ตอนที่ 2709 ฟ้าจะเปลี่ยนเมื่อคนโหดปรากฎ
เสียงตูม…ดังสนั่น ขณะที่ประกายศักดิ์สิทธิ์ระเบิกแตกออกนั้น อานุภาพของประกายศักดิ์สิทธิ์พลันชะล้างไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ใดก็ตาม แม้แต่บริเวณลึกที่สุดของแดนไถ่ถอนก็ได้รับการชะล้างจากประกายศักดิ์สิทธิ์ที่ระเบิดแตกออกเช่นกัน
ภายใต้การชะล้างจากประกายศักดิ์สิทธิ์จำนวนมหาศาลที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสอง ได้ยินเสียงจี๊ด…ดังขึ้น ปณิธานมารชั่วร้ายที่เกิดขึ้นมาพลันถูกทำลายทิ้ง ถูกเผาไหม้จนหมดจดทันที
ขณะประกายศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัวเช่นนี้ระเบิดแตกออกนั้น อย่าว่าแต่ราชันแท้จริงปราศจากผู้ต่อกรเลย แม้แต่ปฐมบรรพบุรุษตั้งแต่โบราณกาลเป็นต้นมาก็ต้องใจหายใจคว่ำ ด้วยพลังประกายศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัวปราศจากผู้เทียบเทียมเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นจอมมารที่แข็งแกร่งเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นผู้บงการความชั่วร้ายที่น่ากลัวเช่นใด ล้วนแล้วแต่ถูกชะล้างไปในพริบตาเดียว ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่หายวับไปกับตาในพริบตาภายใต้การพุ่งโจมตีของประกายศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัวเช่นนี้
แต่ทว่า ไม่ว่าจะเป็นราชันแท้จริง หรือปฐมบรรพบุรุษล้วนแล้วแต่ไม่ได้หลบเลี่ยง ต่างเผชิญกับประกายศักดิ์สิทธิ์ที่พุ่งชะล้างเข้ามาอย่างไม่สะทกสะท้าน
ดังนั้น ขณะที่ประกายศักดิ์สิทธิ์พุ่งเข้ามาชะล้าง อนุภาคแสงจำนวนนับไม่ถ้วนพลันลอดทะลุร่างกายขงพวกเขา ถ้าหากภายในร่างกายของพวกเขา และหรือข้างกายมีปณิธานมารชั่วร้ายแม้เพียงน้อยนิด ล้วนแล้วแต่ถูกทำลายทิ้งท่ามกลางเสียงจี๊ดเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นมา
ตูมเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เสมือนทั่วฟ้าดินตาบอดไปโดยพลัน ประชาชนทั้งหมดที่อาศัยอยู่ท่ามกลางฟ้าดินมองเห็นไม่ชัดเจนในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
ครั้นทุกคนสามารถมองเห็นรอบๆ ได้อย่างชัดเจนแล้วนั้น บนท้องฟ้าได้กลับคืนสู่ความสงบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นท้องฟ้าหรือภาคพื้นดินยังคงความเป็นลักษณะเช่นเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย เหมือนว่าไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
ในพริบตาเดียวนี้เอง ทุกคนมองไปบนท้องฟ้า มองไปยังที่ที่ประกายศักดิ์สิทธิ์ได้พวยพุ่งขึ้นมาเมื่อครู่นี้ มองดูสถานที่ที่แบกรับวิบากสวรรค์ แต่ว่า ที่ตรงนั้นมีแต่ความว่างเปล่าไม่มีสิ่งใดอยู่ตรงนั้นเลย
ทุกคนมองไปรอบๆ อีกครั้ง จ้องมองดูซึ่งกันและกัน เวลานี้ไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อน บนตัวของพวกเขาไม่มีทั้งเขี้ยวที่งอกออกมา และไม่มีขนตามตัว และไม่ได้ถูกทำให้กลายเป็นมารเป็นสัตว์ดุร้ายที่ชั่วร้าย
เหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อครู่เป็นเพียงฝันร้ายเท่านั้นเอง เรื่องราวเช่นนี้คล้ายดั่งไม่ได้มีการเกิดขึ้นจริงมาก่อน
แต่ทว่า ฝันร้ายไม่ได้เหมือนจริงขนาดนั้น และ เป็นไปไม่ได้ที่ผู้คนทั้งหมดใต้หล้า สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต่างฝันร้ายแบบเดียวกันทุกคนพร้อมๆ กัน
ในเวลานี้ ประชาชนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดล้วนแล้วแต่เหม่อลอย พวกเขาต่างไม่รู้ถึงรายละเอียดว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
มีเพียงเทพแท้จริงขั้นอมตะที่ปราศจากผู้เทียบเทียม ราชันแท้จริงปราศจากผู้ต่อกร ปฐมบรรพบุรุษตั้งแต่อดีตจึงพอจะรู้อะไรอยู่บ้าง
จังหวะที่ผู้คนทั่วหล้าต่างตะลึงงันอยู่นั้น มีปฐมบรรพบุรุษตั้งแต่อดีต ราชันแท้จริงปราศจากผู้ต่อกรพลันผงาดฟ้าขึ้นไป มุ่งหน้าไปบินโฉบไปยังสถานที่ที่หลี่ชิเย่ยืนอยู่เมื่อครู่
ต่อให้เป็นถึงปฐมบรรพบุรุษตั้งแต่อดีตที่พุ่งตรงไปยังที่ที่หลี่ชิเย่ยืนอยู่ ยังคงต้องระมัดระวังตัวเช่นกัน ทำการเสกของวิเศษที่ปราศจากผู้ต่อกรออกมาปกป้องกายชิ้นแล้วชิ้นเล่า สำแดงเคล็ดวิชาที่ปราศจากผู้ต่อกรแขนงแล้วแขนงเล่าออกมาคุ้มครอง
หลังจากที่ปฐมบรรพบุรุษยืนยันว่าไม่มีอันตรายแล้ว จึงค่อยบุกเข้าไปยังสถานที่ที่หลี่ชิเย่อยู่เมื่อครู่
แต่ว่า เมื่อปฐมบรรพบุรุษเข้าไปยังสถานที่แห่งนั้นแล้วไม่พบว่ามีใคร และปราศจากสิ่งใดๆ แต่อย่างใด ที่ตรงนี้มีแต่ความว่างเปล่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่มีร่องรอยใดๆ เหมือนว่าที่ตรงนี้ไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อนอย่างนั้น
“มาช้าไปก้าวเดียว” ปฐมบรรพบุรุษถึงกับผิดหวัง ความเร็วของเขานั้นนับว่ารวดเร็วมากพอแล้ว แต่ว่า ยังคงมาสายไม่ทันเห็นคนที่สามารถแบกรับวิบากสวรรค์ ทำลายความชั่วร้ายด้วยตาของตนเอง ว่าเป็นใครกันแน่
“คนผู้นี้เป็นใครกันเล่า…” ระดับปฐมบรรพบุรุษถึงกับผิดหวัง เมื่อไม่ได้พบเห็นผู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ว่าเป็นใคร
ปฐมบรรพบุรุษถึงกับทำการคำนวณ แต่ทว่า ไม่สามารถคำนวณผลใดๆ ขึ้นมาได้ เนื่องจากความลับสวรรค์ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ล้วนถูกปิดบังเอาไว้ ต่อให้ตัวเขาที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ก็ไม่สามารถทำลายการปิดบังเช่นนี้ลงได้เช่นกัน เพื่อแอบส่องความลึกซึ้งของความลับสวรรค์
“จะเกิดเรื่องใหญ่แล้ว” ปฐมบรรพบุรุษผู้นี้รู้สึกเสียใจอยู่บ้าง เมื่อไม่ได้รับทราบผลใดๆ ได้แต่หันหลังจากไป
หลังจากที่ปฐมบรรพบุรุษผู้นี้ไปจากแล้ว ก็มีร่างเงาอีกหลายสายปรากฏขึ้น พวกเขาล้วนแล้วแต่มาเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาล้วนแล้วแต่ต้องการรู้รายละเอียดว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเขาก็ต้องการรู้ว่าผู้ที่สามารถแบกรับสุดยอดวิบากสวรรค์สูงสุด และทำลายความชั่วร้ายได้นั้นเป็นใครกันแน่
แต่ว่า หลังจากที่คนหลายคนเหล่านี้มาถึงแล้ว ที่ตรงนี้ก็มีแต่ความว่างเปล่า ที่ตรงนี้ยังคงไม่มีสิ่งของใดไ ไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ เอาไว้ แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ก็มองไม่เห็นร่องรอยใดๆ เช่นกัน
“คนผู้นี้เป็นปฐมบรรพบุรุษคนใดกันแน่นะ?” สิ่งนี้ได้สร้างความไม่สบายใจแก่พวกเขานับไม่ถ้วน เมื่อไม่พบสิ่งใดๆ เลย เนื่องจากพวกเขารู้ดีว่าแดนลัทธิเซียนยุคปัจจุบันต่อให้ยังคงมีระดับปฐมบรรพบุรุษเหลืออยู่ก็มีอยู่น้อยมากๆ แล้ว เกรงว่าคงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
ในจำนวนปฐมบรรพบุรุษไม่กี่คนที่เหลืออยู่ ดูเหมือนจะไม่มีผู้ใดสามารถแข็งแกร่งได้ถึงขั้นนี้
“ถ้าหากเป็นระดับปฐมบรรพบุรุษคนใดคนหนึ่ง เกรงว่าคงเป็นหนึ่งในสิบปฐมบรรพบุรุษ” ราชันแท้จริงปราศจากผู้ต่อกรถึงกับพึมพำขึ้นมา
“ไหนเลยแค่หนึ่งในสิบปฐมบรรพบุรุษยิ่งใหญ่ ด้วยกำลังความสามารถเช่นนี้เกรงว่าจะเหนือกว่าน่ากลัวยิ่งกว่าเกาหยางเสียอีก ยกย่องให้เขาเป็นสามอันดับแรกของสิบปฐมบรรพบุรุษยิ่งใหญ่ หรือกระทั่งเป็นอันดับหนึ่งก็มีความเป็นไปได้” ผู้ปราศจากผู้ต่อกรอีกผู้หนึ่งถึงกับรู้สึกใจหายใจคว่ำ
ในบรรดาแดนไถ่ถอนบางส่วนของแดนลัทธิเซียน ณ สถานที่ที่อันตรายที่สุด ลึกเข้าไปมากที่สุด มีดวงตาที่จ้องมองดูเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างเย็นชามาโดยตลอด
ดวงตาลักษณะเช่นนี้เฉยเมยอย่างยิ่ง แต่ กลับสามารถมองเห็นฟ้าดินได้อย่างทะลุปรุโปร่ง สังเกตการณ์เป็นนิรันดร์ ดวงตาลักษณะเช่นนี้เพียงแค่เฝ้าดูตลอดขั้นตอนที่เกิดขึ้นเท่านั้นเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...