ตอนที่ 2736 สู้ตายอย่างทรหด
เกล็ดงูพิษขนาดยักษ์ตัวนี้เสมือนดั่งเป็นเกราะเหล็กอย่างนั้น มีความแข็งแกร่งยิ่งนัก อีกทั้งบนตัวของงูยักษ์ถึงกับมีแขนงอกออกมาสองข้าง และในมือถือขวานไว้สองเล่ม
งูขนาดยักษ์ลักษณะเช่นนี้ได้แลบลิ้นที่ยาวๆ ของมันออกมา เสมือนดั่งเป็นแส้ที่ฟาดใส่ดังฟอด ฟอด ฟอดขึ้นมา
ว้าย…ในบรรดาศิษย์ทั้งเจ็ดคน ลู่ยั่วซีศิษย์น้องที่มีอายุน้อยที่สุดถูกทำให้ตกใจสุดขีด สีหน้าขาวซีด ก้าวถอยหลังติดต่อกันหลายก้าว
“งูพิษตัวใหญ่มาก” ศิษย์พี่ศิษย์น้องคนอื่นๆ ต่างรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงเมื่อได้เห็นงูพิษขนาดยักษ์เช่นนี้ มีศิษย์พี่ศิษย์น้องบางคนถึงกับก้าวถอยหลังไปสองก้าว
“นิ่งเอาไว้ อย่าได้ถอยหลัง” ในเวลานี้ หลี่เจี้ยนคุนในฐานะศิษย์พี่ใหญ่ได้ร้องกล่าวเสียงทุ้มต่ำให้กำลังใจกับทุกคน
“ฆ่า…” ยังคงเป็นกัวเจียหุ้ยที่ปราศจากความหวาดกลัวมากที่สุด นางร้องเสียงแหลมดังขึ้นมา เป็นผู้นำเข้าโจมตีต่องูขนาดยักษ์นั่น ด้วยการเหินฟ้าขึ้นพร้อมกับกระบี่ยาวในมือที่ทิ่มแทงเข้าไปดั่งงูพิษ
“ลุย…” หลี่เจี้ยนคุนเกรงว่าจะมีการผิดพลาด จึงร้องเสียงทุ้มต่ำและบุกโจมตีเข้าไป
“ฆ่ามัน…” จ้าวจื้อถิงและศิษย์พี่ศิษย์น้องคนอื่นๆ ก็บุกสังหารเข้าไป ในเวลานี้พวกเขาถอยไม่ได้ มิฉะนั้นละก็จะไม่สามารถบุกเข้าไปในรังอสรพิษได้อยู่แล้ว
ตึง ตึง ตึงเสียงปะทะดังขึ้นมาเป็นระลอก ในเวลานี้งูยักษ์ก็เงื้อขวานคู่ขึ้นมา ปรากฎเป็นฟองขวานที่ผุดขึ้นพร้อมกับฟันลงมา
แต่ทว่า งูยักษ์ไม่เพียงแต่มีร่างกายขนาดยักษ์ ทั้งเกล็ดบนตัวยังคล้ายดั่งเป็นเกราะเหล็กอย่างนั้น แม้ว่าอาวุธของพวกกัวเจียหุ้ยจะฟันถูกร่างของงูยักษ์ แต่ไม่สามารถทำให้งูยักษ์ต้องบาดเจ็บสาหัส
เสียงปังดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ในพริบตาเดียวนั่นเอง ลู่ยั่วซีที่มีอายุน้อยที่สุดประสบการณ์ต่อสู้อ่อนที่สุด ไม่ทันระวังถูกหางของงูยักษ์ฟาดเข้าให้จนนางต้องกระอักเลือดออกมา และร่างของนางก็ปลิวไปตามแรง
“ระวัง…” จ้าวจื้อถิงได้วิ่งเข้าไปรับตัวลู่ยั่วซีที่ถูกฟาดจนตัวปลิวเอาไว้ แต่ว่า ในเวลานี้ขวานของงูยักษ์ได้ฟันสับลงมาตรงๆ
ได้ยินเสียงปังที่ดังสนั่นหวั่นไหว ในจังหวะที่อันตรายที่สุดนั้น กัวเจียหุ้ยได้บุกเข้ามาโดยไม่ลังเลและหวาดกลัว ในมือถือโล่ขนาดยักษ์ต้านขวานที่ฟันฉับลงมาเอาไว้โดยพลัน ร่างของนางพร้อมโล่ถูกพลังที่ฟาดฟันลงมาจนกลิ้งไปไกลมาก
แต่ว่า ในเวลานี้เอง กัวเจียหุ้ยได้แสดงให้เห็นถึงด้านที่องอาจห้าวหาญยิ่ง นางกลิ้งตัว ณ จุดนั้นเข้าโจมตีช่วงล่างของงูยักษ์ โดยไม่ทันได้มองดูบาดแผลของตนสักแวบเดียว
ย่อมไม่ต้องสงสัย กัวเจียหุ้ยหลังจากผ่านประสบการณ์ขัดเกลาอย่างยาวนานที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์มา ได้เปลี่ยนแปลงเป็นคนละคนอย่างแท้จริง ในอดีตเด็กสาวอย่างกัวเจียหุ้ยคือผู้ที่รู้สึกอายกระทั่งการพูดการจา เวลานี้กลับกลายเป็นเยือกเย็นสุขุมอะไรอย่างนั้น ปราศจากความหวาดหวั่นอะไรอย่างนั้น เรียกได้ว่าการผ่านประสบการณ์ความเป็นความตายครั้งแล้วครั้งเล่าที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ผ่านการขัดเกลาครั้งแล้วครั้งเล่านั้น ส่งผลให้นางมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
ปัง ปัง ปังเสียงปะทะดังขึ้นเป็นระลอก ในเวลานี้ การโจมตีเป็นระลอกของพวกหลี่เจี้ยนคุนทั้งเจ็ดคนถูกงูยักษ์ตีจนแตกพ่าย พวกเขาประสบความพ่ายแพ้ทันที
เฉินเหวยเจิ้งที่อยู่ด้านข้างมองดูด้วยความอกสั่นขวัญแขวน หลายครั้งหลายคราต้องตกใจอย่างยิ่ง และคิดจะลงมือเข้าให้การช่วยเหลืออยู่หลายครั้ง แต่ว่า เมื่อหลี่ชิเย่ไม่ได้สั่งการ เขาจึงไม่กล้าทำอะไรโดยพละการ
“โง่…” จังหวะที่พวกของหลี่เจี้ยนคุนถูกตีแตกพ่ายนั้น หลี่ชิเย่ได้กล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า “หนึ่งคนกำลังไม่เพียงพอก็ร่วมมือกัน ต้องประสานกันจึงสามารถสำแดงพลังที่สมบูรณ์ที่สุด หลี่เจี้ยนคุนมีกำลังความสามารถแกร่งที่สุดให้เป็นกำลังหลัก ต้านขวานสองเล่มของเขาเอาไว้ เจียหุ้ยลอบฆ่า…”
“…มุ่งไปที่จุดตายของมัน ฉกฉวยโอกาสให้มั่น โจมตีถึงตายในครั้งเดียว ซิวหลิน ซิวชี่โจมตีปีกซ้ายขวา ทำให้มันยากที่จะดูแลซ้ายขวาได้ หวังเสวียหงโจมตีด้านหลัง ทำให้มันยากจะดูแลหน้าหลังได้ จ้าวจื้อถิงทำหน้าที่กำบัง คอยบดบังสายตาของมัน ลู่ยั่วซีเคลื่อนที่ไปมา รบกวนทำให้มันเสียสมาธิ”
พวกของหลี่เจี้ยนคุนที่เดิมถูกตีแตกพ่ายมาถึงกับมีกำลังฮึกเหิมเมื่อได้ฟังคำของหลี่ชิเย่แล้ว
“เตรียมตัว ลุย…” ในเวลานี้มีหลี่เจี้ยนคุนเป็นกำลังหลัก ร้องเสียงดังขึ้นมา ในมือถือโล่ยักษ์และกระบี่ยักษ์ บุกเข้าไปตรงๆ
เสียงปัง ปัง ปังดังขึ้น หลี่เจี้ยนคุนอาศัยกำลังของตนเพียงลำพังเข้าขัดขวางขวานคู่ของงูยักษ์
ตูม…เสียงหนึ่งดังขึ้น จ้าวจื้อถิงลงมือ เพลิงร้อนแรงดั่งคลื่นยักษ์พุ่งเข้าตรงหน้าของงูยักษ์ บดบังสายตาของมัน
“ฆ่า…” สองพี่น้องซิวหลิน ซิวซี่ในจำนวนเจ็ดคนได้บุกสังหารจากทางด้านซ้ายขวา มุ่งสังหารงูยักษ์จากปีกสองข้าง ในขณะเดียวกันหวังเสวียหงได้อ้อมไปทางด้านหลังของงูยักษ์ ค้อนยักษ์ในมือได้ทุบเข้าไปที่หัวของงูยักษ์ทางด้านหลัง
ขณะที่ในเวลานี้ ศิษย์น้องคนเล็กลู่ยั่วซีเคลื่อนที่ไปทั่ว ลงมือพลางเคลื่อนที่ไปพลาง อาวุธแต่ละชิ้นที่ซัดเขาใส่งูยักษ์ เปลี่ยนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว ไม่เปิดโอกสวให้งูยักษ์สามารถโจมตีตนเอง
หลังจากที่พวกเขาร่วมมือกันแล้วพลันประสานกันขึ้นมาทันที แรกเริ่มเดิมทีการประสานร่วมมือของทั้งเจ็ดคนยังไม่เพียงพอมีช่องโหว่ปรากฎขึ้นสารพัด หลังจากผ่านการบุกโจมตีรอบแล้วรอบเล่า การประสานงานของพวกเขาค่อยๆ เข้าขากันแล้ว สามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ ไม่เหมือนตอนแรกเริ่มที่ดูวุ่นวายไปหมด
อ๊ากกก…เสียงร้องน่าเวทนาของงูยักษ์ดังขึ้น หลังจากผ่านการโจมตีมารอบแล้วรอบเล่าแล้ว กัวเจียหุ้ยได้ฉวยโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง พลันเสือกกระบี่แทงเข้าไปที่บริเวณเจ็ดนิ้วของงูยักษ์ในทันที จากนั้นถอยฉากไปอย่างรวดเร็ว
จากการที่งูยักษ์ร้องน่าเวทนาออกมา ตัวของมันส่ายไปมาอย่างบ้าคลั่ง สุดท้ายล้มลงนอนกับพื้นตรงๆ เลือดสดๆ ไหลริน และตัวของงูยักษ์ก็ค่อยๆ แข็งตัวขึ้น
“สำเร็จแล้ว สำเร็จแล้ว…” หวังเสวีย หงที่มีเลือดเต็มตัวถึงกับหัวเราะเสียงดังขึ้น เมื่อเห็นว่าสามารถสังหารงูยักษ์ได้ในที่สุด และอดทนต่ออาการบาดเจ็บบนตัวไม่ได้แล้ว
ในเวลานี้พวกเขาทั้งเจ็ดคนต่างเผยให้เห็นถึงรอยยิ้ม ภายในใจมีความรู้สึกของความสำเร็จเต็มเปี่ยม มีความรู้สึกของความดีใจเต็มเปี่ยม หากเป็นในอดีตสิ่งนี้เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะคิด แต่ว่า มาวันนี้พวกเขากลับสามารถประสานร่วมมือกันสังหารงูยักษ์ได้ตัวหนึ่ง
ฟ่อ…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้เอง ขณะที่พวกเขาดีใจยังไม่ทันจบ เสียงแลบลิ้นดังขึ้นเป็นระลอก ลึกเข้าไปภายในหุบเขาอสรพิษปรากฏดวงตาสีเขียวคู่แล้วคู่เล่าขึ้นมา
“ลุกขึ้น ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาดีใจ” ในขณะนี้เสียงที่เย็นชาของหลี่ชิเย่ดังขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...