ตอนที่ 2760 เทพทวาร
ในวันเดียวกันนั่นเอง ธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางพลันเป่าประกาศออกมากะทันหัน “ผู้ใดสังหารศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง โทษสมควรตายหมื่นครั้ง เที่ยงวันนี้จะจัดการลงโทษตามกฎหมายกับคนร้าย ด้วยการจุดตะเกียงสวรรค์ แก้แค้นให้กับศิษย์ที่ตายไป”
การที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางปล่อยข่าวเช่นนี้ออกมากะทันหัน ทำให้ผู้คนจำนวนมากรู้สึกงงงัน ผู้คนจำนวนไม่น้อยยังไม่ทันเข้าใจในเรื่องราว จะอย่างไรเสีย ไม่นานมานี้เองธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางก็ได้กล่าวคำนักเลงขึ้นมาแล้ว
“ธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางได้จับตัวศิษย์พวกนั้นของนิกายหู้ซานจง คิดจะแก้แค้นให้กับสาวใช้ของนาง จะทำการจุดตะเกียงสวรรค์ภายในตำหนักที่มีไว้พักผ่อนชั่วคราว” มีผู้ที่ไปสืบข่าวมาได้อย่างรวดเร็ว และข่าวนี้ก็ได้แพร่สะพัดไปทั่วเมืองโบราณภายในระยะเวลาอันสั้น
“จุดตะเกียงสวรรค์นะเนี่ย นับว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางปฏิบัติการได้เข้มงวดและรวดเร็วโดยแท้ เพิ่งมาถึงเมืองโบราณก็จะจัดการจุดตะเกียงสวรรค์กับคนร้ายที่สังหารโจวจือฉิงเสียแล้ว นับว่าแข็งกร้าวยิ่ง” ยอดฝีมือถึงกับทอดถอนใจขึ้นมาหลังจากได้รับข่าวนี้แล้ว
จุดตะเกียงสวรรค์ก็คือจับเอาคนมาเผาทั้งเป็น และไฟที่ใช้เผาไม่ใช่ไฟธรรมดาทั่วไป แต่เป็นไฟโลกันตร์ ที่น่ากลัวมากที่สุดก็คือ ไม่ได้ใช้ไฟโลกันตร์เผารวดเดียวให้ตาย แต่เป็นการอาศัยไฟโลกันตร์ค่อยๆ ไหม้ไปทีละนิดๆ ซึ่งขั้นตอนระหว่างนี้ไฟโลกันตร์จะมุดเข้าไปในกระดูก ค่อยๆ เผาไหม้ไปเรื่อยๆ อย่างช้าๆ ผู้ที่ถูกไฟโลกันตร์เผาไหม้ไปทีละนิดๆ อย่างช้าๆ นั้นจะได้รับความเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัส เสียงร้องน่าเวทนาจะแหลมและเศร้ารันทดไม่ขาดสาย จนกว่านาทีสุดท้ายที่เสียชีวิตไป
เรียกได้ว่า จุดตะเกียงสวรรค์นี้เป็นวิธีการที่โหดร้ายทารุณอย่างยิ่ง และเป็นการตายอย่างเจ็บปวดทรมานที่สุดอย่างหนึ่ง
ขณะที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางเพิ่งจะมาถึงเมืองโบราณได้ไม่นาน ก็จับเป็นศิษย์ของนิกายหู้ซานจงเหล่านั้นที่เป็นผู้สังหารโจวจือฉิง ทั้งออกคำสั่งจับพวกเขาไปจุดตะเกียงสวรรค์ในเที่ยงวันพรุ่งนี้ สิ่งนี้ทำให้ผู้คนอดที่จะสั่นเทาในใจไม่ได้
ทุกคนต่างเข้าใจ ธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางนับเป็นคนโหดคนหนึ่งโดยแท้ วิธีการเลือดเย็นไร้ความปรานี อีกทั้งปฏิบัติการได้เข้มงวดและรวดเร็วยิ่ง
“นิกายหู้ซานจงไม่ควรเป็นศัตรูกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง การไปหาเรื่องกับธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางที่เป็นคนประเภทเลือดเย็นแข็งกร้าว นับเป็นการรนหาที่ตายเอง เกรงว่าอีกไม่นานนิกายหู้ซานจงก็ต้องหายวับไปกับตาในพริบตา” ผู้อาวุโสนิกายเก่าแก่โบราณส่ายหน้าเบาๆ
“ปรมาจารย์ของนิกายหู้ซานจงจะลงมือหรือไม่นะ? เป็นเรื่องที่คู่ควรแก่การเฝ้ารอนะเนี่ย” มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในอารมณ์เฝ้าดูชมความคึกครื้น ทุกคนต่างต้องการเห็นปรมาจารย์ของนิกายหู้ซานจงอาละวาดตำหนักที่มีไว้พักผ่อนชั่วคราวของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง
จะอย่างไรเสีย กำลังความสามารถของปรมาจารย์ของนิกายหู้ซานจงเป็นสิ่งที่ทุกคนประจักษ์แก่สายตา ขณะที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางก็หาใช่คนที่จะไปหาเรื่องนางได้ง่ายๆ เมื่อไรที่ทั้งสองคนขัดแย้งปะทะกันขึ้น ย่อมจะเป็นลักษณะของเสือพบสิงห์
“ต่อให้ปรมาจารย์ของนิกายหู้ซานจงแข็งแกร่งมากกว่านี้ ต่อให้เขากล้าบุกเข้าไปในตำหนักที่มีไว้พักผ่อนชั่วคราวของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง เกรงว่าจะไม่สามารถมีชีวิตกลับออกมาได้ ชัดเจนมาก คราวนี้ธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางได้เตรียมการมาอย่างดี กระทั่งด้านหลังของนางมีระดับบรรพบุรุษให้การคุ้มครองนางอยู่” มียอดฝีมือที่ส่ายหน้าเบาๆ
“การที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางจับศิษย์ของนิกายหู้ซานจงมาจุดตะเกียงสวรรค์นั้น เกรงว่าก็คือต้องการล่อให้ปรมาจารย์ของนิกายหู้ซานจงเข้าไปติดกับเอง ขอเพียงเขากล้าเหยียบเข้าตำหนักที่มีไว้พักผ่อนชั่วคราวครึ่งก้าว ก็อย่าหวังจะได้กลับออกมาอีกเลย ธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางจะต้องจับเขาป่นกระดูกและโปรยเถ้ากระดูกของเขาแน่นอน นางจะไม่ยอมปล่อยให้มีใครสักคนที่มาท้าทายอำนาจดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางพวกเขาแล้วยังคงลอยนวล” มีบรรพบุรุษเอ่ยขึ้นมาช้าๆ
แม้ว่าทุกคนต่างเคยเห็นกำลังความสามารถของปรมาจารย์ของนิกายหู้ซานจง แต่ว่า ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่สนับสนุนในตัวของหลี่ชิเย่ จะอย่างไรเสียธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางมีคนอยู่เป็นจำนวนมาก และธาตุแท้ภายในของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางก็ลึกล้ำยากจะหยั่งถึง
มาคราวนี้ การที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางกล้าจับนิกายหู้ซานจงมาเชือด ย่อมบ่งบอกว่านางมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าสามารถสังหารปรมาจารย์ของนิกายหู้ซานจงได้ กระทั่งทำลายล้างนิกายหู้ซานจงเสีย
“ปรมาจารย์ของนิกายหู้ซานจงออกปฏิบัติการแล้ว” ขณะที่ยังมีคนบางคนคาดเดาว่าหลี่ชิเย่จะลงมือไปช่วยศิษย์เหล่านั้นของนิกายหู้ซานจงหรือไม่นั้น ปรากฏข่าวที่แพร่ออกมาในเมืองโบราณทันที
ในเวลานี้ ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากต่างทยอยกันลงถนนเพื่อคอยดู ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการมองเห็นปรมาจารย์ของนิกายหู้ซานจงอาละวาดตำหนักที่มีไว้พักผ่อนชั่วคราวดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางด้วยสายตาของตนเอง แม้ว่าทุกคนต่างไม่สนับสนุนในตัวปรมาจารย์ของนิกายหู้ซานจง แต่ว่า ผู้คนจำนวนมากก็ต้องการรู้ว่าปรมาจารย์ของนิกายหู้ซานจงผู้นี้แข็งแกร่งเช่นใด ขณะเดียวกัน ก็อยากรู้ว่าธาตุแท้ภายในของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางลึกล้ำยากจะหยั่งถึงเพียงใด
ณ ถนนใหญ่ เฉินเหวยเจิ้งกำลังเข็นเก้าอี้ล้อเลื่อนเคลื่อนไปช้าๆ ด้านข้างเก้าอี้รถเข็นมีกัวเจียหุ้ยเคียงข้างหลี่ชิเย่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ล้อเลื่อนหลับตาพักผ่อนกายาเสมือนดั่งนอนหลับไปแล้วอย่างนั้น ท่าทางของเขาดูสงบนิ่งมาก เหมือนว่าไม่มีท่าทีของศึกใหญ่ที่กำลังมาถึงอย่างสิ้นเชิง ยังคงเงียบสงบสบายอกสบายใจ
ผู้คนจำนวนมากต่างออกมาเฝ้าดูชมบนถนน มีอยู่จำนวนไม่น้อยที่กลั้นลมหายใจเอาไว้ ล้วนแล้วแต่ต้องการดูว่าศึกใหญ่ที่กำลังจะระเบิดขึ้นจะตื่นเต้นระทึกขวัญเช่นใด
ไม่นานนัก พวกของหลี่ชิเย่สามคนก็ได้มาถึงด้านหน้าตำหนักที่มีไว้พักผ่อนชั่วคราวของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางที่อยู่ในเมืองโบราณ เมื่อทอดสายตามองออกไป ตำหนักที่มีไว้พักผ่อนชั่วคราวทั้งหลังคล้ายดั่งเป็นป้อมปราการอย่างนั้น โดยตำหนักที่มีไว้พักผ่อนชั่วคราวทั้งหลังดูมืดตีดตื๋อไปหมด เสมือนดั่งสร้างขึ้นมาจากโลหะศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้น โดยตำหนักที่มีไว้พักผ่อนชั่วคราวทั้งหลังได้เปล่งกลิ่นอายที่แข็งแกร่งและทรงพลังยิ่ง ดูไปแล้วภาพรวมของตำหนักที่มีไว้พักผ่อนชั่วคราวทั้งหลังไม่เพียงแต่มีความเข้มงวดอย่างยิ่ง ยังมีความแข็งแกร่งยากที่จะตีแตกได้
เมื่อยืนอยู่ด้านหน้าของตำหนักที่มีไว้พักผ่อนชั่วคราวเช่นนี้ ให้ความรู้สึกผู้คนถึงความอึดอัดอย่างหนึ่ง เหมือนว่าภายในตำหนักที่มีไว้พักผ่อนชั่วคราวมีกองทัพนับพันนับหมื่นอย่างนั้น ทำให้ผู้คนต่างรู้สึกหวั่นเกรง และต้องเดินอ้อมกันไป
“สาขาประตูศักดิ์สิทธิ์มาแล้ว” ผู้อาวุโสของสำนักเจ้าลัทธิที่มองเห็นตำหนักที่มีไว้พักผ่อนชั่วคราวของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางที่เป็นเหมือนกำแพงทองแดงผนังเหล็กเช่นนี้ จึงกล่าวว่า “สาขาประตูศักดิ์สิทธิ์ได้จัดการเฝ้ารักษาตำหนักที่มีไว้พักผ่อนชั่วคราวทั้งหลังอย่างแน่นหนา แข็งแกร่งจนยากจะตีแตก”
“ปรมาจารย์ของนิกายหู้ซานจงคิดจะบุกเข้าไปช่วยคน จะต้องทำลายกำแพงทองแดงผนังเหล็กของสาขาประตูศักดิ์สิทธิ์เสียก่อน” มียอดฝีมือถึงกับพยักหน้าเอ่ยขึ้น เมื่อมองเห็นภาพนี้แล้ว
สาขาประตูศักดิ์สิทธิ์คือหนึ่งในสาขาขนาดใหญ่ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง สาขาดังกล่าวมีกำลังที่เข้มแข็งมาก เรื่องของวิชาการป้องกันนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งไม่มีสองในหล้า เมื่อไรที่ให้ทางสาขาประตูศักดิ์สิทธิ์ทำการก่อระบบป้องกันด้วยตนเองล่ะก็ ย่อมเรียกว่าแข็งแกร่งอย่างยิ่ง น้อยคนนักที่จะตีแตกได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...