ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2754

สรุปบท ตอนที่ 2754 หัวหน้าสาขาธงเพลิง: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอน ตอนที่ 2754 หัวหน้าสาขาธงเพลิง จาก ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 2754 หัวหน้าสาขาธงเพลิง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 2754 หัวหน้าสาขาธงเพลิง

ผู้นี้ก็คือหัวหน้าสาขาธงเพลิงภายใต้สังกัดดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง ขณะที่สาขาธงเพลิงก็คือที่ที่ให้กำเนิดโจวจือฉิงนั่นเอง

ขณะที่โจวจือฉิงยังเป็นเพียงศิษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง นางก็คือศิษย์คนหนึ่งภายใต้สังกัดสาขาธงเพลิง ภายหลังแสดงความสามารถได้โดดเด่น จึงได้รับการบ่มฟักจากผู้อาวุโสของสำนัก

โดยเฉพาะหลังจากที่โจวจือฉิงได้กลายเป็นสาวใช้ประจำตัวของธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางแล้ว ทำให้ฐานะของนางสูงขึ้นตามไปด้วย ยิ่งไปกว่านั้นเวลานี้นางยังอยู่ในฐานะสาวใช้ที่จะแต่งออกไป อนาคตยังมีโอกาสได้กลายเป็นพระชายาของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ เรียกได้ว่าอนาคตไร้ขอบเขต

กล่าวสำหรับสาขาธงเพลิงแล้ว แม้ว่าพวกเขามีศิษย์ที่ดีเลิศโดดเด่นอยู่ไม่น้อย แต่ว่า การจะให้กำเนิดศิษย์อย่างโจวจือฉิงสักคนใช่เป็นเรื่องง่าย ดังนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพเช่นใดก็ตาม สาขาธงเพลิงก็จะต้องปกป้องโจวจือฉิอย่างเต็มที่ พวกเขาจะไม่ยอมให้ศิษย์ที่ดีเลิศโดดเด่นต้องเสียหายไปเช่นนี้

ด้วยเหตุนี้เอง หลังจากทราบว่าทางนิกายหู้ซานจงมีปรมาจารย์อย่างหลี่ชิเย่แล้ว ทางหัวหน้าสาขาธงเพลิงจึงมาเป็นผู้คอยคุ้มกันความปลอดภัยให้กับโจวจือฉิงด้วยตนเอง โดยสนับสนุนโจวจือฉิงเต็มกำลัง จะไม่ปล่อยให้เกิดความผิดพลาดกับนางอย่างเด็ดขาด

หากจะกล่าวว่ามีคนที่ไม่ประสงค์ดีใดๆ ต่อโจวจือฉิง สาขาธงเพลิงของพวกเขาก็จะพร้อมแลกด้วยค่าตอบแทนใดๆ เพื่อปกป้องโจวจือฉิงเอาไว้อย่างไม่เสียดาย

กล่าวได้ว่า โจวจือฉิงในขณะนี้มีฐานะที่สูงส่งมากในสาขาธงเพลิงแล้ว ศิษย์ธรรมดาทั่วไปไม่สามารถได้รับการปฏิบัติเช่นนี้อยู่แล้ว

ในเวลานี้หัวหน้าสาขาธงเพลิงได้ก้าวเดินออกมา ดวงตาทั้งสองดูน่าเกรงขาม ประกายตาดั่งฟ้าแลบที่ฟาดไปยังพวกของกัวเจียหุ้ย

เมื่อแววตาที่ดั่งอสุนีเย็นยะเยือกของหัวหน้าสาขาธงเพลิงกวาดผ่านมา ทำให้ภายในใจของพวกกัวเจียหุ้ยถึงกับสะท้าน รู้สึกเหมือนถูกโจมตีเข้าให้อย่างแรง ก้าวถอยหลังตึง ตึง ตึงไปหลายก้าว

กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว กำลังความสามารถของหัวหน้าสาขาธงเพลิงนั้นแข็งแกร่งมากเหลือเกิน โดยหัวหน้าสาขาธงเพลิงคือระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ชั้นที่ห้า ซึ่งมีกำลังความสามารถมากยิ่งกว่าฝูคุนที่ไปนิกายหู้ซานจงในวันนั้นเสียอีก

หรือจะพูดว่าลำพังแค่กำลังความสามารถเพียงคนเดียวของหัวหน้าสาขาธงเพลิงก็เพียงพอที่จะทำลายล้างนิกายหู้ซานจงได้แล้ว ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่เพราะอะไรโจวจือฉิงจึงกล้าเอะอะเอ็ดตะโรว่าต้องการทำลายล้างนิกายหู้ซานจงแล้ว สิ่งนี้ก็เป็นเพราะมีหัวหน้าสาขาธงเพลิงที่เป็นเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ที่แข็งแกร่งคอยหนุนหลังอยู่ ทำให้โจวจือฉิงมีความมั่นใจและไม่เกรงกลัวในหลี่ชิเย่ที่เป็นปรมาจารย์ของนิกายหู้ซานจง

ในสายตาของโจวจือฉิงมองว่า แม้หลี่ชิเย่ที่เป็นปรมาจารย์นิกายหู้ซานจงจะแข็งแกร่งกว่าตนเป็นอันมาก แต่ว่า ต้องไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหัวหน้าสาขาธงเพลิงพวกเขาอยู่แล้ว ขอเพียงหัวหน้าสาขาธงเพลิงพวกเขาลงมือ ต้องสามารถสังหารเขาได้แน่

จังหวะที่พวกของกัวเจียหุ้ยถูกพลังกระแทกจนต้องก้าวถอยหลังตึง ตึง ตึงนั้น โจวจือฉิงสบโอกาสทันที พลันกระโดดขึ้นและหลบหนีไปจากค่ายกลคลังสมบัติวิเศษเจ็ดดาวในพริบตาเดียว และหลบไปอยู่ด้านหลังของหัวหน้าสาขาธงเพลิงทันที

“เจ้า…” ซิวหลินถึงกับโกรธเคืองอย่างยิ่ง แต่ก็จนด้วยเกล้า เมื่อมองตาปริบๆ เห็นโจวจือฉิงที่หนีไป

“หน้าไม่อาย…” ลู่ยั่วซีก็รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม และกล่าวว่า “เอาชนะคนอื่นไม่ได้ ก็ให้ผู้อาวุโสลงมือ”

พวกหลี่เจี้ยนคุนที่มีอาวุโสมากกว่าก็จะนิ่งเงียบ พวกเขาเข้าใจว่านี่คือโลกของปลาใหญ่กินปลาเล็ก ต่อให้พวกเขาโกรธเคืองไปก็ไร้ประโยชน์ มีเพียงทำให้ตนเองให้กลับกลายเป็นแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเท่านั้น

“ฮึนิกายหู้ซานจง ความแค้นคราวนี้ข้าได้จดจำไว้แล้ว ข้าจะต้องทำลายล้างนิกายหู้ซานจงพวกเจ้าแน่นอน ทำให้นิกายหู้ซานจงพวกเจ้หายวับไปกับตาในพริบตา ถึงเวลานั้นแล้ว ข้าจะตัดหัวพวกเจ้าด้วยมือของข้าเอง” หลังจากโจวจือฉิงได้รับการช่วยเหลือแล้วถึงกับขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน กล่าวด้วยความแค้น

กล่าวสำหรับโจวจือฉิงแล้ว ขอเพียงนางมีชีวิตรอดไปได้ สักวันหนึ่งนางจะต้องทำลายล้างนิกายหู้ซานจงแน่นอน ขอเพียงนางได้กลายเป็นพระชายาของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศแล้ว ต่อให้ไม่มีผู้อาวุโสของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางลงมือให้กับนาง เพียงนางสั่งการออกไป ก็มีกองทัพหมื่นพันไปทำลายล้างนิกายหู้ซานจงเช่นกัน

“เรื่องราวในวันนี้ให้จบลงเพียงเท่านี้!” เวลานี้หัวหน้าสาขาธงเพลิงสีหน้าดูไม่เป็นมิตร กล่าวเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา

ตัวเขาในฐานะที่เป็นระดับเทพแท้จริง ขั้นขึ้นสู่สวรรค์ชั้นห้า ลงมือหนุนศิษย์ของตนเต็มที่นับว่าไม่ง่ายแล้ว หากไม่เป็นเพราะโจวจือฉิงมีอนาคตที่ยาวไกลมาก เขาเองก็คงไม่ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้

หนึ่งเดียวที่ทำให้หัวหน้าสาขาธงเพลิงรู้สึกเสียดายก็คือ มงกุฎปราชญ์ที่อยู่บนศีรษะของกัวเจียหุ้ยยังไม่ได้ตกมาอยู่ในมือ ซึ่งเป็นเรื่องที่เขารู้สึกเสียใจมากที่สุด

บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองหน้าซึ่งกันและกันเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว เวลานี้โจวจือฉิงพ่ายแพ้ แต่มีหัวหน้าสาขาธงเพลิงออกหน้าบังคับ เรียกได้ว่าไร้ความยุติธรรมอย่างยิ่ง แต่ทว่า ไม่ยุติธรรมแล้วอย่างไรล่ะ ใครใช้ให้นิกายหู้ซานจงเป็นเพียงสำนักระดับสามเท่านั้น

ถ้าหากนิกายหู้ซานจงมีกำลังความสามารถพอๆ กับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางล่ะก็ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางจะไม่กล้ากระทำการตามอำเภอใจเช่นนี้อย่างเด็ดขาด แต่ว่านิกายหู้ซานจงในขณะนี้ไม่สามารถเทียบได้กับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางอยู่แล้ว ดังนั้น หัวหน้าสาขาธงเพลิงธงเพลิงจึงไม่แคร์ว่าทางนิกายหู้ซานจงจะมีท่าทีอย่างไรอยู่แล้ว

แม้ว่าภายในใจของพวกหลี่เจี้ยนคุนจะรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เมื่อต้องมามองตาปริบๆ เห็นโจวจือฉิงหนีรอดจากเคราะห์กรรมคราวนี้ไปได้ แต่ก็จนด้วยเกล้า พวกเขาไม่มีกำลังความสามารถพอที่จะต่อต้านกับหัวหน้าสาขาธงเพลิงธงเพลิงได้อยู่แล้ว

“ในเมื่อมาแล้วยังคิดจะหนีไปรึ?” ขณะที่หัวหน้าสาขาธงเพลิงธงเพลิงกำลังจะพาตัวโจวจือฉิงจากไปนั้น หลี่ชิเย่จึงค่อยๆ เอ่ยขึ้นอย่างเชื่องช้าว่า “มาก็ดีแล้ว พวกเจ้าเอาศีรษะทิ้งไว้ทั้งหมดก็แล้วกัน”

เวลานี้ปรมาจารย์นิรนามคนหนึ่งของนิกายหู้ซานจงถึงกับพูดจาทำให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางของพวกเขาต้องเสียเกียรติ นั่นคือการรนหาที่ตายเอง

เวลานี้ หัวหน้าสาขาธงเพลิงธงเพลิงโบกมือทีหนึ่ง ด้านนอกลานประลองพลันปรากฎกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่วิ่งเข้ามา โดยที่คนกลุ่มนี้ล้วนแล้วแต่เป็นชายฉกรรจ์ท่าทางทะมัดทะแมงทั้งสัน เพียงมองเห็นก็รู้ได้ทันทีว่าไม่มีผู้อ่อนด้อยแม้แต่คนเดียว พวกเขาบุกเข้ามาพลันจัดการล้อมพวกของกัวเจียหุ้ยเอาไว้แน่นหนา ได้ยินเสียงกระบี่ออกจากฝักดังแคร้งค์… มองเห็นพวกเขาทั้งหมดชักกระบี่ออกมาอยู่ในมือ มองดูพวกกัวเจียหุ้ยด้วยท่าทางน่าเกรงขาม พร้อมที่จะสังหารพวกของกัวเจียหุ้ยได้ทุกเมื่อ

พวกกัวเจียหุ้ยต่างมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปมากทีเดียว จึงรีบตั้งเป็นค่ายกลพร้อมรับมือกับศัตรู

หัวหน้าสาขาธงเพลิงธงเพลิงก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ตูมเสียงหนึ่งดังขึ้น ธงเพลิงแต่ละธงที่อยู่ด้านหลังของเขาได้พวยพุ่งประกายที่ไม่มีสิ้นสุดขึ้นมา และร่างกายของเขาปรากฏเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรงทั่วทั้งตัว ในเวลานี้ธงที่ประดับด้วยพู่ปิดกั้นฟ้าดิน ภายใต้ธงที่ประดับด้วยพู่เหล่านี้ หัวหน้าสาขาธงเพลิงธงเพลิงก็เหมือนเป็นมนุษย์ยักษ์คนหนึ่ง ด้วยพลังอำนาจน่าเกรงขามที่ไม่ขาดสาย หอบเอาพลังที่เหนือผู้คนมุ่งหน้าเข้าบดขยี้ต่อหลี่ชิเย่

“ข้าอยากจะดูว่าปรมาจารย์นิกายหู้ซานจงผู้นี้จะมีฝีมือสักแค่ไหนเชียว” หัวหน้าสาขาธงเพลิงธงเพลิงหัวเราะน่าครั่นคร้ามขึ้นมา

ขณะเดียวกัน เขาโบกมือทีหนึ่งและสั่งการไปว่า “ลงมือ จัดการสับพวกมันให้เละ ไม่เหลือแม้แต่คนเดียว!”

พูดขาดคำ หัวหน้าสาขาธงเพลิงธงเพลิงได้นำธงที่ประดับด้วยพู่มากำไว้ในมือ หัวเราะน่าครั่นคร้ามต่อหลี่ชิเย่ และกล่าวว่า “เจ้าจะช่วยตัวเองก่อนหรือช่วยผู้เยาว์ของเจ้าก่อนล่ะ เลือกเอาเองก็แล้วกัน”

ตึง ตึง ตึง…เสียงกระบี่คำรามดังขึ้น กองทหารของสาขาธงเพลิงธงเพลิงพลันตั้งเป็นขบวน มองเห็นคลื่นกระบี่ที่ไม่มีขาดสายพุ่งเข้าสังหารพวกของกัวเจียหุ้ย คลื่นกระบี่ที่ดั่งคลื่นยักษ์พลันท่วมปกคลุมพวกกัวเจียหุ้ยจนจมมิด

พวกกัวเจียหุ้ยมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเมื่อมองเห็นคลื่นกระบี่ที่ดั่งคลื่นยักษ์ ย่อมไม่ต้องสงสัย กองทหารภายใต้สังกัดสาขาธงเพลิงธงเพลิงแข็งแกร่งมากกว่าพวกเขาทั้งเจ็ดมากมายเหลือเกิน ต่อให้พวกเขาสู้ถวายชีวิตก็ห่างชั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาอยู่ดี

เวลาเดียวกัน หัวหน้าสาขาธงเพลิงธงเพลิงคำรามเสียงยาว ธงที่ประดับด้วยพู่ในมือโบกสะบัดอย่างบ้าคลั่ง และเข้าฟาดฟันใส่ตัวของหลี่ชิเย่

ในขณะที่ธงซึ่งประดับด้วยพู่โบกสะบัดอย่างบ้าคลั่งนั้น เสมือนดั่งท้องฟ้าสั่นไหวโคลงแคลง สุริยันจันทราและดวงดาวก็สั่นไหวโคลงแคลงไม่หยุด เหมือนหนึ่งจักรวาลหันกลับหัวกลับหางอย่างนั้น ขณะที่ธงเพลิงฟาดฟันลงมานั้น ท้องฟ้าคล้ายดั่งถูกผ่าให้แยกออกอย่างนั้น

………………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล