ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2710

สรุปบท ตอนที่ 2710 น่ากลัวสุดๆ: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอนที่ 2710 น่ากลัวสุดๆ – ตอนที่ต้องอ่านของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอนนี้ของ ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2710 น่ากลัวสุดๆ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 2710 น่ากลัวสุดๆ

ในขณะที่ประกายศักดิ์สิทธิ์ระเบิดแตกออกนั้น ตัวของหลี่ชิเย่ก็ได้ร่วงหล่นลงไปในแดนลัทธิเซียน ได้ยินเสียงปังที่ดั่งสนั่น ร่างของหลี่ชิเย่กระแทกเข้ากับพื้นดินอย่างแรง

จังหวะที่หลี่ชิเย่กระแทกเข้ากับพื้นดินอย่างแรงนั้น ได้พุ่งชนจนหินแตกละเอียด เลือดสดๆ แตกกระจาย

“ตาเฒ่า ทำไมเจ้ากับข้าจึงยังคงมีวาสนาต่อกันอีกเล่า” หลังจากพุ่งชนกับพื้นดินแล้วหลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะเจื่อนๆ จากนั้นเหมือนสลบเหมือดไป

ความจริงแล้ว หลี่ชิเย่หาได้สลบไปอย่างแท้จริง แต่เขาได้นำเอาจิตเทพที่มีอยู่ทั้งหมดทำการแยกออกจากร่างกาย จิตเทพทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกนำไปไว้ในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียร กล่าวได้ว่าเป็นการทุ่มสุดกำลังความสามารถแล้ว

ภายในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ ปรากฏประกายศักดิ์สิทธิ์สาดส่องสว่างไสว นี่คืออาณาจักรที่มีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง ณ ที่ตรงนี้ไม่มีที่ใดที่ไม่มีประกายศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นภูเขาแม่น้ำฟ้าดิน ทุกตารางนิ้วล้วนแล้วแต่กลับกลายมาจากประกายศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้น

ที่ตรงนี้คืออาณาจักรที่มีความศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ที่ตรงนี้ ความมืดดำใดๆ ก็ไม่สามารถดำรงอยู่ได้ ล้วนแล้วแต่ถูกพลังที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดทำลาย

แต่ทว่า ท่ามกลางอาณาจักรที่ศักดิ์สิทธิ์นี้กลับมีเปลวเพลิงมารที่ดั่งคลื่นยักษ์ ความมืดดำดั่งน้ำขึ้นน้ำลงที่บ้าคลั่งโหมสาดซัดใส่อาณาจักรแห่งนี้ ความมืดดำได้ทะลักออกมาอย่างแรงครั้งแล้วครั้งเล่า ต้องการซัดอาณาจักรนี้ให้แตกอย่างนั้น

เสียงตูม ตูม ตูมดังตูมตามขึ้นมาเป็นระลอกไม่ขาดสาย ในเวลานี้เอง เห็นเพียงความมืดดำเสมือนดั่งเป็นคลื่นที่น่ากลัวโหมสาดซัดที่ซัดเข้าใส่อาณาจักรแห่งนี้ ความมืดดำที่บ้าคลั่งพุ่งปะทะเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ต้องการโจมตีอาณาจักรที่ศักดิ์สิทธิ์ให้แตกละเอียดทั้งอาณาจักร

แต่ว่า จากการที่ความมืดดำบ้าคลั่งนี้พุ่งปะทะขึ้นไปบนท้องฟ้าครั้งแล้วครั้งเล่า และยิงถล่มขึ้นไปครั้งแล้วครั้งเล่านั้น ประกายศักดิ์สิทธิ์ยิ่งมีความศักดิ์สิทธิ์เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม มองเห็นประกายศักดิ์สิทธิ์บนท้องฟ้านับไม่ถ้วนเสมือนดั่งมหาสมุทรที่เทราดลงมา และบนผืนแผ่นดินยังมีประกายศักดิ์สิทธิ์ที่ทะลักขึ้นมา ปรากฎแสงศักดิ์สิทธิ์พวยพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินทุกๆ ตารางนิ้ว พวยพุ่งขึ้นมาประดุจดั่งน้ำพุ มีความเข้มข้นยิ่งนัก

อีกทั้งช่องว่างทุกๆ ตารางนิ้วล้วนแล้วแต่มีกฎเกณฑ์และอักขระยันต์ที่ศักดิ์สิทธิ์ลอยล่อง ล้วนแล้วแต่ กำลังหลอมกลั่นความมืดดำที่บ้าคลั่งอยู่

แน่นอน ความมืดดำบ้าคลั่งนั่นก็หาใช่เป็นผู้อ่อนแอ กระทั่วกล่าวได้ว่าตัวเขาคือผู้ดำรงอยู่ในฐานะปราศจากผู้ต่อกรตลอดกาล ภายใต้การโจมตีอย่างบ้าคลั่งด้วยท่าทีที่แข็งกร้าวและพาลของประกายศักดิ์สิทธิ์ ความมืดดำที่บ้าคลั่งยังคงส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ยิงถล่มครั้งแล้วครั้งเล่าใส่ประกายศักดิ์สิทธิ์ที่เข้ามาปราบปรามทำลาย พลังของมันนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าประกายศักดิ์สิทธิ์เลยแม้แต่น้อย

ความมืดดำมีความเข้มข้นอย่างยิ่ง เข้มดั่งหมึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณศูนย์กลางยิ่งมีความเข้มข้นจนไม่สามารถทำให้เจือจางได้ ดูเหมือนไม่ว่าจะเป็นแสงสว่างใดๆ ก็ตาม เมื่อใดที่ถูกมันจับได้ล้วนแล้วแต่ไม่สามารถหนีรอดไปได้ และจะถูกทำลายในพริบตาเดียว

ท่ามกลางอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ลักษณะเช่นนี้ ณ บริเวณใจกลางความมืดที่มืดดำมากที่สุด ประกายศักดิ์สิทธ์ยังคงไม่สามารถบุกโจมตีเข้าไป ยังคงทำได้แค่บดขยี้ทำลายทีละนิดๆ มีเพียงบดขยี้ทำลายความมืดดำที่อยู่รอบนอกให้หมด จึงสามารถบุกโจมตีเข้าไปยังใจกลางความมืดดำได้อย่างแท้จริง

แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม ถ้าหากสามารถเปิดเนตรสว่างขึ้นมาได้ล่ะก็ ท่ามกลางความมืดดำนั้นยังคงสามารถมองเห็นบริเวณใจกลางความมืดดำที่ดำจนมองอะไรไม่เห็นนั้น มีสิ่งที่ใหญ่โตมโหฬารอยู่ตัวหนึ่งลางๆ มันคือผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวปราศจากผู้ต่อกรตลอดกาล ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวปราศจากผู้ต่อกรตลอดกาลตัวนี้ได้ถูกพันธนาการไว้อย่างแน่นหนาอยู่ตรงนั้นด้วยกฎเกณฑ์สิบสองข้อ และมีสามวังวนที่ทำการสยบมันเอาไว้ ทำให้มันไม่สามารถหนีรอดไปได้

แม้ว่าผู้ดำรงอยู่ในฐานะที่น่ากลัวมากที่สุดจะถูกพันธนาการอยู่ที่ตรงนั้น แต่ว่า พลังความมืดดำของมันยังคงยิงถล่มเข้าใส่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ต้องการ โจมตีอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์นี้ให้แตก ต้องการตีแตกจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่

ดังนั้น ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวปราศจากผู้ต่อกรสูงสุดจึงได้ทำการยิงถล่มใส่อาณาจักรที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างบ้าคลั่ง สั่นคลอนอาณาจักรที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ มันต้องการสั่นคลอนต่อจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ มันต้องการตีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ให้แตกพ่าย

บางครั้งก็จะได้ยินเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดที่ดังขึ้นมา ความมืดดำได้วิวัฒนาการคำสาปที่ชั่วร้ายยิ่ง หวังรุกและกัดกร่อนจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ แต่ว่า มันไม่มีประโยชน์ ขอเพียงความมืดดำเข้ารุกรานและกัดกร่อนก็จะถูกประกายศักดิ์สิทธิ์ของหลี่ชิเย่หลอมกลั่นไปสิ้น

ปัง ปัง ปังเสียงโจมตีดังขึ้นมาไม่ขาดสาย แต่ว่า ยังคงไม่สามารถสั่นคลอนต่อจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่

ในโลกนี้ ไม่มีสิ่งใดสามารถแข็งแกร่งยิ่งกว่าจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ได้อีกแล้ว ดังนั้น ด้วยเหตุนี้เอง หลี่ชิเย่จึงได้ล่อให้ผู้ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวถึงเพียงนี้ให้เข้าไปติดกับ ด้วยการนำเอากฎเกณฑ์ชั่วร้ายที่ความดำมืดที่น่ากลัวทิ้งเอาไว้เป็นเหยื่อล่อเก็บเอาไว้ในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียร เมื่อความมืดดำที่น่ากลัวต้องการรุกรานเข้าร่างกาของหลี่ชิเย่ ต้องการยึดครองร่างกายของหลี่ชิเย่มาเป็นของตนนั้น

พลันหลงกลของหลี่ชิเย่เข้าให้ และจัดการพันธนาการผู้ยิ่งใหญ่ชั่วร้ายเอาไว้ภายในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรนั่นในทันที

บางที ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวสูงสุดก็รู้ว่าหลี่ชิเย่ได้วางหลุมพรางเอาไว้ รู้ว่าหลี่ชิเย่ต้องการล่อให้ติดกับดัก แต่ว่า เขายังคงลุยเข้าไปภายในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่

ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวสูงสุดผู้นี้นับว่าแข็งแกร่งมากเหลือเกิน เขาคือผู้ที่สามารถกวาดผู้ที่เป็นปฐมบรรพบุรุษในหล้าจนราบคาบได้ โดยที่ปฐมบรรพบุรุษหาใช่คู่ต่อสู้ของเขาอยู่แล้ว เขาคือผู้ที่ปราศจากผู้ต่อกรอย่างแท้จริง ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ปราศจากผู้ต่อกรในหล้านั้น ในสายตาของเขาเป็นได้เพียงมดปลวกเท่านั้น

ด้วยเหตุที่ผู้ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวสูงสุดผู้นี้มีความแข็งแกร่งมากเหลือเกิน และเขาก็ถือดีมากเกินไป มีความมั่นใจเพียงพอในกำลังความสามารถของตน และเขาคิดยึดครองจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ เขาจำเป็นต้องทำลายจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ มีเพียงวิธีนี้จึงสามารถหลอมกลั่นหลี่ชิเย่ให้กลายเป็นของตนเองได้อย่างแท้จริง

“เป็นความจริงที่สวรรค์โจรเป็นพวกชั้นต่ำ” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะและกล่าวว่า “บางครั้งคิดๆ ดูแล้วก็อยากจะยกเท้ากระทืบลงบนใบหน้าของสวรรค์โจรที่เป็นพวกชั้นต่ำอย่างแรง แต่ว่า สำหรับเรื่องนี้ข้ารู้สึกว่าสวรรค์โจรทำได้ดีมาก ถ้าหากกล่าวว่าสวรรค์โจรเป็นคนชั้นต่ำ เช่นนั้นแล้วพวกเจ้าก็คือพวกสารเลว!”

ผู้ดำรงอยู่ในฐานะความน่ากลัวสูงสุดท่ามกลางความมืดดำไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมา ความมืดดำนับไม่ถ้วนได้โจมตีเข้ามา ท่ามกลางเสียงตูม ตูม ตูมที่ดังขึ้น อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์สั่นไหวโคลงเคลงทีหนึ่ง แต่ยังคงไม่สามารถสั่นคลอนต่ออาณาจักรแห่งนี้ และไม่สามารถตีอาณาจักรนี้ให้แตก

สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ประกายศักดิ์สิทธิ์ที่สยบและบดขยี้พลังความมืดดำของเขาเท่านั้น ชะตาดั้งเดิมโลกดึกดำบรรพ์ก็พันธนาการบนตัวเขาเอาไว้อย่างแน่นหนา ทำให้เขาไม่สามารถทำลายได้อยู่แล้ว

“ข้ารู้สึกว่า พวกเรายังคงนั่งลงมาพูดคุยกันดีๆ จะดีกว่า” หลี่ชิเย่ควบคุมจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของตนเอาไว้ เขาคือผู้บงการสูงสุดในอาณาจักรที่ศักดิ์สิทธิ์ลักษณะเช่นนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่อยู่ภายใต้การสยบและควบคุมของเขา แม้แต่ผู้อยูในฐานะน่ากลัวที่สุดก็ถูกสยบด้วยเช่นกัน

“ถ้าหากเจ้าสามารถพูดคุยกับข้าแต่โดยดี ไม่แน่นักในอนาคตผู้คนใต้หล้าอาจสร้างเป็นอนุสาวรีย์คุณธรรมอะไรเทือกนั้นกับเจ้า” หลี่ชิเย่กล่าวและยิ้มเรียบเฉยขึ้นมา

“แหะ แหะเจ้ายังคงนึกถึงตัวเองจะดีกว่า อนาคตเจ้าจะต้องตายอย่างน่าเวทนามากๆ อยู่แล้ว” ผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางความมืดดำหัวเราะเสียงดังขึ้นมา และกล่าวว่า “ถ้าหากเจ้าคิดว่าสามารถสยบและพันธนาการเอาไว้ก็คือผู้ไร้ซึ่งผู้ต่อกร ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ผิดแล้ว บนนั้นยังคงมีสิ่งที่แข็งแกร่งมากยิ่งกว่าข้าอยู่”

“เรื่องนี้ข้ารู้” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเรียบเฉยว่า “ขณะอยู่ที่เงินทองตกพื้น ข้าได้แลกเปลี่ยนกับดวงตาข้างนั้นเกี่ยวกับสภาพของพวกเจ้า ข้ารู้มาไม่น้อยทีเดียว”

“ฮึ พวกเขาก็แค่มีชีวิตอยู่ไปวันๆ เท่านั้นเอง” ผู้ดำรงอยู่ในฐานะความน่ากลัวสูงสุดท่ามกลางความมืดดำพูดออกมาเป็นภาษาโบราณว่า “ยิ่งแข็งแกร่งก็ยิ่งบำรุง จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรยิ่งแกร่งก็ยิ่งโอชะ เจ้าต้องกลายเป็นชิ้นเนื้อหวานมันอย่างแน่นอน!”

“รอให้พวกเขาสามารถกินข้าให้ได้ก่อนค่อยมาว่ากัน” หลี่ชิเย่ไม่ใส่ใจ และหลี่ชิเย่ “แต่ทว่า พวกเราสามารถนั่งลงแล้วคุยกันถึงสถานการณ์ของเจ้า คนอย่างข้าความต้องการไม่สูง ขอเพียงเจ้าเปิดอกพูดออกมา ข้ายินดีรับฟังอย่างยิ่ง ข้าเป็นผู้ฟังที่ดีมากคนหนึ่ง”

“เจ้าเลิกล้มความตั้งใจนี้เสีย” ผู้ดำรงอยู่ในฐานะความน่ากลัวสูงสุดท่ามกลางความมืดดำพูดออกมาเป็นคำพูดโบราณ และกล่าวว่า “ข้านี่แหละผ่านประสบการณ์มากกว่าเจ้า ผ่านกาลเวลาทุกข์ทรมานดึกดำบรรพ์มากกว่าเจ้า”

“เรื่องนี้ข้ารู้ และข้าก็ไม่ได้รู้สึกว่าเหนือความคาดคิด เป็นความจริงที่เจ้าจะไม่ประนีประนอม ยอมจำนนอยู่แล้ว แต่ว่า ไม่มีปัญหา ข้าจะค่อยๆ บดขยี้เจ้าอย่างช้าๆ บดทำลายไปจนถึงจิตเทพของเจ้าเหลือเพียงจิตเทพเส้นสุดท้าย ถึงเวลานั้น ข้าจะจัดการรีดทุกกสิ่งทุกอย่างของเจ้าจนแห้ง!”

………………………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล