ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2691

ตอนที่ 2691 นายผู้มีคุณธรรมขุนนางผู้ภักดี

ในเวลานี้ ทุกคนต่างจ้องมองไปที่ฮ่องเต้ไท่ชิงกับซุนหลิ่งหยิ่ง ต่างรอคอยคำตอบของพวกเขา

ผู้คนทั่วหล้าต่างมองว่า จุดจบของฮ่องเต้ไท่ชิงกับซุนหลิ่งหยิ่งพวกเขาสองคนได้ถูกลิขิตเอาไว้แล้ว แม้แต่ผู้ที่ดำรงอยู่ในสถานะดั่งเช่นนักพรตไป๋ยื่อยังไม่อาจหนีความตายไปได้ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงพวกเขา

กล่าวสำหรับฮ่องเต้ไท่ชิงกับซุนหลิ่งหยิ่งพวกเขาทั้งสองแล้ว พวกเขาก็แค่จะตายด้วยวิธีเช่นใดเท่านั้นเอง ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาจะต้องตาย

“ฝ่าบาทที่เคารพ พวกเราสามารถเจรจาเงื่อนไขได้นะ” ขณะที่ฮ่องเต้ไท่ชิงกำลังนิ่งเงียบนั้น ซุนหลิ่งหยิ่งได้ก้าวเดินออกมาและเอ่ยขึ้นช้าๆ

“เจรจาเงื่อนไข?” หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่งจ้องมองดูซุนหลิ่งหยิ่ง และกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าในมือของพวกเจ้ายังมีแต้มต่ออะไรที่จะเจรจาเงื่อนไขกับข้ารึ?”

ซุนหลิ่งหยิ่งสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง โค้งคำนับด้วยท่าทางที่ดูให้ความเคารพยิ่ง กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ทูลฝ่าบาท พวกเรารู้ว่าพระนางอยู่ที่ใด พวกเรารู้ว่าพระนางตกไปอยู่ในมือของใคร ขณะเดียวกันพวกเราต้องแถลงชัดก็คือ พวกเราไม่ได้มุ่งร้ายต่อพระนางแม้แต่น้อย พวกเราเพียงต้องการพาตัวพระนางไปเพื่อลวงให้ฝ่าบาทก้าวเข้าไปในหลุมพรางเท่านั้นเอง พวกเราไม่เคยคิดทำร้ายพระนางเลย”

“มันมีข้อแตกต่างรึ?” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉย ไม่มีท่าทีร้อนรนแม้แต่น้อย

ซุนหลิ่งหยิ่งสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง โค้งคำนับ และกล่าวว่า “กระหม่อมทราบดีว่า การลักพาตัวพระนางไปนั้นได้กระทบกับต่อมโกรธของฝ่าบาท โทษสมควรตายหมื่นครั้ง กระหม่อมเองก็ไม่ผลักภาระนี้ไปจากตัว กระหม่อมยินดีกราบทูลข่าวดังกล่าวนี้แก่ฝ่าบาท และกระหม่อมยินดีทำคุณไถ่โทษ กระหม่อมมีเงื่อนไขเพียงข้อเดียวเท่านั้น”

ทุกคนล้วนแล้วแต่มองไปที่ซุนหลิ่งหยิ่งเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ ในเวลานี้ทุกคนต่างอยากรู้อยากเห็นว่าซุนหลิ่งหยิ่งจะยื่นเงื่อนไขอะไร กระทั่งมีผู้ที่คาดเดาอยู่ภายในใจว่า ในเวลานี้มีความเป็นไปได้ที่ซุนหลิ่งหยิ่งจะทรยศฮ่องเต้ไท่ชิง

จะอย่างไรเสีย กล่าวสำหรับผู้คนจำนวนมากแล้ว ในห้วงระหว่างความเป็นความตายไม่ว่าใครก็อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป ไม่ว่าใครก็ต้องการคว้าฟางเส้นสุดท้ายเอาไว้ และไม่ยอมตายไปเช่นนี้

ในมุมมองของผู้คนจำนวนมากมองว่า ต่อให้ซุนหลิ่งหยิ่งทรยศฮ่องเต้ไท่ชิงในเวลานี้ก็หาใช่เป็นเรื่องแปลก ถือเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์

“อ๋อ” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉย และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ถ้าหากจะให้ข้าละเว้นให้เจ้ามีสภาพศพที่สมบูรณ์อะไรนั่นล่ะก็ ข้าสามารถตอบสนองให้เจ้าพึงพอใจตามต้องการได้”

“ฝ่าบาทที่เคารพ กระหม่องทูลขอให้ละเว้นฮ่องเต้องค์ก่อน” ซุนหลิ่งหยิ่งโค้งคำนับอย่างงาม ท่าทางให้ความเคารพอย่างยิ่ง กล่าวว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างโทษอยู่ที่กระหม่อม เป็นกระหม่อมที่เสนอให้ลักพาตัวพระนางเป็นคนแรก เพื่อหลอกล่อให้ฝ่าบาทไปติดกับ ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่เป็นความคิดของที่เจ้ากี้เจ้าการของกระหม่อมเอง ดังนั้น กระหม่อมยินดีรับความผิดทุกประการ ขอเพียงฝ่าบาทละเว้นสักครั้ง”

คำพูดเช่นนี้ของซุนหลิ่งหยิ่งพลันทำให้ทุกคนต่างชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง นับว่าได้ทำให้ผู้คนจำนวนมากรู้สึกเหนือความคาดคิด และทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องนับถือ

“ซุนหลิ่งหยิ่ง ขุนนางผู้ภักดีแห่งยุค มิน่าเล่าฮ่องเต้ไท่ชิงถึงได้ให้ความสำคัญเขาขนาดนี้ แม้ว่าจะเป็นขุนนางมาสามยุค ยังคงมีจิตใจที่ซื่อสัตย์และภักดีต่อฮ่องเต้ไท่ชิง ยังคงภักดีต่อฮ่องเต้ไท่ชิงไม่เสื่อมคลาย และไม่โทษฮ่องเต้ไท่ชิงที่มองว่าเขาดั่งแขนซ้ายแขนขวา” มีเทพแท้จริงขั้นอมตะถึงกับทอดถอนใจขึ้นมาในเวลานี้

มีฮ่องเต้ที่กุมอำนาจการปกครองระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิๆ หนึ่งถึงกับอิจฉากับสิ่งนี้ เมื่อมองเห็นซุนหลิ่งหยิ่งมีจิตใจที่ซื่อสัตย์ภักดีเช่นนี้ กล่าวทอดถอนใจขึ้นมาว่า “ชีวิตคนเรา หากได้ขุนนางซื่อสัตย์สักคนก็เพียงพอแล้ว!”

ใต้หล้านี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง ผู้คนจำนวนเท่าไรต้องรู้สึกเลื่อมใส และมีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องอิจฉากับสิ่งนี้

ผู้คนทั่วหล้าต่างก็รู้ว่า ซุนหลิ่งหยิ่งติดตามฮ่องเต้ไท่ชิงมาแล้วสามยุค เขามีจิตใจที่ซื่อสัตย์และภักดีต่อฮ่องเต้ไท่ชิงเสมอตลอดสามยุคสมัยที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าได้สร้างผลงานให้กับฮ่องเต้ไท่ชิงเอาไว้เท่าไร

แน่นอน ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฮ่องเต้ไท่ชิงก็ไม่เคยผิดต่อเขา ขณะที่ฮ่องเต้ไท่ชิงปกครองระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่นั้น ซุนหลิ่งหยิ่งมีอำนาจยิ่งใหญ่ในมือ ฮ่องเต้ไท่ชิงให้ความสำคัญในตัวของเขาอย่างยิ่ง

ขณะที่อยู่ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่นั้น บ่อยครั้งที่ซุนหลิ่งหยิ่งคือตัวแทนของฮ่องเต้ไท่ชิง เป็นตัวแทนอำนาจของฮ่องเต้ไท่ชิง และฮ่องเต้ไท่ชิงไม่เคยจะต้องกังวลว่าซุนหลิ่งหยิ่งจะล้ำเส้นใดๆ ทั้งสิ้น

กล่าวได้ว่า ในสามยุคสมัยที่ผ่านมา พวกเขานายกับบ่าวสองคน บ่าวซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อนาย นายปฏิบัติต่อบ่าวดั่งแขนขา

คู่นายกับบ่าวลักษณะเช่นนี้ กล่าวได้ว่าเป็นเรื่องเล่าขานกันในแดนลัทธิราชัน ไม่รู้ว่าได้ทำให้ผู้คนจำนวนเท่าไรต้องอิจฉา และมีผู้ปกครองจำนวนเท่าไร ที่ภายในใจของผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะกุมอำนาจยิ่งใหญ่ในมือพวกเขาต่างกระหายอยากว่า ตนเองสามารถมีขุนนางที่ซื่อสัตย์ภักดีเช่นนี้ในครอบครอง

แม้จะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างความเป็นความตาย คนที่ซุนหลิ่งหยิ่งนึกถึงเป็นคนแรกก็ไม่ใช่ตัวเอง แต่เป็นฮ่องเต้ไท่ชิง ขอเพียงมีผู้หนึ่งที่มีโอกาสรอดชีวิตได้ เขาก็จะมอบโอกาสนี้ให้กับฮ่องเต้ไท่ชิง แต่ไม่ใช่ตนเอง

ขุนนางที่ภักดีเช่นนี้ จะไม่ให้ผู้คนต้องเกิดความรู้สึกนับถือขึ้นมาได้อย่างไรเล่า? จะไม่ให้ผู้อื่นต้องให้ความเลื่อมใสศรัทธาได้อย่างไรเล่า

“หลิ่งหยิ่งน่ะ” จังหวะที่ซุนหลิ่งหยิ่งกำลังร้องขอต่อหลี่ชิเย่อยู่นั้น ฮ่องเต้ไท่ชิงส่ายหน้า และยิ้มกล่าวว่า “เจ้าติดตามข้ามาสามยุคสมัยแล้วยังไม่เข้าใจนิสัยของข้ารึ? ชั่วชีวิตของฮ่องเต้ไท่ชิงอย่างข้าหาใช่เป็นผู้ที่กระดิกหางร้องขอต่อคนอื่น”

“ฝ่าบาท…” ซุนหลิ่งหยิ่งถึงกับร้องเสียงดังขึ้นมา

ฮ่องเต้ไท่ชิงโบกมือเบาๆ ส่ายหน้าและเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ไม่ต้องพูดมากความอีกแล้ว จะอย่างไรก็ต้องตาย สามารถตายภายใต้สิบสามลัคนาก็นับว่าไม่ทำให้ชั่วชีวิตของข้าฮ่องเต้ไท่ชิงต้องเสียเกียรติ เพียงแต่เสียดายที่ข้ากลับไม่สามารถปกป้องเจ้า ชาตินี้กำลังของข้าต่ำต้อยเกินไป”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล