาได้รับบาดเจ็บที่สาหัสมาก สูญเสียพลังลมปราณอย่างยับเยิน

“หนี…” ซุนหลิ่งหยิ่งคุ้มครองฮ่องเต้ไท่ชิงหลบหนี พวกเขาหนีไปยังทิศทางอันเป็นที่ตั้งของตระกูลมู่

มาคราวนี้ ฮ่องเต้ไท่ชิงไม่ทำแข็งกร้าวอีกต่อไปแล้ว หันหลังแล้ววิ่งหนีไปยังทิศทางอันเป็นที่ตั้งของตระกูลมู่ ก่อนหน้านั้น ไม่ว่าจะเป็นซุนหลิ่งหยิ่ง หรือว่าฮ่องเต้ไท่ชิง ภายในใจของพวกเขาได้เตรียมพร้อมที่จะเดินทางไปสู่ความตายมาแล้ว

กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว หากต้องการความสำเร็จก็ต้องทุ่มเทมากขึ้นแบกรับความเสี่ยงมากขึ้น เพื่อแผนการใหญ่ พวกเขายินดีเสี่ยงอันตราย ถึงกับยอมแลกกับอันตราย กระทั่งกล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว ขอเพียงให้แผนการใหญ่พวกเขาสำเร็จ พวกเขากระทั่งยอมพ่วงเอาชีวิตของตนเข้าไปด้วย

แต่ว่า นาทีนี้ภายในใจของพวกเขากลับบังเกิดความหวาดกลัวขึ้นมา แม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาได้มีความคิดพร้อมจะไปตายอย่างไม่สะทกสะท้านก็ตาม ในเวลานี้ภายในใจยังคงสั่นเทาทีหนึ่ง และบังเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาทันที

เนื่องจากหลี่ชิเย่นั้นน่าสยองขวัญเหลือเกิน ความน่ากลัวของหลี่ชิเย่ได้เกินเลยกว่าจินตนาการของพวกเขาไปมากทีเดียว โดยเฉพาะฮ่องเต้ไท่ชิง เขารู้ว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่ รู้ว่าตนเองนั้นห่างชั้นไม่อาจต้านทานกับหลี่ชิเย่ได้ แต่ทว่า ไม่นึกไม่ฝันเลยว่า ภายใต้กระบวนท่าสังหารเด็ดขาด ยังคงถูกหนึ่งฝ่ามือของหลี่ชิเย่ตบจนกลายเป็นเนื้อบด

จากสิ่งนี้ก็มองออกได้ว่า หลี่ชิเย่นั้นโกรธขึ้นมาจริงๆ แล้ว พวกฮ่องเต้ไท่ชิงได้แตะต้องต่อมโกรธของหลี่ชิเย่เข้าให้แล้ว พลันที่เขาลงมือก็ทำลายฟ้าดินจนพินาศย่อยยับ หนึ่งฝ่ามือที่ตบจนฮ่องเต้ไท่ชิงกลายเป็นเนื้อบดนั้น หลี่ชิเย่ยังไม่ได้ใช้พลังอย่างเต็มที่ มิฉะนั้นล่ะก็ เขาจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้

กล่าวสำหรับพวกฮ่องเต้ไท่ชิงแล้ว การก้าวสู่ความตายด้วยความฮึกเหิมไม่มีอะไรน่ากลัว พวกเขาเป็นผู้ที่มีชีวิตอยู่มาสามยุคสมัยแล้ว เคยเย้ยหยันใต้หล้ามาแล้ว ต่อให้ต้องตายก็ไม่มีอะไรน่ากลัว พวกเขาจะตายไปอย่างสะเทือนเลื่อนลั่น มีชื่อเสียงไปชั่วนิรันดร์

แต่ว่า ขณะที่หลี่ชิเย่ลงมือนั้น พวกเขาก็เข้าใจแล้วว่ามันไม่มีคำว่าการก้าวสู่ความตายด้วยความฮึกเหิมอะไร ไม่มีคำว่าตายไปอย่างสะเทือนเลื่อนลั่นอะไรอยู่แล้ว

หนึ่งฝ่ามือตามอารมณ์ของหลี่ชิเย่ก็สามารถตบพวกเขาจนตาย ย่อมเป็นการบ่งบอกว่า พวกเขาที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่นั้น เสมือนหนึ่งเป็นมดปลวกตัวหนึ่งอย่างนั้น แค่หลี่ชิเย่ยกเท้าขึ้นมาก็เหยียบพวกเขาจนตายได้

กล่าวสำหรับพวกของฮ่องเต้ไท่ชิงที่มีความมุ่งมาดปรารถนากว้างไกลแล้ว การที่ถูกเหยียบตายเสมือนดั่งมดปลวกตัวหนึ่ง กระทั่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะตายอย่างเงียบๆ โดยไม่มีคำว่าสะเทือนเลื่อนลั่นอะไรอยู่แล้ว นี่แหละเป็นสิ่งที่พวกเขาหวาดกลัวมากที่สุด

พวกเขาผาดโผนมาชั่วชีวิตปราศจากผู้ต่อกร อยู่มาวันหนึ่งจะต้องตายไปเสมือนดั่งมดปลวกตัวหนึ่งอย่างกะทันหัน เป็นอะไรที่ไร้ค่าคู่ควรจะกล่าวถึง กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว มันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดอย่างยิ่ง เป็นเรื่องที่สิ้นหวังมากที่สุด

ดังนั้น ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ภายในใจของฮ่องเต้ไท่ชิงจึงได้บังเกิดความหวาดกลัวขึ้นมา เขาไม่ได้หวาดกลัวต่อความตาย ที่เขาหวาดกลัวคือตนเองจะต้องตายไปดุจดั่งมดปลวกตัวหนึ่ง มันเป็นอะไรที่น่าสิ้นหวัง เป็นอะไรที่ไร้เรี่ยวแรง และซีดเซียวอะไรอย่างนั้น!

หลี่ชิเย่ที่มองดูซุนหลิ่งหยิ่งคุ้มครองฮ่องเต้ไท่ชิงวิ่งหลบหนีไปยังทิศทางที่ตั้งตระกูลมู่โดยไม่ได้รีบร้อนที่จะสังหารพวกเขา เอามือไพล่หลังก้าวเดินตามหลังพวกเขาไปช้าๆ

“พวกเจ้าสามารถวิ่งหนีไปอย่างเต็มที่ ฟ้าดินกว้างไกลแค่ไหนพวกเจ้าก็หนีไปได้ ใต้หล้านี้ใครกล้าคุ้มครองพวกเจ้า ข้าก็จะสังหารพวกเขาจนสิ้นทุกคน” หลี่ชิเย่ตามฆ่าอยู่ด้านหลัง เสมือนดั่งเดินเล่นในสวนหลังบ้านของตนเอง ไม่ได้รีบร้อนสักนิด สบายอกสบายใจสงบนิ่ง

ทุกคนต่างเงียบสงัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมองเห็นฮ่องเต้ไท่ชิงและซุนหลิ่งหยิ่งพวกเขาสองคนวิ่งหนีดุจดั่งสุนัขไม่มีเจ้าของอย่างนั้น ทุกคนล้วนแล้วแต่สั่นเทิ้มทีหนึ่ง กระทั่งมีความรู้สึกของในหมู่พวกเดียวกันย่อมเห็นใจซึ่งกันและกัน

ตลอดชีวิตของฮ่องเต้ไท่ชิงมีความโด่งดังเพียงใด มีชื่อเสียงที่โด่งดังเช่นใด พวกเขานายบ่าวร่วมมือกัน ในโลกนี้มีกี่คนที่สามารถต่อกรได้ กล่าวได้ว่า ชั่วชีวิตของฮ่องเต้ไท่ชิงเคยทำให้ศัตรูต้องขวัญหนีดีฝ่อเพียงแค่ได้ข่าวของเขา และทำให้ผู้คนทั่วหล้าต้องหวั่นเกรงเขาอยู่สามส่วน

มาวันนี้ผู้ที่แข็งแกร่งเช่นพวกของฮ่องเต้ไท่ชิงยังคงถูกหลี่ชิเย่ตามฆ่าจนต้องวิ่งหนีเหมือนสุนัขไร้เจ้าของ การที่ต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ มันช่างเศร้ารันทดอะไรอย่างนั้น ช่างเศร้าสลดอะไรอย่างนั้น

มองเห็นฮ่องเต้ไท่ชิงกับซุนหลิ่งหยิ่งสองคนวิ่งหนีกระเซอะกระเซิง ทุกคนต่างรู้สึกเย็นยะเยือกในใจ แม้ว่าจะเป็นผู้ซึ่งเคยเป็นศัตรูกับฮ่องเต้ไท่ชิงมาก่อน ในเวลานี้ก็ไม่ได้รู้สึกดีใจที่เห็นผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน ไม่ได้แอบกระหยิ่มในใจ ภายในใจต่างมีความรู้สึกถึงเศร้ารันทดอย่างหนึ่ง มีความรู้สึกเห็นใจซึ่งกันและกันในพวกเดียวกัน

ลองนึกภาพดู ผู้ที่ปราศจากผู้ต่อกรเช่นฮ่องเต้ไท่ชิงที่เป็นนายและบ่าว ยังคงต้องวิ่งหนีเสมือนดั่งสุนัขไม่มีเจ้าของภายใต้น้ำมือของหลี่ชิเย่ หากเปลี่ยนเป็นพวกเขาล่ะ? พวกเขาจะมีจุดจบเช่นใดกันเล่า เกรงว่าจุดจบของพวกเขาจะยิ่งกว่าฮ่องเต้ไท่ชิงเสียอีก

ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่าไม่มีใครที่แอบรู้สึกดีใจเงียบๆ ต่อให้เป็นศัตรูของพวกเขา ก็ต้องรู้ศึกเศร้ารันทดในใจ เมื่อมองเห็นฮ่องเต้ไท่ชิงนายบ่าวสองคนถูกคนโหดอันดับหนึ่งตามฆ่าจนเสมือนหนึ่งเป็นสุนัขไม่มีเจ้าของ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล