ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 2765

สรุปบท ตอนที่ 2765 เทพสังหารจตุลักษณ์: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล

ตอน ตอนที่ 2765 เทพสังหารจตุลักษณ์ จาก ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 2765 เทพสังหารจตุลักษณ์ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 2765 เทพสังหารจตุลักษณ์

ตึง…เสียงดาบคำรามขึ้นมาเสียงหนึ่ง ดังก้องทั่วฟ้าดิน ทะลุผ่านตลอดกาล

ดาบคู่ของสัตว์เทพที่ไขว้และฟาดฟันลงมาจากบนท้องฟ้า ในพริบตาเดียวนั้นเอง ดาบทั้งสองส่งประกายเจิดจรัส เหมือนว่าดวงตาโลกทั้งโลกได้สูญเสียการมองเห็น เหลือเพียงดาบคู่ที่ไขว้กันและฟาดฟันลงมาเท่านั้น

ดาบคู่มีความเจิดจ้าอย่างยิ่ง ประกายที่เปล่งออกมานั้นมีความร้อนแรง และละลานตายิ่งกว่าแสงจากดวงตะวันหนึ่งร้อยดวงเสียอีก

ในพริบตาเดียวนั่นเอง ดาบคู่ที่ไขว้กันและฟาดฟันลงมาตรงๆ พลันเหมือนหายตัวไปอย่างนั้น บนท้องฟ้าเหลือรอยแผลทิ้งเอาไว้บนท้องฟ้าเพียงสองรอย และรอยแผลทั้งสองได้อาศัยพลังที่ยอดเยี่ยมที่สุด บริสุทธิ์ที่สุดทิ้งตัวลงมาโดยพลันจากบนฟ้า ด้วยท่าทีของการปราบปรามทำการสยบต่อหลี่ชิเย่

รอยแผลฟ้าทั้งสองก็แปลงมาจากดาบยาวคู่นั้นนั่นเอง เวลานี้ สิ่งที่ติดตามการลงมาของรอยแผลฟ้าทั้งสองก็คือพลังตัดสินสูงสุด พลันที่พลังตัดสินสูงสุดนี้ลงมา เหมือนว่าประชาชนคนใดก็ต้องก้มกราบกับพื้นยอมรับในความผิดอย่างนั้น

ภายใต้พลังพลังตัดสินสูงสุดนี้ ไม่ว่าคนผู้นั้นจะแข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม เหมือนว่าจะต้องยืดคอรอคอยการประหาร รอคอยถูกบั่นคอเท่านั้น

รอยแผลฟ้าที่ลงมาเหมือนปราศจากซุ่มเสียงใดๆ ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทุกคนต่างรู้สึกถึงพลังตัดสินชี้ขาดพลันตอกตรึงลงบนหัวใจของตนเอง ทำการตัดสินชี้ขาดตนเองในทันที พริบตาเดียวนั้นคนที่มีทักษะอ่อนถึงกับแหวะกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง

“แข็งแกร่งมากเกินไปแล้ว มันคือพลังของวิญญาณสัตว์เทพ” นาทีนี้ ทุกคนต่างรับรู้ถึงพลังตัดสินชี้ขาดลักษณะเช่นนี้ ต่างรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง อดที่จะต้องเสียงแหลมขึ้นมาไม่ได้

นาทีนี้ ได้ยินเสียงตึงดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง มองเห็นหลี่ชิเย่ที่หนึ่งกระบี่ตวัดขึ้นฟ้า หนึ่งกระบี่พลันแทงทะลุท้องฟ้า หนึ่งกระบี่แทงทะลุหมื่นอาณาจักร หนึ่งกระบี่แทงทะลุชั่วนิรันดร์

ดังนั้น ในพริบตาเดียวนั่นเอง กาลเวลาเสมือนดั่งได้หยุดลงอย่างนั้น ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกว่า นาทีนี้กาลเวลาที่เดิมไหลเคลื่อนที่ไปได้ถูกหนึ่งกระบี่ของหลี่ชิเย่ตรึงเอาไว้บนท้องฟ้า ไม่สามารถไหลเคลื่อนที่ได้อีกต่อไป

ทุกคนเพ่งตามองออกไป เห็นพียงหนึ่งกระบี่ที่แทงย้อนขึ้นไปตามอารมณ์นั้น ได้แทงทะลุร่างของสัตว์เทพในหนึ่งกระบี่ เลือดสดๆ ไหลรินลงมาตามตัวกระบี่อย่างช้าๆ

คร๊ากกก คร๊ากกก คร๊ากกก…ในเวลานี้เอง ปรากฏเสียงแตกร้าวดังขึ้นมาเป็นระลอก ติดตามด้วยเสียงปังดังขึ้น โลกดึกดำบรรพ์พลันแตกละเอียด และค่ายกลชั่วร้ายจตุลักษณ์แตกร้าว

หลังจากที่ค่ายกลจตุลักษณ์แตกร้าวแล้วนั้น พวกของจ้าวอินทรีที่เดิมกลายร่างเป็นจตุลักษณ์ต่างเผยตัวจริงออกมา ในเวลานี้ เห็นเพียงจ้าวอินทรี มังกรบก ปีศาจช้างงาโลหิต ซวนหนีเกราะศักดิ์สิทธิ์ และจอมดาบเม่น ทั้งหมดถูกหนึ่งกระบี่ของหลี่ชิเย่แทงทะลุร่าง เลือดสดๆ ได้ไหลรินออกมาจากบาดแผลของพวกเขาอย่างช้าๆ

เวลานี้ ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนสงบนิ่งอย่างนั้น เหมือนถูกหยุดเอาไว้อย่างนั้น ทุกสิงล้วนถูกแทงทะลุ ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่ถูกตรึงสังหารอยู่ตรงนั้นภายใต้หนึ่งกระบี่นี้

มองเห็นดวงตาคู่นั้นของจ้าวอินทรีเบิกโพลง เขากระทั่งไม่สามารถมองเห็นหนึ่งกระบี่นี้ของหลี่ชิเย่ได้ชัดเจน พลันที่ประกายกระบี่แวบวับทีหนึ่งก็ถูกแทงทะลุหัวใจ ไม่ทันได้ร้องเสียงน่าเวทนาขึ้นมาก็เสียชีวิตไปทันทีลงสู่ปรโลกแล้ว

ครั้นหลี่ชิเย่ชักกระบี่กลับมา ได้ยินเสียงปัง ปัง ปังดังขึ้น ร่างกายที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารของพวกเขาร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าทีละตัวๆ กองเป็นภูเขาเล็กๆ บนพื้น

นาทีนี้ กาลเวลาเริ่มไหลรินขึ้นมาอีกครั้ง โลกทั้งโลกได้กลับคืนสู่ลักษณะดังเดิมอีกครั้ง

เพียงแต่นาทีนี้เวลานี้ ที่ตรงนี้กลับมีซากศพเพิ่มขึ้นจำนวนนับไม่ถ้วน ซากศพของสัตว์กองสุมดั่งภูเขา เลือดไหลนองเป็นธาร ตำหนักที่มีไว้พักผ่อนชั่วคราวทั้งหลังเปรียบประดุจเป็นอเวจีเลือดไปแล้ว

“สาขาสัตว์ดึกดำบรรพ์จบสิ้นแล้ว” มีผู้พึมพำขึ้นมาเมื่อมองเห็นภาพนี้แล้ว

มียอดฝีมือที่ได้สติกลับมาหลังจากผ่านไปชั่วครู่ใหญ่ ถึงกับร่างสั่นเทาและกล่าวว่า “ภายในเวลาหนึ่งวันก็ทำลายสาขาประตูศักดิ์สิทธิ์ สาขาสัตว์ดึกดำบรรพ์ บวกกับสาขาธงเพลิงที่ถูกทำลายไปก่อนหน้านั้น ภายในระยะเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่วัน กำลังของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางถูกทำลายไปเกือบครึ่งหนึ่ง มาคราวนี้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางเสียหายอย่างย่อยยับ สูญเสียพลังไปมากทีเดียว”

หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ ผู้คนจำนวนไม่น้อยได้สติกลับมา พวกเขาต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน นาทีนี้ ดวงตาทั้งสองของพวกเขาล้วนแล้วแต่เผยให้เห็นถึงความหวาดกลัว เนื่องจากกำลังความสามารถของหลี่ชิเย่แข็งแกร่งมากเหลือเกิน และน่ากลัวมากเหลือเกิน

“เทพกระบี่ นี่แหละคือเทพกระบี่ที่แท้จริง คนอื่นๆ เมื่อเทียบกับเขาไม่คู่ควรที่จะใช้กระบี่อยู่แล้ว” มีเทพแท้จริงขั้นอมตะไม่อาจไม่ชมเปาะด้วยความตื่นตะลึงทีหนึ่ง ชื่นชมไม่ขาดปาก

ไม่มีผู้คัดค้านสำหรับคำเรียกลักษณะเช่นนี้ คนโหดอันดับหนึ่งล้วนแล้วแต่หนึ่งกระบี่ปราศจากผู้ต่อกรตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าจะเป็นศิษย์จำนวนนับล้านของสาขาประตูศักดิ์สิทธิ์ หรือว่ากระแสคลื่นสัตว์นับพันนับหมื่นของสาขาสัตว์ดึกดำบรรพ์ หนึ่งกระบี่ของคนโหดอันดับหนึ่งที่ฟาดฟันออกไปก็จัดการทุกสิ่งทุกอย่างจบสิ้นในคราเดียว หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันลงไปก็คือสถานการณ์โดยรวมได้ถูกกำหนดไว้แล้ว

บุคคลเช่นนี้ไม่ยกย่องเป็นเทพกระบี่ ในโลกนี้ยังจะมีใครสามารถยกย่องเป็นเทพกระบี่ได้อีก?

“เหล่าตาเฒ่าของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางยังไม่ปรากฏตัวออกมาอีกล่ะก็ เกรงว่าคงไม่มีใครสามารถขวางเขาเอาไว้ได้อีกแล้ว คนอื่นๆ ต่อให้ปรากฏตัวออกมามากเท่าไรก็เป็นได้แค่รนหาที่ตายเท่านั้น จะต้องเป็นระดับบรรพบุรุษของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางออกโรงเองจึงได้” ระดับบรรพบุรุษแคว้นเจ้าลัทธิกล่าวด้วยท่าทีหนักแน่นจริงจัง

ก่อนหน้านี้ ธิดาศักดิ์สิทธิ์ดินแดนภาคกลางคิดจะบั่นทอนลมปราณและพลังวัตรของหลี่ชิเย่ อาศัยยุทธวิธีอาศัยคนมาก เวลานี้ดูไปแล้วเกรงว่ายุทธวิธีอาศัยคนมากคงใช้ไม่ได้ผลกับคนโหดอันดับหนึ่ง ต่อให้มีคนมากกว่านี้บุกโจมตีเข้ามาก็แค่รนหาที่ตายเองเท่านั้นเอง ตายฟรี

ตึง ตึง ตึงนาทีนี้เอง ลึกเข้าไปภายในตำหนักที่มีไว้พักผ่อนชั่วคราว พลันปรากฎเสียงตีกลองที่หนักแน่นดังขึ้นเป็นระลอก

“ข้ายังคงประเมินเจ้าต่ำเกินไป” เวลานี้ธิดาศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยท่าทีน่าเกรงขาม สีหน้าเย็นชา คำพูดนั้นเผยให้เห็นถึงกลิ่นอายสังหาร การฆ่าฟันที่น่าเกรงขามและรุนแรง

“ผู้คนจำนวนมากล้วนประเมินข้าต่ำไปตลอดมา” หลี่ชิเย่หัวเราะ ท่าทางตามอารมณ์ และกล่าวว่า “สมควรสิ้นสุดลงได้แล้ว เจ้าต้องการจะตายด้วยวิธีไหน?”

สีหน้าของธิดาศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางเย็นชา ดวงตาทั้งสองดุดันน่าเกรงขาม กล่าวน่าเกรงขามว่า “เจ้าวางอาวุธเสียเวลานี้ยังทัน มิฉะนั้น พวกเราจะเผาพวกเขาให้ตายทั้งหมด!”

พูดขาดคำ นางได้มองไปยังชายฉกรรจ์ทั้งหก ขอเพียงนางพยักหน้า ชายฉกรรจ์ทั้งหกก็จะเผาพวกหลี่เจี้ยนคุนทั้งหมดจนตาย

ปุ…เสียงหนึ่งดังขึ้น เลือดสดๆ แตกกระจาย พลันที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางพูดขาดคำ หนึ่งกระบี่ของหลี่ชิเย่ที่กวาดผ่านไป ศีรษะทั้งหกลอยขึ้นสูง พร้อมกับเลือดสดๆ ที่พ่นทะลักขึ้นมา ชายฉกรรจ์ทั้งหกที่มืออุ้มเตาไฟโลกันตร์ถูกหลี่ชิเย่สังหารไปในกระบี่เดียวทันที

“น่าเบื่อมาก ข่มขู่ด้วยวิธีการเด็กๆ ข้าแทบจะทนดูไม่ได้แล้ว” หลี่ชิเย่ถือโอกาสหนึ่งกระบี่สังหารสิ้นชายฉกรรจ์อุ้มเตาไฟโลกันตร์ รู้สึกหมดอารมณ์

“เปิด…” ในพริบตาเดียวนั่นเอง ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะลงมือแล้ว พลันกระโดดขึ้นพร้อมกับมือขนาดใหญ่กางออก ได้ยินเสียงดังตูมเสียงหนึ่ง ไฟโลกันตร์ของเขาได้เทราดลงมาครอบใส่พวกของหลี่เจี้ยนคุนหกคน หวังจะเผ่าพวกหลี่เจี้ยนคุนให้ตาย

เสียงฉึก…ดังขึ้นเสียงหนึ่ง ขณะที่ไฟโลกันตร์ยังเผาไหม้ไม่ถึงพวกของหลี่เจี้ยนคุนหกคน ปรากฏเลือดสดๆ พ่นออกมาอย่างรุนแรง ศีรษะลอยขึ้นสูง และติดตามด้วยเสียงของศพที่ไร้หัวตกลงพื้นอย่างแรงดังปัง

เทพแท้จริงขั้นอมตะคนหนึ่งถูกสังหารในกระบี่เดียวทันที ศีรษะกลิ้งไปไกลมาก แม้ว่าเขาจะระวังตัวแล้วแต่ต้านหนึ่งกระบี่ของหลี่ชิเย่ไม่ได้

“พวกเรามาเล่นเกมสักเกมจะดีมั้ย?” หลี่ชิเย่ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ล้อเลื่อน ยิ้มเรียบเฉยและกล่าวว่า “ข้าจะให้นังหนูคนนี้ของข้าไปแก้มัด ถ้าหากระหว่างขั้นตอนนี้…”

“…ขอเพียงพวกเจ้าทำให้บาดเจ็บ หรือเผาพวกเขาเจ็ดคนจนตาย ข้าก็จะให้พวกเจ้ามีชีวิตไปจากที่นี่ ถ้าหากพวกเจ้าทำไม่ได้ ปล่อยให้นังหนูของข้าแก้มัดพวกเขาได้ ต้องขอโทษด้วย พวกเจ้าต้องตายทั้งหมด!”

เมื่อหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้ ได้เผยรอยยิ้มที่ลึกซึ้งออกมา และยิ้มกล่าวว่า “นี่ก็จะเป็นการเพิ่มรสชาตสักนิดหนึ่งให้กับการฆ่าฟันที่น่าเบื่อหน่ายครั้งนี้”

……………………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล