ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2711

ตอนที่ 2711 โลกนี้ไม่มีเซียน

ผู้ดำรงอยู่ในฐานะสุดน่ากลัวท่ามกลางความมืดดำตกอยู่ในความนิ่งเงียบ ตามติดด้วยเสียงตูมที่ดังสนั่นหวั่นไหว ในพริบตาเดียวนั่นเอง ความมืดดำได้โจมตีอย่างบ้าคลั่ง ด้วยท่าทีดุดันและพาลอย่างยิ่ง เหมือนว่าต้องการพลิกอาณาจักรขึ้นมาอย่างนั้น

ตามติดด้วยความมืดดดำที่กลับกลายเป็นดั่งคลื่นยักษ์ เข้าโจมตีประกายศักดิ์สิทธิ์อย่างบ้าคลั่งรอบแล้วรอบเล่า ท่ามกลางเสียงตูม ตูม ตูมที่ดังตูมตามขึ้นมาเป็นระลอก

แต่ว่า ไม่ว่าความมืดดดำจะโจมตีต่ออาณาจักรที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างบ้าคลั่งเพียงใด ไม่ว่าพลังของความมืดดำจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นใดก็ตาม ก็ไม่สมารถทำลายจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ลงไปได้ ต่อให้ผู้ดำรงอยู่ในฐานะสุดน่ากลัวท่ามกลางความมืดดำจะสำแดงสุดยอดวิชาสูงสุดในหล้า ก็ไม่สามารถกัดกร่อนจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่

กล่าวได้ว่า ขอเพียงจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่มีความแกร่งไม่หวั่นไหว ผู้ดำรงอยู่ในฐานะสุดน่ากลัวท่ามกลางความมืดดำก็ไม่สามารถหนีรอดออกมาจากจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ตลอดไป และเขาจะต้องถูกหลี่ชิเย่บดขยี้กระทั่งตายในที่สุด

ตลอดขั้นตอนดังกล่าวดูไปแล้วเหมือนง่ายดายอย่างยิ่ง แต่ความจริงแล้ว เรียกได้ว่าน่ากลัวที่สุดยากจะหาสิ่งใดเทียบเทียม ผู้ดำรงอยู่ในฐานะสุดน่ากลัวผู้นี้มีความแข็งแกร่งจนไม่สามารถจินตนาการได้ ไม่ว่าจะเป็นปฐมบรรพบุรุษอะไร ผู้ปราศจากผู้ต่อกรเช่นใด หาใช่คู่ต่อสู้ของเขาอยู่แล้ว

กล่าวได้ว่า เฉกเช่นผู้ดำรงอยู่ในฐานะสุดน่ากลัวเช่นนี้ เขาคือผู้ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดนับแต่อดีตกาลเป็นต้นมา เป็นผู้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดที่ยังคงเหลืออยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้นนับแต่อดีตกาลที่ผ่านมา ลำพังตัวเขาเพียงคนเดียวก็สามารถสู้รบกับเหล่าปฐมบรรพบุรุษใต้หล้าจำนวนมาก และกวาดล้างเหล่าปฐมบรรพบุรุษจำนวนมากจนสิ้น

กล่าวได้ว่าในสายตาของเขานั้น ประเภทราชันแท้จริงปราศจากผู้ต่อกร หรือระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลเสมือนดั่งเป็นเพียงมดปลวกอย่างนั้น

เฉกเช่นผู้ดำรงอยู่ในฐานะความมืดดำสุดน่ากลัวเช่นนี้ ถ้าหากแทรกซึมเข้าไปในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของคนอื่นๆล่ะก็ แม้จะเป็นปฐมบรรพบุรุษที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งอย่างยิ่งก็ไม่สามารถรองรับได้กับการกัดกร่อนของผู้ดำรงอยู่ในฐานะสุดน่ากลัวท่ามกลางความมืดดำที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสอง เกรงว่าไม่ช้าก็เร็วจะต้องถูกเขาตีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรจนแตกพ่าย และถูกยึดครองร่างกาย ท้ายสุดต้องกลับกลายเป็นมาร และถูกผู้ดำรงอยู่ในฐานะสุดน่ากลัวท่ามกลางความมืดดำผู้นี้ยึดครองอย่างสิ้นเชิง

น่าเสียดาย ผู้ดำรงอยู่ในฐานะสุดน่ากลัวท่ามกลางความมืดดำผู้นี้กลับต้องมาเจอะเจอกับหลี่ชิเย่เข้า หลี่ชิเย่นั้นมีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่แข็งแกร่งไม่สามารถทำลายได้ดวงหนึ่ง เวลานี้เขาถูกหลี่ชิเย่กักขังเอาไว้ภายในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียร ทั้งยังถูกชะตาดั้งเดิมโลกดึกดำบรรพ์พันธนาการเอาไว้อย่างแน่นหนา เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหนีรอดออกไปจากจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ได้อยู่แล้ว เรียกได้ว่าแม้จะเป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะสุดน่ากลัวเช่นเขา ท้ายที่สุดแล้วก็คงเหลือไว้เพียงจุดจบที่ถูกบดขยี้ทำลายเท่านั้น

“สิ่งที่เจ้าปรารถนาคืออะไร?” หลังจากผ่านไปนานมาก ผู้ดำรงอยู่ในฐานะสุดน่ากลัวท่ามกลางความมืดดำได้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“สิ่งที่พวกเจ้าปรารถนาคืออะไร?” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ให้ข้าเดา ข้าได้ข้อมูลจากตาโตมา รับรู้ถึงการกระทำที่ผ่านมาของพวกเจ้า ดังนั้น สิ่งที่พวกเจ้าปรารถนาก็คงไม่พ้นเรื่องของการมีชีวิตเป็นอมตะเท่านั้นเอง เมื่อเป็นเช่นนั้นขอเพียงสามารถมีชีวิตเป็นอมตะ ทุกสิ่งทุกอย่างในสายตาของพวกเจ้าก็คืออย่างไรก็ได้ ล้วนแล้วแต่เป็นเพียงมดปลวก เป็นฝุ่นผงเท่านั้นเอง”

“แหะ มันก็เหมือนกันนั่นแหละ” ผู้ดำรงอยู่ในฐานะสุดน่ากลัวท่ามกลางความมืดดำยิ้มเสียงชั่วร้ายและกล่าวว่า “หรือว่าสิ่งที่เจ้าปรารถนาไม่ใช่ชีวิตอมตะเช่นเดียวกันอย่างนั้นรึ? เจ้าผ่านประสบการณ์มาหมื่นยุค เคยปกครองใต้หล้า ควบคุมจักรวาล กล่าวสำหรับเจ้าแล้วอำนาจใดๆ บนโลก ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกก็มิใช่เป็นเพียงฝุ่นผงเท่านั้นเอง สิ่งที่เจ้าปรารถนาจะแตกต่างอะไรจากพวกเรา ก็แค่มีชีวิตเป็นอมตะเท่านั้นเอง”

“เรื่องนี้เจ้าทายผิดแล้ว” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเรียบเฉยว่า “สิ่งที่ข้าปรารถนาหาใช่ชีวิตความเป็นอมตะ สิ่งที่ข้าปรารถนาก็ไม่ใช่การบรรลุเป็นเซียน สิ่งที่ข้าปรารถนาเป็นเพียงคำตอบๆ หนึ่งเท่านั้นเอง”

“คำตอบ?” ผู้ดำรงอยู่ในฐานะสุดน่ากลัวท่ามกลางความมืดดำหัวเราะขึ้นมา และกล่าวว่า “โลกนี้ไม่เคยมีคำตอบมาก่อน ไม่มีใครสามารถให้คำตอบพวกเรา และไม่มีใครสมารถให้คำตอบเจ้าเช่นกัน! คำตอบนั้นอยู่ในใจของเจ้า นั่นก็คือเซียน!”

“เซียน…” หลี่ชิเย่หัวเราะขึ้นมา และยิ้มกล่าวว่า “เซียนยื่นมือมาลูบคลำศีรษะของข้า เดิมข้าได้รับการถ่ายทอดเคล็ดวิชาความเป็นอมตะตั้งแต่เยาว์วัย ข้าก็เป็นเซียนเช่นกัน เจ้าว่า อะไรคือเซียนเล่า?”

“พวกเราก็คือเซียน เจ้าเองก็คงเป็นเซียนเช่นกัน” ผู้ดำรงอยู่ในฐานะสุดน่ากลัวท่ามกลางความมืดดำเอ่ยขึ้นช้าๆ

“หากพวกเจ้าคือเซียนล่ะก็ เกรงว่าคงเป็นแค่เซียนตัวปลอมเท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉย

“ถ้าพวกเราไม่ใช่เซียน เจ้าคิดว่าใครกันเล่าที่เป็นเซียน?” มาคราวนี้ผู้ดำรงอยู่ในฐานะสุดน่ากลัวท่ามกลางความมืดดำไม่ได้โกรธ และไม่โมโห พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ เสมือนดั่งสองคนกำลังศึกษาแลกเปลี่ยนสัจธรรมซึ่งกันและกันอย่างนั้น

หลี่ชิเย่ถึงกับนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง สำหรับคำพูดเช่นนี้ของผู้ดำรงอยู่ในฐานะสุดน่ากลัว

“ถ้าหากเจ้าคิดจะอาศัยชีวิตความเป็นอมตะมาเป็นนิยามของความเป็นเซียนล่ะก็ เช่นนั้นแล้วพวกเราก็คือเซียน พวกเรามีชีวิตเป็นอมตะไม่แตกดับ และเป็นเซียนแท้จริง” ผู้ดำรงอยู่ในฐานะสุดน่ากลัวท่ามกลางความมืดดำกล่าวขึ้น

“ใช่หรือ?” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมย และกล่าวว่า “พวกเจ้าเข้าใจว่าตนเองนั้นเป็นอมตะไม่มีวันแตกดับจริงๆ รึ?”

“ถ้าหากเจ้าไม่เชื่อก็มาลองดูกัน ต่อให้เจ้าบดขยี้ข้าจนตาย แต่ทว่า ข้ายังคงไม่แตกดับตลอดกาล ขอเพียงข้ายังคงอยู่เพียงน้อยนิดข้ายังคงไม่ตายไม่ดับ!” ผู้ดำรงอยู่ในฐานะสุดน่ากลัวท่ามกลางความมืดดำกล่าวขึ้นช้าๆ คำพูดนี้ดั่งเป็นผู้หลุดพ้นจากความเป็นมนุษย์ปุถุชนทั่วไป ดูสบายอกสบายใจยิ่ง เมื่อเขาสงบสติอารมณ์ลงมาได้แล้วก็ไม่แสดงความโกรธอีกเลย จะอย่างไรเสียเขาเองก็เป็นผู้ผ่านอุปสรรคมานับไม่ถ้วนมาแล้วเช่นกัน

“ข้ารู้ ข้าเป็นคนที่มีความอดทนสูงมาก จะต้องรีดเจ้าจนกว่าจะแห้ง” หลี่ชิเย่หัวเราะขึ้นมาทีหนึ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล