อ่านสรุป ตอนที่ 2709 ฟ้าจะเปลี่ยนเมื่อคนโหดปรากฎ จาก ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet
บทที่ ตอนที่ 2709 ฟ้าจะเปลี่ยนเมื่อคนโหดปรากฎ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายAction ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ตอนที่ 2709 ฟ้าจะเปลี่ยนเมื่อคนโหดปรากฎ
เสียงตูม…ดังสนั่น ขณะที่ประกายศักดิ์สิทธิ์ระเบิกแตกออกนั้น อานุภาพของประกายศักดิ์สิทธิ์พลันชะล้างไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ใดก็ตาม แม้แต่บริเวณลึกที่สุดของแดนไถ่ถอนก็ได้รับการชะล้างจากประกายศักดิ์สิทธิ์ที่ระเบิดแตกออกเช่นกัน
ภายใต้การชะล้างจากประกายศักดิ์สิทธิ์จำนวนมหาศาลที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสอง ได้ยินเสียงจี๊ด…ดังขึ้น ปณิธานมารชั่วร้ายที่เกิดขึ้นมาพลันถูกทำลายทิ้ง ถูกเผาไหม้จนหมดจดทันที
ขณะประกายศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัวเช่นนี้ระเบิดแตกออกนั้น อย่าว่าแต่ราชันแท้จริงปราศจากผู้ต่อกรเลย แม้แต่ปฐมบรรพบุรุษตั้งแต่โบราณกาลเป็นต้นมาก็ต้องใจหายใจคว่ำ ด้วยพลังประกายศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัวปราศจากผู้เทียบเทียมเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นจอมมารที่แข็งแกร่งเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นผู้บงการความชั่วร้ายที่น่ากลัวเช่นใด ล้วนแล้วแต่ถูกชะล้างไปในพริบตาเดียว ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่หายวับไปกับตาในพริบตาภายใต้การพุ่งโจมตีของประกายศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัวเช่นนี้
แต่ทว่า ไม่ว่าจะเป็นราชันแท้จริง หรือปฐมบรรพบุรุษล้วนแล้วแต่ไม่ได้หลบเลี่ยง ต่างเผชิญกับประกายศักดิ์สิทธิ์ที่พุ่งชะล้างเข้ามาอย่างไม่สะทกสะท้าน
ดังนั้น ขณะที่ประกายศักดิ์สิทธิ์พุ่งเข้ามาชะล้าง อนุภาคแสงจำนวนนับไม่ถ้วนพลันลอดทะลุร่างกายขงพวกเขา ถ้าหากภายในร่างกายของพวกเขา และหรือข้างกายมีปณิธานมารชั่วร้ายแม้เพียงน้อยนิด ล้วนแล้วแต่ถูกทำลายทิ้งท่ามกลางเสียงจี๊ดเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นมา
ตูมเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เสมือนทั่วฟ้าดินตาบอดไปโดยพลัน ประชาชนทั้งหมดที่อาศัยอยู่ท่ามกลางฟ้าดินมองเห็นไม่ชัดเจนในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
ครั้นทุกคนสามารถมองเห็นรอบๆ ได้อย่างชัดเจนแล้วนั้น บนท้องฟ้าได้กลับคืนสู่ความสงบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นท้องฟ้าหรือภาคพื้นดินยังคงความเป็นลักษณะเช่นเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย เหมือนว่าไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
ในพริบตาเดียวนี้เอง ทุกคนมองไปบนท้องฟ้า มองไปยังที่ที่ประกายศักดิ์สิทธิ์ได้พวยพุ่งขึ้นมาเมื่อครู่นี้ มองดูสถานที่ที่แบกรับวิบากสวรรค์ แต่ว่า ที่ตรงนั้นมีแต่ความว่างเปล่าไม่มีสิ่งใดอยู่ตรงนั้นเลย
ทุกคนมองไปรอบๆ อีกครั้ง จ้องมองดูซึ่งกันและกัน เวลานี้ไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อน บนตัวของพวกเขาไม่มีทั้งเขี้ยวที่งอกออกมา และไม่มีขนตามตัว และไม่ได้ถูกทำให้กลายเป็นมารเป็นสัตว์ดุร้ายที่ชั่วร้าย
เหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อครู่เป็นเพียงฝันร้ายเท่านั้นเอง เรื่องราวเช่นนี้คล้ายดั่งไม่ได้มีการเกิดขึ้นจริงมาก่อน
แต่ทว่า ฝันร้ายไม่ได้เหมือนจริงขนาดนั้น และ เป็นไปไม่ได้ที่ผู้คนทั้งหมดใต้หล้า สิ่งมีชีวิตทั้งหมดต่างฝันร้ายแบบเดียวกันทุกคนพร้อมๆ กัน
ในเวลานี้ ประชาชนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดล้วนแล้วแต่เหม่อลอย พวกเขาต่างไม่รู้ถึงรายละเอียดว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
มีเพียงเทพแท้จริงขั้นอมตะที่ปราศจากผู้เทียบเทียม ราชันแท้จริงปราศจากผู้ต่อกร ปฐมบรรพบุรุษตั้งแต่อดีตจึงพอจะรู้อะไรอยู่บ้าง
จังหวะที่ผู้คนทั่วหล้าต่างตะลึงงันอยู่นั้น มีปฐมบรรพบุรุษตั้งแต่อดีต ราชันแท้จริงปราศจากผู้ต่อกรพลันผงาดฟ้าขึ้นไป มุ่งหน้าไปบินโฉบไปยังสถานที่ที่หลี่ชิเย่ยืนอยู่เมื่อครู่
ต่อให้เป็นถึงปฐมบรรพบุรุษตั้งแต่อดีตที่พุ่งตรงไปยังที่ที่หลี่ชิเย่ยืนอยู่ ยังคงต้องระมัดระวังตัวเช่นกัน ทำการเสกของวิเศษที่ปราศจากผู้ต่อกรออกมาปกป้องกายชิ้นแล้วชิ้นเล่า สำแดงเคล็ดวิชาที่ปราศจากผู้ต่อกรแขนงแล้วแขนงเล่าออกมาคุ้มครอง
หลังจากที่ปฐมบรรพบุรุษยืนยันว่าไม่มีอันตรายแล้ว จึงค่อยบุกเข้าไปยังสถานที่ที่หลี่ชิเย่อยู่เมื่อครู่
แต่ว่า เมื่อปฐมบรรพบุรุษเข้าไปยังสถานที่แห่งนั้นแล้วไม่พบว่ามีใคร และปราศจากสิ่งใดๆ แต่อย่างใด ที่ตรงนี้มีแต่ความว่างเปล่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่มีร่องรอยใดๆ เหมือนว่าที่ตรงนี้ไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อนอย่างนั้น
“มาช้าไปก้าวเดียว” ปฐมบรรพบุรุษถึงกับผิดหวัง ความเร็วของเขานั้นนับว่ารวดเร็วมากพอแล้ว แต่ว่า ยังคงมาสายไม่ทันเห็นคนที่สามารถแบกรับวิบากสวรรค์ ทำลายความชั่วร้ายด้วยตาของตนเอง ว่าเป็นใครกันแน่
“คนผู้นี้เป็นใครกันเล่า…” ระดับปฐมบรรพบุรุษถึงกับผิดหวัง เมื่อไม่ได้พบเห็นผู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ว่าเป็นใคร
ปฐมบรรพบุรุษถึงกับทำการคำนวณ แต่ทว่า ไม่สามารถคำนวณผลใดๆ ขึ้นมาได้ เนื่องจากความลับสวรรค์ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ล้วนถูกปิดบังเอาไว้ ต่อให้ตัวเขาที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ก็ไม่สามารถทำลายการปิดบังเช่นนี้ลงได้เช่นกัน เพื่อแอบส่องความลึกซึ้งของความลับสวรรค์
“จะเกิดเรื่องใหญ่แล้ว” ปฐมบรรพบุรุษผู้นี้รู้สึกเสียใจอยู่บ้าง เมื่อไม่ได้รับทราบผลใดๆ ได้แต่หันหลังจากไป
หลังจากที่ปฐมบรรพบุรุษผู้นี้ไปจากแล้ว ก็มีร่างเงาอีกหลายสายปรากฏขึ้น พวกเขาล้วนแล้วแต่มาเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาล้วนแล้วแต่ต้องการรู้รายละเอียดว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเขาก็ต้องการรู้ว่าผู้ที่สามารถแบกรับสุดยอดวิบากสวรรค์สูงสุด และทำลายความชั่วร้ายได้นั้นเป็นใครกันแน่
แต่ว่า หลังจากที่คนหลายคนเหล่านี้มาถึงแล้ว ที่ตรงนี้ก็มีแต่ความว่างเปล่า ที่ตรงนี้ยังคงไม่มีสิ่งของใดไ ไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ เอาไว้ แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ก็มองไม่เห็นร่องรอยใดๆ เช่นกัน
“คนผู้นี้เป็นปฐมบรรพบุรุษคนใดกันแน่นะ?” สิ่งนี้ได้สร้างความไม่สบายใจแก่พวกเขานับไม่ถ้วน เมื่อไม่พบสิ่งใดๆ เลย เนื่องจากพวกเขารู้ดีว่าแดนลัทธิเซียนยุคปัจจุบันต่อให้ยังคงมีระดับปฐมบรรพบุรุษเหลืออยู่ก็มีอยู่น้อยมากๆ แล้ว เกรงว่าคงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
ในจำนวนปฐมบรรพบุรุษไม่กี่คนที่เหลืออยู่ ดูเหมือนจะไม่มีผู้ใดสามารถแข็งแกร่งได้ถึงขั้นนี้
“ถ้าหากเป็นระดับปฐมบรรพบุรุษคนใดคนหนึ่ง เกรงว่าคงเป็นหนึ่งในสิบปฐมบรรพบุรุษ” ราชันแท้จริงปราศจากผู้ต่อกรถึงกับพึมพำขึ้นมา
“ไหนเลยแค่หนึ่งในสิบปฐมบรรพบุรุษยิ่งใหญ่ ด้วยกำลังความสามารถเช่นนี้เกรงว่าจะเหนือกว่าน่ากลัวยิ่งกว่าเกาหยางเสียอีก ยกย่องให้เขาเป็นสามอันดับแรกของสิบปฐมบรรพบุรุษยิ่งใหญ่ หรือกระทั่งเป็นอันดับหนึ่งก็มีความเป็นไปได้” ผู้ปราศจากผู้ต่อกรอีกผู้หนึ่งถึงกับรู้สึกใจหายใจคว่ำ
ในบรรดาแดนไถ่ถอนบางส่วนของแดนลัทธิเซียน ณ สถานที่ที่อันตรายที่สุด ลึกเข้าไปมากที่สุด มีดวงตาที่จ้องมองดูเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างเย็นชามาโดยตลอด
ดวงตาลักษณะเช่นนี้เฉยเมยอย่างยิ่ง แต่ กลับสามารถมองเห็นฟ้าดินได้อย่างทะลุปรุโปร่ง สังเกตการณ์เป็นนิรันดร์ ดวงตาลักษณะเช่นนี้เพียงแค่เฝ้าดูตลอดขั้นตอนที่เกิดขึ้นเท่านั้นเอง
“หรือเป็นเพราะแดนลัทธิเซียนจะถูกทำให้กลายเป็นมารจนสิ้น ดังนั้นจึงมีคำว่าคนโหดปรากฏ” มียอดฝีมือจำนวนไม่น้อยเข้าใจเช่นนี้ เมื่อนึกถึงคลื่นความชั่วร้ายปกคลุมฟ้าดินตอนนั้น พวกเขาต่างร่างสั่นเทาทีหนึ่ง
“เป็นผู้ใดในหอทำนายฟ้าที่ถ่ายทอดคำพูดนี้ขึ้นมา” เทพแท้จริงขั้นอมตะที่แข็งแกร่งเมื่อได้สติกลับมาแล้ว ก็เที่ยวสืบหาไปทั่วว่าคำพูดดังกล่าวเป็นผู้ใดที่ถ่ายทอดลงมา
“เป็นปฐมบรรพบุรุษฉยงปี้…” ในที่สุดก็ได้รับคำตอบแล้ว ภายใต้การสืบเสาะของบรรดาเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาล และเทพแท้จริงปราศจากผู้ต่อกร
“ปฐมบรรพบุรุษฉยงปี้!” ผู้ที่ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของแดนลัทธิเซียนจำนวนมากต่างสะดุ้งในใจ หลังจากได้รับคำตอบที่แม่นยำแล้ว
“ปฐมบรรพบุรุษฉยงปี้ทำนายชะตาฟ้าด้วยตนเอง” ในเวลานี้ แม้แต่ปฐมบรรพบุรุษคนอื่นๆ ก็ต้องใจหายใจคว่ำเช่นกัน
ในห้วงพันล้านปีที่ผ่านมา ทุกคนล้วนแล้วแต่ทราบว่า วิชาทำนายของปฐมบรรพบุรุษฉยงปี้นั้นมีเพียงหนึ่งไม่มีสอง ไม่เคยมีใครสามารถก้าวล้ำหน้าไปได้ ทุกคนต่างรู้ว่าหนึ่งคำพูดของปฐมบรรพบุรุษฉยงปี้เท่าทองพันชั่ง นางไม่เพียงสามารถทำนายชะตาส่วนบุคคล ยิ่งกว่านั้นยังสามารถทำนายชะตาฟ้าได้
เวลานี้ปฐมบรรพบุรุษฉยงปี้ได้ถ่ายทอดคำพูดเช่นนี้ขึ้นมา ย่อมไม่ต้องสงสัยว่าจะต้องเกิดเรื่องใหญ่แล้ว
“ชะตาฟ้าในอนาคตเป็นเช่นใด? สถานการณ์ในอนาคตเป็นอย่างไร?” ในเวลานี้ มีปฐมบรรพบุรุษที่กังวลใจถึงอนาคต ดังนั้น ถึงกับเดินทางไปไปเยี่ยมคารวะปฐมบรรพบุรุษฉยงปี้ที่หอทำนายฟ้า
แต่ว่า เมฆหมอกหนาทึบไม่ทราบอยู่ที่ใด และตัวของปฐมบรรพบุรุษฉยงปี้ก็ไร้เงา ไม่ว่าจะเป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งเพียงใดก็ตามที่ไปเยี่ยมคารวะปฐมบรรพบุรุษฉยงปี้ แต่จนแล้วจนรอดปฐมบรรพบุรุษฉยงปี้ก็ไม่ดผยโฉมออกมา
นอกเหนือจาก ‘ฟ้ากำลังจะเปลี่ยน คนโหดปรากฎ’ คำพูดประโยคนี้แล้ว ก็ไม่มีใครได้ยินสัจวาจาจากปฐมบรรพบุรุษฉยงปี้แม้เพียงครึ่งคำอีก
“เห็นทีปฐมบรรพบุรุษฉยงปี้ไม่ต้องการทำนายอีกแล้ว” มีปฐมบรรพบุรุษทอดถอนใจคำหนึ่งและจากไป
ต่อให้เป็นผู้ที่แข็งแกร่งดั่งปฐมบรรพบุรุษฉยงปี้ ถ้าหากทำนายฟ้าก็เป็นเรื่องที่อันตรายมาก จะอย่างไรเสียนี่คือการกระทำการที่ฝืนลิขิตสวรรค์ จะนำพาภัยพิบัติมาสู่ตนได้
ในเวลานี้ ฟ้ากำลังจะเปลี่ยน คนโหดปรากฏ ประโยคดังกล่าได้แพร่กระจายไปทั่วแดนลัทธิเซียน ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจำนวนนับไม่ถ้วนในแดนลัทธิเซียนต่างระมัดระวังตัวขึ้นมา ล้วนแล้วแต่เกรงว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของตนจะมีมารร้ายอะไรโผล่ขึ้นมากระทันหัน
มีระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจำนวนไม่น้อยเริ่มนึกถึงสถานการณ์ที่แย่ที่สุด และวางทางหนีทีไล่เอาไว้ให้กับสำนักของตน
………………………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...