ตอนที่ 2750 เทียบของวิเศษรึ? พวกเราเหนือกว่าเจ้า
เวลานี้ พวกของกัวเจียหุ้ยทั้งเจ็ดคนเข้าไปยืนอยู่ในลานประลอง โจวจือฉิงเองก็เข้าไปยืนอยู่ในลานประลองด้วย ลักษณะท่าทางที่โอหังอวดดีข่มผู้คน ด้วยท่าทีที่ก้มมองดูพวกของกัวเจียหุ้ยอย่างนั้น
“คราวก่อนปล่อยให้พวกเจ้าหนีรอดไปได้ มาคราวนี้พวกเจ้าคงไม่โชคดีขนาดนั้นแล้ว” โจวจือฉิงที่เหมือนก้มมองดูพวกกัวเจียหุ้ยเจ็ดคนด้วยท่าทางทะนงตัว กล่าวเหยียดหยามว่า “วันนี้ ข้าจะตัดหัวสุนัขของพวกเจ้า!”
พวกของกัวเจียหุ้ยนิ่งเงียบไม่ตอบ ค่อยๆ ก่อเป็นค่ายกลขึ้นมา แม้ว่าก่อนหน้านั้นพวกเขาถูกโจวจือฉิงสังหารจนเลือดไหลหยดเป็นทาง ต้องหนีไปด้วยการพ่ายแพ้อย่างยับเยิน เกือบเอาชีวิตไม่รอด เรียกได้ว่ามีความแค้นที่ยิ่งใหญ่ เวลานี้ถูกโจวจือฉิงพูดดูถูกเช่นนี้อีก เรียกได้ว่าเป็นการยกตนข่มท่าน ทำให้เสียเกียรติครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่ว่า ในขณะนี้พวกของกัวเจียหุ้ยยังคงสงบสติอารมณ์ได้อยู่ พวกเขารู้ดีถึงความห่างชั้นระหว่างพวกเขากับโจวจือฉิง เวลานี้ความโกรธไม่มีประโยชน์ใดๆ พวกเขาได้แต่สงบอารมณ์เอาไว้ การเอาชนะโจวจือฉิงได้ จึงเป็นวิธีการตอบโต้การสบประมาทที่ดีที่สุด
แต่ว่า ในสายตาของผู้คนจำนวนมากมองว่า การนิ่งเงียบไม่พูดไม่จาของพวกกัวเจียหุ้ยนั้นเป็นเพราะพวกเขาถูกทำให้ต้องหวาดกลัวจนไม่กล้าพูดอะไรออกมา
“รนหาที่ตายเท่านั้นเอง” แม้ว่ายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากมองเห็นพวกของกัวเจียหุ้ยได้ตั้งเป็นค่ายกลขึ้นมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ และเชิดใส่
เนื่องจากทุกคนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน กำลังความสามารถของพวกกัวเจียหุ้ยห่างชั้นกับโจวจือฉิงอยู่มากทีเดียว เกรงว่าค่ายกลใดๆ ก็ไม่สามารถชดเชยช่วงห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายได้
“เอาล่ะ เตรียมต่อสู้ชี้ขาด” เวลานี้ เทพกระบี่ฉีฟงทำหน้าที่กรรมการตัดสินได้กล่าวเสียงดังว่า “ทั้งสองฝ่ายต่อสู้ชี้ขาดโดยไม่มีกติกาด้านการลงมือ พลันที่มีการลงมือก็คือชี้เป็นชี้ตาย จนกว่าจะตายไปจึงเลิกรา กฎเกณฑ์เพียงหนึ่งเดียวก็คือ ห้ามบุคคลภายนอกยื่นมือเข้าสอด ถ้าหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดยื่นมือเข้าสอดถือว่าแพ้ ทั้งสองฝ่ายมีปัญหาหรือไม่?”
“ข้าไม่มีปัญหา” โจวจือฉิงกล่าวท่าทางทะนงตัวว่า “ต่อให้นิกายหู้ซานจงมีผู้ช่วยมากกว่านี้ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางของข้าก็ไม่หวั่น มาคนหนึ่งสังหารคนหนึ่ง มาสองคนสังหารคู่หนึ่ง ยิ่งมากยิ่งดี” กล่าวพลางจ้องมองดูหลี่ชิเย่ด้วยท่าทีเย็นชาทีหนึ่ง
ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า โจวจือฉิงนั้นมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ต่อให้หลี่ชิเย่ลงมือ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางนางก็ไม่ได้หวั่นเกรง วันนี้พวกเขามีการเตรียมตัวมา แม้ว่านิกายหู้ซานจงจะมีผู้ลงมือมากกว่านี้ ก็เป็นการรนหาที่ตายเท่านั้น และทำให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางของพวกเขามีเหตุผลพูดได้เต็มปากเต็มคำที่จะทำลายล้างนิกายหู้ซานจงได้พอดี
“ไม่มีปัญหา!” พวกของกัวเจียหุ้ยต่างพูดเป็นเสียงเดียวออกมา
“ดี ในเมื่อทั้งสองฝ่ายไม่มีปัญหา เช่นนั้นเก่ากะลาขอประกาศอย่างเป็นทางการเวลานี้ การต่อสู้ชี้ขาดเริ่มต้นขึ้นเป็นทางการ กระทั่งตายจึงจะเลิกรา!” กระบี่เทพฉีฟงประกาศด้วยเสียงอันดัง
ตึง…เสียงหนึ่งดังขึ้น นาทีนี้โจวจือฉิงกระบี่อยู่ในมือ ทันใดนั้นเอง มองเห็นประกายราชันแท้จริงแต่ละสายและบานเบ่ง กฎเกณฑ์ราชันแท้จริงแต่ละข้อที่พวยพุ่งขึ้นมา พลันทำการครอบร่างของโจวจือฉิงจนทั่วตัว
“กระบี่ราชันแท้จริง!” กลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยร้องฮือฮาขึ้นมาเบาๆ เมื่อมองเห็นกระบี่ยาวในมือของโจวจือฉิงด้วยความอิจฉาอยู่บ้าง ต่อให้ผู้ที่ไม่มีความรู้ก็ต้องรู้ว่ามันคือกระบี่ราชันแท้จริง แม้ว่าจะไม่รู้ว่ามันมาจากมือของราชันแท้จริงองค์ไหนก็ตาม
กล่าวสำหรับศิษย์กลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนมากแล้ว การมีอาวุธราชันแท้จริงในครอบครองเป็นเรื่องที่น่าอิจฉายิ่งเรื่องหนึ่ง อาจกล่าวได้ว่าในแคว้นเจ้าลัทธิใดๆ ก็ตาม การที่จะมีอาวุธราชันแท้จริงสักชิ้นหนึ่งนั้น ต่อให้ไม่ใช่ผู้สืบทอด ก็ต้องเป็นศิษย์อัจฉริยะบุคคลที่ทางสำนักให้ความสำคัญ
จะอย่างไรเสีย แคว้นเจ้าลัทธิสักแห่ง ศิษย์ในสำนักมีจำนวนมากตั้งแต่หลายแสนคนจนถึงหลายล้านคน แม้ว่าแคว้นเจ้าลัทธิจำนวนมากก็มีอาวุธราชันแท้จริง อาวุธเทพแท้จริงขั้นอมตะอยู่ในครอบครอง แต่ว่า ในบรรดาศิษย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่สามารถครอบครองอาวุธลักษณะเช่นนี้ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น โดยทั่วไปแล้วคงมีแต่ผู้สืบทอดและหรือสุดยอดอัจฉริยะบุคคลแห่งยุคจึงจะได้ครอบครอง
หากจะกล่าวว่า โจวจือฉิงอาศัยเพียงฐานะศิษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ต่อให้มีความเลิศและโดดเด่นมากกว่านี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะได้ครอบครองกระบี่ราชันแท้จริงสักเล่มหนึ่ง จะอย่างไรเสีย กระบี่ราชันแท้จริงไม่รู้ว่ามีความล้ำค่ามากกว่าอาวุธเทพแท้จริงขั้นอมตะเท่าใด ยิ่งไปกว่านั้น ศิษย์ที่มีความเป็นเลิศโดดเด่นดั่งเช่นโจวจือฉิงนั้น ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางหาได้มีอยู่เป็นส่วนน้อย
เพียงแต่โจวจือฉิงในฐานะที่เป็นสาวใช้ประจำตัวของธิดาศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง และมาครั้งนี้ แคว้นโบราณยันต์แปดทิศมุ่งมั่นที่จะได้มงกุฎปราชญ์มาครอบครองให้จงได้ ดังนั้น ธิดาศักดิ์สิทธิ์แห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางซึ่งเป็นคุณหนูของนางจึงประทานกระบี่ราชันแท้จริงเล่มนี้ให้เป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้นางสามารถสังหารพวกของกัวเจียหุ้ยได้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นหากเวลาเนิ่นนานออกไป
“พวกเจ้ามีเศษเหล็กอะไรก็รีบๆ เอาออกมาก็แล้วกัน” โจวจือฉิงหัวเราะอย่างทระนง กล่าวเหยียดหยามพวกของกัวเจียหุ้ยว่า “ภายในสิบกระบวนท่าจะตัดศีรษะบนบ่าพวกเจ้าแน่นอน!”
เดิมทีกำลังความสามารถก็เหนือกว่าพวกของกัวเจียหุ้ยอยู่มากทีเดียว เวลานี้นางยังมีกระบี่ราชันแท้จริงในมืออีก ทำให้นางยิ่งมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม เมื่อมีกระบี่ราชันแท้จริงในมือ การที่จะสังหารมดปลวกของนิกายหู้ซานจงก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายอยู่แล้ว
“สิบกระบวนท่า เกรงว่าไม่ต้องสิบกระบวนท่า สามถึงห้ากระบวนท่าก็ได้แล้ว” มองดูกระบี่ราชันแท้จริงในมือของโจวจือฉิงแล้ว ยอดฝีมือถึงกับส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “พลันที่กระบี่ราชันแท้จริงสำแดงออกมา ศิษย์ของนิกายหู้ซานจงยังจะมีอาวุธอะไรสามารถต้านทานได้ อาวุธของพวกเขาเมื่ออยู่ต่อหน้ากระบี่ราชันแท้จริงแล้ว ก็เหมือนดั่งหั่นเต้าหู้อย่างนั้น”
“เกรงว่านิกายหู้ซานจงคงไม่สามารถนำเอาอาวุธที่เข้าท่าออกมาได้อีกแล้ว พวกเขาเสื่อมและตกต่ำมานานเกินไปแล้ว ป่านนี้คงผลาญธาตุแท้ภายในจนหมดสิ้นไปแล้ว” ดังนั้น ทุกคนจึงไม่มั่นใจในพวกของกัวเจียหุ้ย เนื่องจากโจวจือฉิงมีกระบี่ราชันแท้จริงในมือ ทุกคนจึงเข้าใจว่านิกายหู้ซานจงไม่สามารถนำเอาอาวุธที่เข้าท่ามาต้านทานได้อยู่แล้ว
ตึง ตึง ตึงเสียงอาวุธคำรามดังขึ้นเป็นระลอก ตามติดด้วยเสียงตูมที่ดังสนั่นหวั่นไหว ในเวลานี้พวกของกัวเจียหุ้ยได้หยิบเอาอาวุธของตนขึ้นมาเงียบๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...