ตอนที่ 2698 มอบบัลลังก์
ปิงฉือหานยวี่พยักหน้าเงียบๆ ภายในใจเต็มไปด้วยความไม่อยากจากกัน
หลี่ชิเย่ได้หยิบสามกระบี่จูเซียนออกมาและพระราชทานแก่นาง กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ตระกูลปิงฉือพวกเจ้าชำนาญเรื่องอาวุธ ข้าเชื่อว่าค่ายกลกระบี่นี้เมื่ออยู่ในมือของเจ้าแล้วต้องมีผลงานที่โดดเด่นแน่นอน”
ปิงฉือหานยวี่รับสามกระบี่จูเซียนเอาไว้แล้วพูดเบาๆ ขึ้นว่า “ข้าจะไม่ให้ท่านต้องผิดหวัง” สุดท้าย หันหลังจากไป
แต่ทว่า ปิงฉือหานยวี่ไปได้ไม่ไกลอดไม่ได้ที่จะหันหลังกลับมา โผเข้าอ้อมอกของหลี่ชิเย่ทันที โน้มคอของเขาเอาไว้แน่น อดไม่ได้ที่จะมอบจูบของตนเองและดูดดื่มกับชายในดวงใจของตน
การจูบที่ดื่มด่ำร้อนแรงยิ่งเป็นไปอย่างเนิ่นนานไม่ยอมแยกจากกัน ปิงฉือหานวี่กอดตัวเขาเอาไว้แน่น นี่คือการอาลัยอาวรณ์ในความสุขวินาทีสุดท้าย จากกันวันนี้แล้วนางเองก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้พบกับเขาอีก
“ข้าจะรอท่านอยู่ รออยู่ตลอดไป แม้ชั่วฟ้าดินสลายข้าก็จะอยู่ที่นี่ตลอดไป” สุดท้าย ปิงฉือหานยวี่ได้เอ่ยขึ้นเบาๆ
คำพูดหวานซึ้งเบาๆ ของนางช่างมั่นคงมีพลังอะไรอย่างนั้น เป็นคำสาบานที่จะไม่เสียใจภายหลัง
สุดท้าย ปิงฉือหานยวี่ปล่อยมือจากหลี่ชิเย่ หันหลังวิ่งออกไป ร่างเงาของนางหายไปท่ามกลางระเบียงยาวนั้น
หลี่ชิเย่ถึงกับนิ่งเงียบเป็นเวลานาน มองดูร่างเงาของปิงฉือหานยวี่ที่หายไป สุดท้าย เขาได้ทอดถอนใจขึ้นเบาๆ รู้สึกหดหู่ภายในใจ
พันล้านปีที่ผ่านมาเขาได้ประสบพบกับการจากลาที่ยากจะได้พบกันอีกมากี่มากน้อย แต่ว่า หัวใจของเขายังคงไม่ได้ตายด้าน หัวใจของเขายังคงไม่ได้ด้านชา เขายังคงไม่ใช่เป็นคนใจแข็ง หัวใจของเขายังคงเต้นด้วยความเร่าร้อน
ก่อนหลี่ชิเย่จะไปจากได้จัดให้มีพิธีสละราชสมบัติขึ้น ทุกๆ สำนักที่อยู่ในระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิจิ่วมี่ต่างส่งระดับบรรพบุรุษ และยอดฝีมือเข้าร่วม แม้แต่ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิทั้งหมดในแดนลัทธิราชันก็ได้ส่งระดับบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดเข้าร่วมด้วยมาตรฐานสูงสุด เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่และจริงจังอย่างยิ่ง
ด้านล่างบัลลังก์ฮ่องเต้ปรากฏผู้คนที่เข้าร่วมนับหมื่น มีทั้งระดับเจ้าสำนัก ระดับบรรพบุรุษ ยิ่งกว่านั้นยังมีระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะที่อยู่ระดับสูงสุด
ภายในงานนับว่าอลังการปราศจากผู้เทียบเทียม ยิ่งใหญ่สุดเทียบเทียม กล่าวได้ว่าในแดนลัทธิราชันไม่มีผู้ใดสามารถมีอิทธิพลมากมายเช่นนี้ได้อีกแล้ว
ใต้หล้าในยุคปัจจุบัน ขอเพียงคำพูดคำเดียวของหลี่ชิเย่ก็สามารถทำให้หมื่นอาณาจักรมาเฝ้า และไม่ว่าจะเป็นระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใดๆ ก็ตาม ล้วนแล้วแต่ส่งระดับบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุด และหรือระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะที่มีฐานะสูงสุดของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิมาเข้าร่วมด้วยตนเอง
กล่าวสำหรับผู้คนใต้หล้าแล้ว การเข้าเฝ้าคนโหดอันดับหนึ่งคือเกียรติสูงสุดอย่างหนึ่งไปแล้ว
ขณะที่หลี่ชิเย่ก้าวเดินออกมาอย่างช้าๆ นั้น พลันกลายเป็นจุดสนใจของงานไปทันที สายตาของทุกคนล้วนแล้วแต่รวมศูนย์อยู่บนตัวของเขา
ข้างกายของเขามีหลิ่วชูฉิงเดินเคียง มีราชันแท้จริงจิ่วหนิงติดตาม
นาทีนี้ แม้แต่ราชันแท้จริงสิบสองลัคนาอย่างราชันแท้จริงจิ่วหนิงยังดูจะสลดและอับแสง ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในสถานะใดก็ตาม ภายใต้รัศมีของคนโหดอันดับหนึ่งแล้วก็ดูจะสลดและอับแสง
หลี่ชิเย่ประทับนั่งอยู่บนบัลลังก์ฮ่องเต้ เรียงเฉยสบายๆ ไม่ได้มีอำนาจที่สะเทือนเลื่อนลั่น และไม่ได้มีท่าทีที่ปราศจากผู้ต่อกร เรียบเฉยดั่งน้ำ กระทั่งเสมือนหนึ่งเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่ง
แต่ทว่า นาทีนี้ ไม่ว่าจะเป็นเทพแท้จริงขั้นอมตะที่แข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม ไม่สนใจว่าจะเป็นระดับบรรพบุรุษที่มีฐานะสูงส่งเช่นใด ล้วนแล้วแต่ต้องกลั้นลมหายใจเอาไว้ ต่างมีท่าทางที่เคารพนอบน้อมเมื่อเห็นคนโหดอันดับหนึ่ง
“ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นหมื่นปี…” ในเวลานี้เสียงดังกึกก้อง ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดต่างคุกเข่าหมอบกราบอยู่บนพื้น ต่อให้ไม่ใช่ศิษย์ของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิจิ่วมี่ ยังคงเปล่งเสียงออกมาพร้อมเพรียงเช่นกัน
มาถึงวันนี้ แม้ว่าคนโหดอันดับหนึ่งไม่ได้ปกครองแดนลัทธิราชันทั้งหมด แม้ว่าเขาได้ได้ส่งกองทัพออกปราบทั่วหล้า แต่ว่า เขาก็คือราชันไร้มงกุฎของแดนลัทธิราชัน และมีฐานะสูงสุด ดังนั้น เทพแท้จริงขั้นอมตะที่แข็งแกร่งมากกว่านี้ ระดับบรรพบุรุษที่ฐานะสูงส่งมากกว่านี้ ต่างสยบทั้งกายและใจคุกเข่าอยู่กับพื้นแสดงคารวะสูงสุด
กล่าวได้ว่า การที่สามารถหมอบกราบภายใต้บัลลังกาของคนโหดอันดับหนึ่งแล้วเปล่งเสียงทรงพระเจริญด้วยเสียงอันดัง ก็คือเกียรติอย่างหนึ่งแล้ว
ลักษณะเช่นนี้เสมือนดั่งเป็นระดับปฐมบรรพบุรุษที่มีฐานะสูงสุดอย่างนั้น ใช่ว่าใครก็มีสิทธิ์ไปเฝ้าปฐมบรรพบุรุษได้ ใช่ว่าใครก็สามารถไปคารวะปฐมบรรพบุรุษได้
มาถึงวันนี้ก็เป็นเช่นนั้น สามารถมาหมอบกราบอยู่ใต้บัลลังก์ฮ่องเต้ของคนโหดอันดับหนึ่งนั้น ก็คือผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งที่สุด คือระดับบรรพบุราที่มีฐานะเป็นที่เคารพและสูงส่งของแดนลัทธิราชันยุคปัจจุบันแล้ว
ระดับบรรพบุรุษ เทพแท้จริงขั้นอมตะต่างหมอบกราบคุกเข่าอยู่กับพื้นตรงนั้น เป็นภาพเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่อลังการมาก เป็นที่หวั่นไหวต่อจิตใจของผู้คนยิ่งนัก
หลี่ชิเย่กวาดสายตาผ่านไป ขณะที่สายตาของเขากวาดผ่านไปนั้น ภายในใจของทุกคนถึงกับสั่นเทา
แม้ว่าหลี่ชิเย่ยังไม่ได้ระเบิดอานุภาพที่ปราศจากผู้ต่อกรออกมา แต่ ขอเพียงสายตาของเขากวาดผ่านไปเบาๆ ก็ปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้าแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเทพแท้จริงขั้นอมตะ หรือระดับบรรพบุรุษตำแหน่งสูงสุด ล้วนแล้วแต่อดที่จะสั่นเทาไม่ได้ขณะที่สายตาดังกล่าวกวาดผ่านมา เสมือนดั่งเป็นมดปลวกตัวหนึ่งที่หมอบอยู่ใต้เท้าของผู้มีอำนาจสุงสุดอย่างนั้น
“ลุกขึ้น…” หลี่ชิเย่พยักหน้าเบาๆ เรียบเฉยอิสระ
“ขอบพระทัยฝ่าบาท” ทุกคนที่อยู่ภายใต้บัลลังก์ฮ่องเต้กราบอีกครั้ง สุดท้าย จึงได้ลุกขึ้นมาด้วยท่าทางตัวสั่นงันงก แม้ผู้คนใต้หล้าจะลุกขึ้นมาแล้วก็ต้องก้มหน้าลง อย่างดีที่สุดก็แอบมองหลี่ชิเย่แวบหนึ่ง ไม่มีใครกล้าไปจ้องมองหลี่ชิเย่ตรงๆ ยิ่งไม่กล้าสู้สายตาของหลี่ชิเย่
ในเวลานี้ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ ต่างรอคอยการประกาศของหลี่ชิเย่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...